ภาพรวม Mi 11 Lite
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่านครับ อยู่กับ @นายเป้ไงจะใครล่ะ อีกเช่นเคย! คราวนี้มารีวิวสมาร์ทโฟนต่ำหมื่น ที่ชูจุดเด่นในเรื่องของความเพรียวบาง ความเบา ที่สุดของแจ้! ...หยอกๆ เค้าภูมิใจนำเสนอในความบางที่สุดในคลาส Mid-Range Smartphone เลยก็ว่าได้ สำหรับ Mi 11 Lite ตัวนี้ เอาเป็นว่าเราไปดูกันครับว่า Mi 11 Lite มันเบา มันบางอย่างที่เค้านำเสนอมาจริงหรือเปล่า แล้วมันแข็งแรงไหมบางแบบนี้? แล้วมันคุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่? ไปเริ่มกันเลยครับ!
แต่ก่อนจะไปเริ่มลงรายละเอียดกัน ไปดูภาพรวมของ Mi 11 Lite กันก่อนเลย สรุปมาให้แล้ว!
จุดเด่น
- บางที่สุดใน Mid-Range Smartphone ความหนา 6.8 มิลลิเมตรเท่านั้น!
- น้ำหนักเบามาก 157 กรัม จับถือแล้วรู้สึกเบาอย่างรู้สึกได้!
- งานประกอบแน่นหนา ไม่บางเบาเหมือนชื่อ
- หน้าจอคือดีย์! 6.55" AMOLED 1B อัตรารีเฟรชเรท 90Hz ความละเอียด FHD+
- ชาร์จเร็ว 33w จาก 0-100% ใช้เวลา 62 นาที
จุดสังเกต
- แบตเตอรี่อาจจะน้อยไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนเรทราคาเดียวกัน
- เจอปัญหาเรื่องความร้อนขึ้นสูงเล็กน้อยเวลาใช้งานหนักๆ
สเปค Mi 11 Lite
- หน้าจอ : 6.55 นิ้ว AMOLED 1B ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) อัตรารีเฟรชเรท 90Hz
- มิติตัวเครื่อง : 160.5 x 75.7 x 6.8 มม.
- น้ำหนัก : 157 กรัม
- CPU : Snapdragon 732G
- GPU : Adreno 618
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB UFS 2.2
- รองรับ Micro-SD
- แบตเตอรี่ : 4,250mAh รองรับชาร์จไว
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 33w
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 64MP f/1.8
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP f/2.2 องศารับภาพ 119 องศา
- กล้องมาโคร 5MP f/2.4 Autofocus
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K@30fps, 1080p@30/60/120fps, gyro-EIS
- กล้องหน้า 16MP f/2.5
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p@60fps, 720p@120fps
- รองรับการเชื่อมต่อ
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
- Bluetooth 5.1
- NFC
- พอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย MIUI 12
- สี : Boba Black, Peach Pink, Bubblegum Blue
- ราคา : 8,999 บาท
ภายในกล่อง
สำหรับภายในกล่องของ Mi 11 Lite ประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง Mi 11 Lite
- คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน
- อะแดปเตอร์ชาร์จ 33w
- USB Type-A to Type-C
- USB Type-C to 3.5mm
- เคสใส
- เข็มจิ้มถาดซิม
ดีไซน์
Mi 11 Lite มาพร้อมกับดีไซน์ที่บางเบาสุดๆ จัดว่าบางเบาที่สุดในคลาส ความหนาเพียงแค่ 6.8 มิลลิเมตรเท่านั้น แถมน้ำหนักยังเบาแค่ 157 กรัม หยิบขึ้นมือมาคือสัมผัสได้เลยว่าเบาจริงๆ!
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่เค้าบางและเบา ไม่ได้หมายความว่างานประกอบจะไม่ดีไปด้วยนะ! เค้าออกแบบมาได้ดี ไม่ก๊องแก๊ง งานประกอบคือแน่นหนาเลยล่ะ!
