ภาพรวม Sony Xperia 1 III

สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่านครับ! อยู่กับ @นายเป้ไงจะใครล่ะ พบกันอีกเช่นเคย วันนี้รีวิว SONY Xperia 1 III (อ่านว่า เอ็กซ์พีเรีย วัน มาร์คทรี) สมาร์ทโฟนระดับเรือธงจากค่าย Sony ที่มาพร้อมอัตราส่วนของเครื่องที่ยาวเหยียด ตามสัดส่วน Cinematic ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของค่ายอารยธรรมตัวนี้ เดี๋ยวเรามาดูกันครับว่า SONY Xperia 1 III ตัวนี้ ที่จัดหนักจัดเต็มมาขนาดนี้ การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร!? ไปหาคำตอบพร้อมๆ กันครับ!

แต่ก่อนอื่นมาสรุปจุดเด่นจุดสังเกตสักเล็กน้อยครับสำหรับ SONY Xperia 1 III ตัวนี้

จุดเด่น

• การสัมผัสจับถือ ให้ความรู้สึกที่พรีเมี่ยมมากๆ
• จอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 4K อัตรารีเฟรชเรท 120Hz โคตรดีย์!
• ประสิทธิภาพระดับท๊อป ที่สุดในคลาส!
• การถ่ายภาพและวิดีโอ ให้ประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม โคตรสุด!
• ระบบเสียงที่ให้มาแบบจัดเต็ม!
• ถาดซิมที่ไม่ต้องใช้เข็มจิ้มถาดซิม เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Sony

จุดสังเกต

• การชาร์จในช่วงหลัง 80% ถือว่าทำได้ไม่เร็วนัก (เป็นเหตุผลเรื่องของการเซฟแบตเตอรี่)
• อัตรารีเฟรชเรทไม่สามารถปรับได้ (เปิด 120Hz ก็จะเป็น 120Hz ตลอดไป)
• จออาจจะไม่สู้แสงนัก (620 nits เท่านั้น)
• Adaptive Brightness อาจจะมีอาการวูบวาบเล็กน้อยในสถานการณ์แสงน้อย
• แบตเตอรี่ไม่อึดเท่าไหร่ (ก็จอ 4K 120Hz นี่นา!?)

แต่ก่อนจะเข้าไปดูในรายละเอียดกัน สำหรับใครที่ชอบดูในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว สามารถกดเข้าไปดูวิดีโอได้เลยนะ! มีวิดีโอตัวอย่างเพียบ กดเถอะ ..อยากให้ดู :D

สเปค Sony Xperia 1 III

• หน้าจอ : OLED 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1644 x 3840 พิกเซล (4K)
  • อัตราส่วน 21:9 (Cinematics) รองรับอัตรารีเฟรชเรท 120Hz
• มิติตัวเครื่อง : 165 x 71 x 8.2 มม.
• น้ำหนัก : 186 กรัม
• CPU : Snapdragon 888 5G (5nm)
• GPU : Adreno 660
• RAM : 12 GB
• ROM : 256 GB UFS 3.x
• รองรับ SD Card (2 SIM หรือ 1 SIM 1 SD)
• แบตเตอรี่ : 4,500mAh
• ระบบชาร์จ : รองรับชาร์จไว 30w (มีอะแดปเตอร์แถมมาในกล่อง)
• กล้องหลัง 3 ตัว
  • กล้องหลัก 12 MP f/1.7 ระยะเทียบเท่า 24mm
  • กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP f/2.2 ระยะเทียบเท่า 16mm
  • กล้องเทเลโฟโต้ระยะที่ 1 , 12MP, f/2.3 ระยะเทียบเท่า 70mm
  • กล้องเทเลโฟโต้ระยะที่ 2 , 12MP, f/2.8 ระยะเทียบเท่า 105mm
  • กล้อง ToF 3D Depth 0.3MP 
    
  • รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K@120fps, 1080p@240fps
• กล้องหน้า 8MP f/2.0, รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p@30fps
• รองรับสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มพาวเวอร์
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
• Bluetooth 5.2
• พอร์ต USB Type-C 3.1
• ระบบปฏิบัติการ Android 11
• กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP65/IP68
• ลำโพงคู่ Front Firing Speaker
• มีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
• สี : Frosted Black (สีที่รีวิว), Frosted Purple
• ราคาเปิดตัวในประเทศไทย : 42,990 บาท (12GB+256GB)

 ภายในกล่อง

สำหรับเครื่องขายในประเทศไทยสำหรับ SONY XPERIA 1 III ภายในกล่องจะประกอบด้วย

• ตัวเครื่อง SONY XPERIA 1 III
• อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว PD 30W (USB-C)
• สายชาร์จ USB Type-C to USB Type-C
• คู่มือการใช้งาน
• คู่มือการลงทะเบียน

ว่ากันด้วยเรื่องดีไซน์

เริ่มกันที่เรื่องดีไซน์ครับ สำหรับสีที่ผมได้นำมารีวิวในครั้งนี้เป็นสี Frosted Black ครับ! สำหรับฝาหลังเค้าอาจจะดูด้วยตาเปล่าแล้วให้ความรู้สึกเหมือนผิวด้านอะไรแบบนั้นหรือเปล่า!? แต่ไม่ใช่ครับ! วัสดุฝาหลังเค้าเป็นกระจก สัมผัสลื่นไหลแต่ไม่หลุดมือ เวลาจับถือจะให้ความรู้สึกที่หรูหรา ดูดีพรีเมี่ยมสุดๆ เลยล่ะ!

