หลังจากที่ทาง Fujifilm ประกาศเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการกับกล้องรุ่นใหม่ล่าสุด Fujifilm X-S10 ซึ่งเป็นกล้องระดับ Middle Hi-End ที่เน้นกลุ่มทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ด้วยฟีเจอร์การทำงานที่ตอบโจทย์มืออาชีพ เน้นกลุ่มที่ที่รักการถ่ายภาพ และสนใจกล้องเพื่อใช้งานแบบจริงจัง รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย จึงเป็นที่มาของการพัฒนากล้องรุ่นนี้ออกมา และสำหรับราคาเปิดตัวของ Fujifilm X-S10 อยู่ที่
- Body ราคา 34,990 บาท
- Body / KIT15-45mm ราคา 38,990 บาท
- Body / KIT16-80mm ราคา 52,990 บาท
ทั้งนี้หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็ได้มีการนำเอากล้อง Fujfilm X-S10 มาให้ได้ทดลองเล่น ซึ่งสัมผัสแรกเลยที่รู้สึกได้คือกริปที่ใหญ่และจับถนัดมากขึ้น เพราะดูเหมือนว่ากล้อง Mirrorless นั้น ถึงแม้จะมีคอนเซปต์ที่เน้นเล็กเบาแต่เรื่องของการจับถือ หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่าจับไม่ถนัด ทำให้ทาง Fujfifilm ปรับปรุงดีไซน์ชองตัวกล้องให้มีกริปที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง และพอใช้งานร่วมกับเลนส์ใหญ่ๆก็ยังคงจับถือกล้องได้มั่นคง ไม่เมื่อยนิ้ว ที่สำคัญคือโครงสร้างของกล้องเป็นแมกนีเซียมอัลลอยในส่วนด้านหน้าและด้านบนตัวกล้อง ทำให้กล้องแข็งแรงทนทาน
นอกจากนี้กล้อง Fufjifilm X-S10 ก็ยังคงมีดีไซน์ที่เป้นเอกลักษณ์ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ค้ายกับรุ่นก่อนๆที่เป็นทรงแนวเรโทร ย้อนยุค ในขณะที่น้ำหนักของกล้องก็เบาเพียง 465 กรัม (รวมแบตเตอรี่และ SD Card) ส่วนขนาดตัวกล้องก็เล็ก พกพาสะดวก ใครที่มองหากล้องตัวเล็กๆ เบาๆไว้ใช้งานน่าจะมีถูกใจกันบ้างแน่ๆ และอย่างที่บอกไปข้างต้นคือถึงจะเล็กและเบาแต่กลับจับถนัดมือ เพราะจากการที่ได้ลองถือจริงๆก้พบว่าเป็นกล้องที่ออกแบบกริปได้เหมาะมือมากๆ แถมด้วยความที่เป็นกล้องที่เบา เลยทำให้รู้สึกว่านี่แหละกล้องที่เหมาะแก่การพกพาใช้งานประจำ รับรองไม่เป็นภาระในการท่องเที่ยวหรือการนำไปใช้งานแบจริงจังก็ตาม
ทีนี้มีอะไรใหม่ๆที่ใส่มาให้บ้างในกล้อง Fujifilm X-S10 เริ่มจากเรื่องของเซ็นเซอร์ก่อนเลย กล้องตัวนี้มาพร้อมเซ็นเซอร์แบบ BSI X-Trans CMOS 4 ซึ่งนับเป็นเซ็นเซอร์ Generation ที่สี่แล้วของ Fufjifilm ที่ได้รับการพัฒนาแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างมาก พร้อมระบบประมวลผล X-Processor 4 ความเร็วสูง โดยทาง Fujifilm ระบุว่าช่วยในเรื่องประสิทธิภาพของการโฟกัสภาพที่แม่นยำมากขึ้น อีกทั้งสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วสูงสุดดด้วยชัตเตอร์อิเล็คทรอนิกส์ 30 ภาพต่อวินาทีในแบบครอป 1.25X และ 20 ภาพต่อวินาทีแบบไม่ครอปภาพ
อีกหนึ่งจุดเด่นของกล้องรุ่นนี้ก็คือเรื่องระบบกันสั่นที่ใส่ให้ในตัวกล้องมาเลย เป็นแบบ 5 แน ลดการสั่นไหวได้ถึง 6 สตอป ซึ่งใช้งานได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ โดยในส่วนของวีดีโอก็จะมีระบบ Digital IS ช่วยชดเชยการสั่นไหวให้อีกด้วย เวลาเดินถ่ายวีดีโอก็แทบจะไม่มีการสั่นไหวเกิดขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ทาง Fujfilm ยังได้พัฒนาในเรื่องของการโฟกัสภาพในที่แสงน้อยให้ดีขึ้น โดยสามารถทำงานได้แม้แสงน้อยถึง -7EV รวมไปถึงระบบการโฟกัสใบหน้าหรือดวงตาได้อย่างแม่นยำทั้งในส่วนของภาพนิ่งและวีดีโอ และในส่วนของวีดีโอเองหากใครต้องการใช้งานเป็นกล้องวีดีโอแบบจริงจัง กล้อง Fujifilm X-S10 ก็มาพร้อมฟีเจอร์ถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 30p 4:2:0 8bit และ 4:2:2 10 bit ผ่านช่อง