สีเครื่องที่ผมได้นำมาในการรีวิวครั้งนี้คือ Boba Black ซึ่งจะเป็นสีออกไปทางสีดำ แต่มีความเหลือบเงาค่อนข้างสูง ก็ต้องพูดกันตรงๆ ว่า เค้ามีความสะท้อนสูงมว๊ากก! บางมุมสะท้อนจนคิดว่าเป็นกระจก สะท้อนหนักมากจริงๆ ครับ และความสะท้อนนี้เองก็เป็นที่มาของอาการติดรอยนิ้วมือง่าย (ก็คงเป็นเรื่องปกติแหละเนอะ) ถ้าใครใส่เคสอยู่แล้วก็สามารถมองข้ามจุดนี้ไปได้เลยครับ! (เค้ามีเคสใสแถมมาในกล่องนะ)
ส่วนดีไซน์ของกรอบกล้องนั้นก็ได้รับอิทธิพลมาจาก Mi 11 แบบเป๊ะๆ เลยครับผม กรอบนอกเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสลบมุม กรอบในเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าลบมุม ก็จะเน้นในความโค้งมนนะครับในจุดนี้
ด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นจุดรวมปุ่มกด Physical ทั้งหมด ทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่เป็นสแกนลายนิ้วมือในตัวครับ การสแกนก็สามารถทำได้รวดเร็วตามยุคสมัยเลย
สำหรับด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นในส่วนของ พอร์ตชาร์จ USB Type-C , ลำโพง และถาดซิม โดยที่ถาดซิมของ Mi 11 Lite จะเป็นในรูปแบบของ Hybrid Dual SIM ที่สามารถเลือกใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิม หรือ 1 ซิมการ์ด และ 1 microSD ครับ!
ดีไซน์โดยรวมนั้นถือว่าโอเคเลยนะ สมกับชื่อ Lite! ภาพรวมคือสวยงามและบางเบาตามที่เค้าพรีเซนต์จริงๆ
หน้าจอ
Mi 11 Lite มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.55 นิ้ว ที่เป็นจอชนิด AMOLED 1B รองรับการแสดงผลสิบล้านสี!? ในความละเอียด FHD+ (2400x1080) และอัตรารีเฟรชเรท 90Hz เลยทีเดียว!
จากการที่ได้ใช้งานมาก็ต้องบอกว่า จอเค้าแสดงผลได้ดีจริง! คมกริบ ไม่มีข้อติเลยครับ การแสดงสีสันถือว่าดีเลยครับ! สามารถใช้เสพคอนเทนต์ได้เต็มที่เลย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเว็ปไซต์ การดูหนัง ดูซีรีส์ Youtube, Netflix ต่างๆ แสดงผลได้แจ่มจริง!
แถมยังเป็นอัตรารีเฟรชเรท 90Hz ด้วยการเลื่อนฟีดต่างๆ Facebook Instagram TikTok อะไรใดๆ ก็คือลื่นไหล สมูทแล้วครับ! ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถึง 120Hz แต่อันนี้ส่วนตัวผมมองว่า 90Hz ก็ใช้งานได้ลื่นไหล ไม่รู้สึกขัดใจแต่อย่างใดเลยครับ :)
ก็ต้องบอกว่าประสบการณ์ การใช้งานในส่วนของหน้าจอเนี่ย ถือว่าดีเลยนะ มันเนียนตา การแสดงสีสันอะไรแบบนี้คือแบบอิ่มเอมมากครับ ยิ่งการดูซีรีส์อะไรแบบนี้คือตระการตาจริงๆ จอสวยมั่กๆ!
แล้วก็ด้วยความที่ Mi 11 Lite มันน้ำหนักเบามากๆ เนี่ย เราสามารถถือมือเดียวเพื่อดูซีรีส์ยาวๆ ได้แบบไม่เมื่อยเลยแหละขอบอก!
ประสิทธิภาพการใช้งาน!
Mi 11 Lite มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Snapdragon 732G RAM 8GB และ ROM 128GB ก็ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นที่จัดว่าคุ้มค่าเลยล่ะครับ สำหรับหน่วยประมวลผล Snapdragon 732G ตัวนี้ การใช้งานทั่วๆไป Social Media ดูหนังฟังเพลงเสพคอนเทนต์ต่างๆ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเลย ทำได้ลื่นไหล ไร้สะดุดเลยครับ! ทีนี้เรามาดูเรื่องการใช้งานที่มันหนักๆ ขึ้นมาหน่อยดีกว่าอย่างการเล่นเกม! ว่า Mi 11 Lite ตัวนี้มันจะทำได้ประมาณไหน เริ่มกันเลย!
เกม MOBA ยอดฮิตของคนไทยเราอย่าง ROV สามารถปรับภาพ HD กราฟิกสูง เฟรมเรตสูง ก็บวกกันไปยับๆเลยครับ 59-60 fps มาตลอด ไม่มีอาการเฟรมดรอปแต่อย่างใดแม้ไฟต์หนักๆนะครับในส่วนของ ROV
เกม First Person Shooting อย่าง Call of Duty Mobile สามารถปรับภาพกราฟิกได้ที่ Very High และเฟรมเรต Very High สามารถเปิดเอฟเฟกต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Bloom Ragdoll MotionBlur ได้ทุกอย่างเลย ก็สามารถเลื่อนยิงๆ ไร้สะดุดครับ มันลื่นไปซะหมดจริงๆ
เกม MOBA ยุคใหม่อย่าง LoL : Wildrift นั้นก็สามารถปรับได้ถึงระดับ Ultra เลยนะ ก็ยังสามารถเล่นได้ 54-60 fps อยู่! แต่ถ้าให้แนะนำจริงๆ ปรับกลางค่อนสูงก็เพียงพอแล้วครับสำหรับเกมนี้! จะได้ไม่กินทรัพยากรเครื่องมากเกินไป รันได้ 60fps ลื่นๆเลย ถ้าปรับกลางค่อนสูง
ภาพรวมของการเล่นเกมนั้นถือว่าสามารถปรับได้ในระดับ "สูง" ทั้งหมดเลยนะครับ สำหรับเกมหลักๆ ยอดฮิตนั้น มันอาจจะไม่ได้ปรับถึงขั้นสุด อัลตร้า เหมือนตัวท๊อปอะไรแบบนั้น แต่ก็มองเพียงพอแล้ว! สำหรับการใช้งานในลักษณะนี้สำหรับสมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นนะครับ
แล้วก็ต้องพูดกันนิดนึงครับในเรื่องของ "ความร้อน" ที่เกิดขึ้นในการใช้งานหนักๆ Mi 11 Lite ตัวนี้ที่มาพร้อมกับ Snapdragon 732G นั้นถือว่าร้อนอยู่นะ เมื่อเทียบกับค่ายเดียวกัน ราคาชนกันอย่าง Redmi Note 10 Pro ต้องบอกว่าตัวนั้นไม่เจอเรื่องความร้อนนะครับ เล่นนานต่อเนื่องก็รู้สึกแค่อุ่นๆเท่านั้น ไม่เกิน 39 องศาสำหรับอุณหภูมิภายนอก
แต่สำหรับ Mi 11 Lite เข้าใจว่า ด้วยความที่เค้าทำเครื่องมาให้แบบเพรียวบางขนาดนี้ ในเรื่องของระบบระบายความร้อนเค้าก็เลยอาจจะทำได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่ จากการใช้งานหนักๆมาเนี่ย เอาเครื่องวัดอุณหภูมิไปยิงที่แผ่นหลังของเครื่อง ความร้อนเค้ามาแฮะ 40-41 องศาเซลเซียส ประมาณนี้นะครับ เอามาเล่าให้อ่านกันสำหรับประสบการณ์การใช้งานจริงเนาะ!
