ระบบจดจำใบหน้าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเข้าถึงผู้คนทั่วไปได้อย่างง่ายดาย ยกตัวอย่างเช่นระบบจดจำใบหน้าบนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆแทบจะทุกรุ่น ซึ่งสามารถทำงานได้อย่างดีและเป็นระบบที่ปลอดภัยในการเข้าถึงตัวเครื่อง
ปัจจุบันก็มีการนำระบบนี้ไปใช้งานในสเกลที่ใหญ่ขึ้นอย่างการจดจำใบหน้าของประชาชนเพื่องานอาชญากรรม แต่ใช่ว่าทุกคนจะยินดีกับระบบนี้ เพราะมีการออกมาต่อต้านโดยบอกว่ามันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และร้ายแรงสุดหากข้อมูลไปอยู่ในมือคนไม่ดีอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ ซึ่งล่าสุดสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นแล้วในมอสโก
เมื่อนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิดิจิทัลในมอสโก สามารถซื้อสิทธิ์การเข้าถึงระบบจดจำใบหน้าที่กว้างขวางของเมืองได้ในราคาเพียง 16,000 rubles หรือประมาณ 200 ดอลลาร์ ผ่านโฆษณาทาง Telegram จึงได้มีการโอนเงินพร้อมรูปตัวเองให้กับผู้ขาย 2 วันต่อมาก็ได้รับข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการดึงออกมาจากระบบของตำรวจโดยตรง
ปัจจุบันระบบจดจำใบหน้าของมอสโกมีกล้องมากกว่า 1 แสนตัวทั่วเมือง ถูกจำกัดให้ใช้งานเฉพาะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าผู้ขายสามารถเข้าถึงระบบที่รัดกุมแบบนี้ได้อย่างไร เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดการติดสินบนหรือการบุกรุกทางดิจิทัล ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ 2 คนถูกสอบสวนหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ระบบจดจำใบหน้าของมอสโกถูกยื่นฟ้องเพื่อให้หยุดโปรแกรมไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีการกำหนดขั้นตอนที่ชัดเจน
ต้องบอกว่าระบบจดจำใบหน้านั้นเป็นเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด แต่มันก็เป็นดาบสองคมหากสิ่งนี้ไปอยู่ในมือคนที่ไม่หวังดี มันก็สามารถสร้างผลร้ายอย่างที่คาดไม่ถึงได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายพื้นที่สั่งแบนเทคโนโลยีตัวนี้อย่างเด็ดขาดแล้ว และบางพื้นที่ก็ยังมีการใช้งานอย่างกว้างขวางอยู่ ปัญหาของมันก็คือการจัดการระบบที่สำคัญตัวนี้ให้มีความปลอดภัยมากที่สุด
Source: TheVerge