มาพร้อมกรอบเครื่องอลูมิเนียมสีดำด้าน ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องหลังเรียงตัวยาว ให้ความรู้สึกเรียบหรู สวยงามดีครับ!

มาพร้อมอัตราส่วน Cinematics เอกลักษณ์ของทาง SONY ที่จะมีความยาวของตัวเครื่องอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ~

และที่สำคัญ! มีปุ่มชัตเตอร์ เอกลักษณ์ของซีรีส์ XPERIA มาด้วยครับ! ถึงแม้ว่ารุ่นเล็กอย่าง SONY XPERIA 10 III จะไม่มีปุ่มนี้มา แต่รุ่นใหญ่ XPERIA 1 III มีมาให้ด้วยครับ แจ๋วมากๆ

มาดูรอบๆ ตัวเครื่องกันครับ!

ด้านขวา ของตัวเครื่องนั้นเป็นศูนย์รวมของปุ่มต่างๆ

• ปุ่มเพิ่ม-ลด เสียง
• ปุ่มพาวเวอร์ (เป็นสแกนลายนิ้วมือในตัว)
• ปุ่ม Google Assistant
• ปุ่มชัตเตอร์ เอกลักษณ์ของ SONY

ด้านซ้าย มาเรียบๆ มีเพียง

• ถาดซิม ตามสไตล์ SONY ที่ไม่ต้องใช้เข็มจิ้มซิม แงะออกมาได้เลย
• รองรับ 2 SIM หรือ 1 SIM + 1 microSD

ด้านบน ของตัวเครื่องมีเพียง

• ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm

ส่วน ด้านล่าง ของตัวเครื่องมาเรียบๆ มีเพียง

• USB Type-C เท่านั้น

เอ๊ะ!? แล้วลำโพงมันอยู่ตรงไหนล่ะ??? คำตอบคืออยู่ด้านหน้าของตัวเครื่องครับ SONY XPERIA 1 III มาพร้อมกับลำโพงคู่แบบ Front-Firing Speaker คือเป็นการทำงานแบบยิงตรงจากด้านหน้าเข้าหาผู้ใช้งานเลย จะต่างจากลำโพงทั่วๆ ไป ที่ส่วนใหญ่เค้าจะอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่องอะไรแบบนั้นนะครับ!

ส่วนมิติของเสียงถือว่าใช้ได้เลยนะ เค้าทำเรื่องของเสียงมาดีอยู่ครับ! อาจจะไม่ได้ในเรื่องของความดังกระหึ่มอะไรแบบนั้น แต่คุณภาพเสียงจัดว่า "แจ๋ว" เลยครับ

สำหรับเรื่องดีไซน์การออกแบบต่างๆ ของ SONY XPERIA 1 III ถือว่ามาดีมากเลย การสัมผัสจับถือต่างๆ ให้ความรู้สึกที่ดีมาก! พรีเมี่ยมสุดๆ สมกับความเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงของชาวอารยธรรมครับ! ดีงามแบบสามผ่านจริงๆ :D

หน้าจอ SONY XPERIA 1 III

SONY XPERIA 1 III มาพร้อมกับหน้าจอแบบ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดเกือบๆ จะ 4K เลยครับ! หรือเรียกว่า 4K ในแบบ Cinematic นั่นแหละ (ความละเอียด 1644 x 3840) แต่ไม่ได้เป็นความละเอียดสูงตลอดนะครับ ขึ้นอยู่กับแอปที่รองรับ ถ้าเป็นแอปที่ไม่ได้รองรับจะใช้ความละเอียดที่ 1096 x 2560 พิกเซล (หรือความละเอียดประมาณ 2K ครับ)

รองรับ HDR 10 ล้านสีด้วยนะ! มาอัตราส่วนแบบย๊าวยาว Cinematic 21:9 สามารถดูคอนเทนต์ 4K ได้เลย ตระการตา สุดจัดๆ ว่างๆ อยากดูวิดีโอความละเอียด 4K เพลินๆ ก็ไปหาเปิดดูใน Youtube ได้เลยครับ คมจัด ชัดตระการตาแน่นอน!

และจอของเค้ามาพร้อมกับอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 120Hz เลยครับ! การใช้งานต้องบอกว่าลื่นไหล เนียนกริบไม่มีสะดุดเลยนะ!

...แต่ ณ จุดนี้น่าเสียดายนิดนึงครับที่เค้าไม่ได้เป็นอัตรารีเฟรชเรทแบบ Adaptive, LTPO หรือ Auto Switch อะไรแบบนั้นครับ เค้าจะให้เลือกได้แค่ 60Hz หรือ 120Hz เท่านั้นเลย!? นั่นหมายความว่า ถ้าเราเปิดอัตรารีเฟรชเรทที่ 120Hz เค้าก็จะรันด้วยการตั้งค่านี้ไปตลอด

นั่นหมายความว่ามันจะค่อนข้างส่งผลในเรื่องของการกินแบตเตอรี่ที่มากขึ้นด้วยครับ! ลองคิดเล่นๆ ว่าจะกินแบตขนาดไหน ด้วยความที่เค้าเป็นจอ 4K รวมกับ รีเฟรชเรท 120Hz ตลอดเวลา ผมนี่ขนลุกเลยฮะ!?

ต้องบอกว่าการแสดงผลของเค้าถือว่าคมจัดชัดจริง สีสันมาดีมากๆ เลยครับ และหน้าจอของเค้าสามารถปรับโปรไฟล์สีได้ด้วยนะ!? ถ้าเป็นการใช้งานทั่วๆ ไปก็จะเป็นของโหมดธรรมดา Standard Mode ที่จะให้สีสันอมฟ้านิดๆ เหมาะแก่การใช้งานเล่นโซเชี่ยล ดูหนังดูซีรีส์ทั่วๆ ไปครับ!

สำหรับสายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เค้ามี Video Image Enhancement มาด้วยนะ! ซึ่งโหมดนี้เค้าจะเร่งการทำงานของหน้าจอ ให้มีความคมชัดและสีสัน ที่มากขึ้น จัดจ้านขึ้น เหมาะกับการดูหนังดูซรีส์แบบสุดๆ เลยล่ะ!

และเค้ามี Creator Mode มาให้ด้วย เมื่อเราปรับเป็นโปรไฟล์นี้ การแสดงผลของเค้าก็จะเที่ยงตรงมากขึ้น ตามมาตรฐาน HDR BT.2020 ครับ ก็จะเหมาะกับการแต่งรูปภาพเพื่อนำไปใช้ ให้สีเที่ยงตรงอะไรแบบนั้น ส่วนนี้เล่าให้ฟังนิดนึง พอเราเปิดขึ้นมาแล้วเนี่ยภาพรวมของหน้าจอ จะเปลี่ยนเป็นสีโทนอุ่นนิดๆ ครับ จะเที่ยงตรงตามมาตรฐานสีเค้า

และโหมดนี้สามารถเลือกให้เปิดแบบอัตโนมัติตามแอปที่เราเลือกไว้ได้ด้วย! อยากให้เปิดทำงานแบบออโต้ในแอปไหน (เช่น แอปแต่งภาพ Lightroom, Snapseed ต่างๆ) ก็สามารถเลือกได้เลยครับ! สะดวกอยู่นะ :D

จัดว่าเป็นจอที่ให้รายละเอียดดีมากเลยครับ คมชัดจริงๆ! ทีนี้ขอมาพูดเรื่อง จุดสังเกต กันนิดนึงครับสำหรับจอตัวนี้ จับอาการได้ 2 เรื่องหลักๆ

1. เรื่องของ Adaptive Brightness หรือการปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ ถ้าเป็นสภาพแสงตอนกลางวัน มีแสงเพียงพอ เค้าทำงานได้ดีไม่ได้มีอาการอะไรครับ แต่ถ้าเป็นแสงนีออนตอนกลางคืน การแสดงผลเค้าอาจจะมีอาการวูบวาบของความสว่างหน้าจอเกิดขึ้นเล็กน้อย (ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตอนที่เล่นเกมเป็นหลัก) ก็อาจจะก่อให้เกิดความรำคาญเล็กๆ ได้ครับ!

2. เรื่องของความสว่างหน้าจอ ที่ตามสเปคเค้าให้มาเพียง 620 nits เท่านั้น!? ว่ากันตรงๆ ว่าอาจจะน้อยไปสักนิดนึงในยุคนี้ครับ เมื่อนำออกไปใช้งานข้างนอก เวลาที่เค้าจะต้องสู้แสงอะไรแบบนี้ อาจจะเหนื่อยนิดนึงครับ ขนาดตอนที่ไม่มีแดด (ฝนตก) หรือแม้แต่ตอนที่แสงเริ่มน้อยลง (ประมาณ 16.30 น.) ก็อาจจะสู้แสงได้ไม่ค่อยดีนักครับ พอเห็นได้ในร่ม แต่ถ้าออกแดดตรงๆ ไม่แนะนำครับ

ก่อนจะจบเรื่องหน้าจอ ขอแถมอีกเรื่องนึง! มอเตอร์สั่น ของเค้าฟีลลิ่งดีมาก มันจะมีความตึงตังเล็กน้อย ไม่ถึงนุ่มนวลอะไรแบบนั้น และเค้าจะสั่นแบบ Dynamics คือมีความหนักเบาของระดับการสั่น มันสมูท ลื่นไหลและให้สัมผัสที่ดีมากๆ อันนี้อาจจะอธิบายให้เห็นภาพไม่ได้ แนะนำว่าให้ไปลองสัมผัสเครื่องจริงเองครับ! โคตรแจ๋วว~

พูดถึงเรื่อง "เสียง" กันนิดนึง!

SONY XPERIA 1 III มาพร้อมกับฟีเจอร์ Dolby Atmos ที่จะทำให้มิติเสียงเวลาเราใช้หูฟังมีมิติมากยิ่งขึ้น มันจะไม่ได้เป็นเสียงมาแค่ ซ้าย-ขวา ตามรูปแบบของ Stereo อะไรแบบนั้น! มันเสมือนการจำลองเสียงรอบตัว โดยที่มีเราเป็นจุดศูนย์กลางเลยล่ะ! มิติเสียงถือว่ามาดีมากๆ ยิ่งเราใช้คู่กับหูฟังดีๆ สักตัวเนี่ย บอกเลย "โคตรฟิน"

SONY XPERIA 1 III ซัพพอร์ต Spatial Audio ด้วยครับ ถ้าให้พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือจะเพิ่ม "เลเยอร์" ของมิติเสียง เข้าไปใน Dolby Atmos อีกทีนึง และเช่นเคย "ใช้เราเป็นจุดศูนย์กลาง" ครับ แต่ว่าต้องใช้หูฟังที่รองรับ Spatial Audio ด้วยนะ ซึ่งปัจจุบันอาจจะยังมีตัวเลือกไม่มากนัก รอดูในอนาคตกันต่อไปครับ

และเค้ายังรองรับ DSEE Ultimate ที่จะใช้ AI เข้ามาช่วยให้เรื่องของการ Upscale บิตเรตของเสียง ให้คุณภาพของเสียงดีขึ้นด้วยนะ เรียกได้ว่ามาดีมากๆ ครับ "Sony ก็คือ Sony" จริงๆ ใส่ใจในรายละเอียดของเสียงจริงๆ ครับ

ยิ่งไปฟังเพลงแบบ HiFi (Hi-Res) ในแอปที่รองรับ ยกตัวอย่างเช่น Tidal นะ โคตรรรรรรรร~ฟิน ขอบอก! แล้วตัวนี้ เค้ายังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm อยู่นะครับ สามารถใช้หูฟังแบบมีสายตัวโปรดได้เลย ไม่มีปัญหา ไม่ว่ากัน :D

ประสิทธิภาพสุดซอย!

SONY XPERIA 1 III ตัวนี้มาพร้อมกับความเป็นเรือธง ที่สุดของฝั่ง Android ในปี 2021 แล้วครับ

• Snapdragon 888
• RAM 12GB
• ROM 256GB

การใช้งานทั่วๆ ไปผมคงไม่ต้องพูดถึงแล้วครับ ด้วยความที่เค้าเป็นตัวท๊อปแบบสุดจัดขนาดนี้ และอย่างที่พูดไปในพาร์ทของหน้าจอ เค้าเป็นจอความละเอียดสูง(มว๊ากก) และอัตรารีเฟรชเรท 120Hz การใช้งานทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นโซเชี่ยล ดูหนังดูซีรีส์ คืออลังการงานสร้าง จัดเต็มมากๆ ครับ! ใช้ฟิลเตอร์ IG แต่งรูปต่างๆ ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด แทบจะไม่มีอาการโหลดอาการหน่วงใดๆ ผ่านไปไวๆ ได้เลยครับตรงนี้

ส่วนการใช้งานที่มันหนักขึ้นมาหน่อย รีดประสิทธิภาพออกมาอย่างการเล่นเกม ผมเจาะรายละเอียดแต่ละเกมเล็กน้อยนะครับในส่วนนี้

RoV (Arena of Valor) เกม MOBA ยอดฮิตของคนไทย สามารถ "ปรับสุด" ได้ทุกการตั้งค่าเลย การเล่นถือว่าทำได้ดี ทีมไฟต์ไม่มีอาการหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใดครับ

LoL WildRift เกม MOBA ยุคใหม่เกมนี้ ก็สามารถ "ปรับสุด" ได้หมดเช่นกัน ค่ากราฟิกอัลตร้า เปิดสูงหมดทุกอย่าง และเปิดการใช้งานเอฟเฟกต์ทุกสิ่ง สามารถเล่นได้ลื่นๆ ครับ ทีมไฟต์บวกกันนัวๆ ก็ไม่มีอาการหน่วงแต่อย่างใดเลยครับ ชิลมากๆ เกมนี้ ถึงแม้ว่าอาจจะล็อคไว้ไม่ให้มีการปรับตั้งค่าไปถึง 90/120 fps อะไรแบบนั้น แต่ก็โอเคแล้วครับสำหรับการเล่นเกม 60 fps

Call of Duty Mobile (CoDM) เกมนี้สามารถเปิดเฟรมเรตที่ Max และปรับตั้งค่ากราฟิก Very High ได้เลยครับ เปิดเอฟเฟกต์มันทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น Bloom, AA, Ragdoll, Depth of Field และ Motion Blur ก็เรียกได้ว่าปรับสุดได้สบายๆ เวลาเล็งยิงคือแม่นยำมากๆ ตามมือสุดๆ เวลามีเอฟเฟกต์ระเบิดควันต่างๆ ก็ไม่ได้มีอาการหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใด แจ๋ว!

Genshin Impact เกมปราบเซียนที่รีดทรัพยากรทุกสิ่งอย่างของเครื่องออกมา สำหรับ SONY XPERIA 1 III นั้นถือว่าทำได้ดีครับ สามารถปรับตั้งค่า Overall Graphic : สูง และ เปิด 60fps ได้ สามารถเล่นต่อเนื่องได้ชิลๆ ครับ แต่บอกไว้ก่อนว่ามันอาจจะไม่ได้ 60fps ตลอดนะครับสำหรับเกมนี้ มันก็อาจจะมีเฟรมดรอปบ้าง หน่วงในบางจังหวะเล็กน้อย แต่มันเป็นการตั้งค่าที่ผมคิดว่า "เหมาะสม" สำหรับเกมนี้ครับ ไหนๆ ก็มีเครื่องประสิทธิภาพสูงทั้งที จะให้ไปปรับตั้งค่า ต่ำ-กลาง มันก็ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลใช่ไหมล่ะ!

