Review realme X7 Pro 5G
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ realme X7 Pro 5G สมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ล่าสุดจาก realme ที่น่าสนใจอย่างมาก ได้สเปคที่อัดแน่น ทั้งหน่วยประมวลผลตัวท็อป, จอ 120Hz, รองรับระบบชาร์จไว 65W ดีไซน์สวยโดดเด่น และที่สำคัญราคาค่าตัวไม่สูงเพราะเปิดราคามาเพียง 16,990 บาทเท่านั้น อื้อหือ ! คุ้มยิ่งกว่าคุ้มใช่ไหมล่ะ มาติดตามรีวิว realme X7 Pro 5G ตัวนี้พร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ :D
แกะกล่อง
แกะกล่อง realme X7 Pro 5G
ก่อนอื่นเรามาแกะกล่องกันก่อนดีกว่า realme X7 Pro 5G ยังมาพร้อมกับกล่องสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ ที่หน้ากล่องมีชื่อรุ่นระบุไว้ชัดเจนว่า X7 Pro พร้อมโลโก้ realme อยู่ที่ด้านล่างของหน้ากล่องเหมือนกับรุ่นก่อน ๆ
และอุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดก็จะมีให้มาด้วยกัน 7 อย่างหลัก ๆ ดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง realme X7 Pro 5G
- เคสซิลิโคน
- เอกสารคู่มือ
- อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ (รองรับ 50W SuperDart Charge)
- สายชาร์จ USB Type-C to type-A
- เข็มจิ้มถาดซิม
- Dongle 3.5 มม.
ใช่แล้วครับ รอบนี้ realme แถมอุปกรณ์เสริมพิเศษเป็น Dongle แปลงพอร์ต type-C เป็นช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ด้วย เป็นอีกหนึ่งชิ้นที่เพิ่มเข้ามา แม้ในกล่องจะไม่มีหูฟังมาให้แต่ก็ยังดีที่มีตัวแปลงแถมมาให้เผื่อคนที่ไม่มีหูฟังแบบ type-C น่ะเนอะ
ดีไซน์
ดีไซน์สวยเด่น สะดุดตา
เอาล่ะ ได้เวลามายลโฉมตัวเครื่อง realme X7 Pro 5G กันแล้ว อยากแรกที่อยากโชว์ให้เห็นก่อนเลยก็คือดีไซน์ฝาหลังที่สวยสะดุดตาเอามาก ๆ สีที่เราได้มารีวิวก็คือ สี Iridescent ใช้กลยุทธ์ 2 + 2 + 1 ที่เราเรียกว่า Double-Grain, Double-Pated และ Anti-Glare Glass อย่างแรกพื้นผิวที่แตกต่างกันสองแบบจะถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างพื้นผิวหลายชั้น จากนั้นหุ้มด้วยสารเคลือบสองชั้นเพื่อให้เกิดการไหลเวียนของสี ทำให้โดดเด่นมากขึ้น และในขั้นตอนสุดท้ายใช้เทคโนโลยี AG เพื่อปรับปรุงพื้นผิวสัมผัสตัวเครื่อง พูดง่าย ๆ ก็คือฝาหลังของสีนี้จะมีความรุ้ง ๆ ละเปลี่ยนสีไปได้ตามการสะท้อนกับมุมมองเมื่อกระทบกับแสง ลงตัวในทุกมิติ แถมในสีนี้ก็ยังมีสโลแกนของแบรนด์อย่าง "Dare to Leap" อยู่ด้วยครับ
ส่วนผิวสัมผัสก็เป็นแบบด้าน ช่วยให้การสัมผัสดูหรูหรามากขึ้นรวมถึงลดการเกิดรอยนิ้วมือบนฝาหลังเวลาจับถืออีกด้วย ส่วนตัวชอบฝาด้านแบบนี้มาก แถมพอได้สีสันที่สวยงามแบบนี้เข้าไปอีก ยิ่งถูกใจถือใช้งานแล้วสะดุดตาจนใคร ๆ ต้องหันมอง
