ก่อนหน้านี้ Xiaomi ได้เปิดตัว Mi 11 ไปแล้วกับเวอร์ชั่นจีน ล่าสุดเวอร์ชั่น Global มาแล้ว! เปิดตัวไปเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา สเปคจะเป็นอย่างไรวันนี้มาสรุปให้ได้อ่านกัน
เริ่มต้นกันที่หน้าจอ Mi11 มาพร้อมหน้าจอความละเอียดสูงระดับ WQHD+ ซึ่งเป็นมือถือที่จัดได้ว่ามีหน้าจอที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในท้องตลาด ใช้หน้าจอ AMOLED DotDisplay 6.81นิ้ว มีเทคโนโลยีการแสดงผลสีแบบ 10 bit ให้รายละเอียดที่คมชัดและการแสดงสีที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Super Resolution เพื่อช่วยยกระดับวีดีโอความละเอียดต่ำขึ้นมาถึงระดับ WQHD+
ในเรื่องของการตอบสนองมาพร้อมกับอัตรา Refresh Rate หน้าจออยู่ที่ 120 Hz มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอเพื่อปลดล็อคเข้าใช้งานตัวเครื่องโดยไม่ต้องมีขอบหรือติ่งหน้าจอ ที่จะมาลดทอนขนาดลงเพื่อให้การใช้งานอย่างเต็มพื้นที่ ส่วนความสว่างของหน้าจออยู่ที่ 1500 Nits เมื่อใช้งานกลางแจ้งจะยังคงเห็นหน้าจอสว่างคมชัด นอกจากนี้วัสดุฝาหลังยังเคลือบด้วย Gorilla Glass Victus เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของตัวเครื่องมากยิ่งขึ้น
ระบบปฏิบัติการ
ใน Mi 11 ใช้ระบบปฏิบัติการ MIUI 12.5 ที่ลื่นไหลที่สุด ไม่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ ลดอัตราการใช้ CPU ลงถึง 22% และลดอัตราการใช้พลังงานลงอีก 15% เพื่อการประมวลผลกราฟฟิกที่ลื่นไหลกว่าเดิม ในเรื่องของความจุมีให้เลือก 2 ขนาดคือ
- RAM 8+128 GB
- RAM 8+256 GB
ซึ่ง RAM ที่ใช้จะเป็นแบบ LPDDR5 ความเร็ว 3200 MHzซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้นจาก 5,500 MB ต่อวินาที เป็น 6400 MB ต่อวินาที และหน่วยความจำแบบ UFS 3.1
ในเรื่องของ chipset CPU Mi11 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ได้ใช้ chipset Qualcomn Snapdragon 888 ซึ่งจะช่วยประมวลผลให้ Mi 11 ทำงานได้เร็วกว่าทรงพลังกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่าสมาร์ทโฟนตระกูลเดียวกันด้วยเทคโนโลยีขนาด 5 nm นอกเหนือจากการรองรับการเล่นเกมที่ความละเอียด 2K HDR ที่ 120 เฟรมต่อวินาทีแล้ว ยังมีการใช้สถาปัตยกรรมหน่วยประมวลผลกลาง Octa Core และ ARM Cortex-X1 ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษเพื่อประสิทธิภาพที่สูงยิ่งกว่าเดิม
ในเรื่องของความร้อนนั้น Mi 11 มีระบบระบายความร้อน Liquid Cool รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับการเล่นเกมหรือการประมวลผลที่ต้องใช้พลังสูงเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิของสมาร์ทโฟนให้มีความเย็นอย่างเหมาะสมตลอดเวลา เพราะฉะนั้นก็หมดกังวลเมื่อเล่นเกมเป็นเวลานานๆก็จะไม่เกิดความร้อนที่ตัวเครื่อง
แบตเตอรี่
ส่วนแบตเตอรี่ของ Mi 11 ให้มาอยู่ที่ 4,600 mAh รองรับการชาร์จแบบใช้สายที่ 55W และการชาร์จแบบไร้สายที่กำลังไฟ 50W ในกล่องจะมาพร้อมอุปกรณ์การชาร์จ 55W GaN ทรงพลัง จะเล่นเกมหรือดูหนังฟังเพลงก็ใช้งานได้จุใจ
กล้อง
เดินทางมาถึงเรื่องกล้องใน Mi 11 ให้กล้องหลังมา 3 ตัวความละเอียดสูงสุดก็กล้องหลักเป็นเลนส์ Wide อยู่ที่ 108 ล้านพิกเซล ช่วยถ่ายภาพได้คมชัดและบันทึกรายละเอียดได้ครบถ้วน เล่นตัวที่ 2 เป็นเลนส์ ultra-wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและเลนส์เทเลมาโครความละเอียด 5 ล้านพิกเซล โดยกล้องหน้าให้ความละเอียดมาอยู่ที่ 20 ล้านพิกเซล
ซึ่งเทคโนโลยีกล้องของ Xiaomi ได้มีการผสานฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมมากมายทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอ มีทั้งหมดถ่ายภาพกลางคืนที่ได้รับการปรับปรุงให้ถ่ายภาพได้จากทั้ง 3 เลนส์ และมีการสร้างมาตรฐานใหม่เพื่อลด noise ในระดับไฟล์ RAW เพื่อการถ่ายภาพเคลื่อนไหวในตอนกลางคืนได้คมชัดมากยิ่งขึ้น แล้วยังมีฟีเจอร์อื่นๆอีกมากมายให้ได้ใช้งาน
สเปคการใช้งาน
- หน้าจอ AMOLED quad-curve DotDisplay
- ความละเอียด WQHD+
- Refresh Rate 120Hz
- ซีพียู Snapdragon 888 (5nm)
- รองรับ 5G
- GPU AdrenoTM 660
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 based on Android 10
- RAM 8GB
- ROM 256GB
- แบตเตอรี่ 4600mAh
- รองรับความเร็วในการชาร์จ 55W
- กล้องหน้า 20MP
- กล้องหลัง 3 ตัว
- 108MP กล้องหลัก
- 13MP เลนส์ Ultra-Wide
- 5MP เลนส์ Tele
- กล้องหลังรองรับวิดีโอ 8K
- รองรับ Dual-Sim
- รองระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
โดยรวมสำหรับ Xiaomi Mi 11 ถ้าพูดง่ายๆก็คือเป็นมือถือที่ค่อนข้างสุดทุกทางทีเดียว เรื่องจอให้ความละเอียดมาในระดับ WQHD+ ส่วนชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 888 ตัวแรกของโลก ที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น พร้อมแบตเตอรี่ชาร์จเร็วทรงพลังถึง 55W ส่วน RAM ความจุสูงสุดอยู่ที่ 8GB และ ROM สูงสุด 256GB พร้อมกล้องเลนส์หลักความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล เป็นอีกหนึ่งมือถือเรือธงที่น่าสนใจมากๆ ทีเดียว ส่วนรุ่นนี้จะเข้าไทยมาเมื่อไหร่ ถ้ามีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมจะนำมาอัปเดทกัน