 copy.jpg)
เปิดตัวแล้วสำหรับเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นใหม่ที่มีการพัฒนาขีดความสามารถในการเล่นเกมมากขึ้นด้วยการร่วมมือกับทาง XBOX นั่นคือ ROG XBOX ALLY และ ROG XBOX ALLY X โดยความแตกต่างของทั้งสองรุ่นจะมีแค่เรื่องของ CPU, หน่วยความจำในตัวเครื่องและสเป็คเล็กๆน้อยๆ โดยตัวที่มาอยู่ในมือของ TechXcite เป็นตัว ROG XBOX ALLY ซึ่งเป็นรุ่นราคาประหยัด เหมาะกับคนงบน้อย แต่ยังความแรงและประสิทธิภาพที่เหมาะแก่การเล่นเกม เดี๋ยวมาไล่เรียงดูว่ามีอะไรน่าสนใจกับรีวิว ROG XBOX ALLY เครื่องเล่นเกม XBOX แบบพกพา ให้อิสระในการเล่นเกมได้ทุกที่ตัวนี้

ก่อนหน้านี้เครื่องเล่นเกมพกพาในตลาดที่ออกมาจากทางค่าย ROG นั้น เป็นเครื่องเล่นเกมที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 ซึ่งสามารถทำให้เล่นเกมแบบเดียวกับบน PC ได้ ทำให้หลายๆ คนนิมเอาไปใช้เล่นเกมนอกสถานที่ แต่สำหรับ ROG XBOX ALLY ได้มีการพัฒนากับทาง XBOX เพื่อยกระดับการเล่นเกมให้เหมือนกับการมีเครื่องเล่นเกม XBOX แบบพกพา โดยตัวที่นำมารีวิว คือ ROG XBOX ALLY ที่มีตัวเครื่องสีขาว ภายในกล่องมาพร้อมตัวเครื่องและสายชาร์จให้ครบครัน
 copy.jpg)
ROG XBOX ALLY ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ Z2 A Processor ซึ่ง CPU ตัวนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ช่วยให้สามารถเล่นเกมได้ต่อเนื่องยาวนานมากขึ้น ซึ่งเป็นจุดได้เปรียบของตัวนี้ เพราะเครื่องเล่นเกมพกพาก็ต้องการความสะดวกและการใช้งานที่ต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องเสียบสายชาร์จ
 copy.jpg)
สำหรับสเป็คตัวเครื่องของ ROG XBOX ALLY มีข้อมูลตามนี้
- CPU : AMD Ryzen™ Z2 A Processor 2.8GHz (6MB Cache, up to 3.8 GHz, 4 cores, 8 Threads)
- GPU : AMD Radeon™ Graphics
- หน่วยความจุภายใน M.2 SSD ขนาด 512GB
- เพิ่มหน่วยความจุได้แบบ microSD UHS-II
- RAM 16GB LPDDR5
- หน้าจอขนาด 7” ความละเอียด Full HD (1080p) 120Hz แบบ IPS อัตราส่วน 16:9
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.4
- ช่องต่อ USB 3.2 Gen 2 Type-C จำนวน 2 ช่อง
- แบตเตอรี่ 60Wh
- น้ำหนักตัวเครื่อง 670 g
 copy.jpg)
สำหรับจุดเด่นของ ROG XBOX ALLY คือการมาพร้อม XBOX Game Bar ซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงหน้าโปรแกรมของ XBOX ได้โดยตรง โดยไม่ต้องเปิดหน้า Windows แต่อย่างใด ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยให้การจัดการทรัพยากรในตัวเครื่องทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้การเล่นเกมไหลลื่น และประหยัดแบตเตอรี่ เพราะไม่ต้องให้เครื่องรันระบบที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเล่นเกม