เรียกได้ว่าประสิทธิภาพเค้ามาสุดซอย สุดทางในความเป็นเรือธงในปี 2021 นี้แล้วล่ะครับ มาดีจริง ประสบการณ์ในการใช้งานทั้งเบาและหนัก ถือว่าดีงามครับ สำหรับ SONY XPERIA 1 III ตัวนี้

และถามว่าการใช้งานหนักๆ ร้อนไหม? กับความเป็นตัวท๊อปแบบนี้!? ผมเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ สำหรับ SONY XPERIA 1 III นั้นถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความอุ่นๆ ตลอดอยู่แล้ว ตามสไตล์ชิปเซ็ต Snapdragon 888 ตัวท็อปที่ขึ้นชื่อเรื่องความร้อนแรงในปีนี้ครับ เรียกได้ว่าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ สำหรับเรื่องความร้อน

แต่ในความร้อนที่ว่า ก็คืออยู่ในเกณฑ์ปกตินะครับ ไม่ได้ร้อนจี๋อะไรแบบนั้น การใช้งานหนักๆ เล่นเกมทั่วไป RoV,CoDM,LoLWR เล่นต่อเนื่องอุณหภูมิเครื่องเค้าก็จะไม่เกิน 40 องศาเซียลเซียสครับ แต่ถ้าเป็นการเล่น Genshin Impact ก็จะร้อนขึ้นมาในระดับนึง จะอยู่ที่ 43-44 องศาเซลเซียสสำหรับการเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ

ซึ่งตรงนี้บอกไว้ก่อนครับว่านี่เป็นอุณหภูมิในระดับ "ปกติ" ของ Snapdragon 888 ครับ จะมีบางค่ายบางแบรนด์ที่เล่น Genshin Impact แล้วอุณหภูมิขึ้นไปถึง 46 องศาเซลเซียสเลยก็มีครับ

ซึ่งผมจะทดสอบเล่นในห้องพัดลมเป็นหลักนะครับค่าอุณหภูมิที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ แต่ถ้าเล่นในห้องแอร์ ก็จะช่วยในเรื่องความร้อนนี้ได้ครับ! ย้ำอีกทีว่าที่กล่าวมาทั้งหมด "อุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติ" ครับ :D

แบตเตอรี่

SONY XPERIA 1 III ในปีนี้ได้รับการอัปเกรดแบตเตอรี่มาให้ความจุเยอะขึ้นเป็น 4,500 mAh ครับ และรองรับการชาร์จเร็ว PD Charge ถึง 30W เลยทีเดียว (ถ้าเป็นการชาร์จแบบไร้สายจะรองรับที่ 15W) โดยที่เค้าแถมอะแดปเตอร์ชาร์จ 30W มาให้ในกล่องเลยนะ! ไม่ต้องไปซื้อแยกซื้อเพิ่ม

สำหรับการชาร์จเร็วชาร์จไวของเค้า เค้าเคลมไว้ว่าสามารถชาร์จจาก 0-50% ได้ในเวลา 30 นาที แต่สำหรับการใช้งานจริงแบบไม่ได้จำกัดตัวแปร ผมมีตัวเลขเป็นไกด์ไลน์ให้ดังนี้ครับ

• ชาร์จ 10 นาที ได้แบตเตอรี่ 18%
• ชาร์จ 20 นาที ได้แบตเตอรี่ 35%
• ชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่ 52%
• ชาร์จ 60 นาที ได้แบตเตอรี่ 80%
• สำหรับการชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง 49 นาที

เรียกได้ว่าในช่วงความเร็ว ต้น-กลาง ถือว่าทำความเร็วได้ค่อนข้างดีเลยครับ ตามที่เค้าเคลมนั้นแหละ แต่ในส่วนความเร็วปลาย จะเห็นได้ว่าใช้เวลาชาร์จ 20% สุดท้ายถึง 49 นาทีเลย!?

คือต้องบอกก่อนว่าทาง SONY เองเค้าเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น ที่อาจจะไม่ได้มาแข่งขันในเรื่องตัวเลขอะไรสักเท่าไหร่ครับ แต่เค้าจะเน้นในเรื่องของการรักษาประจุแบตต่างๆ ที่จะไม่เน้นเรื่องของชาร์จไวมาก แต่เน้นเสถียรภาพในการใช้งานให้ยาวนานครับ! เพราะฉะนั้นในส่วนของความเร็วปลายที่อาจจะทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมไม่ได้ติดใจอะไรเป็นพิเศษนะ

แล้วถามว่า SONY XPERIA 1 III แบตอึดไหม? อยู่ได้ทั้งวันหรือเปล่า!? ผมมีตัวเลขเป็นแนวทางครับ สำหรับการใช้งานทั้งเบาและหนัก มาให้ดูกันเล็กน้อย