HDMI โดยมีการบันทึกเป็นแบบ 6K ก่อนบีบอัดลงมาเพื่อให้ได้ภาพวีดีโอที่มีความละเอียดและสัญญาณรบกวสนต่ำ แถมยังรองรับการถ่ายวีดีโอรูปแบบ DCI ขนาด 17:9 ที่มีคุณภาพสูงอย่างในโรงภาพยนตร์ ยังไม่หมดแค่นี้เพราะกล้องตัวนี้ยังรองรับ F-Log เพื่อการใช้งานแบบมืออาชีพในการจัดการเรื่องโปรไฟล์สี พร้อมรองรับการถ่ายวีดีโอสโลว์โมชั่น 10X ที่ความละเอียด Full HD 240p เรียกว่าจัดเต็มฟีเจอร์ด้านวีดีโอเพียงพอต่อการใช้งาน โดยเฉพาะสายท่องเที่ยว VLOG หรือ Youtuber แถมด้วยน้ำหนักกล้องเบา เวลาขึ้น Gimbal ก็ไม่เป็นภาระมากนักถือเดินถ่ายได้สะดวก
จุดเด่นเอาใจสาย Selfie ในกล้อง Fujifilm X-S10 โดยสามารถบิดพับหน้าจอเพื่อถ่ายตัวเองได้ และแน่นอนว่ารองรับการใช้งานแบบสัมผัสเพื่อแตะหน้าจอโฟกัสและลั่นชัตเตอร์ได้ แม้ว่าจะไม่ใช่ของใหม่น่าตื่นเต้น แต่ก็เรียกว่าใส่มาให้ครบๆ เวลาจะถ่ายมุมแปลกๆยากๆก็ไม่ต้องก้มต้องเงยจนปวดหลังหรือเมื่อยคอนั่นเอง และตัวกล้องยังมาพร้อมจอยสติ๊กสำหรับควบคุมกล้องที่สามารถปรับตั้งค่าการทำงานใหม่เป็นแบบเฉพาะของตัวเองได้ หรือจะเอาไว้เลือกสลับใบหน้าตอนโฟกัสภาพก็ใช้จอยสติ๊กนี่แหละสะดวกดี
ส่วนเรื่อง Simullation Color ที่เป็นจุดขายของ Fufjifilm มาแต่ไหนแต่ไรก็ยังคงมีอยู่ โดยมีให้เลือกถึง 18 แบบด้วยกัน ทำงานได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ สามารถจบหลังกล้องได้สีสวยๆโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมแต่งภาพ ซึ่งตรงนี้เองใครที่เคยใช้กล้อง Fujifilm จะรู้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่ดีงามมากๆ เวลาอยากได้โทนภาพสวยๆคือมีให้เลือกในกล้องได้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดถ่ายภาพแบบมืออาชีพ และโหมดถ่ายภาพแบบง่ายๆให้ใช้งาน โดยเฉพาะโหมด AUTO/SP ที่กล้องมีความสามารถในการวัดแสงและจัดการไฟล์ภาพให้สวยงามโดยอัตโนมัติ เช่นถ่ายภาพย้อนแสงออกมาแล้สวยเลย หน้าไม่มืด ฉากหลังไม่สว่างโอเว่อร์ เป็นต้น
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อการทำงานกับตัวกล้องมีมาให้ครบครัน ใครที่มาทางด้านสายวีดีโอก็มีพอร์รองรับทั้งไมโครโฟน , HDMI และสามารถต่อหูฟังผ่านช่อง USB-C โดยใช้อแดปเตอร์แปลงได้ และช่อง USB-C ของกล้องเองก็รองรับระบบการชาร์จแบตเตอรี่ได้ในตัวอีกด้วย
ส่วนเรื่องความอึดในการใช้งานนั้น ทาง Fujifilm เคลมตัวเลขไว้ที่ 325 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ก็ถือว่าอึดพอสมควร แต่ถ้าใครใช้งานหนักๆก็ควรหาแบตเตอรี่สำรองไว้ด้วย ทั้งนี้จากการได้ลองจับถือและใช้งานเล็กน้อยยังไม่ได้นำเอามาถ่ายจริงจัง ก็พบว่ากล้อง Fufjifilm X-S10 นั้น เป็นกล้องที่ออกแบบมาได้หน้าตาสวยงาม มีฟีเจอร์การทำงานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งภาพนิ่งหรือวีดีโอ พูดง่ายๆคือเป็นกล้องที่นำเอาเทคโนโลยีจากรุ่นใหญ่มาใส่ไว้ในบอดี้ที่เล็กลงนั่นเอง
สำหรับพรีวิวนี้ก็น่าจะได้เห็นถึงฟีเจอร์เด่นๆของกล้องรุ่นนี้แล้ว ใครที่มองหากล้องที่เน้นตอบโจทย์เรื่อง เล็ก เบา ถ่ายภาพสวย วีดีโอดี มีกันสั่น ให้ฟังก์ชั่นครบๆแบบไม่กั๊ก จอหมุนได้ มีวิวไฟน์เดอร์ ก็คงต้องเป็น Fufjfilm X-S10 แล้วล่ะ ส่วนใครที่อยากทดลองจับกล้องก่อนใคร ตอนนี้ทาง Fufjifilm ได้เปิด Fujifilm X Space ที่อาคาร ไอบีเอ็ม ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร โดยสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอารีย์ ซึ่งเป็นในส่วนของโชว์รูม Touch&Try แกลอรี่และ Workshop ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาทดลองกล้องและสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ Fujifilm ได้นั่นเอง