 copy.jpg)
การเข้าถึงเกมต่างๆ ในหน้า XBOX Game Bar ก็ไม่ต่างจากใน PC เลย เราสามารถใช้งานล็อกอินรหัสผ่านเดียวกัน แล้วเข้าถึงตัวเกมต่างๆได้เลย เสมือนเป็น XBOX เวอร์ชั่นพกพา อีกทั้งยังสามารถใช้งานอื่นๆ ได้อีก เช่น ดูสถานะระบบ, บันทึกการเล่นเกม หรือแชทกับเพื่อนๆ นอกจากนี้ยังสามารถเข้า Command Center เพื่อการตั้งค่าแบบด่วนและการปรับแต่งที่ซับซ้อนได้ในปุ่มเดียว
 copy.jpg)
ปุ่มโลโก้ XBOX ที่สามารถเข้าถึงการใช้งานได้อย่างรวดเร็วอยู่ทางด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง โดยตัวเครื่องมีการจัดวางตำแหน่งของ Thumb sticks , ปุ่มควบคุมทิศทาง เพื่อควบคุมการทำงานหรือเล่นเกม และมีไฟ RGB อยู่ล้อมรอบ Thumb sticks ให้อารมณ์ของการเล่นเกมเหมือนกับอุปกรณ์เกมมิ่งทั่วไป
 copy.jpg)
ส่วนทางด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มกดตัวอักษร A/B/X/Y ให้สัมผัสการกดที่ง่าย พร้อม Thumb sticks ที่มีไฟ RGB ล้อมรอบสวยๆเช่นเดียวกับทางด้านซ้าย
 copy.jpg)
ในเรื่องของการดีไซน์และการจับถือตัวเครื่อง สำหรับ ROG XBOX ALLY ได้นำเอาดีไซน์ของตัวคอนโทรลเลอร์ของ XBOX มาใช้เลย โดยในส่วนของด้ามจับ มีการออกแบบให้มีความโค้งมน และพื้นผิวที่ช่วยให้กระชับมือ ถือเล่นเกมนานๆได้ โดยไม่เมื่อย
 copy.jpg)
รูปแบบโดยรวมของตัวเครื่องจึงมีลักษณะเหมือนคอนโทรลเลอร์ที่ขยายร่างใส่จอลงไป พอพลิกตัวเครื่องกลับมาดูด้านหลังก็จะเห็นการดีไซน์ที่มีการเซาะร่องระบายอากาศ และมีการออกแบบเป็นโลโก้ ROG ด้วย พร้อมกับมีปุ่ม M1/M2 อยู่ด้านหลังด้วย
 copy.jpg)
พูดถึงพวกปุ่มต่างๆ สักหน่อย ตรงนี้ทาง ROG ระบุว่ามีความทนทานมาก เพราะต้องใช้งานเป็นหลักในการเล่นเกม ดังนั้นจึงมีการออกแบบให้มีความทนทานมากๆ โดยตัว Thumb sticks ทดสอบว่าทนต่อการหมุนถึง 5 ล้านครั้ง ส่วนปุ่ม D-Pad และปุ่ม Shoulder buttons ทนทานต่อการกดได้ถึง 1 ล้านครั้ง ในขณะที่ปุ่ม A/B/X/Y ทนทานต่อการกดได้ 10 ล้านครั้งเลยทีเดียว
 copy.jpg)
และเพื่ออรรถรสในการเล่นเกม ROG XBOX ALLY มีการใส่มอเตอร์ที่รองรับระบบ HD Haptics ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสั่นสะเทือนแบบความละเอียดสูง ที่ทำงานร่วมกับตัวเกมเพื่อให้ความรู้สึกสมจริงในการเล่นเกมมากขึ้นด้วย
 copy.jpg)