สำหรับการตั้งค่าดังต่อไปนี้

• เปิดความสว่างจอ 70%
• เปิดความดังลำโพง 70%
• การเชื่อมต่อ Wifi

ดูหนังดูซีรีส์ ต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง แบตลดไป 15%

เล่นเกมต่อเนื่อง (RoV,LoLWR,CoDM ปรับสุด) 1 ชั่วโมง แบตลดไป 24%

จากตัวเลขจะเห็นได้ว่าเค้าไม่ได้เป็นสมาร์ทโฟนที่แบตอึดหรือมีการจัดพลังงานที่ดีมากมายเท่าไหร่ครับ เนื่องจากเค้าเป็นจอความละเอียดสูงถึง 4K และอัตรารีเฟรชเรท 120Hz แบบคงที่ เพราะฉะนั้นผมไม่แปลกใจนะ กับตัวเลขนี้ ถือว่าสมเหตุสมผลของเค้าครับ

แต่ถามว่าการใช้งานมันจะได้เต็มวันไหม? ตอบว่าแอบลุ้นๆ อยู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนเลยครับ!

กล้องถ่ายรูป จัดหนักจัดเต็ม!

SONY XPERIA 1 III มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดเท่ากันหมดไม่ต้องจำเยอะ!? มาที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งสามตัวเลยครับ

• กล้องหลัก ความละเอียด 12MP, เทียบเท่าระยะ 24mm
• กล้องอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP, เทียบเท่าระยะ 16mm
• กล้องเทเลโฟโต้ ความละเอียด 12MP,  เทียบเท่าระยะ 70mm และ 105mm 
• เซ็นเซอร์ Depth ToF 3D Camera ความละเอียด 0.3MP

พร้อมการเคลือบผิวเลนส์ด้วย ZEISS T* Coating ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยให้ได้การแสดงผลและให้คอนทราสต์ที่สวยงาม รวมถึงสามารถลดแสงสะท้อนได้เป็นอย่างดี ในเรื่องของกล้องอาจจะต้องมาเล่าให้ฟังนิดนึงครับ เพราะเค้าอาจจะไม่เหมือนค่ายต่างๆ ในตลาดสักเท่าไหร่ 

SONY XPERIA 1 III เค้าจะใช้แอป Photography Pro หรือเรียกสั้นๆ ว่า Photo Pro เป็นหลักครับ! ที่เราสามารถตั้งค่าได้ละเอียดเหมือนที่อยู่บนกล้องตระกูล Alpha เลยล่ะ!? User Interface (UI) สไตล์ SONY เลยครับ หากใครที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทกล้องของ SONY มาก็จะมีความคุ้นเคย คุ้นหน้าคุ้นตากันสุดๆ เลยล่ะ! สำหรับ UI ของเค้านะ

โดยที่ตัวแอปสามารถปรับตั้งค่าได้หลากหลายครับ ยกตัวอย่างเช่น Drive Mode, AF Mode , AF Zone , AWB เป็นต้นครับ เรียกได้ว่ายกหน้าตาจากกล้องมาเลยก็ว่าได้! แต่ถ้าใครคิดว่ามันยุ่งยาก อยากใช้ง่ายๆ ก็ไม่ต้องไปปรับโหมดปรับอะไรครับ การถ่ายปกติของเค้าก็ถือว่าแจ่มแจ๋วแล้วล่ะ!?

โดยที่โหมดกล้องของเค้าอะ มาว้าวมากๆ เลย ด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์ของ SONY เอง เค้าก็จะยกในส่วนของฟีเจอร์บางอย่างในกระกูลกล้อง Alpha มาให้ด้วยเลย!? นั่นคือฟีเจอร์ Real-time Eye AF และ ระบบ Real-time Tracking ที่ต้องบอกว่า จิกเป็นไก่เลย! เห็นลูกตาของคนและสัตว์เป็นไม่ได้!? ขอจับโฟกัสก่อนนะ! อะไรแบบนั้นเลยครับ แม่นยำมากๆ อย่างที่บอกว่าเหมือนในตระกูลกล้องใหญ่เลยนะ!

และสิ่งที่ว้าวซ่าอีกจุดนึงก็คือเค้าสามารถที่จะถ่ายภาพต่อเนื่อง ใน Drive Mode แบบ Hi ได้ถึง 200 ภาพทีเดียว (อื้อหือ!? นึกว่ากล้องใหญ่ A9 มาเอง ขุ่นพระ!) สามารถเก็บทุกโมเมนต์ได้แบบไม่พลาดแน่นอนครับ รัวยิ่งกว่าปืนกล ..ว่าซ่านน!?

และอีกเรื่องนึงที่ต้องพูดกันก็คือในเรื่องของระบบกันสั่นที่ทำมาได้ดีมากๆ เลยครับ ในทุกเลนส์เลยนะ! การนำไปถือถ่าย หรือแม้แต่การเดินถ่ายนิดๆ หน่อยๆ เนี่ย เค้าค่อนข้างนิ่งมากๆ ครับ โหมดภาพนิ่งคือชิลมาก ถ้าเป็นการถ่ายวิดีโอคือแจ๋วเลยล่ะ ทำได้ดีเกินคาดมากๆ เลยนะ!

โดยที่ความละเอียดของภาพถ่าย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นความละเอียดระดับที่เค้าแข่งขันกันในตลาด 48MP, 64MP หรือแม้แต่ 108MP อะไรแบบนั้น!? แต่ผมต้องพูดว่า เป็น 12MP ที่ใช้งานได้จริง และจัดหนักจัดเต็มในเรื่องของคุณภาพมากๆ ครับ!

แม้แต่ในสถานการณ์แสงน้อย แสงนีออนตัวเดียว ถ่ายตอนกลางคืน แล้วผมจำลองสถานการณ์โดยการถ่ายอาหาร (ไก่ทอดซอสเกาหลี) ตอนแรกที่มองผ่านหลังกล้องคือมันเป็นวุ้นๆ เขียวๆ คิดว่ายังไงก็ถ่ายออกมาไม่รอดแน่ๆ ภาพนี้

แต่ทว่า พอกดลั่นชัตเตอร์เท่านั้นแหละ! เอ้า ...รอดเฉย!? และรอดแบบดีเลยนะ เราจะเห็นถึงความมัน ความกรอบของไก่ทอด มีความเยิ้มของซอสเกาหลีและน้ำมันที่ใช้ทอด มันมาดีกว่าที่คิดมากๆ ครับ!

สำหรับภาพเลนส์หลักและเลนส์อัลตร้าไวด์ของเค้า ซึ่งเลนส์อัลตร้าไวด์ของเค้าถือว่าเป็นเลนส์ที่กว้างที่สุดในสมาร์ทโฟนตัวนึงเลยครับ องศารับภาพ 124 องศามันจะถ่ายออกมาประมาณไหน?

และคุณภาพของภาพถ่าย เอาเป็นว่าไม่พูดเยอะแล้วกันครับ เจ็บคอ ไปดูภาพตัวอย่างกันเลยดีกว่า 

เรียกได้ว่าคุณภาพของภาพถ่ายเค้ามาดีมากๆ เลยครับ! และความพิเศษนึงของ SONY XPERIA 1 III ในปีนี้อยู่ที่เลนส์เทเลโฟโต้ครับ ระยะเค้าจะมาแปลกๆ ถ้าเป็นตัวเลขในสมาร์ทโฟนก็จะเป็นระยะ 2.9x และ 4.4x ครับ แต่ถ้าเป็นคนเล่นกล้องก็จะรู้ว่าเลนส์เทเลของเค้าจะมาที่ระยะ 70mm และ 105mm ครับ

โดยความพิเศษของเค้าคือเทคโนโลยีของทาง SONY ที่เป็น "เลนส์เทเลโฟโต้แบบปรับได้" ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ Dual PDAF ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยที่เค้าสามารถปรับระยะได้โดยการขยับ เคลื่อนที่ชิ้นกระจกในเลนส์ ทำให้เกิดระยะภาพขึ้นสองระยะ ได้แก่ 70mm และ 105mm ครับ โดยที่เรื่องการกันสั่น รวมไปถึงการโฟกัส ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย เค้าทำงานได้ดีเยี่ยมมากๆ เลยล่ะ!

กล้องหน้าความละเอียด 8MP

สำหรับกล้องหน้าของ SONY XPERIA 1 III นั้นมาพร้อมกับความละเอียด 8MP ครับ! ซึ่งอาจจะต้องว่ากันตรงๆ ว่าเค้าอาจจะไม่ได้เน้นมากมายเท่าไหร่ครับ ถามว่ามันโฟกัสเร็วไหม? ก็เร็วนะ!

การถ่ายก็ถือว่าทำได้ดีประมาณนึง แต่อาจจะไม่ได้เน้นมากครับ การตัดฉากหลังอะไรต่างๆ ถือว่าทำได้ประมาณนึงครับ ไม่ได้เนียนกริบไปซะหมดแต่อยู่ในระดับที่รับได้ครับ! เรื่องของการถ่าย สกินโทนสีผิวอาจจะไม่ได้ไปสู้ค่ายจีนที่เค้าเน้นในเรื่องของความฟรุ้งฟริ้ง สกินโทนสวยงามอะไรแบบนั้นครับ ก็อาจจะไม่ได้เนียนอะไรมากในส่วนของผิวหน้า และด้วยความที่ผมเป็นสิวที่ผิวหน้าค่อนข้างเยอะด้วย แพ้แมสก์หนักมาก!? ก็จะช่วยได้ไม่เยอะเท่าไหร่ครับ!

อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดมากเท่าไหร่นะครับจุดนี้ ให้อยู่ในระดับพอใช้ได้แล้วกันครับ! แต่ก็แอบเสียดายนะ ด้วยความที่เค้ามาสุดจัดขนาดนี้แล้ว ก็น่าจะให้กล้องหน้าดีๆ แจ่มๆ มาสักตัวเนาะ จะได้จบๆ ไปเลย! ..แต่มาเท่านี้ก็เท่านี้ครับ ไม่ได้ขี้เหร่อะไร

การถ่ายวิดีโอ

ในแอปถ่ายรูปเค้าก็มีแอปเฉพาะของเค้าใช่ไหมครับ ในการถ่ายวิดีโอ ก็มีแอปเฉพาะทางเหมือนกัน ชื่อว่าแอป Cinematography Pro หรือเรียกสั้นๆว่า Cinema Pro ครับ โดยที่เค้าสามารถถ่ายได้ถึงความละเอียดสูงสุด 4K 120fps เลยล่ะ! เอามาทำ SLOW-MO ทีหลังได้แบบเนียนกริ๊บเลย!

โดยที่หน้าตาของแอปนี้ก็จะเหมือน UI ของพวกกล้องระดับโปรเลยล่ะ!? สามารถปรับได้หลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น Resolution , FrameRate , White Balanced , Shutter Degree

หรือแม้แต่ Look ที่ทำหน้าที่เสมือนฟิลเตอร์ใน Cinematic ที่โทนสีเค้าอาจจะไม่เหมาะในการเอามาใช้ในชีวิตประจำวันเท่าไหร่ แต่เหมาะกับการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมหนังอะไรแบบนั้นมากกว่าเนาะ!

โดยที่การถ่ายวิดีโอนั้นถือว่ามีความฟินมากๆ ครับ ด้วยความเป็นอัตราส่วนแบบ Cinematic 21:9 แบบนี้ที่หน้าจอก็รองรับ ถ่ายออกมาก็เป็นอัตราส่วนนี้ ถือได้ว่ามาดีมากๆ เลยล่ะ! ยิ่งถ่าย 4K 120fps มาตัดต่อในคอมพิวเตอร์อีกทีนึงเนี่ย เรียกได้ว่าจัดเต็มมากๆ ครับ (แต่คอมก็ต้องรองรับด้วยนะ 5555 ไฟล์มาค่อนข้างใหญ่เลยล่ะ)

ส่วนตัวอย่างไม่รู้จะโชว์ยังไงดี ไปดูกันในวิดีโอในพาร์ทของวิดีโอได้ครับ (ขายของนิด 555) ยอมสละเวลาไปดูหน่อยเหอะ อยากโชว์ ของเค้าดีจริ๊งงง!

สรุปการใช้งาน! SONY XPERIA 1 III

มาสรุปภาพรวมการใช้งานของ SONY XPERIA 1 III กันสักนิดนึงครับ ถ้าให้ผมสรุปเลย ผมก็คงพูดอะไรไปไม่ได้มากกว่าคำว่า "SONY ก็คือ SONY ครับ" พูดดื้อๆ แบบนี้เลย

กับราคาศูนย์ไทยที่เปิดตัวมา 42,990 บาท (ช่วง Pre-Sale มีของแถมจัดหนักจัดเต็มอย่างหูฟัง True Wireless รุ่นท็อปสุดฮิตอย่าง WF-1000XM4 แถมมาด้วยเลย โคตรโหด! ใครใคร่ได้ ต้องรีบสั่งซื้อแล้วนะ จังหวะนี้!) สามารถไปกดจองได้ตามลิงก์นี้ได้เลยครับ >> ทางไปจอง

ผมเชื่อว่าชาวอารยธรรม ก็ชอบในความเป็น SONY นี่แหละ ถ้าใจรักสักอย่าง ..ราคาไม่ใช่ปัญหาครับ! ถ้าพูดกันตรงๆ เรื่องประสิทธิภาพและราคา มันอาจจะดูไม่ค่อยสมดุลกันสักเท่าไหร่เนาะ แต่ก็ต้องยอมรับว่า SONY XPERIA 1 III นี้เป็นสมาร์ทโฟนนี่จับถือแล้วรู้สึกดีมากๆ เข้ามือไปหมดอย่างบอกไม่ถูก!?

ประสบการณ์ในการใช้งานก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ จอดีงาม ลำโพงแจ่ม ประสิทธิภาพสูง เรื่องของเสียงมาเต็ม! โหมดกล้องก็มาอย่างกับกล้องใหญ่ มีตัวเลือกให้เล่นเยอะแยะมากมาย แถมเรื่องโฟกัสและกันสั่นคือดีงามมากๆ เลยล่ะ! (ชอบเรื่องกล้องมากๆ เน้นย้ำอีกที!)

ถ้าถามว่าที่ใช้งานมาติดใจตรงไหนบ้าง ก็จะติดก็เรื่องแบตที่สูบค่อนข้างเร็วครับ และจอที่อาจจะไม่ได้สว่างสู้แสงได้เท่าไหร่นัก นอกนั้นคือปลื้มมากๆ ครับ!

จัดเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับชาวอารยธรรมที่ต้องพูดว่า "ของมันต้องมี" จริงๆ แหละ ยิ่งใช้คู่กับผลิตภัณฑ์จากทาง SONY เอง มันก็จะ เพิ่มความหล่อเท่อีก +300% เลยครับ (หยอกๆ นะ) ความรู้สึกก็จะประมาณนี้แหละ!?

ก็จะประมาณนี้สำหรับรีวิว SONY XPERIA 1 III อย่าลืมกดติดตามกันในช่องทาง Facebook และ Youtube ด้วยนะครับ ทางทีมงาน TechXcite จะคอยนำเสนอข่าวคราววงการไอทีให้เพื่อนๆ ได้อัปเดตกันอยู่ตลอดเวลา สำหรับวันนี้ @นายเป้ไงจะใครล่ะ ขอตัวไปปั่นรีวิวตัวอื่นก่อนแล้วจ้าา~ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ! :3

//นายเป้ไงจะใครล่ะ