Review Huawei Mate40 Pro
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ HUAWEI Mate40 Pro เรือธงรุ่นล่าสุดของ HUAWEI ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยในประเทศไทย รอบนี้อัปเกรดขึ้นมาหลายจุด ไม่ใช่แค่กล้องที่เทพขึ้น จอเอย ชิปเซ็ตเอย ลำโพงเอย และอีกเพียบ และหลังจากที่เราถือเครื่องอยู่ราว 2 สัปดาห์ก็จะขอมาเล่าให้ฟังก่อนหน่อยว่า HUAWEI Mate40 Pro รุ่นนี้ มีอะไรถูกใจและไม่ถูกใจเราบ้าง ติดตามกันครับ :D
แกะกล่อง
แกะกล่อง HUAWEI Mate40 Pro
ก่อนจะไปดูตัวเครื่องและความน่าสนใจทั้งหลาย เรามาแกะกล่องเช็กอุปกรณ์กันก่อนดีกว่าเนาะ อย่างที่ทราบกันดีกว่ากล่องของ Mate Series จะใช้พื้นเป็นสีดำ แยกจาก P-Series ที่ใช้กล่องสีขาวเนอะ Mate40 Pro ก็เป็นกล่องสีดำตัดกับตัวหนังสือสีทองเหมือนเดิม ที่หน้ากล่องมีการเพิ่มลวดลายวงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้อยู่ด้วย พร้อมกับชื่อรุ่นชัดเจนครับ “HUAWEI Mate40 Pro”
เปิดกล่องออกมาปีนี้จะโชว์ตัวเครื่องด้านหลังให้เห็นก่อนเลย สีที่เราได้มาคือสี Mystic Silver แอบเห็นสีเงิน ๆ ที่ซ่อนอยู่ในซองนั่นแล้วใช่ไหม เดี๋ยวเอาไว้ดูตัวเครื่องกันชัด ๆ อีกทีเนาะ
ชั้นถัดลงไปของกล่องจะมีกล่องเล็กอีกหนึ่งกล่องและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ให้มาจะเรียงกันอย่างมีระเบียบไว้ในนี้แล้วครับ ซึ่งในกล่องเล็กนี้จะมีตัวเคสซิลิโคนใสมาให้ 1 อันพร้อมเข็มจิ้มถาดซิมด้วยครับ
ส่วนอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ก็มาตรฐานครับ มีสายชาร์จ USB type-C to type-A, อุแดปเตอร์ชาร์จไว 66W และหูฟังพอร์ต USB type-C ครับ
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดของ HUAWEI Mate40 Pro ก็มีทั้งหมด 6 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง HUAWEI Mate40 Pro
- เคสซิลิโคนใส
- สายชาร์จ
- อะแดปเตอร์ชาร์จ
- หูฟัง
- เข็มจิ้มถาดซิม
อ๊ะ...ลืมบอกไปตัวเครื่องมีการติดฟิล์มกันรอยมาจากโรงงานแล้วด้วยนะ เรียกว่าพร้อมใช้เปิดกล่องมามีทั้งเคสและฟิล์มเลย ครบจบไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มให้เหนื่อย (อะแดปเตอร์กับหูฟังก็มีด้วย :P)
ดีไซน์
หน้าจอ Waterfall อีกครั้ง แต่...ลงตัวขึ้น
ได้เวลายลโฉมตัวเครื่อง HUAWEI Mate40 Pro กันแล้วครับ ในปีนี้ HUAWEI ยังคงเลือกใช้หน้าจอ Horizon Display หรือจอ Waterfall เหมือนเดิม ซึ่งจอนี้จะมีความโค้งลึกลงมาถึงขอบเครื่องเช่นเดียวกับ Mate30 Pro เมื่อปีที่แล้วครับ ถ้ามองในมุมความสวยงามก็ต้องยอมรับเลยว่าสวยหรูหรามาก ๆ เป็นจอโค้งที่ดูมีมิติจริง ๆ
ส่วนในเรื่องการใช้งาน ก็ทำได้ดีขึ้นนะ เพราะ HUAWEI ออกแบบ UI มาให้เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น สังเกตว่าพวกไอคอนต่าง ๆ ไม่ชิดไปถึงมุมจอ เว้นพื้นที่ของขอบจอให้โล่ง ๆ ทำให้เราไม่เผลอไปกดโดนไอคอนอะไรมั่วซั่วแน่นอน และตัวหน้าจอเองยังมีการกันลั่นได้เป็นอย่างดี เวลาอุ้งมือหรือนิ้วเผลอไปโดนจะไม่ลั่นแน่นอน อันนี้ปรับแก้มาได้ตรงจุดมากเลยล่ะ
จอ OLED สีสวย คมชัด
แน่นอนว่าชนิดหน้าจอของ HUAWEI Mate40 Pro นั้นเป็น OLED ทำให้การแสดงผลนั้นสวยงามดีมาก มุมมองก็กว้างสีสันไม่ผิดเพี้ยนแม้จะมองจากมุมอื่น ๆ ที่ไม่ใช่หน้าตรงก็ตาม ขนาดหน้าจอของรุ่นนี้ก็ให้มาใหญ่ถึง 6.76" เรียกว่าใหญ่เต็มตาเลยจริง ๆ ครับ ยิ่งได้ความละเอียดระดับ 2772 x 1344 เข้าไปอีก คมชัดสุด ๆ เลย
Refresh rate 90Hz จอลื่นมาก
และในเรื่องการตอบสนองจอของ Mate40 Pro ก็ได้ค่า refresh rate สูง 90Hz ด้วย ทำให้การตอบสนองลื่นไหลขึ้นมาก ยิ่งทำงานร่วมกับ EMUI 11 แล้วยิ่งสมูทไปหมด อนิเมชั่นการเข้าออกแอปหรือการตอบสนองเวลาเลื่อนหน้าจอทำได้ดีจริง ๆ