ระบบระบายความร้อนใช้พัดลม 2 ตัว ด้านหลังเป่าผ่าน โดยมีการออกแบบให้ตัวพัดลมมีแรงเสียดทานต่ำด้วยระบบตลับลูกปืน ทำให้การใช้งานตัวเครื่องในท่าทางต่างๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้ถือเครื่องในองศาต่างๆที่เกิดจากผู้ใช้งาน ทั้งการยืน นั่งหรือนอนเล่น ก็ไม่ทำให้การทำงานของพัดลมด้อยลง แถมยังออกแบบให้ใบพัดมีความบางมากถึง 0.1 มม. ทำให้ระบายอากาศได้ดี ลดขนาดความหนาตัวเครื่อง ไปจนถึงมีระบบป้องกันฝุ่นอีกด้วย
 copy.jpg)
หน้าจอของตัวเครื่อง ROG XBOX ALLY รองรับการใช้งานระบบสัมผัสด้วย ใช้งานง่าย คุ้นชินเหมือนเราใช้สมาร์ทโฟน แถมด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ ที่คมชัดและความสว่างสูงถึง 500 nits เวลาใช้เล่นเกมนอกสถานที่ก็ยังมองเห็นได้ชัด แถมหน้าจอเป็นแบบ Corning Gorilla Glass Victus ที่โดดเด่นในเรื่องความทนทานป้องกันรอยขีดข่วน
 copy.jpg)
สำหรับคนที่ต้องการเล่นเกมนอกเหนือจากใน XBOX เรายังสามารถดาวน์โหลดเกมอื่นๆ ที่รองรับกับ Windows 11 มาติดตั้งเองได้ ดังนั้น ROG XBOX ALLY เครื่องนี้ก็สามารถเข้าถึงคลังเกม PC ที่รองรับทั้งหมดจาก Xbox และร้านค้าเกมอื่นๆ ได้เช่นกัน ทั้งเกมอินดี้, เกมฟอร์มยักษ์ระดับ AAA หรือเกมคลาสสิกที่ติตตั้ง Mod เอง เรียกได้ว่าเป็นการยกเอาคอมพิวเตอร์ทั้งเครื่องมาเป็นตู้เกมเคลื่อนที่ของเรา
 copy.jpg)
การใช้งานในส่วนของ Windows 11 ก็ไม่ต่างจากการใช้งานปกติที่เราใช้ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คหรือ PC เลย แค่ย่อส่วนลงมา เรายังสามารถใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้ เช่น เข้าอินเตอร์เน็ต เช็คอีเมล์ เปิดไฟล์เอกสาร แต่งรูป ได้หมด ใครที่เป็นสายเล่นเกมแต่ยังต้องใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่ก็สามารนำมาใช้งานทั่วไปได้ แม้จะจอเล็ก หรือไม่สะดวกเท่าไร แต่ก็ยังถือว่าโอเคเลยถ้าจำเป็นต้องใช้งานจริงๆ
 copy.jpg)
เอามาดูหนัง ฟังเพลงก็ได้อยู่นะ เสียงจากลำโพงของ ROG XBOX ALLY ดังกระหึ่มใช้ได้เลย แต่ถ้าใครอยากได้เสียงดีมากขึ้น แนะนำใช้กับหูฟัง ซึ่งตัวเครื่องก็รองรับทั้งแบบแจ็ค 3.5 หรือจะต่อไร้สายด้วย Bluetooth ก็ได้
 copy.jpg)
จากการใช้งานจริงก็พบว่าตัวเครื่อง หากเน้นเล่นเกมก็จะอยู่ได้ราวๆ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง โดยเปิดโหมดแบบ Turbo ในการรดประสิทธิภาพตัวเครื่องสำหรับการเล่นเกม แต่หากเปิดโหมด Performance ก็จะยืดเวลาการใช้งานได้นานขึ้น เป็น 3-4 ชั่วโมง หรือเอาแบบประหยัดแบตเตอรี่สุดๆ แนะนำเปิดเป็นโหมด Silent สามารถใช้งานได้นานถึง 6-7 ชั่วโมงเลย ส่วนระบบการชาร์จแบตเตอรี่ก็มีสายขาร์จพร้อมอแปเตอร์มาให้ หรือจะต่อชาร์จกับ Powerbank แบบ PD ก็ได้
 copy.jpg)
