iPhone 13 Series หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังเป็นที่พูดถึงในขณะนี้คือ การใช้งานโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายดาวเทียม ซึ่งหากทำได้จริงจะถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ ที่สามารถทำได้เลยครับ แต่อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ใหม่ที่ล้ำขนาดนี้อาจมาก่อนกาลก็เป็นได้ เพราะอาจติดข้อกฎหมายในหลายประเทศก็เป็นได้
ในปัจจุบันโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมมีทั้งการโทร และการสื่อสารด้วยข้อความ ซึ่งบริการนี้จะส่งผ่านดาวเทียมเครือข่ายต่างๆ เช่น Globalstar, Iridium, หรือ Inmarsat เป็นต้น แต่การใช้งานของ iPhone 13 นี้อาจต่างจากโทรศัพท์ดาวเทียมทั่วไป โดยในช่วงแรกคาดว่า Apple อาจจำกัดเอาไว้เฉพาะการโทรฉุกเฉินเท่านั้น ซึ่งหากคุณมี iPhone อยู่จะรู้ว่ามันมีฟีเจอร์ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS อยู่แล้ว โดยเมื่อคุณกดปุ่มเปิด/ปิดและปุ่มปรับระดับเสียงปุ่มใดปุ่มหนึ่งค้างไว้ ระบบของ Apple จะเรียกฟีเจอร์ "Emergency SOS" ขึ้นมา แต่ต่อไปอาจจะเป็นการทำงานผ่านการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมแทน
ตามรายงานล่าสุดที่มาจาก Mark Gurman นักวิเคราะห์ของ Bloomberg กล่าวว่าคุณสมบัติดาวเทียมของ iPhone 13 และ iPhone 14 จะมีให้บริการเฉพาะในบางตลาดเท่านั้น โดย iPhone 13 ที่เชื่อมต่อกับดาวเทียมของ Apple อาจจะมีเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น หรืออาจจะเป็นเฉพาะในบางตลาด
Apple สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้เนื่องจากการมาพร้อมชิปเบสแบนด์ Qualcomm X60 ที่ปรับแต่งเองพร้อมรองรับการเชื่อมต่อดาวเทียม แต่อย่างไรก็ตาม ชิปนี้คาดว่าจะมีอยู่บนโทรศัพท์จนกว่าจะถึงปี 2022 เป็นอย่างน้อย
และแน่นอนว่าการมีการเชื่อมต่อดาวเทียมบน iPhone เป็นเรื่องที่วิเศษมาก โดยเฉพาะสายแอดแวนเจอร์ ปีนภูเขา แล่นเรือในทะเลเปิด หรืออยู่ในภาวะฉุกเฉินเนื่องจากภัยธรรมชาติที่ใช้เครือข่ายมือถือหรือ WiFi ไม่ได้
โดยคาดว่าความสามารถในการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมของ iPhone 13 อาจมีราคาที่ถูกกว่าโทรศัพท์ดาวเทียมทั่วไป เพราะถ้าการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมกำลังจะไปถึงสมาร์ทโฟน แม้ว่าจะเป็นการโทร/ส่งข้อความฉุกเฉินเท่านั้นก็ตาม ก็มีแนวโน้มว่า Apple จะลดราคาการสื่อสารผ่านดาวเทียมลง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ปลายทางประหลาดใจก็เป็นได้
แต่อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมอาจถูกแบน หรือการอนุญาตให้ใช้งานได้ไม่ง่ายนักใน อย่างน้อยๆ ก็ใน 14 ประเทศดังต่อไปนี้ หรือประมาณ 3.25 พันล้านของประชากรโลก (7.8 พันล้าน) ซึ่งถือว่ามากเป็น 41% ของผู้ที่อาจไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อดาวเทียมของ iPhone 13 เมื่อเปิดตัว โดยมีประเทศดังนี้
- บังคลาเทศ
- พม่า (เมียนมาร์)
- ชาด
- จีน
- คิวบา
- เอธิโอเปีย
- อินเดีย
- นิการากัว
- เกาหลีเหนือ
- รัสเซีย
- ศรีลังกา
- ซูดาน
- เติร์กเมนิสถาน
- ซูดานใต้
รวมไปถึงหาก Apple เปิดเครือข่ายดาวเทียมใช้งาน ความท้าทายอีกประการหนึ่งอาจเป็นการใช้คุณสมบัตินี้ในทางที่ผิด เช่น หาก iPhone ตกไปอยู่ในมือของคนไม่ดี หรือองค์กรก่อการร้าย อาจสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายดาวเทียมที่แพร่หลายของ iPhone ก็เป็นได้ในอนาคต ซึ่ง iPhone เป็นโทรศัพท์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นการตัดสินใจของ Apple ในการจำกัดการใช้งานเอาไว้เฉพาะการส่งข้อความจากดาวเทียม/หรือการโทรไปยังเหตุฉุกเฉิน จึงดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
iPhone 13, iPhone 13 Mini, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 กันยายนนี้ จากข้อมูลของ Bloomberg แม้ว่าโมเด็ม X60 ที่ได้รับการดัดแปลงของ Qualcomm จะอยู่ใน iPhone 13 แต่ Apple อาจรอจนถึงปีหน้า ที่จะเปิดใช้งานการเชื่อมต่อดาวเทียมได้จริงก็เป็นได้ครับ
source: phonearena