เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา Xiaomi ได้เปิดตัวซีรีส์เรือธงส่งท้ายปีอย่าง Xiaomi Mi 11 ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการใช้ชิปเซ็ตตัวท็อป Snapdragon 888 ตัวใหม่ล่าสุดจาก Qualcomn และประสิทธิภาพของกล้อง 108 MP แต่อีก 1 ประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากเลยถึงรุ่นนี้ก็คือ ในกล่องของ Xiaomi Mi 11 จะไม่มีที่ชาร์จแถมมาให้เหมือนอย่างทุกรุ่น ตามรอย Apple ไปติดๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้ Xiaomi จะเคยออกมาโพสต์ล้อเลียน iPhone 12 ไปก่อนหน้านี้ก็ตาม 

วันนี้เราจะลองมาวิเคราะห์ความแตกต่างกันระหว่าง Xiaomi Mi 11 กับ iPhone 12 จากประเด็นไม่แถมที่ชาร์จมาให้ในกล่องว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งบอกเลยว่าเมื่อลองสังเกตดูดีๆแล้ว ถึงแม้ทั้งสองแบรนด์จะออกมาให้เหตุผลแบบเดียวกันว่าต้องการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ผลตอบรับที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองแบรนด์อาจจะแตกต่างกันค่อนข้างมากทีเดียว

เริ่มต้นกันที่ iPhone 12 ที่ต้องบอกว่านี่คือความกล้ามากๆ ทีเดียว หลังจากประกาศอย่างชัดเจนว่าจะไม่แถมหูฟังและที่ชาร์จมาให้ในกล่อง แน่นอนว่าโดนกระแสโจมตีอย่างหนักหน่วงเลยทีเดียวว่ามันดูจะเป็นการลดต้นทุนมากกว่าต้องการประหยัดทรัพยากร ซึ่งเมื่อลองมองตามหลักความจริงแล้วมันก็ดูจะเป็นอย่างนั้นซะมากกว่า เพราะสุดท้ายแล้วหลังจากซื้อเครื่องไปผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็มีแนวโน้มที่จะซื้ออุปกรณ์เสริมตามมาอย่างหูฟังแล้วก็ adapter ชาร์จ และมันก็ดูจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ

เมื่อในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ สินค้าในอุปกรณ์เสริมของ Apple มียอดขายเติบโตสูงถึง 17% หรือมียอดขายอยู่ที่ 6.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ Apple ยังได้ทำการเปิดตัว MagSafe เพื่อการชาร์จแบตไร้สาย เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งถ้าคิดเล่นๆว่าวันใดวันหนึ่ง Apple ได้ทำการตัดพอร์ตชาร์จออกเช่นเดียวกับ Jack 3.5mm แน่นอนว่า MagSafe จะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ทำรายได้สูงอย่างไม่น่าเชื่อทีเดียว

ซึ่งสิ่งนี้อาจจะจุดประกายไอเดียให้กับผู้ผลิตรายอื่นได้มองเห็นว่าการตัดที่ชาร์จออกอาจช่วยเพิ่มรายได้ในฝั่งของอุปกรณ์เสริม หรือพูดง่ายๆก็คือ iPhone เป็นเสมือนหน่วยกล้าตายที่สามารถนำชีวิตรอดกลับมาได้ หลังจากนั้นไม่นานจึงเริ่มเกิดข่าวลือที่มีมูลความจริงสูง สิ่งแรกคือเรือธงของ Samsung อย่าง Galaxy S21 ที่มีข่าวลือออกมาว่าจะไม่มีการแทนที่ชาร์จมาให้ในกล่อง แม้สิ่งนี้จะยังไม่ได้รับการยืนยันก็ตาม

ต่อมาก็เป็นทางฝั่งของ Xiaomi ซึ่งเป็นทางผู้บริหารออกมายืนยันเองว่าจะไม่มีการแถมที่ชาร์จมาให้ในกล่องจริง ซึ่งหลังจากการเปิดตัวเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา Xiaomi ก็ได้ทำการตัดที่ชาร์จออกจริงๆ แต่ไม่ได้ตัดออกเลยอย่างถาวร เพียงแค่สร้างตัวเลือกให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจว่าต้องการซื้อเครื่องแบบแถมที่ชาร์จหรือไม่แถมที่ชาร์จก็ได้ในราคาเดียวกัน ทำให้เห็นว่า Xiaomi ยังไม่กล้าบู๊พอจะทำเหมือนกับ iPhone 12 และนี่ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

เมื่อลองมองทางฝั่งของ Xiaomi ก่อนหน้านี้ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทชาร์จ 120W สำหรับ Mi 10 Ultra ในกล่องจะยังคงแถมเป็นที่ชาร์จแบบมาตรฐานทั่วไป แต่ถ้าผู้บริโภคต้องการความเร็วในการชาร์จแบบล้ำกว่าเดิมก็ต้องทำการจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อนวัตกรรมมาใช้งาน เมื่อเรามองในข้อนี้แล้วไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเลย ในขณะที่ adapter ชาร์จ Android ในปัจจุบันมีเกลื่อนทั่วตลาด ไม่จำเป็นต้องซื้อที่ชาร์จของ Xiaomi ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ปกติ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนี้จะไม่สามารถเพิ่มยอดขายทางด้านอุปกรณ์เสริมฝั่งของ adapter ชาร์จได้ อีกทั้งยังทำให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบมากกว่าซะอีก

การตัดสินใจสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้เลือกว่าต้องการที่ชาร์จหรือไม่ นับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะถึงแม้ว่า คนส่วนใหญ่จะต้องเลือกซื้อเครื่องพร้อมแถมที่ชาร์จมาให้ แต่อย่างน้อยสิ่งนี้ก็จะเป็นการได้ย้ำเตือนผู้บริโภคว่าอนาคตอาจจะมีการตัดที่ชาร์จออกจากกล่องอย่างถาวร ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นการไม่แถมที่ชาร์จมาให้ในกล่องอาจจะกลายเป็นเรื่องปกติที่เคยชินกันไปแล้วก็เป็นได้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นการวิเคราะห์ในมุมมองหนึ่ง ที่นอกเหลือจากการรักษาสิ่งแวดล้อมเมื่อกระแสไม่แถมที่ชาร์จมาให้ในกล่องถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในหลากหลายแบรนด์ ในอีกเร็วๆนี้ก็จะเป็น S21 ที่มีแนวโน้มจะไม่แถมที่ชาร์จมาให้ในกล่องแบบเดียวกัน เอาเป็นว่าก็ต้องรอติดตามสถานการณ์กันต่อไปว่าหลังจากนี้ในปี 2021 การไม่แถมที่ชาร์จมาให้ในกล่องจะกลายเป็นเรื่องทั่วไป หรือผลตอบรับอาจจะแย่จนกระแสนี้หายไป ก็ต้องมารอติดตามกัน

Source: Androidauthority, gsmarena, cnbc