ดีไซน์
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะคะ กู๊ดดรีม TechXcite วันนี้ดรีมก็อยู่กับอีก 1 สุดยอดมือถือเกมมิ่งแห่งปี Lenovo Legion Phone Duel 2 ที่มีจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่แหวกแนวแตกต่างแต่เป็นเอกลักษณ์ และประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม พร้อมแบตเตอรี่คู่ทรงพลัง บทความนี้จะมารีวิวการใช้งานจริง มีจุดดีจุดสังเกตอย่างไรบอกหมดไม่มีกั๊ก!! แต่สปอยล์ไว้ก่อนเลยว่าที่สุดมือถือเกมมิ่งแห่งปีจะหนีไปไหนรอด!
จุดเด่น
- จอใหญ่ 6.92 นิ้ว
- มีพัดลมระบายอากาศ
- แบตเตอรี่คู่ Turbo Charge
- ช่องชาร์จ USB-C 2 จุด
จุดสังเกต
- ตัวเครื่องค่อนข้างหนาและหนัก
ดีไซน์
เริ่มต้นที่ Design กันเช่นเคย รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ 6.92 นิ้ว จอแสดงผล AMOLED ความละเอียด FHD+ พร้อมอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 144Hz และความเร็วในการตอบสนองต่อการสัมผัส 660Hz จอลื่นไหล แตะสัมผัสอย่างรวดเร็วแม่นยำ ไม่มีอาการทัชหลอน นอกจากนี้หน้าจอยังรองรับ HDR10 + ให้ความแม่นยำของสีสูง และช่วงสีที่กว้าง เวลาเล่นเกมที่ภาพกราฟฟิกจัดจ้าน การแสดงผลในเรื่องสีสันจะมีความสมจริง ภาพคมชัด
ในเรื่องดีไซน์รอบตัวเครื่องต้องบอกว่า Legion Phone Duel 2 มาด้วยดีไซน์ที่แตกต่างจาก สมาร์ทโฟนทุกรุ่นในตลาดเลยด้วยตำแหน่งของปุ่มและพอร์ตการใช้งานต่างๆ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่คุ้นเคย และฉีกรูปแบบอย่างสิ้นเชิง
ตำแหน่งของกล้องหลังซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่บริเวณส่วนบนของฝาหลังในแนวตั้ง ในรุ่นนี้ถูกวางไว้ที่ตรงกลางฝาหลัง มีจอแอลอีดีที่ฝังโลโก้ Lenovo Legion เข้าไป เมื่อเปิดเครื่องไฟ LED ก็จะสว่างวาบขึ้นมาเป็นไฟแบบ RGB สามารถปรับแต่งสีสันเองได้ตามเอกลักษณ์สไตล์มือถือเกมมิ่ง
นอกจากนี้ด้านหลังยังมีพัดลมระบายอากาศตัวเล็กๆ 1 ตัวซึ่งเราสามารถเลือกเปิดปิดการใช้งาน เลือกความแรงของพัดลมหรือจะเปิดออโต้ทำงานอัตโนมัติก็ได้ เพื่อระบายความร้อนในตัวเครื่อง บริเวณพัดลมจะมีไฟสว่างขึ้นมาเช่นเดียวกันเมื่อมันทำงาน ถ้าเครื่องร้อนหรือใช้งานในพื้นที่ที่อากาศร้อนจัด ไฟแสดงผลที่พัดลมจะเป็นสีแดง และมีเสียงพัดลมให้ได้ยินบ้างแต่ก็ไม่ได้ดังจนรู้สึกหงุดหงิด
ข้อดีของการย้ายตำแหน่งของกล้องมาไว้ตรงกลางฝาหลัง คือ เวลาเล่นเกมนิ้วเราจะไม่ไปบังหรือว่าไปโดนบริเวณเลนส์กล้อง เวลาถ่ายรูปในแนวนอนจะสามารถจับโทรศัพท์ได้อย่างกระชับมือมากยิ่งขึ้น ส่วนข้อเสียก็คือเมื่อถ่ายภาพในเลนส์มุมมองภาพกว้างพิเศษ นิ้วจะชอบติดเข้าไปอยู่ในเฟรม ถ้าวางมือไม่ถูก