มีให้เลือก 2 สี Iridescent และ Aerolite Black
แต่แน่นอนว่าสีสันที่ฉูดฉาดขนาดนี้ก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคนซะทีเดียว realme X7 Pro 5G จึงมีอีกตัวเลือกเป็นสีดำ Aerolite Black ที่คงความคลาสสิคของสีเข้ม ๆ พร้อมความมันวาวและลูกเล่นแสงสะท้อนที่ด้านหลังในสไตล์ realme มาให้เลือกด้วย สองสี สองสไตล์แบบนี้ถูกใจทุกกลุ่มแน่นอนครับ
หน้าจอ Super AMOLED สีสวยตอบสนองไว
พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้ากันบ้าง realme X7 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.55" ใหญ่เต็มตา และยังได้ชนิดหน้าจอแบบ Super AMOLED แบบที่หลายคนถามหาอีกด้วย ในเรื่องการแสดงผลทำได้ดีมาก ความคมชัดอยู่ในระดับ FHD+ สีสันสวย สีดำเป็นดำจริง ๆ ใช้วัสดุเรืองแสง E3 ซึ่งสว่างกว่าวัสดุ E2 30% มีการปรับความสว่าง 4096 ระดับ ความสว่างจะถูกปรับโดยอัตโนมัติภายใต้สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เพื่อให้การแสดงผลชัดเจนและคมชัดอย่างสม่ำเสมออีกด้วย
ส่วนเรื่องการตอบสนองก็หายห่วงครับ รุ่นนี้ได้ refresh rate สูง 120Hz มาเลย ทำให้การใช้งานต่าง ๆ นั้นลื่นไหลไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการปัดหน้าจอไป-มา เข้าแอป เล่นเกมหรือเพลิดเพลินกับวิดีโอเฟรมเรตสูงก็ทำได้อย่างราบรื่น
ที่เหนือหน้าจอมุมซ้ายบนจะมีรูกล้องขนาดเล็กแบบ Punch Hole Display วางอยู่ด้วย รูกล้องมีขนาดเล็กพอที่จะไม่กวนสายตาเราเวลาดูคอนเทนต์หรือใช้งานทั่วไปเลยล่ะ
และด้วยความที่หน้าจอเป็น Super AMOLED จึงสามารถใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้าไปบนหน้าจอได้ด้วย ซึ่งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ realme X7 Pro 5G นั้นบางลงกว่ารุ่นก่อนถึง 91% เลยด้วยนะ
บางเบากว่าที่เคย
ความบางเบาก็เป็นอีกจุดเด่นของ realme X7 Pro 5G นี้ด้วย รุ่นนี้มาพร้อมความบางเพียง 8.5 มม. และเบาเพียง 184 กรัมเท่านั้นครับ เรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่มีขนาดน้ำหนักที่เบาใช้ได้เลยทีเดียวครับ
ตัวขอบเครื่องจะมีการตัดมุมให้เหลี่ยมขึ้นมาอีกนิดให้ดีไซน์นั้นมีมิติมากขึ้น แต่การจับถือก็ไม่ได้มีความคมหรือบาดมือแต่อย่างใด ส่วนตำแหน่งปุ่มกดก็ยังวางไว้ที่เดิมทั้งหมดครับ มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ด้านซ้ายมือและปุ่ม Power ที่มีแถบสีเหลืองเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้อยู่เช่นเคย