สำหรับการปรับตั้งค่าโหมดการทำงานของเครื่องก็สามารถปรับแต่งเองได้หลายอย่าง โดย ROG Xbox Ally จะระบบโปรไฟล์เกมเริ่มต้น (Default Game Profiles) มาให้ ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลระหว่างอัตราเฟรมเรท (FPS) และการใช้พลังงานโดยอัตโนมัติ สำหรับแต่ละเกม ทำให้การเล่นเกมไม่กระตุก แถมยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไปในตัว โดยตัวระบบ Default Game Profiles จะทำผ่านระบบคลาวด์ เสมือนเป็นผู้ช่วยในการปรับแต่งเครื่องให้เหมาะกับการเล่นเกม
 copy.jpg)
ซึ่งนอกจากการปรับตั้งคาประสิทธิภาพต่างๆ แล้ว เรายังสามารถเข้าไปตั้งค่าอื่นๆ ได้อีกในโปรแกรมที่มีชื่อว่า Armoury Crate SE Game Bar ซึ่งจะสามารถปรับตั้งค่าปุ่มกด หรือตั้งค่าไฟ RGB เองได้
 copy.jpg)
สำหรับการเล่นเกมต่างๆ บน ROG XBOX Ally หากเปิดเครื่องใช้งานตอนแรกจะเข้าสู่หน้า Xbox Full-Screen Experience ซึ่งเป็นหน้าที่รวมเกมต่างๆ ให้ดาวน์โหลด รวมถึงการเข้าสู่ XBOX Game Pass เพื่อเลือกเกมที่ต้องการต่างๆ ได้ โดยมีเกมเยอะมากทั้งฟรีและเสียเงิน ใครอยากเล่นเกมฟรีก่อน ก็มีให้เลือกเยอะอยู่ แต่ถ้าใครเป็นสายเกมที่ซื้อเกมไว้เยอะอยู่แล้ว ก็แค่ล็อกอินเชื่อมต่อบัญชีการใช้งานได้เลย
 copy.jpg)
สำหรับการเล่นเกมโดยทั่วไป ถือว่าทำได้ดีมากๆ เพราะทรัพยากรของเครื่องจะถูกนำมาใช้กับการเล่นเกมเป็นหลัก หากเราไม่ได้เปิดเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows 11 ทำให้การเล่นเกมไหลลื่นมาก แทบไม่เจออการกระตุกหรือเฟรมเรทตก แล้วใครที่ชอบเปิดเล่นเหลายๆ เกม ตัวเครื่องก็มีระบบตรวจสอบว่ามีเกมไหนเปิดค้างอยู่หรือเปล่า สามารถปิดเกมที่ค้างไปก่อนได้
 copy.jpg)
ส่วนถ้าใครเป็นสายเกม PC ค่ายอื่นๆ ก็สามารถติดตั้งเกมลงบนเครื่องได้เลย เวลาเล่นเกมก็เหมือนกับการเล่นบนคอมพิวเตอร์ปกติ เพียงแต่เปลี่ยนจากจอใหญ่มาย่อส่วนลง เปลี่ยนจากการใช้เมาส์และคีย์บอร์มาเป็นคอนโทรลเลอร์ ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าใครไม่ถนัดก็สามารถต่อเมาส์ ต่อคีย์บอร์ดผ่านพอร์ต USB-C หรือต่อ Bluetooth ได้
 copy.jpg)
สำหรับคนที่เป็นสายเล่นเกมที่เน้น XBOX แล้ว เครื่องนี้น่าจะตอบโจทย์การเล่นเกมมากๆ หรือใครที่อยากเล่นเกมระดับ AAA ที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจโดยเฉพาะหลายๆ เกมที่น่าเล่น เช่น Forza Horizon 5, Cyberpunk 2077, Halo Infinite หรืออย่างเกมสนุกๆ เพลินๆ พวก Minecraft, Roblox ก็ช่วยแก้เบื่อเวลาเดินทางได้ดีมากๆ
 copy.jpg)
ถามถึงความคุ้มค่า คุ้มราคาของ ROG XBOX ALLY ที่เปิดราคามา 18,990 บาท ก็ถือว่าคุ้มอยู่นะ เพราะถ้าเทียบกับอีกรุ่นคือ ROG XBOX ALLY X ที่ราคาจะโดดไปอยู่ที่ 29,990 บาทเลย เพราะรุ่นใหญ่ได้ชิพประมวลผลที่แรงกว่าแลมีหย่วยความจำเยอะกว่าด้วย แต่กับราคาที่ประหยัดเป็นหมื่นก็ถือว่าไม่ขี้เหร่เลย เพราะเล่นเกมระดับ AAA ได้จริง
 copy.jpg)
แล้วคิดว่ามีจุดไหนที่น่าจะปรับปรุงหรือเปล่า? ... เท่าที่ลองเล่นมาสักพักใหญ่ๆ ก็จะมีเรื่องของเสียงพัดลมที่ค่อนข้างดังอยู่เหมือนกัน แต่ก็แลกมาด้วยระบบระบายความร้อนที่ดี ไม่มีอาการเครื่องสะดุด กับเรื่องหน้าจอที่อยากให้สุดกว่านี้โดยการใส่หน้าจอแบบ OLED มาให้จะดีมาก
 copy.jpg)
จุดเด่น
- แบตเตอรี่อึดขึ้น เล่นได้นาน
- จอแสดงผล FHD 1080p 120Hz
- ประสิทธิภาพคงที่ในการเล่นเกม
- ลำโพงเสียงดีมาก
- รันบน Windows 11 รองรับแทบทุกเกม
- เหมาะมากๆกับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมบน XBOX อยู่แล้ว
จุดสังเกต
- พัดลมค่อนข้างเสียงดัง
- หน้าจอเป็นแบบ IPS
 copy.jpg)
ROG XBOX Ally เป็นอีกหนึ่งไอเท็มของผู้ที่รักการเล่นเกม ไม่ใช่แค่อัพเกรดแต่แค่ในเรื่องสเป็ค แต่เป็นการดีไซน์ระบบร่วมกับทาง XBOX และระบบปฏิบัติการ Windows 11 เข้าด้วยกัน ทำให้การเล่นเกมสะดวกมากขึ้นจริงๆ แถมแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้นาน เสียงกระหึ่ม เหมาะแก่การพกพาเล่นนอกบ้านแก้เบื่อได้ดีมากๆ
แถมการรับประกันก็จัดเต็มกับ ASUS Exclusive Care โดยรับประกันตัวเครื่องแบบ Carry-In Warranty 2 ปี สามารถส่งตัวเครื่องเข้าศูนย์บริการ ASUS ใกล้บ้าน รวมถึง Global Warranty 2 ปี เข้าศูนย์ ASUS ได้มากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี Perfect Warranty ให้1 ปี ในกรณีเครื่องเกิดอุบัติเหตุ ครอบคลุมค่าอะไหล่ 80% ซึ่งถือเป็นสิทธิประโยชน์พิเศษ และ ASUS ถือเป็นแบรนด์เดียวในตลาดที่มีการรับประกันแบบ Perfect Warranty ในสินค้าเครื่องเล่นเกมพกพา
ใครที่สนใจ ROG XBOX ALLY สามารถสั่งซื้อได้ทาง https://th.asus.click/wi4sdk พร้อมสิทธิพิเศษ รับ PC Game Pass ฟรี 3 เดือน ให้สามารถดาวน์โหลดเล่นเกมพีซีจากค่ายเกมต่างๆ มากกว่า 300 เกม! หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://th.asus.click/d5mo0x

พิเศษ! ลูกค้าที่สั่งซื้อ ROG Xbox Ally หรือ ROG Xbox Ally X ในช่วง Early Bird Promotion ระหว่างวันที่ 17-31 ตุลาคม 2568 จะได้รับของพรีเมียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ได้แก่ ROG x Street Fighter Boxing Gloves มูลค่า 2,490 บาท ซึ่งเป็นนวมชกมวยที่ทาง ROG ได้ร่วมมือกับ Capcom จัดทำแคมเปญสุดพิเศษนี้ เพื่อแฟนๆ ชาวเกมในประเทศไทยโดยเฉพาะ