แบตเตอรี่
Mi 11 Lite มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุขนาด 4,250 mAh รองรับการชาร์จไว Mi Turbo Charge ที่ 33w ถามว่ามันชาร์จเร็วไหม? สำหรับผมก็จะบอกว่าก็ไม่ได้ช้า แต่ก็ไม่ได้เร็วมากมาย สรุปตัวเลขมาให้ดังนี้ครับ
- เสียบชาร์จ 10 นาที ได้แบตเตอรี่ 18%
- เสียบชาร์จ 20 นาที ได้แบตเตอรี่ 38%
- เสียบชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่ 56%
- เสียบชาร์จ 62 นาที ได้แบตเตอรี่ 100%
จากตัวเลขที่ได้ไปทดสอบมา ชาร์จจากแบตหมดเกลี้ยงเลย 0% จนถึง 100% เต็ม ใช้เวลาทั้งสิ้น 62 นาที ก็มองว่าโอเคอยู่นะสำหรับแบตเตอรี่ขนาด 4,250mAh นี้
สำหรับการทดสอบว่าแบตเตอรี่ มันจะอยู่ได้นานขนาดไหน แบตอึดไหม ผมมีตัวเลขจากการทดสอบมาบอกเล่าเช่นเดียวกัน ดังนี้ครับ
การทดสอบเล่นเกม 1 ชั่วโมง
การตั้งค่า : เชื่อมต่อ WiFi เปิดจอสว่าง 60% เปิดเสียงลำโพง 60% ปรับกราฟิก "สูง" แบตเตอรี่ลดไป 22%
การทดสอบใช้งานทั่วไป / ดูซีรีส์ 1 ชั่วโมง
การตั้งค่า : เชื่อมต่อ WiFi เปิดจอสว่าง 60% เปิดเสียงลำโพง 60% ปรับกราฟิก "สูง" แบตเตอรี่ลดไป 12%
ด้วยความที่เค้าออกแบบมาให้บางเบาเนี่ย ความจุแบตเตอรี่มันก็อาจจะต้องลดหลั่นตามกันไปแต่ก็มองว่าไม่ได้เป็นปัญหาเท่าไหร่ เพราะชาร์จทิ้งไว้ซัก 20 นาที แบตเตอรี่ก็จะกลับมาเหลือพอให้ใช้ต่อได้แล้ว
ถ้าถามว่ามันจะอยู่ได้เต็มวันไหม? อาจจะต้องลุ้นกันนิดนึงครับ เพราะว่ามันอาจจะไม่เต็มวันถ้าใช้งานหนัก! แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่วๆไป เล่น Social Media ถ่ายรูปบ้าง เล่นเกมนิดหน่อยอะไรแบบนี้ ก็อาจจะไม่ได้กินแบตเตอรี่มากนัก สามารถอยู่ได้เต็มวัน! ก็จะประมาณนี้นะครับในส่วนของแบตเตอรี่
กล้องถ่ายรูป
Mi 11 Lite มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวด้วยกัน! ซึ่งมีการวางตำแหน่งกล้องเหมือนกับ Mi 11 เป๊ะๆ เลยนะครับในจุดนี้ โดยที่กล้องของ Mi 11 Lite ประกอบไปด้วย
- กล้องหลัก 64MP f/1.8
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP f/2.2 องศารับภาพ 119 องศา
- กล้องมาโคร 5MP f/2.4 Autofocus
สำหรับเลนส์แต่ละตัวนั้นจะให้ภาพออกมาเป็นอย่างไร ไปรับชมภาพตัวอย่างกันเลยครับผม
กล้องหลัก 64MP f/1.8
สำหรับกล้องหลักนี้ ว่ากันตรงๆ คาแรคเตอร์ของภาพ องค์ประกอบต่างๆ ก็จะมีความคล้ายคลึงกับ Mi 11 และ Redmi Note 10 Pro เลยครับ จะเน้นในความดิบๆ ของภาพ เก็บรายละเอียดแบบจัดเต็ม ตามสไตล์กล้องของ Mi Series นะครับ ภาพรวมก็จะประมาณนี้
ถือว่าเป็นเลนส์ที่ถ่ายสนุกตัวนึงเลยครับ รายละเอียดภาพค่อนข้างดี แต่ถ้าต้องการสีสันที่สดใสกว่านี้หน่อยก็อาจจะต้องแต่งภาพเพิ่มกันเล็กน้อยนะครับ เพราะภาพที่ได้มาจาก Mi 11 Lite ตัวนี้อย่างที่บอกว่าเค้าจะเน้นความดิบของภาพเสียมากกว่า!
กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP f/2.2
กล้องอัลตร้าไวด์ของ Mi 11 Lite นี้มาพร้อมกับองศารับภาพ 119 องศา ก็ถือว่ากว้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นกว้างเวิ้งว้างอะไรขนาดนั้นเนาะ (Mi 11 Ultra กว้างสุดในโลกที่องศารับภาพ 128 องศา) การถ่ายถือว่าทำได้สนุกครับ! แล้วก็สีสันของภาพจะออกมาใกล้เคียงกับกล้องหลักเลย
แต่ด้วยความที่มันเป็นเลนส์อัลตร้าไวด์ ตรงขอบๆของภาพเนี่ย ก็จะมีความวุ้นของภาพเล็กๆ นะครับ แต่ไม่ได้เป็นจุดสังเกตอะไรเท่าไหร่ ปกติตามมาตรฐานของกล้องอัลตร้าไวด์นี่แหละ!
กล้องมาโคร 5MP f/2.4
กล้องมาโครใน Mi 11 Lite นี้ถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับนึงเลยครับ แถมเค้ายังมี Autofocus ให้ด้วยนะ ทำให้การถ่ายมาโครนั้นง่ายขึ้นประมาณนึงเลยแหละ!
สามารถเข้าใกล้วัตถุได้ประมาณ 3-5 เซ็นติเมตรตามมาตรฐานทั่วไปของกล้องมาโครในยุค 2021 นี้ รายละเอียดความคมชัด Depth of Field ของภาพนั้นจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องวงเล็บว่าต้องเป็นแสงสว่างจากธรรมชาตินะ ถ้าเป็นแสงนีออนในห้องมันก็อาจจะขุ่นๆ เขียวๆ หน่อยครับ จะเหมาะกับการนำไปถ่ายสถานที่ข้างนอกมากกว่าการถ่ายภายใต้แสงนีออนนะครับในส่วนของกล้องมาโคร
โหมดการถ่ายภาพต่างๆ ก็ได้รับสืบทอดมาจากรุ่นพี่ใหญ่เลย ด้วยความที่เป็น MIUI 12 เหมือนกัน เลยได้มาเต็มๆ (แจ่มเล้ยย!)
เอฟเฟกต์ต่างๆ ฟิลเตอร์ มีให้เล่นเพียบ!
การถ่ายวิดีโอ
Mi 11 Lite รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ความละเอียด 4K@30fps ถ้าเป็น FHD 1080p จะได้ที่ 30/60/120 fps นะครับ
การถ่ายวิดีโอ ก็ถือว่าทำได้ดีประมาณนึงเลย การเก็บรายละเอียดทำได้ครบถ้วน! แต่ว่าไม่ได้มีกันสั่นมาให้ในตัวนะ การถือถ่ายแบบไม่เปิดโหมดกันสั่นเนี่ย ก็จะมีความสั่นไหวพอตัวเลยล่ะ! ต้องเปิดโหมดช่วยกันสั่นเอาครับ
Steady Video เมื่อเราเปิดโหมดกันสั่นขึ้นมาแล้ว วิดีโอก็จะโดนครอปเข้าไปประมาณนึง แต่ว่าการช่วยกันสั่นเนี่ย จะดีขึ้นมากๆ เลยครับ สามารถเดินถือถ่ายได้แบบนิ่งขึ้นเยอะเลย (เมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ได้เปิด Steady Video นะ)
กล้องหน้า 16MP f/2.5
สำหรับกล้องหน้าใน Mi 11 Lite มาพร้อมกับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งก็ต้องบอกว่าทำได้โอเคเลยแหละ การใช้ซอฟต์แวร์ช่วยตัดขอบ เพื่อทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ ถือว่าทำได้ดีในระดับนึงเลย รายละเอียดของภาพ ความคมชัดอะไรคือทำได้อยู่ในเกณฑ์ดีครับ!