ดีไซน์กรอบเครื่องบน-ล่างก็จะใช้เป็นโค้งมนไปเลยไม่มีการเพิ่มมุมเหลี่ยมเหมือนด้านข้าง มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็อยู่ด้านล่างมีแค่พอร์ต USB type-C อย่างเดียว อย่างที่เห็นจากอุปกรณ์ในกล่องว่าแถมตัว Dongle มาด้วย ช่องหูฟัง 3.5 มม. ก็ไม่มีแล้วเนาะ ลำโพงหลักของตัวเครื่องวางตำแหน่งได้ดีที่มุมขวาเวลาจับถือในแนวนอนไม่ถูกบังและสามารถใช้งานเป็นลำโพงคู่ร่วมกับลำโพงสนทนาได้อีกด้วย
ส่วนถาดซิมของ realme X7 Pro 5G นั้นจะเป็นแบบ Dual-SIM เลย ไม่มีช่องใส่ micro-SD มาให้เนาะ แต่ความจุในเครื่องก็ให้มามากถึง 128GB แล้ว เพียงพอแหละ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ realme X7 Pro 5G ออกแบบมาได้ดีสมกับซีรีส์ X ครับ หรูหราและมีลูกเล่นอยู่หลายจุด ที่ชอบจริง ๆ คือฝาหลังที่เล่นสีและผิวสัมผัสในการจับถือที่ดีมาก ตัวเครื่องที่บางเบาแบบพอดิบพอดี และหน้าจอ Super AMOLED แสดงสีสวยแถมยังลื่น ๆ 120Hz อีก ลงตัวดีมากครับ
สเปคและประสิทธิภาพ
สเปค realme X7 Pro 5G
- หน้าจอ Super AMOLED 6.55” ความละเอียด FHD+
- อัตราส่วนหน้าจอ 20:9, refresh rate 120Hz
- หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 1000+ 5G Octa-Core (7nm)
- แรม 8GB (LPDDR4X)
- ความจุ 128GB (UFS 2.1 + Turbo Write)
- แบตเตอรี่ 4500mAh
- รองรับชาร์จไว 65W SuperDart Charge
- กล้องหน้า 32MP
- กล้องหลัง 4 ตัว
- 64MP กล้องหลัก f/1.8
- 8MP เลนส์ Ultra Wide f/2.3
- 2MP เลนส์ B&W
- 2MP เลนส์ macro
- รองรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- รัน Android 10 ครอบทับด้วย realme UI
- ขนาดตัวเครื่อง 160.8 x 75.2 x 8.5 มม.
- น้ำหนัก 184 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี Iridescent, Aerolite Black
สำหรับสเปคของ realme X7 Pro 5G ก็อย่างที่บอกเลยครับได้สเปคระดับเรือธงมาเลย ทั้งหน่วยประมวลผลตัวแรงอย่าง Dimensity 1000+ ชิปเซ็ต 5G แบบ 7nm แรม 8GB ความจุ 128GB มีแบตเตอรี่ความจุเยอะ 4500mAh และมีชาร์จไวถึง 65W SuperDart Charge เลยด้วย
แรงเทียบเท่า Snapdragon 865
หลายคนอาจสงสัยว่า Dimensity 1000+ ที่บอกว่าเป็นชิปเรือธงนี่ประสิทธิภาพสูงระดับไหน เท่าที่เราลองทดสอบผ่านแอป AnTuTu Benchmark แล้วคะแนนออกมาสูงมาก เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 528899 เลยทีเดียว เรียกว่าอยู่ระดับเดียวกับ Snapdragon 865 เรือธงของฝั่ง Qualcomm เลยนะเนี่ยย
หรืออย่างแอป GeekBench 5 ก็ได้คะแนนสูงไม่แพ้กันได้คะแนน Single-Core ไปถึง 773 และ Multi-Core ที่ 2944 คะแนน
รองรับ 5G ทันที Dual SIM Dual Standby ด้วย
ชื่อรุ่นก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่า realme X7 Pro 5G ก็พร้อมรองรับ 5G มาเลยตั้งแต่แกะกล่อง ใส่ซิมก็ใช้ได้เลยไม่ต้องรออัปเดตใด ๆ แถมรุ่นนี้ยังรองรับการทำงานแบบ Dual SIM Dual Standby ด้วย ส่วนคลื่นที่รองรับก็ทุกคลื่นที่มีในไทย 5G แบบ NSA ทั้ง n1 / n3 / n5 / n7 / n8 / n20 / n28 / n38 / n40 / n41 / n77 / n78 และ SA n1 / n3 / n41 / n78 / n79
เราลองทดสอบ 5G ดูแล้วก็ได้สปีดจัดเต็มอย่างมากเลย ช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตและดาวน์โหลดต่าง ๆ ได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ
เล่นเกมกันเลยดีกว่า
เข้าสุ่เรื่องการเล่นเกมกันเลยดีกว่า ว่าถ้าเล่นเกมกันจริง ๆ จะเป็นยังไงกับชิปเซ็ต Dimensity 1000+ บน realme X7 Pro 5G ตัวนี้ ซึ่งเกมที่เราเลือกมาทดสอบก็เป็นเกม Call of Duty Mobile กับ Asphalt 9 นั่นเองครับ
เล่น Call of Duty Mobile บน realme X7 Pro 5G
เริ่มที่เกม Call of Duty เราสามารถปรับระดับกราฟิกได้สูงสุดที่ Very High และเฟรมเรตสูงสุดที่ High เท่านั้นครับ แต่เอฟเฟกต์เสริมอย่าง Depth of Field, Bloom, Real-Time Shadows, Ragdoll, Water Reflection ได้หมดเลย
เท่าที่ลองเล่นตัวเกมก็รันได้อย่างลื่นไหลครับ เราเช็กจากเฟรมเรตของตัว Game Space ก็จะโชว์ fps สูงตลอดระดับ 55 - 60fps เลย ไม่เจอปัญหาเฟรมเรตตกหรือกระตุกจนรู้สึกได้ การตอบสนองหน้าจอนั้นทำได้เป็นอย่างดีเลย สัมผัสลื่นไหล แตะยิงเป็นยิง ซูมเป็นซูม ส่วนเรื่องลำโพงที่เป็น Stereo ก็ทำได้ดีมาก ให้เสียงที่กระจายรอบทิศเหมาะกับการเล่นเกมผ่านลำโพงจริง ๆ ยิ่งเกมยิงแบบนี้ได้ลำโพงคู่นี่เหมาะเลย ได้ยินเสียงกระสุนหรือเสียงฝีเท้าได้มากกว่าแบบ mono แน่นอน
เล่น Asphalt 9 บน realme X7 Pro 5G
ส่วนอีกเกมเป็นเกมแข่งรถที่กราฟิกสวยที่สุดอย่าง Asphalt 9 เกมนี้จัดเต็มเลยเพราะเราสามารถเปิดกราฟิกได้ที่ระดับ High Quality เลย และที่สำคัญเราสามารถเปิด 60fps ได้ด้วยนะ ถือว่าเป็นคุณภาพระดับสูงสุดที่เปิดได้บนสมาร์ทโฟนตอนนี้แล้วครับ
และจากที่เราลองเล่นจริงก็ถือว่าทำได้ดีมากครับ กราฟิกสวยเพราะปรับสุดแล้ว เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ในเกมอัดมาครบเลยแสงสีสวยงาม ตัวเฟรมเรตที่เปิดมาได้ 60fps ก็ช่วยให้ตัวเกมนั้นลื่นไหลแบบสุด ๆ แถมตอบสนองบนหน้าจอได้ดีมาก ๆ อีกด้วย