รูกล้องคู่ใหญ่ ๆ หน่อย
ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ Mate40 Pro จะมีรูกล้อง 2 ตัวใช้พื้นที่พอสมควร ข้างในจะเป็นเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 13MP หนึ่งตัวกับ 3D Depth Sensing Camera อีกตัว ใช้งานร่วมกันสำหรับการถ่ายภาพ Portrait และการปลดล็อคด้วยใบหน้าแบบ 3D ด้วยครับ
และบนหน้าจอก็จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ In-Screen ด้วย ใช้งานได้รวดเร็วดีครับ ตำแหน่งอยู่สูงกำลังดี ไม่ต่ำจนแตะสแกนได้ยาก ตรงนี้ชอบเลย
ดีไซน์กล้องแบบ Space Ring
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังกันบ้าง HUAWEI Mate40 Pro ยังคงใช้ดีไซน์กล้องแบบวงกลมเหมือนรุ่นที่แล้ว แต่ลงตัวขึ้นด้วยการย้ายเลนส์เข้าไปไว้ในกรอบวงกลมสีดำแทน และทิ้งพื้นที่ตรงกลางของวงกลมให้กับโลโก้ LEICA ชัด ๆ ดีไซน์นี้ HUAWEI เรียกว่า Space Ring Design ได้แรงบันดาลใจมาจาก การอยู่ท่ามกลางจักรวาลและดวงดาวอะไรทำนองนั้นเลยนะ
ส่วนพื้นผิวของฝาหลังก็สวยสะดุดตาไม่แพ้กล้องเลย สำหรับสี Mystic Silver ที่เราได้มานั้น จะมีการสะท้อนของฝาหลังเมื่อกระทบกับแสงและมีโทนสีสันต่าง ๆ ไล่เฉดขึ้นมา ให้ความสวยงามแบบแฟนซีมาก ๆ แถมสีนี้ผิวสัมผัสที่ด้านหลังยังเป็นแบบด้านอีกด้วย ให้ความรู้สึกที่ลงตัวมาก ๆ ทั้งการจับถือที่ดี และลูกเล่นที่สวยเมื่อมอง
มีให้เลือก 2 สี Black และ Mystic Silver
แต่ถ้าใครไม่ชอบความแฟนซีระดับนี้ HUAWEI Mate40 Pro ก็ยังมีสีดำสุดคลาสสิคอีกหนึ่งตัวเลือก ซึ่งสีดำนี้ผิวสัมผัสด้านหลังจะเป็นกระจกมันวาวแทน สวยคลาสสิคแบบหรู ๆ ไปครับ
จับถนัดมือแม้จอโค้ง
มาพูดถึงเรื่องการจับถือกันบ้าง อย่างที่บอกว่าหน้าจอของ Mate40 Pro นั้นมีความโค้งลึกลงมาที่ขอบเครื่องเลย เชื่อว่าหลายคนกังวลในเรื่องการจับถือ แต่อย่างที่บอกไปว่าตัวจอนั้นมีการกันลั่นได้เป็นอย่างดี แถมตัวฝาหลังก็ยังเป็นกระจกโค้งแบบ 3D ทำให้การจับถือบนมือนั้นเข้ามือดีมาก ๆ และด้วยน้ำหนักตัวเครื่องที่หนักกำลังดี 212 กรัม ทำให้ตัวเครื่องไม่ลื่นหลุดมือได้ง่าย ๆ แน่
ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงกลับมาแล้วนะ
ที่รอบ ๆ ตัวเครื่องการวางตำแหน่งจะคล้ายกับรุ่นก่อน มีปุ่ม Power สีแดงเด่น ๆ ตามสไตล์ HUAWEI แต่ปีนี้ HUAWEI เลือกใส่ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงกลับมาอีกครั้ง อยู่เหนือปุ่ม Power นี่แหละ หลังจากที่ตัดออกไปเมื่อปีที่แล้ว และผู้ใช้หลายคนไม่แฮปปี้เท่าไหร่ ซึ่งการกลับมานี้ก็ถูกใจเรามาก เพราะทำให้การปรับระดับเสียงง่ายขึ้น แต่ถ้าใครอยากใช้วิธีเก่าที่เคาะมุมจอแล้วเลื่อนปรับระดับเสียงเอา อันนั้นก็ยังมีอยู่นะ ไม่ต้องห่วง
มีลำโพง Stereo คู่แล้วด้วยรุ่นนี้
ไม่ใช่แค่ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจะกลับมาอย่างเดียว เพราะลำโพงสนทนาของ Mate40 Pro ก็กลับมาใช้เป็นลำโพงจริง ๆ แล้วด้วย หลังจากที่รุ่นก่อนปรับเป็นลำโพง Acoustic Display แทน ซึ่งการกลับมาใช้เป็นลำโพงจริง ๆ แบบนี้ก็ทำให้สามารถใช้งานเป็นลำโพงคู่ Stereo เวลาดูหนังฟังเพลงได้แล้วนั่นเอง เจ๋งไปเลย
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้ก็อยู่ที่ด้านล่างครับ ใช้พอร์ต USB type-C เป็นการเชื่อมต่อหลัก ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. กลับมาให้ดีใจแล้ว แต่ยุคนี้แล้วช่อง 3.5 มม. ก็อาจจะไม่ได้จำเป็นนักแล้วล่ะเนาะ ว่าไหม