ส่วนรอบๆ ตัวเครื่องถ้าวางเครื่องในแนวนอนด้านบน จะเป็นปุ่มพาวเวอร์ซึ่งอยู่ตำแหน่งเดียวกับกล้องหน้า Pop Up บริเวณปุ่มจะมี Texture ขีดๆ ขรุขระๆ ซึ่งมันดีนะ เวลาสัมผัสจะรู้ได้ทันทีว่านี่คือปุ่ม power แต่ความที่ปุ่ม power มันอยู่ตำแหน่งเดียวกับกล้อง Pop Up ถ้าต้องการแคปหน้าจอระหว่างเซลฟี่ก็สามารถกดปุ่มลดเสียงและปุ่ม power พร้อมๆกันได้แม้ว่ากล้อง Pop Up จะเปิดอยู่ก็ตาม
มี Octa-Trigger บริเวณไหล่เครื่อง 4 จุด L1 L2 R1 R2 ด้านหลัง 2 และหน้าจอ 2 เพื่อการควบคุมเสมือนคอนโซล ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ตามการใช้งานของแต่ละคน
พลิกมาอีกฝั่งฝั่งเป็นปุ่มวอลลุ่มเพิ่มลดเสียงและช่องชาร์จ USB-C 1 ตัว ไว้สำหรับชาร์จไฟในขณะที่เล่นเกมไปพร้อมๆกัน ประกบข้างด้วยไมโครโฟน 2 ตัว โดยที่บริเวณขอบบนและล่างจะมีช่องระบายอากาศอยู่ข้างละฝั่ง
ส่วนบริเวณขอบขวามือในแนวนอนแป้นช่องชาร์จ USB C อีก 1 ตัว และถาดซิมที่รองรับได้ 2 ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ส่วนลำโพงเป็นแบบลำโพงสเตอริโอคู่ซ้ายขวา ระบบเสียง Dolby atmos
โดยรวมเรื่องของดีไซน์แล้วตัวเครื่องมีน้ำหนักมากพอสมควรที่ 259 กรัม การจัดวางปุ่มต่างๆออกแบบมาเพื่อการใช้งานในแนวนอนเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ตำแหน่งต่างๆมันถึงได้อยู่แปลกจากมือถือโดยทั่วไป ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่พัดลมและช่องระบายอากาศด้านหลังช่วยระบายความร้อน มันช่วยลดอุณหภูมิของตัวเครื่องได้จริงๆ และช่องชาร์จ USB C ที่ให้มาถึง 2 จุด ประโยชน์มันคืออะไรเราจะมาพูดกันในช่วงต่อไป
สเปคการใช้งาน
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.92 นิ้ว
- Refresh Rate 144 Hz
- น้ำหนัก 259 กรัม
- CPU Qualcomm Snapdragon 888 5G
- RAM 12-16GB
- ROM 128-512GB
- แบตเตอรี่ 5,500mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 90W
- กล้องหลังคู่
- Wide 64MP
- Ultra-Wide 16MP มุมมองกว้าง 123 องศา
- รองรับการถ่าย VDO สูงสุด 8K HDR 10+
- กล้องหน้า 44MP
- รองรับ 2 ซิมการ์ด
- มี 2 สี
- ระบบเสียง Dolby atmos
- 2 ช่องชาร์จ USB -C
- สีขาว Titanium White
- สีดำ Ultimate Black
ประสิทธิภาพตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วย ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 5G รองรับการใช้งาน 5G กับทั้ง 2 ซิม RAM เป็นแบบ LPDDR5 มีให้เลือกเริ่มต้นที่ 12GB และ 16GB หน่วยความจำภายในเป็น UFS 3.1 มี 3 ขนาดความจุคือ 128GB, 256GB และ 512GB
ชิปเซ็ต Snapdragon 888 5G ก็ต้องยอมรับว่าขึ้นชื่อในเรื่องของความร้อน แต่ในรุ่นนี้มีระบบ Twin Turbo-Fan Cooling System เป็นพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว ซึ่งสามารถจัดการความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม จัดการ Snapdragon 888 5G ได้อย่างอยู่หมัด เล่นเกมหนักๆ เครื่องก็ไม่ร้อน ส่วนเรื่องของการใช้งานทั่วไปเล่นโซเชียลต่างๆ ก็สามารถเล่นได้ลื่นไหล ประมวลผลได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่เจออาการกระตุกหรือสะดุดใดๆ
การเล่นเกมส์และการดูหนังฟังเพลง
เมื่อเข้าเกมแล้วลากนิ้วลงมาจากด้านบนจะเป็นสถานะของ CPU ในปัจจุบัน ซึ่งเราจะได้เห็นสถานะของมันแบบเรียลไทม์เลยว่าตอนนี้สัญญาณเป็นอย่างไรปิงขึ้นไหม Frame Rate เราตั้งค่าไว้ที่เท่าไหร่ความร้อนของเครื่องอยู่ประมาณไหนสามารถดูได้เลย อีกทั้งยังสามารถที่จะตั้งค่าเครื่องเพิ่มความเร็วของเครื่องเปิดใช้งานปุ่มพิเศษ Y-Trigger
หรือต้องการจะกดสตรีมก็สามารถเรียกใช้งานได้เลย เครื่องก็จะนำพาเราเข้าไปสู่หน้าแอปที่เราต้องการสตรีมพร้อมกล้องหน้า Pop Up ที่จะเด้งขึ้นโดยอัตโนมัติ ออกแบบมาเพื่อชาวสตรีมเมอร์อย่างแท้จริง สามารถตั้งค่าและเห็นสถานะของเครื่องได้อย่างง่ายดาย เรียกดูได้ตลอดเวลา ถ้าสัญญาณ WiFi มีปัญหาก็สามารถสลับไปใช้สัญญาณเน็ตจากซิมมือถือได้ จะกดอัดหน้าจอเพิ่มเสียงเพิ่มแสงก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เป็นโหมดเกมมิ่งที่ออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย ไม่มีความซับซ้อนในการใช้งานเลย ตรงนี้ชอบมากๆ
เริ่มเกมแรกกับเกม ROV ยอดฮิต การตั้งค่าต่างๆสามารถปรับได้สูงสุด เฟรมเรทสูงภาพ HD การแสดงผลก็อยู่ในระดับสูง สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดไม่มีกระตุกเลยตามประสาสแนปดรากอน 888 การควบคุมทิศทางสามารถทำได้อย่างแม่นยำ จับสัมผัสได้ติดมือ เล่นเกมไป 1 ชั่วโมงแบตเตอรี่ลดไป 15 เปอร์เซนต์ กับการตั้งค่าทุกอย่างสูงสุด
Call of Duty Mobile เกมนี้สามารถปรับตั้งค่าทุกอย่างได้สูงสุดเช่นเดียวกัน เรื่องของภาพกราฟิกสวยงามสมจริง ระบบเสียงลำโพงซ้ายขวาช่วยเพิ่มมิติในการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น สามารถเล่นได้แบบลื่นไหลไม่มีกระตุกเช่นเดียวกัน ในเกมนี้เราสามารถใช้ประโยชน์จากปุ่ม Octa-Trigger เพื่อเพิ่มปุ่มควบคุมเกมได้ด้วย
Ragnarok M จุดเด่นของเกมนี้เลยก็คือเรื่องของภาพที่สวยมากๆ ทั้งความคมชัดและสีสัน รวมไปถึงการแสดงผลกราฟิกต่างๆทำได้ดีสุดๆ การเปลี่ยนฉากทำได้ไวและไม่มีกระตุก สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลเช่นเดียวกัน ส่วนแบตเตอรี่เล่นเกมส์ไป 1 ชั่วโมง แบตลดไป 13% เท่านั้น
การดูหนังฟังเพลง