สรุปแล้วในเรื่องประสิทธิภาพการเล่นเกม realme X7 Pro 5G ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ ครับ เล่นเกมกราฟิกสูง ๆ ได้อย่างลื่นไหล แถมการจัดการความร้อนก็ทำได้ดีด้วย เพราะมีระบบกระจายความร้อนห้าระดับ ประกอบด้วยแผ่น VC ขนาดใหญ่พิเศษ กราไฟท์หลายมิติการกระจายความร้อนด้วยฟอยล์ทองแดงและวัสดุกระจายความร้อนประสิทธิภาพสูงอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิแกนกลางให้ต่ำถึง 10 ° C หมดห่วงในเรื่องการเล่นเกมต่อเนื่องไปเลย
ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์การใช้งาน
realmeUI ใช้งานลื่นไหล
มาต่อกันที่ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์การใช้งาน realme X7 Pro 5G มาพร้อม realme UI ที่ครอบทับอยู่บน Android 10 มีการปรับแต่งหน้าตาและฟีเจอร์มาให้เข้ากับตัวเครื่องเป็นอย่างดี ความลื่นไหลในการใช้งานทำได้น่าพอใจเลยครับ
ยิ่งใช้งานบนหน้าจอ 120Hz ด้วยแล้ว เพิ่มความฟินสุด ๆ อย่างที่บอกว่าทั้งการปาดหน้าจอไป-มา หรือจะไถฟีดบนแอปโซเชี่ยลต่าง ๆ ก็เร็วและลื่นไหลมาก ใครที่ชอบนั่งเลื่อนดู IG, Twitter ทั้งวันนี่ถูกใจแน่นอน เร็วปร๊ดปร๊าดไปหมด
ตัว realme UI ก็มีรูปแบบการปรับแต่ง UI ไอคอนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เผื่ออยากได้รูปแบบไอคอนแบบสี่เหลี่ยมทั้งหมด เป็นแบบวงกลม ก็เลือกปรับเพิ่มเติมได้ที่ Settings > Home Screen & Lock Screen Magazine > Set Icon Style
ฟีเจอร์หลัก ๆ อย่าง Dark Mode เปลี่ยนชุด UI ให้เป็นสีดำก็มีมาให้ หรือจะเป็นพวก Lock Screen Magazine ก็มีให้เลือกเปิดโชว์ Wallpaper สวย ๆ ในหน้า Lockscreen ก็มีด้วย
ดูหนัง ดูรูปฟินด้วยจอ Super AMOLED
ส่วนเรื่องการใช้งานด้านความบันเทิง realme X7 Pro 5G โดดเด่นด้วยหน้าจอ Super AMOLED ที่ให้สีสันสวยงามมาก เชื่อว่าหลายคนอยากได้หน้าจอแบบนี้เอาไว้ดูหนังหรือภาพแบบคม ๆ อยู่แล้ว ซึ่งบนรุ่นนี้ไม่ติดปัญหาเลยแถมขนาดหน้าจอยังใหญ่ถึง 6.55" อีกต่างหาก
อัตราส่วนของหน้าจอก็เป็น 20:9 เป็นจอยาว ๆ ที่เหมาะกับการดูคอนเทนต์หนังแบบกว้าง ๆ ตัวรูกล้องหน้าก็ไม่ใหญ่จนบดบังเนื้อหาอย่างที่บอกไป รองรับการแสดงผลแบบ HDR ด้วย ดู YouTube หรือ Netflix ก็สวยคมชัดแบบที่สุด
ลำโพงคู่ Stereo เสียงดัง ฟังชัด รอบทิศทาง
ส่วนเรื่องเสียง realme X7 Pro 5G ได้ลำโพงคู่ Stereo ที่ขับเสียงออกมาได้ดีมาก รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงที่รอบทิศทาง และถ้าใช้งานผ่านหูฟังก็รองรับไฟล์เพลง Hi-Res ด้วย เสียงดีทั้งลำโพงและผ่านหูฟังเลย
กล้อง
กล้องหลัง AI 4 เลนส์ 64MP
มาต่อกันที่เรื่องกล้อง realme X7 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง AI 4 เลนส์ พร้อมความละเอียดสูงสุด 64MP ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX 686 ซะด้วย ถ่ายภาพได้สวยถูกใจแน่นอน โดยสเปคกล้องคร่าว ๆ ของรุ่นนี้ก็ตามนี้เลย