สำหรับช่องใส่ซิมของ HUAWEI Mate40 Pro ก็ยังคงเป็นแบบ Dual-SIM เหมือนเดิมครับ ใส่ได้ทั้งหน้า-หลัง และยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกเพิ่มเติมได้ด้วย แต่ ! ต้องใช้ NM Card ของ HUAWEI อย่างเดียวเนาะ micro-SD ปกติไม่ได้จ้า
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ HUAWEI Mate40 Pro บอกเลยว่าสวยและลงตัวขึ้นเยอะ ในเรื่องของรูปลักษณ์การที่ใช้ฝาหลังแบบด้านนี่ช่วยให้การจับถือดีขึ้นจริง ๆ ความโค้งของหน้าจอและฝาหลังเมื่อรวมกับน้ำหนักที่กำลังพอดีก็ทำให้ตัวเครื่องจับถือได้กระชับ หน้าจอโค้งที่ลงลึกไปอีกเยอะ ให้ความสวยงามดีมาก และในแง่การถือใช้งานก็ไม่ถึงกับเป็นปัญหาเลย เราชอบดีไซน์นี้อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ
กล้อง
กล้องหลัง LEICA ชุดใหม่ จัดเต็ม AI Camera 3 ตัว
เข้าเรื่องกล้องที่เป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้กันก่อนเลยดีกว่า HUAWEI Mate40 Pro มาพร้อมกล้องหลังแบบ AI Camera จัดเต็ม 3 ตัว แต่ละตัวมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- 50MP กล้องหลัก Ultra Vision LEICA (23มม.), f/1.9, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.28", OIS
- 20MP เลนส์ Ultra Wide Cine (18มม.), f/1.8, มี Autofocus
- 12MP เลนส์ Periscope, Optical 5x (125มม.), f/3.4, OIS
จะเห็นว่าสเปคกล้องที่ให้มานั้นจัดเต็มมาก ๆ แถมยังใช้งานได้จริงทุกตัว ฮาร์ดแวร์โหดมาก ๆ เหมาะกับการใช้งานทั้งภาพนิ่งและวิดีโออย่างยิ่งจริง ๆ ครับ
เลนส์ Ultra-Wide มุมกว้างไม่มากแต่คมทุกรายละเอียด
สำหรับเลนส์ Ultra-Wide ของ Mate40 Pro ยังคงใช้ระยะ 18 มม. ซึ่งหากเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปก็ต้องยอมรับว่าแคบกว่า แต่ด้วยเซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่นี้ พร้อมความละเอียดถึง 20MP ทำให้การเก็บภาพนั้นมีความคมชัดมากกว่า เลนส์ Ultra Wide ของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ แน่นอน จะใช้เก็บภาพในที่แสงน้อยก็ดี จะถ่ายกว้าง ๆ มาแล้วซูมดูรายละเอียดก็คมชัดสุด ๆ บอกเลย
ซูมได้ซูมดี Optical 5x และไกลสุด 50x
ส่วนเรื่องซูม Huawei Mate40 Pro กลับมาพร้อมพลังซูมที่จัดเต็มด้วยเลนส์ Periscope ที่ Optical 5x และยังซูม Hybrid เข้าไปได้ถึง 10x เรียกว่าเป็นระยะที่เหมาะกับการใช้งานมาก การซูมระดับนี้แล้วยังไม่เสียรายละเอียดเลย คงเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนคาดหวังบนเรือธงรุ่นนี้แน่ ๆ แต่ถ้าระดับนั้นยังไม่พอ ก็ยังสามารถซูมแบบ Digital เข้าไปได้อีกสูงสุดที่ 50x เลย
มี AI ที่เก่งกาจคอยปรับภาพให้สวย ทุกสภาพแสง
นอกจากฮาร์ดแวร์จะเจ๋งมาแล้ว ซอฟต์แวร์ของ HUAWEI ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเก่งกาจไม่แพ้กัน บน HUAWEI Mate40 Pro นี้ก็ยังมีฟีเจอร์ Master AI ที่จะคอยมาแนะนำซีนและปรับแต่งภาพให้สวยถูกใจเราโดยที่ไม่ต้องไปต่อที่แอปอื่นเลย จะภาพอาหารที่ต้องการสีสันสด ๆ จะภาพท้องฟ้าที่อยากได้ฟ้าอิ่ม ๆ หรือภาพย้อนแสงที่อยากให้สว่างทั่วถึงทั้งแบบและฉากหลัง Master AI ของ Mate40 Pro จัดให้ได้หมดครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง (เปิด Master AI) ของ HUAWEI Mate40 Pro จะเห็นว่ารายละเอียดของภาพนั้นคมชัดดีมาก ๆ โทนสีก็ปรับแต่งมาให้ลงตัว ภาพวิวท้องฟ้าสวยใส อาหารได้ความสดเข้าไปดูน่ากินขึ้น ภาพย้อนแสงต่าง ๆ ก็ไม่ได้กิน Mate40 Pro เลย HDR เก่งมาก ปรับภาพให้สวยลงตัวแม้ตอนเล็งจะย้อนแสงแบบหน้ามืดไปเลยก็ตาม ส่วนเลนส์ที่มีให้เลือกใช้ทั้ง Ultra-Wide และ Periscope ก็ตอบโจทย์ได้ดีจริง ๆ ได้มุมกว้างกำลังดี แต่รายละเอียดคมชัดมาก ส่วนพลังซูมก็ไม่ต้องห่วงครับ ถึงไหนถึงกันเลย แต่ก็ยังมีจุดติอยู่บ้างก็คือโทนสีของแต่ละเลนส์นั้นมีความแตกต่างกันอยู่ อย่างในเลนส์หลักกับ Ultra-Wide จะออกโทนเคลียร์ ๆ หน่อยสีสด แต่พอซูมเข้าไปลึก ๆ โทนจะออกตุ่น ๆ ทำให้เวลาจะใช้ภาพร่วมกันมันไม่ต้องเนื่องเท่าไหร่อะเนาะ