จุดเด่นในเรื่องของการใช้งานเพื่อดูหนังฟังเพลงก็เห็นจะเป็นเรื่องของระบบเสียงสเตอริโอซ้ายขวาคุณภาพเสียง Dolby atmos ซึ่งให้มิติเสียงที่ดีมากๆ จนแทบจะเป็น Bluetooth speaker ตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ เรื่องของภาพด้วยความที่มันจอใหญ่ถึง 6.92 นิ้วการดูหนังดูซีรีย์ต่างๆก็คือได้จอใหญ่คมชัดและก็สีสันของภาพมีความสมจริง เรื่องของแบตเตอรี่ดูหนังด้วย netflix 1 ชม แบตลด 7% เท่านั้น ถือว่าจัดการแบตเตอรี่ได้ดีมากๆ เลย
กล้อง
กล้องหลังเป็นกล้องหลังเลนส์คู่ กล้องหลักเลนส์ Wide 64MP และ Ultra Wide 16MP มุมมองภาพกว้าง 123 องศา ด้วยความที่เป็นมือถือเกมมิ่งก็ไม่ได้คาดหวังว่ากล้องมันจะถ่ายสวยหรือโดดเด่นอะไรและก็ไม่ใช่จุดขายใน Legion Phone Duel 2 สักเท่าไหร่ แต่จากการที่ลองเอาไปใช้งานถ่ายจริงปรากฏว่ากล้องมันถ่ายสวยมากกว่าที่คิด มี HDR ช่วยปรับภาพให้สว่างคมชัดและเก็บรายละเอียดได้ดีแม้ว่าจะถ่ายย้อนแสงหรือว่าถ่ายในพื้นที่แสงน้อย สามารถซูมภาพได้ 2 เท่าโดยไม่เสียความละเอียดอีกด้วย
ส่วนกล้องอัลตร้าไวด์ 16 ล้านพิกเซลให้มุมมองภาพกว้างที่กว้างมากๆจริงๆ สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนและที่สำคัญคือมุมมองภาพไม่มีบิดเบี้ยวหรือว่าผิดเพี้ยนเลยไม่ว่าจะหน้ากล้องหรือว่าหลังกล้อง มี HDR ช่วยปรับรายละเอียดของภาพเช่นเดียวกัน
และถึงแม้ว่าจะไม่มี Depth Sensor มาให้แต่ก็มี Portrait Mode เพื่อการถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลายหรือการถ่ายภาพบุคคล สามารถเลือกเบลอฉากหลังปรับได้สูงสุดถึง 80 ระดับ แนะนำให้เปิดในระดับกลางๆก็จะให้ระยะที่เบลอเป็นธรรมชาติดี ความสามารถในการตัดฉากหลังก็ถือว่าทำได้แม่นยำพอสมควร
นอกจากนี้ยังมีมาโครเลนส์เพื่อการถ่ายภาพในมุมมองที่ใกล้มากๆ สามารถเรียกใช้งานมาโครได้ที่เพิ่มเติม หลังจากไปลองถ่ายต้องบอกว่าสามารถขยับตัวกล้องเข้าใกล้วัตถุได้ ไกลมากๆ จับโฟกัสได้รวดเร็ว ให้ระยะ และมิติของภาพที่สวยเป็นธรรมชาติ และให้รายละเอียดที่ดีไม่เป็นวุ้นไม่มีเบลอ เป็นมาโครที่สามารถใช้งานได้จริง
ในเรื่องของ Video สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 8K หรือ HDR 10+ มีโหมดหน้าหลังเพื่อการถ่ายวีดีโอกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับถ่าย Vlog ถ่ายรีวิวต่างๆ ที่ต้องการให้เห็นรายละเอียดของวิวทิวทัศน์พร้อมๆกับสีหน้าของเราไปด้วย
กล้องหน้า