- 64MP กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX 686 f/1.8
- 8MP เลนส์ Ultra Wide f/2.3 มุมกว้าง 119 องศา
- 2MP เลนส์ Portrait B&W
- 2MP เลนส์ macro
ในส่วนของเลนส์เสริมก็จะมีเลนส์ Ultra Wide Angle ที่สามารถเก็บภาพมุมกว้างได้อย่างจุใจ จะถ่ายภาพวิวหรือภาพที่มีฉากกว้าง ๆ ก็ไม่ต้องห่วงเลย และยังมีเลนส์ macro ที่มาช่วยให้ถ่ายภาพระยะใกล้เพิ่มเติมได้อีกด้วย
โหมดการถ่ายภาพก็ให้มาครบครับทั้งโหมดมาตรฐานอย่าง Auto ที่มี AI Scene Recognition คอยแยกแยะซีนให้ภาพสวยขึ้นรวมถึง Auto HDR ที่ปรับแสงให้สวยขึ้นแม้ภาพจะย้อนแสง Portrait, Nightscape หรือโหมดพิเศษที่เพิ่มเข้ามาอย่าง Ultra macro, Expert ก็มีด้วยให้เลื่อนไปที่ more ได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Auto ของ realme X7 Pro 5G จะเห็นว่าภาพที่ได้นั้นสวยและดูดีใช้ได้เลย ตัว Auto HDR ช่วยเก็บแสงและ Dynamic Range ได้เป็นอย่างดี โทนสีจะมีความนวลหน่อย ๆ ใช้งานได้ดีทั้งเลนส์หลักและ Ultra Wide Angle เลยด้วย ตัว AI Scene เก่งพอที่เราไม่ต้องมาปรับภาพเพิ่มเติม ถ่ายแล้วได้ผลลัพธ์สวยจากหลังกล้องเลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Ultra macro ของ realme X7 Pro 5G ส่วนโหมด Ultra macro ที่มีการใช้เลนส์เสริม ภาพที่ได้ก็อยู่ในเกณฑ์พอใช้ครับ ด้วยความที่ตัวเลนส์นั้นมีความละเอียดไม่สูงมาก เลยจำเป็นต้องมีแสงพอสมควร ถ้าถ่ายในสภาพแสงปกติก็ช่วยให้เราได้ภาพระยะใกล้สวย ๆ ได้ แต่ถ้าแสงน้อยแนะนำให้ใช้เลนส์หลักซูมเข้าไปน่าจะดีกว่าครับ
Portrait สวย สกินโทนดีมาก
มาต่อกันที่โหมด Portrait หรือภาพคน realme X7 Pro 5G ทำได้ดีเช่นเคย มีระดับความเบลอให้เลือกปรับอยากเบลอมาก เบลอน้อยก็ปรับเอาได้เลย และยังมีฟิลเตอร์ให้ใช้งานอีก 6 แบบ ปรับโทนได้เลยโดยไม่ต้องไปแต่งต่อแล้วครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait ของ realme X7 Pro 5G ยังคงทำให้เราชื่นชอบเหมือนเดิม ภาพที่ได้นั้นสวยและดูดีมาก ๆ ทั้งการปรับความเนียนบนหน้าแบบ การจัดการ Dynamic Range ของภาพที่ดีมาก แม้เราจะถ่ายย้อนแสง แต่ตัว AI ก็จะคอยปรับภาพด้านหลังให้มีมิติขึ้นมาได้โดยที่ภาพไม่ฟุ้ง ส่วนเลนส์เสริม B&W ที่ติดเข้ามาก็มาเป็นลูกเล่นในฟิลเตอร์ที่ 7 ช่วยให้เราได้ภาพขาว-ดำสวย ๆ เปลี่ยนโทนของภาพไปได้อีกด้วย
Super Nightscape 4.0 กลางคืนสวย ชวนฝัน