มีโหมดมีฟิลเตอร์อะไรให้เล่นเยอะแยะไปหมดเช่นเดียวกันครับสำหรับกล้องหน้านี้!
แต่ก็ต้องพูดกันตรงๆ ว่าในเรื่องของโหมดหน้าเนียน Beautify อะไรแบบนี้ อาจจะยังเกลี่ยได้ไม่ดีเท่าที่ควรนะครับ ถ้าคนที่มีปัญหาสิวแบบตัวผมเองเนี่ย ก็จะรู้สึกได้ว่าเค้าอาจจะทำได้ไม่ดีเท่าเจ้าตลาดที่เน้นในความฟรุ้งฟริ้งอะไรแบบนั้น แต่ถามว่ามันอยู่ในเกณฑ์ที่ดีไหม? ตอบว่า ...ดีครับ!
ส่วนกล้องหน้าสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด FHD 1080p ที่ 60fps นะครับ ดีมากๆเลยในจุดนี้ เพราะหลายๆรุ่นในเรทราคานี้ทำไม่ได้นะ กล้องหน้า FHD 60fps เนี่ย!
สามารถเปิดโหมดหน้าเนียนแบบ วิดีโอแบบฟรุ๊งฟริ๊งได้ด้วย แต่จะถูกลดความละเอียดเหลือ 720p 30fps เท่านั้นครับผม
สรุปการใช้งาน!
Mi 11 Lite ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับราคาต่ำหมื่นที่เน้นในเรื่องของความเพรียวบาง น้ำหนักเบา ซึ่งต้องบอกว่าเค้าทำออกมาได้ดีตามที่พรีเซนต์เลยทีเดียวครับ กับความบางเพียง 6.8 มิลลิเมตร และ น้ำหนัก 157 กรัมเท่านั้น พออยู่บนมือแล้วคือมันบางเบาอย่างรู้สึกได้จริงๆ! และงานประกอบคือแน่นหนามาก ไม่รู้สึกถึงความก๊องแก๊งแต่อย่างใด!
สำหรับประสิทธิภาพการใช้งานนั้นไม่ต้องเป็นห่วง Snapdragon 732G นั้นสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบทั้งเบาและหนัก สามารถปรับเล่นเกมได้ในระดับ "สูง" เลยทีเดียวครับ เล่นเกมลื่นไหลสบายใจได้เลย แถมยังเป็นอัตรารีเฟรชเรท 90Hz ที่ทำให้ประสบการณ์การใช้งานทั่วๆ ไป อย่างเช่น Social Media หรือการอ่านเว็ปคอนเทนต์ นั้นมีความลื่นไหล สบายตา ส่วนในเรื่องกล้องก็ทำได้ดีตามสไตล์ของ Xiaomi เลยครับ
จะติดนิดนึงก็ตรงเรื่องของแบตเตอรี่ที่อาจจะให้มาน้อยกว่าสมาร์ทโฟนในเรทราคาเดียวกันเล็กน้อย แต่ว่าเมื่อเทียบกับความบางที่ได้มา ก็ถือว่าพอแลกกันได้ครับ! แล้วด้วยความที่แบตเตอรี่เค้าไม่ได้จุมาก การชาร์จไว 33w ก็สามารถทำได้ค่อนข้างเร็ว 20 นาทีก็ได้แบตเตอรี่มา 38% พอที่จะใช้งานต่อได้ยาวๆ ภาพรวมถือว่าโอเคเลยล่ะ!
ก็ประมาณนี้นะครับสำหรับ รีวิว Mi 11 Lite ที่สุดแห่งความเบาบาง~ ก่อนจะจากกันไป ขอฝากเอาไว้นิดนึงว่า ...แป้งบางกรอบคือแป้งพิซซ่า แต่ความเพรียวบางแบบว้าวซ่า ต้อง Mi 11 Lite ครับ! ...แฮ่!
//นายเป้ไงจะใครล่ะ