ส่วนกล้องหน้า pop-up ให้ความละเอียดสูงถึง 44 ล้านพิกเซล เป็นกล้องหน้าที่เอื้อต่อการถ่ายสตรีม video เพราะฉะนั้นมันก็เลยให้มุมมองภาพที่ค่อนข้างกว้างกว่าปกติ ตำแหน่งของกล้องที่ย้ายมาอยู่บริเวณขอบเครื่อง ถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าออกมาสัดส่วนพอดีถ้าถ่ายในแนวนอน แต่ถ้าถ่ายแนวตั้งภาพก็อาจจะออกมาแปลกไปสักนิด สามารถถ่ายได้ 2 แบบคือถ่ายแบบปกติชัดทั้งหน้าและหลังกับหน้าชัดหลังละลาย มีโหมดบิวตี้ให้ได้ปรับผิวให้เนียนอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่คู่ความจุ 5500 mAh รองรับความเร็วในการชาร์จที่ 90W อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าพอร์ตชาร์จ USB -C ให้มามากถึง 2 ช่อง สามารถชาร์จพร้อมกันสองช่องได้เพื่อเพิ่มความเร็วในการชาร์จ ซึ่งจากการลองเทสชาร์จจาก 0-100% ชาร์จช่องเดียวใช้เวลาในการชาร์จ1 ชั่วโมง 10 นาที ชาร์จพร้อมกัน 2 เส้นแบบคู่ใช้เวลาในการชาร์จไป 42 นาทีเท่านั้น ทำได้ไวมากๆ
แต่ในช่วงระหว่างการชาร์จตัวเครื่องจะค่อนข้างร้อน แต่ไม่ต้องกังวลเพราะเขามีระบบป้องกันกระแสไฟเกิน และพัดลมระบายอากาศไปพร้อมๆกันช่วยควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม จากการใช้งานจริงค่อนข้างมีการจัดการแบตเตอรี่ที่ทำได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเล่นเกมส์หรือดูหนังฟังเพลง เล่นโซเชียลดูคลิปวีดีโอต่างๆ 1 ชั่วโมงแบตเตอรี่ลดไป 9% เท่านั้น สามารถใช้งานได้ยาวนานทั้งวันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
สรุปการใช้งาน
Lenovo Legion Phone Duel 2 เป็นมือถือที่ออกแบบมาเพื่อชาวเกมมิ่งอย่างแท้จริงทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ดีไซน์ซึ่งดูแตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ เน้นการใช้งานในแนวนอนเป็นหลักเพื่อการเล่นเกมและการสตรีมมิ่งวีดีโอ จุดเด่นนอกเหนือจากดีไซน์ก็จะมีเรื่องของพอร์ตชาร์จแบบคู่ที่เอื้อต่อความสะดวกในการเล่นเกม ซึ่งสามารถชาร์จพร้อมกันทั้งสองเส้นเพื่อรับความเร็วที่ไวกว่า และยังมีระบบจัดการความร้อนที่ดีด้วยพัดลมระบายอากาศด้านหลังและช่องระบายอากาศบนล่าง จึงสามารถดึงประสิทธิภาพของ Snapdragon 888 ให้ยิ่งเสถียรมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
โดยรวมหลังจากทดลองใช้งานจริงต้องยอมรับว่านี่เป็นมือถือเกมมิ่งที่ค่อนข้างโดดเด่นกว่ามือถือเกมมิ่งหลายรุ่นในปีนี้ ทั้งเรื่องของความแรง ความเสถียร และในหลายๆ อย่างที่ตอบโจทย์การเล่นเกมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเล่นแบบทั่วไปหรือจะเพื่อการสตรีมมิ่งในระดับมืออาชีพก็ตาม ยกให้เป็นมือถือเกมมิ่งที่ดีที่สุดในปีนี้เลย
ราคา
- RAM 12GB+128GB สีขาว Titanium White ราคา 22,990 บาท
- RAM 12GB+256GB สีดำ Ultimate Black ราคา 24,990 บาท
- RAM 16GB +512GB สีดำ Ultimate Black ราคา 29,990 บาท
วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วที่ Lenovo Shop และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ เปิดราคามาดีมากๆ คุ้มค่าสุดๆ ของมันต้องมีแล้ว ^^