Portrait สวยละลายหลังเก่ง
มาต่อกันที่โหมด Portrait หรือโหมดถ่ายคน ที่ HUAWEI Mate40 Pro ก็ยังเก่งไม่แพ้รุ่นไหน ๆ มีเอฟเฟกต์ Bokeh ให้เลือกใช้เยอะ Face Beauty เปิดใช้งานได้ด้วย ระยะก็เลือกได้เลยว่าจะเอา 1x/2x/3x ได้ภาพ Portrait ครบทุกระยะตามความเหมาะสมเลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait ของ HUAWEI Mate40 Pro อย่างที่เห็นครับ ไฟล์ภาพสวยงามมาก ใบหน้าแบบเนียนเป็นธรรมชาติ การตัดขอบและละลายฉากหลังก็เนียนสุด ๆ ตัว Bokeh Effect ก็ช่วยให้เราสร้างสรรค์ฉากหลังให้แปลกตาไปได้อีก และที่ชอบจริง ๆ ก็คือระยะของภาพที่เราเลือกได้เยอะดี ถ้าในที่แสงมาก ๆ ใช้ได้ทุกช่วงแบบคม ๆ แต่ถ้าแสงน้อยหน่อย 2x กำลังสวยแล้ว 3x อาจจะภาพแตกนิดหน่อย รวม ๆ ดีเลยครับ Portrait จาก Mate40 Pro แต่ก็มีจุดที่ไม่ชอบอยู่บ้างคือโทนสีของภาพ เพราะด้วยการใช้เลนส์หลัก RYYB ในการถ่าย โทนที่ออกมาจะอมเหลืองแบบชัดเจนมาก ถ้านำมาปรับต่ออีกหน่อยคือเพอร์เฟ็กต์เลย แต่ถ้าหลังกล้องยังไม่ถูกใจเท่าที่ควรอะนะ
Night Mode กลางคืนสวยไม่ต้องพึ่งขาตั้ง
อีกโหมดที่ HUAWEI เป็นคนรึเริ่มก็คือ Night mode แบบที่ไม่ต้องพึ่งขาดตั้งกล้องนี่แหละ บน Mate40 Pro ยังมีมาให้เลือกใช้เหมือนเดิม ใช้งานได้กับทุกระยะตั้งแต่ Ultra Wide ไปจนถึงซูมไกล ๆ เลย มีตัวฟิลเตอร์ LEICA ให้เลือกเพิ่มเติมเผื่ออยากได้โทนสีแบบจัด ๆ อะเนาะ
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Night mode ของ HUAWE Mate40 Pro คุณภาพของไฟล์ทำได้ดีเช่นเคยครับ โทนสีอยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ไม่สด จัดจ้านเท่าไหร่ จะเน้นไปทางสว่างและเก็บรายละเอียดเยอะ ๆ มากกว่า ในโหมดนี้เราไม่ชอบอยู่บ้างคือเรื่องการจับภาพที่ใช้เวลานานพอสมควร ประมาณ 3 - 5 วินาทีต่อภาพได้เลย ซึ่งใช้เวลานานไปหน่อยเมื่อเทียบกับ Auto ที่กดปุ๊บก็ไปรอดูผลลัพธ์ทีหลังได้ทันที และในเรื่องคุณภาพก็ออกมาใกล้เคียงกันด้วย เรารู้สึกว่า Night mode ในรุ่นหลัง ๆ ของ HUAWEI ไม่ได้ถูกพัฒนาต่อยอดจากเวอร์ชั่นแรก ๆ เท่าไหร่นัก ยังขาดสีสันที่สวยสด และการจับภาพที่รวดเร็วไปอยู่ ส่วนตัวแนะนำว่าภาพกลางคืนถ้าไม่อยากได้แบบลากไฟเป็นเส้น ๆ ใช้ Auto ปกติ เร็วกว่าและง่ายกว่ากันเยอะ
Monochrome สไตล์ LEICA ยังคงยอดเยี่ยม
และลูกเล่นภาพถ่ายขาว-ดำหรือ Monochrome ที่สร้างชื่อให้กับ HUAWEI มาเนิ่นนานบน Mate40 Pro ก็ยังคงมีให้เลือกใช้งานเหมือนเดิมครับ ซึ่งโหมดนี้จะมีให้เลือก 4 โหมดแยกหลัก ๆ อีกคือ Normal, Aperture, Portrait และ Pro ทั้งหมดจะเป็นโทนขาว-ดำทั้งหมด และนี่คือผลลัพธ์ที่ถ่ายจากโหมด Monochrome ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Monochrome ของ HUAWEI Mate40 Pro โทนยังคงสวยและมีมิติเหมือนเคย แม้จะไม่มีเลนส์ Monochrome มาให้แล้ว แต่การปรับแต่งภาพนั้นได้สไตล์ LEICA อย่างมาก สมกับที่ร่วมมือกันมาอย่างยาวนานจริง ๆ ครับ
กล้องหน้ามุมกว้าง 100 องศา มิติใหม่ของการเซลฟี่
กล้องหลังว่าแจ่มมากแล้ว กล้องหน้าก็ไม่น้อยหน้าเลยจริง ๆ HUAWEI Mate40 Pro มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 13MP แบบ Ultra VIsion Selfie Camera ให้มุมมองกว้างถึง 100 องศา ช่วยให้เก็บภาพได้กว้างกว่าที่เคย แถมยังมี 3D Depth Sensing ที่ช่วยจับระยะให้แม่นยำมากขึ้นด้วย จะเซลฟี่ Portrait ก็ไม่หวั่น โฟกัสแม่นยำละลายฉากหลังอย่างเนียน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ HUAWEI Mate40 Pro เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของการเซลฟี่จริง ๆ ตัวเลนส์มีมุมกว้างถึง 100 องศา ช่วยให้เราเก็บภาพเซลฟี่ได้กว้างกว่าที่เคย โดยไม่ต้องยืดแขนจนเมื่อย แถมคุณภาพก็ดีมาก ๆ อีกด้วย Dynamic Range การเก็บแสง HDR ต่าง ๆ ไม่ต่างจากกล้องหลังเลย คือเล็ง ถ่าย รอดูผล สวย ! ไม่ต้องทำไรเยอะ ส่วนโหมด Portrait ก็ทำได้ดีแต่มุมมองจะถูกครอปลงมาเหลือ 0.8x - 1x ไม่สามารถใช้กับ Wide เต็มได้เนอะ ซึ่งความเนียนก็ยอดเยี่ยมครับ ได้ 3D Depth Sensing ช่วยไว้จริง ๆ
วิดีโอกันสั่นหน้า-หลัง Steady Shot ครบ
ส่วนเรื่องวิดีโอ HUAWEI Mate40 Pro ก็มาพร้อมกับระบบกันสั่นเทพ Steady Shot ช่วยให้เราได้วิดีโอที่เนียนกริ๊บ ทั้งกล้องหน้าและหลัง รวมถึงโหมด Dual-View ที่สามารถให้เราถ่ายวิดีโอกล้องหน้า-หลังพร้อมกันได้ด้วย แต่น่าเสียดายที่ฟีเจอร์ลูกเล่นต่าง ๆ นั้นจะถูกล็อกความละเอียดไว้เพียง Full-HD 30fps เท่านั้น แต่ตัวกล้องในโหมดวิดีโอปกติได้สูงสุดถึง 4K60fps เลยนะ ไม่เน้นลูกเล่นก็อัดความละเอียดเต็มได้เลย
ตัวอย่างวิดีโอจาก HUAWEI Mate40 Pro
ก็ถือว่าครบและลงตัวมาก ๆ อีกครั้งของ HUAWEI เจ้า Mate40 Pro ให้ประสิทธิภาพกล้องมายอดเยี่ยมมาก ๆ ทั้งคุณภาพของเลนส์ที่จัดเต็มตั้งแต่ Ultra-Wide คุณภาพสูง พลังซูมสุดพลัง หรือเลนส์หลักเซ็นเซอร์ใหญ่ถ่ายดีอย่างกับกล้องใหญ่ พวกลูกเล่นในการถ่ายก็เยอะแยะไปหมด เป็นกล้องบนมือถือที่ไว้ใจได้มาก ๆ ถ่ายยังไงก็ออกมาสวยทั้งกล้องหน้า-หลังเลย แต่ ๆ...จะชมอย่างเดียวก็ดูจะอวยไปหน่อย จริง ๆ ก็มีเรื่องที่ยังน่าติอยู่บ้างของรุ่นนี้ก็คือโทนเหลืองที่เห็นได้ชัดบนโหมด Portrait ถ้าแก้ตรงนี้ให้สวยใสได้มากกว่านี้ จะวิเศษมากเลยล่ะ !!
สเปคและฟีเจอร์การใช้งาน
ชิปใหม่ Kirin 9000
แวะเรื่องกล้องซะนาน มาต่อที่เรื่องสเปคกันเถอะ HUAWEI Mate40 Pro มาพร้อมชิปเซ็ตตัวท็อปรุ่นล่าสุดของ HUAWEI อย่าง Kirin 9000 อัปเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนเยอะเลยทีเดียว เพราะใช้สถาปัตยกรรมแบบ 5nm อีกต่างหาก มีความเร็วอยู่ที่ 3.13GHz ครับ ประสิทธิภาพสูงขึ้นแถมยังประหยัดพลังงานด้วย ซึ่ง HUAWEI เคลมว่าชิป Kirin 9000 นี้เป็น SoC แบบ 5nm ตัวแรกที่มาพร้อมโมเด็ม 5G ในตัวเลยด้วยนะ
สเปค HUAWEI Mate40 Pro
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.76” ความละเอียด 2772 x 1344 พิกเซล
- Refresh Rate 90Hz, Touch Sampling Rate 240Hz
- ซีพียู Kirin 9000 | 5G Octa-core 3.13GHz (5nm)
- จีพียู Mali-G78 MP24
- แรม 8GB (LPDDR5)
- ความจุ 256GB (UFS3.0)
- แบตเตอรี่ 4400mAh
- รองรับชาร์จไว SuperCharge 66W
- รองรับชาร์จไร้สาย SuperCharge 50W
- กล้องหน้าคู่
- 13MP กล้องหลัก f/2.4
- กล้อง 3D Depth Sensing
- กล้องหลัง 3 ตัว
- 50MP กล้องหลัก Ultra Vision LEICA f/1.9, OIS
- 40MP เลนส์ Ultra Wide Cine f/1.8, AF
- 12MP เลนส์ Periscope, Optical Zoom 5x, f/3.4, OIS
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับระบบสแกนใบหน้าแบบ 3D
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1, USB Type-C
- รัน Android 10 (HMS)
- ขนาดตัวเครื่อง 75.5 x 162.9 x 9.1 มม.
- น้ำหนัก 212 กรัม
- วางจำหน่าย 2 สี Black, Mystic Silver
ใช้ 5G ได้เลย ตั้งแต่แกะกล่อง
และเช่นเคยครับ HUAWEI Mate40 Pro นั้นพร้อมใช้งาน 5G ทันทีที่แกะกล่อง ไม่ต้องรออัปเดตอะไรให้ยุ่งยากแล้ว ใส่ซิม 5G เข้าในพื้นที่ที่มีสัญญาณ ไอคอน 5G ก็วิ่งขึ้นมาทันที ใช้งานได้แบบเต็มประสิทธิภาพแน่อน !
เท่าที่เราลอง Speed Test มาก็วิ่งได้ตามสัญญาณจริง ๆ ครับ ความเร็วไปถึงระดับ Gbps แล้ว แถมการรับสัญญาณก็ยังนิ่งมาก ๆ ตอบโจทย์ความเร็วในยุคที่ 5 อย่างแท้จริงเลยล่ะ HUAWEI Mate40 Pro ตัวนี้
ใช้ EMUI 11 แต่ยังรันบน Android 10
มาเข้าเรื่องซอฟต์แวร์กันบ้าง HUAWEI Mate40 Pro มาพร้อม EMUI 11 ตัวล่าสุดของ HUAWEI แต่ด้วยเหตุผลทางการค้า จึงทำให้ยังไม่สามารถเขยิบไปที่ Android 11 ได้ รุ่นนี้เลย Based on Android 10 เหมือนเดิม แต่ในเรื่องของฟีเจอร์ก็มีการปรับปรุงใหม่ขึ้นมาเยอะ แม้จะยังเป็น Android 10 อยู่ก็ตามครับ
Eyes on Display แค่มองจอก็ติด
เริ่มที่ฟีเจอร์แรกกับ Eyes on Display เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ทำงานร่วมกับ 3D Depth Sensing ที่จะคอยตรวจจับการมองของเราบนหน้าจอ และแสดงหน้า AOD ขึ้นมาทันที โดยที่เราไม่ต้องสัมผัสโดนเครื่องแม้แต่นิดเดียว เป็นฟีเจอร์ที่ดีมาก ดูเหมือนไม่ค่อยมีประโยชน์แต่ในการใช้งานจริง เวลาที่เราวาง Mate40 Pro ไว้กับโต๊ะแล้วอยากดูเวลาหรือเช็กว่ามีการแจ้งเตือนมาไหม ก็แค่มอง ใช่ครับแค่มอง จอก็ติดขึ้นมาทันที สะดวกมาก
ลื่นไหลไปด้วยอนิเมชั่นพลิ้วไหว
ในเรื่องความลื่นไหล ไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว EMUI นั้นมีการปรับรูปแบบให้อนิเมชั่นมีความลื่นไหลและสมูทในทุกช่วงการเข้า-ออกแอป ยิ่งถ้าใช้งานร่วมกับการควบคุมแบบ Navigation Gesture นี่ยังลื่นไปใหญ่ แถมจอของรุ่นนี้ยัง refresh rate 90Hz อีก ฟินไปหมด
Move On ไปกับ GMS เถอะ
ขอพูดเรื่อง HMS หรือ HUAWEI Mobile Services ต่อเลยละกัน อย่างที่ทราบกันดีว่า HUAWEI นั้นเริ่มหันมาใช้บริการทั้งหมดของตัวเองแทนที่ GMS หรือ Google Mobile Services ได้พักใหญ่แล้ว คร่าว ๆ ก็คือตั้งแต่ Mate30 Pro เมื่อปีที่แล้ว มาถึงปีนี้หลาย ๆ อย่างก็เข้าที่เข้าทางมากขึ้น จนพอที่จะใช้งานได้แบบไม่ติดขัดเท่าช่วงแรก ๆ และดูจากสถานการณ์แล้วก็เป็นไปได้ยากที่ HUAWEI จะกลับไปใช้ GMS อีกครั้ง เพราะลงทุนกับ HMS ไปมากโขอยู่ เพราะฉะนั้นคนที่สนใจ Mate40 Pro รุ่นนี้ก็อยากให้มองไปที่การใช้งานตัว HMS ไปเลย Move On จาก GMS ได้แล้วครับ
ดาวน์โหลดแอปผ่าน HUAWEI AppGallery
ซึ่งการทำงานหลาย ๆ อย่างอาจไม่คุ้นชินอยู่บ้าง ถ้ามาจากแบรนด์แอนดรอยด์อื่น ๆ เพราะเราต้องทำงานทุกอย่างผ่านบัญชีของ HUAWEI เอง รวมถึงดาวน์โหลดแอปช่องทางหลักก็คือ HUAWEI AppGallery ครับ เป็น Store ที่ HUAWEI กำลังพัฒนาขึ้นมา ซึ่งแอปหลัก ๆ ก็เริ่มเข้ามาให้ดาวน์โหลดกันเยอะมากแล้ว แอปธนาคารตอนนี้ก็มาครบ LINE, Tiktok หรือเกมฮิต ๆ อย่าง Asphalt 9, Freefire ก็เริ่มทยอยมาลงแล้วเช่นกัน
หรือดาวน์โหลดเพิ่มเติมจาก Petal Search
แต่แน่นอนว่าทุกแอปที่เราหาได้จาก Play Store ยังไม่มีบน HUAWEI AppGallery ซึ่งความเป็นสมาร์ทโฟน Android การโหลดแอป APK มาติดตั้งเองก็ไม่ใช่เรื่องยาก และ HUAWEI ก็มีทางเลือกให้กับผู้ใช้ด้วยแอป Petal Search เปรียบเสมือน Google สำหรับสมาร์ทโฟน HUAWEI ที่ให้เราค้นหาข้อมูล รวมถึงแอปได้ในที่เดียว ซึ่งมันสะดวกมากเพราะเราสามารถเข้าไปค้นหาแอปที่อยากได้และกดดาวน์โหลดได้โดยตรงผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือ อย่าง Facebook ที่คงหาไม่ได้จาก HUAWEI AppGallery พอมาค้นหาในนี้ก็จะเจอลิงก์ดาวน์โหลดโดยตรงผ่านเว็บของ Facebook เองเลย
หรือจะเป็นเกมอย่างพวก PUBG, LOL Wild Rift ก็พอจะหาได้จากช่องทางนี้เลย เหมือนเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการดาวน์โหลดแอป ซึ่งเราว่ามีประโยชน์และสะดวกดี
ใช้แอปของ Google ได้ไหม ?
แต่ถึงแม้จะบอกว่า มีช่องทางในการดาวน์โหลดแอปได้ แต่สิ่งที่ยังทดแทนได้ไม่ 100% ก็คือแอปของ Google เองครับ เพราะถึงแม้จะหามาติดตั้งบนเครื่องได้แต่เวลาจะใช้งานจะถูกเรียก GMS ทุกครั้ง บางแอปใช้ได้แบบไม่ Sign-In อย่าง Google Maps หรือ Gmail ก็ไปใช้บนแอป Mail แทน แต่อย่าง YouTube เอาจริง ๆ เราไม่สามารถใช้งานได้เลย แต่ทุกอย่างก็ยังสามารถใช้งานได้ผ่านเบราวเซอร์แทนครับ ซึ่งมันก็คงไม่ตอบโจทย์แบบ 100% อย่างที่บอกไปนั่นแหละ
ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม
หน้าจอ Flex OLED สวยคมชัด
มาต่อในเรื่องการใช้งานด้านความบันเทิง HUAWEI Mate40 Pro มาพร้อมหน้าจอ Flex OLED ขนาดใหญ่ถึง 6.76" เหมาะกับการเอามาดูหนัง ภาพ ความละเอียดสูง ๆ อย่างมาก การแสดงสีสันและความคมชัดจัดว่ายอดเยี่ยมเป็นอันดับต้น ๆ ของสมาร์ทโฟนเรือธงเลย
ตัวขอบหน้าจอที่เป็นแบบโค้งลงไป ไม่เจอปัญหาเท่ากับรุ่นก่อนเพราะ HUAWEI ปรับให้การเพิ่มขอบสีดำเวลาดูวิดีโอแบบเต็มจอ เลยไม่เจอปัญหาเนื้อหาล้นไปที่ถึงขอบจอแล้วด้วย
ในเรื่องการตอบสนองหน้าจอของ Mate40 Pro ก็มี refresh rate 90Hz ลื่น ๆ บน EMUI 11 อย่างที่บอกไป แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะรุ่นนี้ยังได้ Touch Sampling rate สูงถึง 240Hz อีกต่างหากจะใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม ถูกใจแน่นอนลื่นติดนิ้วแบบนั้นเลย
ลำโพงคู่กลับมาแล้ว ฟินสุด ๆ
ส่วนเรื่องเสียง HUAWEI กลับมาใช้ลำโพงคู่ Stereo เสียที หลังจากที่หันไปใช้ลำโพงสนทนาแบบสะเทือนกระจก เลยไม่สามารถใช้คู่กับลำโพงหลักในการฟังเพลงหรือดูหนังได้ รอบนี้กลับมาใช้ลำโพงปกติแล้วอยู่ที่ด้านบนเสียงส่งตรงออกมา ทำงานคู่กับลำโพงด้านล่างได้อย่างลงตัว คุณภาพเสียงก็ดีมาก มิติดีแบบที่อยากได้เลย
เล่นเกมถึงใจไหม Kirin 9000
มาต่อกันที่การเล่นเกม HUAWEI Mate40 Pro และชิปเซ็ต Kirin 9000 นั้นไว้ใจได้แน่นอน ประสิทธิภาพสูง เกมที่เราจะทดสอบวันนี้มี 3 เกมหลัก ๆ กราฟิกจักเต็มทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Asphalt 9, Call of Duty และ LOL Wild Rift ครับ
เล่น Asphalt 9 บน HUAWEI Mate40 Pro
สำหรับ Asphalt 9 มีให้ดาวน์โหลดบน HUAWEI AppGallery เลย ตัวเกมสามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ High Quality แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเปิด 60fps น่าจะเป็นที่ตัวแอปยังไม่ได้อัปเดตให้รองรับกับชิปเซ็ตตัวใหม่นี้ซะทีเดียว จึงเล่นได้ที่ 30fps เนาะ
ซึ่งเท่าที่ลองเล่นกราฟิกแสดงได้สวยงาม ความลื่นไหลทำได้สุด ๆ แล้วในระดับ 30fps ไม่เจอจังหวะเกมกระตุกหรือเฟรมเรตตกให้เห็นเลย แถมหน้าจอขนาดใหญ่ของ Mate40 Pro นั้นทำให้เราเล่นเกมได้สะใจดีมากจริง ๆ
เล่น Call of Duty Mobile บน HUAWEI Mate40 Pro
ต่อมาเป็น Call of Duty Mobile อันนี้เราดาวน์โหลดในรูปแบบ XAPK มาติดตั้งแทน ซึ่งถ้าหาเวอร์ชั่นที่เป็นของ Garena ก็ยังเล่นได้ปกติ ซิงค์ข้อมูลกับ Facebook ข้อมูลมาครบเลย ในการตั้งค่า Mate40 Pro สามารถเลือกปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ High คู่กับเฟรมเรต Max ครับ ยังไม่สามารถเปิดคู่กันที่ Very High กับ Max ได้ แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้วเนาะ
ซึ่งเท่าที่เราลองเล่นแบบจริงจัง รันได้อย่างเต็มที่มาก กราฟิกสวยและเฟรมเรตนิ่งแบบสุด ๆ การตอบสนองของหน้าจอได้ Touch Sampling rate สูงถึง 240Hz จะหันมอง จะแตะยิง ตอบสนองได้ดีมาก ไม่เจออาการดีเลย์ให้ขัดใจ แตะยิงเป็นยิงแตะซูมเป็นซูม
เล่น LOL Wild Rift บน HUAWEI Mate40 Pro
ปิดท้ายที่ LOL Wild Rift เกม Moba ล่าสุดที่กราฟิกสวยงามมาก ๆ แถมใช้ทรัพยากรสูงใช่เล่น เราเลือกปรับระดับกราฟิกไปที่ Ultra High Definition เลย คือสูงสุดเท่าที่ปรับได้แล้วเฟรมเรตก็ 60fps เลย
และเท่าที่เล่นจริง ๆ ก็ลื่นมากครับ ตัว fps ที่แสดงอยู่บน HUD ด้านบนก็ค้างที่ 60fps ตลอดไม่มีจังหวะลดลงมาเลย เล่นได้อย่างเพลิน ๆ กราฟิกสวยสุด เฟรมเรตดี ได้อรรถรสมากขึ้นเพราะรุ่นนี้ใช้ลำโพงคู่ Stereo ด้วย เสียงตีเสียงใส่ท่านี่ชัดเจนสุด ๆ
โดยรวมในเรื่องความบันเทิง HUAWEI Mate40 Pro ทำได้ดีมาก หน้าจอใหญ่สวยแสดงผลดี ลำโพงเป็นแบบคู่แล้วให้เสียงที่มีมิติ ในเรื่องหน่วยประมวลผลก็แรงพอที่จะเล่นเกมระดับท็อปได้ทุกเกมแบบลื่น ๆ เรียกว่าบันเทิงจัดเต็มไม่น้อยเลยล่ะ แต่ก็มีเรื่องที่ยังไม่สะดวกต่อการใช้งานอยู่บ้างก็คือแอป อย่างดูวิดีโอทั่วไปเราดูผ่านแอป YouTube บน Mate40 Pro ก็ต้องไปดูผ่านเบราเซอร์แทน การเล่นเกมที่ยังต้องหาดาวน์โหลดหรือติดตั้งเองผ่านช่องทางอื่น ๆ อยู่บ้างด้วย
แบตเตอรี่และระบบชาร์จ
แบตฯใหญ่ 4400mAh จุใจกันไปเลย
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่เหมือนเดิม HUAWEI Mate40 Pro ได้แบตเตอรี่ความจุ 4400mAh ใช้งานได้อย่างจุใจแน่นอนกับความจุขนาดนี้เทียบกับสเปค เท่าที่เราใช้งานมาจริง ๆ กว่า 2 สัปดาห์ก็รู้สึกว่าอึดใช้ได้เลย ตัว EMUI 11 นั้นมีการปรับจูนให้เข้ากับฮาร์ดแวร์ ประหยัดพลังงานได้ดี ถ้าใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม ถ่ายรูปบ้างก็อยู่ได้ตลอดวันหายห่วงครับ
ชาร์จไว SuperCharge 66W เร็วที่สุด
ส่วนเรื่องระบบชาร์จก็ไม่ต้องห่วงเลย Mate40 Pro อัปเกรดระบบชาร์จ SuperCharge ขึ้นมาอีกขั้นเป็น SuperCharge 66W แล้ว ชาร์จไวมาก ๆ บนแบตเตอรี่ 4400mAh นี้ HUAWEI เคลมว่าสามารถชาร์จจาก 0 - 100% ได้ในเวลาเพียง 50 นาทีเท่านั้น เท่าที่เราทดสอบมาแอบชาร์จเร็วกว่านั้นอีกประมาณ 45 นาทีก็เต็มแล้ว สุดยอดจริง ๆ ครับ !!
แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะ HUAWEI Mate40 Pro ยังรองรับระบบชาร์จไร้สายที่ความเร็วสูงถึง 50W อีกด้วย เรียกว่าชาร์จเร็วทั้งแบบมีสายและไร้สายเลยจริง ๆ
แถมยังมีระบบ Reverse Wireless Charge ที่สามารถปล่อยไฟให้กับอุปกรณ์อื่นมาชาร์จไร้สายที่ฝาหลังได้ด้วย อย่างในรีวิวนี้เราลองเอา HUAWEI FreeBuds Pro มาวางชาร์จที่ฝาหลังก็ขึ้นไฟแบบนี้เลย สะดวกดีมาก ๆ บางครั้งอุปกรณ์เสริมของเราแบตไม่พอใช้แล้วไม่มีที่ชาร์จติดตัว ใช้วิธีนี้ก็พอที่จะช่วยเสริมพลังให้ได้หน่อยเนาะ
สรุป
สรุป "นี่คือเรือธงที่ครบเครื่องเรื่องกล้องและสเปคจัดเต็มที่สุด ...?"
สรุปแล้ว HUAWEI Mate40 Pro ก็จัดเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงปลายปีที่ครบเครื่องในทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เก่งกาจอย่างกล้องที่ทำได้ดีมากในทุกสถานการณ์ ทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้า กล้องหลัง ภาพนิ่งวิดีโอ คือดีที่สุดเท่าที่เรารีวิวมาในปีนี้เลยจริง ๆ เรื่องนี้ต้องยกให้ HUAWEI เลย ฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ก็ระดับท็อปสุดทั้งหน่วยประมวลผล Kirin 9000 ตัวท็อปสุด เร็ว แรง แบบไม่มีข้อกังขา มี 5G อีก หน้าจอ Flex OLED แสดงผลสวยตอบสนองไว แบตเตอรี่อึดถูกใจตามสไตล์ HUAWEI พร้อมรองรับชาร์จไวใหม่ SuperCharge 66W อีก ในเรื่องฮาร์ดแวร์คือหนึ่งในรุ่นที่ดีที่สุดของปีนี้เลย แต่อย่างที่ทราบกันเรื่องซอฟต์แวร์ก็ยังคงมีความติดขัดอยู่บ้าง สำหรับคนที่ต้องใช้งานบริการของ Google จริง ๆ อันนี้อาจยังไม่เหมาะนัก เนื่องจากใช้งาน HMS แต่ถ้าไม่ได้เน้นทางด้านนั้น ใช้งานแอปทั่วไป ติดตั้งแอป APK เองเป็น ตอนนี้ก็เข้าที่เข้าทางมากขึ้นแล้ว เพียงพอต่อการใช้งานเป็นเครื่องหลักได้แล้ว ถ้ามองข้ามเรื่อง GMS ไปได้และตั้งใจจะ Move On กับ HMS จริง ๆ เราว่า HUAWEI Mate40 Pro เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนกล้องเทพแบบเทพสุด ๆ เลยล่ะครับ !!
ราคาและโปรโมชั่น
HUAWEI Mate 40 Pro 5G พร้อมให้จับจองเป็นเจ้าของได้แล้วที่ HUAWEI Online Store, HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ Mystic Silver ในราคา 34,990 บาท พิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อระหว่างวันที่ 3 – 31 ธันวาคม 2536 นี้ รับฟรีของสมนาคุณสุดพิเศษรวมมูลค่า 7,970 บาท ประกอบด้วย ปากกาHUAWE M-Pen 2, เคสไฟวงแหวน HUAWEI Ring Light Case, แท่นชาร์จไร้สาย HUAWEI SuperChargeTM Wireless Charger Stand, และบริการเอ็กซ์คลูสีฟจากหัวเว่ยมูลค่า 1,619 บาท
และพิเศษสำหรับโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ค่ายราคาเริ่มต้นเพียง 14,990 บาทเท่านั้นครับ !!
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite