นิวยอร์คประกาศห้ามใช้การจดจำใบหน้าในโรงเรียนทั่วทั้งรัฐแล้ว
หวั่นละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
ก่อนหน้านี้เราได้เห็นข่าวคราวเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยี AI จดจำใบหน้าเข้ามาใช้งานในโรงเรียน โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการช่วยในเรื่องของรักษาความปลอดภัย การตรวจเช็คนักเรียนหรือผู้ที่ไม่หวังดี แต่หลายคนก็มองว่าเทคโนโลยีนี้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและอาจเป็นอันตรายถ้าข้อมูลไปอยู่ในมือของคนที่มีเจตนาไม่ดี และล่าสุดนิวยอร์คก็สามารถผ่านกฎและประกาศแบนอย่างเป็นทางการแล้ว
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาโรงเรียน Lockport City ได้มีการนำเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าเข้ามาใช้งานภายในอาคาร ซึ่งมีนักเรียนประมาณ 5,000 คน โดยอ้างจุดประสงค์เพื่อต้องการรักษาความปลอดภัยของนักเรียน และส่งการแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลอันตราย รวมไปถึงตรวจจับอาวุธได้ด้วย แต่นักวิจารณ์ก็ได้ออกมาบอกว่าการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้สำรวจนักเรียนอาจเป็นการสร้างฐานข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับใบหน้าของผู้คน และอาจเป็นอันตรายต่อตัวนักเรียนซะเอง
นอกจากนี้เรื่องความแม่นยำในการใช้งานก็ไม่แน่นอน เพราะเด็กๆ ต่างเติบโตขึ้นและมีใบหน้าที่เปลี่ยนไป ซึ่งนั่นอาจทำให้การตรวจจับมีความผิดพลาด อาจเกิดการลงโทษผิดคนได้ในกรณีที่พบการกระทำความผิด และเป็นเรื่องที่ยากต่อการแยกแยะใบหน้าของนักเรียนผู้หญิงและคนผิวดำซึ่งมีใบหน้าใกล้เคียงกัน จึงเกิดเป็นการต่อต้านให้ยกเลิกเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในโรงเรียน ซึ่งล่าสุดผ่านกดแล้วก็อนุมัติใช้อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วในนิวยอร์ค
จากข่าวนี้เราจะเห็นได้ถึงการพยายามนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีแต่ทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย อะไรก็ตามที่มีความเกี่ยวข้องกับการเก็บฐานข้อมูลส่วนบุคคล ย่อมมีความละเอียดอ่อนและอาจเป็นอันตรายได้หากพบความผิดพลาดหรือเกิดการแฮกข้อมูลเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังเป็นสิ่งที่สามารถควบคุมได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นเรื่องของเด็กและเยาวชน ก็ควรจะคำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ต้องชื่นชมในการกล้าตัดสินใจของนิวยอร์ค
Source: https://www.facebook.com/LockportCitySchoolDistrict, venturebeat