ต่อมาก็คือโหมดกลางคืนที่ realme เก่งอย่างมาก รอบนี้ยิ่งทำได้ดีเข้าไปใหญ่ด้วย Super Nightscape 4.0 ที่ช่วยเก็บภาพกลางคืนให้สวยชวนฝัน ใช้ได้ทุกระยะตั้งแต่มุมกว้าง Ultra Wide Angle ไปจนถึงซูมสัก 2x ก็ยังคมชัดอยู่ และพิเศษก็คือมี Night Filter เพิ่มลูกเล่นให้ภาพกลางคืนสวยสดกว่าที่เคย มีให้เลือก 3 ฟิลเตอร์คือ Modern Gold, Cyberpunk และ Flamingo ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Super Nightscape 4.0 อย่างที่บอกไปครับว่า realme เก่งโหมดนี้มาก ภาพกลางคืนออกมาสวยจริง ๆ ทั้งการเก็บบรรยากาศของแสงการรวมภาพให้ออกมาสวย สีสันสด จัดจ้านแบบกำลังดี การเก็บภาพที่รวดเร็วและที่สำคัญคือมี Night Filter ที่ช่วยให้เราได้ภาพในแนวอื่น ๆ แปลกตาแต่สวยงามมาก ๆ
กล้องหน้า 32MP หน้าเนียน เก็บภาพสวย
ส่วนในกล้องหน้า realme X7 Pro 5G ได้กล้องหน้าความละเอียดสูงมาถึง 32MP แถมยังมีโหมด Face Beauty, Portrait, Night mode มาให้เลือกใช้แบบครบ ๆ หายห่วงเรื่องการเซลฟี่ไปได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ realme X7 Pro 5G
ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K 60fps และลูกเล่นอีกเพียบ
สำหรับวิดีโอ realme X7 Pro 5G นั้นสามารถถ่ายวิดีโอได้ในความละเอียดสูงสุดถึง 4K 60fps กันเลยทีเดียว และก็ยังมีลูกเล่นอื่น ๆ สำหรับการถ่ายวิดีโออีกเพียบไม่ว่าจะเป็น Ultra Steady Video, real-time Bokeh Video หรือจะใช้เลนส์ Ultra Wide Angle ในการถ่ายวิดีโอแบบกว้างสุด ๆ ก็ได้เช่นกันครับ
ตัวอย่างวิดีโอจาก realme X7 Pro 5G
มี AI Color Portrait Video ด้วย
อีกหนึ่งฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ของโหมดวิดีโอจาก realme X7 Pro 5G ก็คือโหมด AI Color Portrait Video ที่ช่วยให้เราถ่ายวิดีโอได้โดดเด่นกว่าที่เคย เพราะตัว AI จะตรวจจับแบบและเปลี่ยนสีฉากหลังทั้งหมดเป็นสีขาว-ดำทั้งหมด เด่นสุด ๆ เลยล่ะทีนี้ หรือจะเลือกเด่นเป็นสี ๆ จาก Monochrome Video ก็ได้เช่นกัน
ตัวอย่างวิดีโอ AI Color Portrait จะเห็นว่าการดูดสีและการตัดฉากหลังของฟิลเตอร์ต่าง ๆ นั้นเก่งและเนียนมากจริง ๆ แต่ก็มีจุดที่น่าเสียดายอยู่บ้างคือความละเอียดสูงสุดของ AI Color Portrait นั้นจะได้แค่ 720p เท่านั้น แต่ถ้าเป็นฟิลเตอร์อื่น ๆ รวมถึง Monochrome Video จะได้สูงสุดที่ 1080p ครับ
แบตเตอรี่และระบบชาร์จ
แบตเตอรี่โอเค แต่ยังไม่สุดเท่าไหร่
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่และการชาร์จ realme X7 Pro 5G ให้แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh มาเลย realme เคลมว่ามีฟีเจอร์การจัดการแบตเตอรี่ที่ดีสำหรับการใช้งานอย่างต่อเนื่อง เท่าที่ใช้งานมาจริง ๆ ก็อยู่ในระดับโอเคครับ คือพอใช้งานได้ทั้งวันอยู่ถ้าไม่เล่นหนักจริง ๆ แต่ถ้ามีการเล่นแบบจริงจัง ถ่ายรูปเยอะ ๆ ก็คงต้องพกพาวเวอร์แบงค์ไว้หน่อยหรือชุดชาร์จติดไว้ซะหน่อยล่ะครับ
ชาร์จไว 65W ไม่ต้องกลัวรอนาน
ถึงแม้แบตเตอรี่จะไม่อึดแบบกระชากใจ แต่ระบบชาร์จของรุ่นนี้เร็วกระแทกจิตแน่ ๆ เพราะมาพร้อมระบบ 65W SuperDart Charge ที่ realme เคลมว่าชาร์จจาก 0 - 100% ในเวลาเพียง 35 นาทีเท่านั้น หมดปัญหาการรอการชาร์จนาน ๆ ไปได้เลย
และเห็นชาร์จไว ๆ แบบนี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยอีกเช่นกัน เพราะ realme X7 Pro 5G เขามีระบบป้องกันมากขึ้น 5 ชั้น ตั้งแต่อะแดปเตอร์ไปยังตัวเครื่อง รวมทั้งมีเซ็นเซอร์ประกอบด้วย
- อะแดปเตอร์ป้องกันการจ่ายไฟเกินกำลัง
- การป้องกันขณะชาร์จเร็ว
- ป้องกันการโอเวอร์โหลดอินเทอร์เฟซ
- ป้องกันกระแสไฟเกินและแรงดันไฟฟ้าเกิน
- การป้องกันขณะรวมแบตเตอรี่
เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่า เร็ว ๆ แบบนี้ก็ไม่อันตรายแน่นอน เมื่อเราใช้ชุดชาร์จที่แถมมาในกล่องทั้งสายและอะแดปเตอร์เนาะ
สรุป
สรุปแล้ว "นี่คือสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีพร้อมทั้งรูปลักษณ์ และความแรงในราคาจับต้องได้"
สรุปให้แล้ว realme X7 Pro 5G ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่น่าสนใจมาก ๆ อีกรุ่น เพราะมีครบแบบที่เรือธงควรจะเป็น ตั้งแต่ดีไซน์ที่สวยพรีเมี่ยม พร้อมลูกเล่นสวย ๆ ของฝาหลัง ส่วนเรื่องสเปคก็จัดเต็มใช้งานได้ดีมาก หน่วยประมวลผล Dimensity 1000+ ตัวแรงที่เล่นเกมดี ประมวลผลต่าง ๆ ได้ตอบโจทย์ มีชาร์จไวระดับที่สุดกับ 65W SuperDart Charge และกล้องที่ไว้ใจได้ในทุกโหมดถ่ายสวยและง่ายต่อการใช้งาน ทั้งหมดนี้ก็คือความลงตัวของ realme X7 Pro 5G สมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่มีราคาไม่ถึง 20,000 บาทแล้วครับ ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟน 5G ที่คุณสมบัติครบในราคาจับต้องได้ ตัวนี้คือคำตอบเลยล่ะครับ !
ราคาและโปรโมชั่น
realme X7 Pro 5G เปิดราคาค่าตัวมาที่ 16,990 บาท เริ่มเปิดจองตั้งแต่วันที่ 18 - 20 ธ.ค.นี้ สำหรับผู้ที่สั่งจองจะได้รับของแถมเป็น VIP Card รับประกันจอแตกนาน 1 ปีและ realme Smart Scale พร้อมประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปีด้วยครับ
และพิเศษ ! realme X7 Pro 5G เปิดให้ Pre-Order แล้ววันนี้ – 20 ธันวาคม ในราคาเริ่มต้นเพียง 9,990 บาท พร้อมของแถมมูลค่า 5,999 บาท โปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน อีกด้วย !
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite