รีวิว OPPO A93
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ OPPO A93 สมาร์ทโฟนสุดคุ้มตัวล่าสุดจาก OPPO รุ่นนี้มาพร้อมสโลแกน “สนุกทุกโมเมนต์” เติมเต็มทุกความสนุกทั้งการถ่ายภาพ การพกพา ความบันเทิง ในราคาเบา ๆ เพียง 8,999 บาทเท่านั้น ! การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรติดตามได้จาก รีวิว OPPO A93 นี้เลยครับ :D
ดีไซน์
ดีไซน์โดดเด่น บางเบา สะกดทุกสายตา
เริ่มต้นที่ดีไซน์กันก่อนเลย เพราะ OPPO A93 นั้นชูจุดเด่นเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มาพร้อมความบางเฉียบที่ 7.48 มม. เท่านั้น จับครั้งแรกต้องบอกเลยว่าเครื่องบางมากพกพาได้ง่ายสุด ๆ จะใส่กระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงก็ไม่เทอะทะครับ
ส่วนน้ำหนักก็เบาแบบรู้สึกได้ที่ 164 กรัมเท่านั้น สายโซเชี่ยลที่ต้องถือเครื่องไถหน้าจอทั้งวันถูกใจแน่นอน ถือใช้งานได้แบบไม่เมื่อยมือ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคนี้ได้ดีจริง ๆ
ฝาหลังเทคโนโลยี Shiny Matte พรีเมี่ยมไม่น้อย
นอกจากเรื่องความบางเบาแล้ว OPPO A93 ยังโดดเด่นในเรื่องการออกแบบด้วยเทคโนโลยีฝาหลังแบบใหม่ Shiny Matte ที่ OPPO คิดค้นขึ้นมา ใช้เทคนิคการเคลือบผิวแบบใหม่จาก 250 nm เป็น 400nm ทำให้ตัวฝาหลังนั้นมีความผสมผสานระหว่างความแวววาวของสีสันและความด้านของผิวสัมผัสได้อย่างลงตัว
ความรู้สึกในการจับถือก็จะพรีเมี่ยมมากขึ้น ผิวด้านไม่เก็บรอยนิ้วมือเท่าไหร่ จับถือแล้วให้ความรู้สึกเหมือนสมาร์ทโฟนราคาแพง ๆ เลยหรูหราขึ้นจริง ๆ ยิ่งอยู่บนความบางเฉียบขนาดนี้อีก ถ้าไม่รู้มาก่อนว่ารุ่นนี้คือ A Series ก็คงคิดว่าเปิดราคาหมื่นกลาง ๆ ไปแล้วนะ
ส่วนเรื่องสีสัน OPPO A93 มีให้เลือก 2 สีคือ สีขาว Metallic White และ สีดำ Matte Black (สีที่รีวิวนี้) ซึ่งทั้ง 2 สีนี้จะใช้เทคนิคแบบ Shiny Matte ทั้งคู่ ทำให้ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านหรูหราเหมือนกันครับแต่อารมณ์จะต่างกันชัดเจน ถ้าอยากได้โทนอ่อนโยน มีความประกายชมพูอ่อน ๆ ก็ต้องไปสีขาว Metallic White
แต่ถ้าอยากได้สีที่คมเข้ม หรูหราแบบคลาสสิคก็มองมาที่สีดำ Matte Black เลย สีนี้ OPPO บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากรถ Super Car ระดับไฮเอนด์เลยนะ เอ้อ ก็ดูหรูจริง ๆ
กล้องหลัง 4 ตัววางรวมกันอย่างมีระเบียบ
ดีไซน์กล้องหลังของ OPPO A93 ก็จะวางเรียงกัน 4 ตัวอยู่ที่มุมซ้ายบนอย่างที่เห็นครับ ดูมีระเบียบดีและไฟแฟลชก็แยกออกมาเป็นแถบยาว ๆ อยู่เด่น ๆ ด้วยครับ ส่วนสเปคกล้อง 4 ตัวเดี๋ยวไว้เราอธิบายอีกทีในหัวข้อถัดไปละกันเนาะ
หน้าจอ Super AMOLED สวยถูกใจแน่นอน
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอด้านหน้ากันบ้าง OPPO A93 มาพร้อมจอ Super AMOLED ที่หลายคนชื่นชอบ ในเรื่องความสวยงามและสีสันไม่ต้องห่วงอยู่แล้วครับ สวยเด่นเอามาก ๆ สามารถแสดงความสว่างได้สูงสุดถึง 800nits เลยทีเดียว
ส่วนเรื่องความละเอียดก็อยู่ที่ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) มีค่า Contrast Ratio สูงถึง 5,000,000:1 แสดงผลบนขนาดหน้าจอ 6.43” ก็เรียกว่าคมชัดอย่างดีเลย
ดีไซน์แบบ “Mini” Dual Punch-Hole Display
ดีไซน์หน้าจอของ OPPO A93 จะใช้เป็น Mini Dual Punch-Hole Display ครับ การที่ OPPO เพิ่มคำว่า Mini เข้ามาก็เพราะรูกล้องหน้าคู่ของรุ่นนี้เล็กมาก ๆ เล็กแค่ 3.7 มม. เท่านั้น ไม่บดบังคอนเทนต์สำคัญในการใช้งานอย่างแน่นอน และด้วยรูกล้องหน้าที่เล็กขนาดนี้เลยทำให้การแสดงผลหน้าจอต่อตัวเครื่องนั้นสูงถึง 90.7% เลยนะ
นอกจากนี้บนหน้าจอของ OPPO A93 ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ หรือที่ OPPO เรียกว่า In-Display Fingerprint Unlock 3.0 อีกด้วย ตรงนี้เขาเคลมว่าปลดล็อคได้รวดเร็วเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น
ซึ่งเท่าที่เราลองก็เร็วจริง ๆ ครับ แต่ตำแหน่งของเซ็นเซอร์แอบวางไว้ต่ำไปนิด ถ้าถือแบบเต็มมือแล้วไม่เอานิ้วก้อยไปเกี่ยวตัวเครื่องไว้ก็จะสแกนลำบากไปนิด ถ้าเขยิบขึ้นมาอีกหน่อยคงจะลงตัวกว่านี้ได้ครับ
ขอบเครื่องที่โค้งกำลังดี
ในส่วนของขอบเครื่องรุ่นนี้จะเป็นผิวแบบมันวาวมีความโค้งนิด ๆ เพื่อให้เราจับถือได้ถนัดมือแม้ตัวเครื่องจะบางมาก ๆ ตำแหน่งปุ่มกดก็วางไว้ที่มุมมาตรฐานซ้ายมือเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงแบบแยกปุ่ม
ส่วนขวามือก็เป็นปุ่ม Power ที่วางไว้แบบพอดี ให้เราสามารถใช้นิ้วโป้งของมือขวาหรือนิ้วชี้ของมือซ้ายมาแตะได้อย่างสะดวก ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไปครับ
ด้านบนของตัวเครื่องเราจะเห็นไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนเล็ก ๆ พร้อมความมันวาวแบบชัด ๆ ของกรอบตัวเครื่องครับ
ส่วนด้านล่างจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง และช่องหูฟัง 3.5 มม. ที่รุ่นนี้ยังแถมมาให้อยู่ด้วยครับ
ถาดใส่ซิมของ OPPO A93 จะเป็นแบบ Triple Slot ใส่ได้แบบครบหมด จะใส่ 2 ซิม พร้อม micro-SD ก็ได้ซึ่ง micro-SD รุ่นนี้ก็รองรับสูงสุดถึง 512GB เลยล่ะครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ OPPO A93 ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดีมาก ทั้งขนาดตัวเครื่องที่บางเบา งานประกอบที่ดูดีฝาหลังแบบใหม่เทคนิค Shiny Matte และหน้าจอยังเป็น Super AMOLED อีก ถ้าบอกว่านี่เป็น OPPO Reno Series ก็เชื่ออะ พรีเมี่ยมขึ้นเยอะสมกับที่เป็นตัวท็อปของ OPPO A-Series จริง ๆ ครับ
กล้อง
6 AI Portrait Camera
นอกจากดีไซน์ของรุ่นนี้จะเด่นคล้ายรุ่นพี่แล้ว จุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ”กล้อง” ครับ รุ่นนี้มาพร้อมกล้องทั้งหมด 6 ตัวที่ OPPO ใช้ชื่อเรียกเกร๋ ๆ ว่า “6 AI Portrait Camera” พร้อมฟีเจอร์เรื่องกล้องแบบจัดเต็ม เพิ่มความสนุกทุกโมเมนต์การถ่ายภาพอย่างที่สโลแกนบอกไว้เลยครับ โดยมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้
4 กล้องหลังชัดสุด 48MP
- 48MP กล้องหลัก f/1.8
- 8MP เลนส์ Ultra Wide Angle f/2.2
- 2MP เลนส์ mono
- 2MP เลนส์ mono
กล้องหน้าคู่พร้อม Depth Camera
- 16MP กล้องหลัก f/2.4
- 2MP เลนส์ Depth f/2.4
จะเห็นว่ากล้องทั้ง 6 ตัวที่ให้มานั้นเหมาะกับการถ่ายภาพ Portrait อย่างมากเลยทีเดียว ทั้งกล้องหลักที่ความละเอียดสูงถึง 48MP มีเลนส์ Ultra Wide Angle มาช่วยเพิ่มสีสันในการถ่ายภาพมุมกว้างและเลนส์ mono อีก 2 ตัวที่มาเพิ่มเรื่องฟิลเตอร์ขาว-ดำเจ๋ง ๆ ในโหมด Portrait อีกด้วย
AI Color Portrait ดึงแบบให้ชัดเด่นสะดุดตา
นอกจากฮาร์ดแวร์ที่ดูดีแล้ว ในส่วนของซอฟต์แวร์ OPPO A93 ก็ได้มรดกตกทอดมาจากรุ่นพี่ด้วย เริ่มต้นที่โหมด AI Color Portrait ฟีเจอร์ถ่ายคนแบบใหม่ที่สามารถดูสีฉากหลังให้เกลี้ยงและดึงแบบให้มีสีสันเด่นชัดขึ้นแบบที่ OPPO Reno4 เคยมีติดมาถึงรุ่นนี้ ให้เราเลือกไปที่โหมด Portrait และเลือกฟิลเตอร์ด้านบนปาดไปถึงฟิลเตอร์รองสุดท้ายที่ชื่อว่า “AI Color Portrait” ได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากฟีเจอร์ AI Color Portrait จะเห็นว่าฟีเจอร์นี้เจ๋งมาก ๆ ช่วยดึงแบบให้สวยชัดขึ้นมาจากฉากหลังได้จริง ๆ บางครั้งฉากหลังเราอาจจะรกเกินไป อยากดึงให้แบบเราเด่นคนเดียวพร้อมละลายฉากหลังและเพิ่มความสวยใสของใบหน้าขึ้นมา OPPO A93 นี่เก่งเหมือนรุ่นพี่เขาเลยจริง ๆ
AI Night Flare Portrait ถ่ายคนกลางคืน สวยทั้งคนสวยทั้งฉาก
อีกฟีเจอร์ Portrait ที่ OPPO A93 ได้ติดมาจากรุ่นพี่ด้วยก็คือ Night Flare Portrait ครับ ตรงนี้จะเป็นฟิลเตอร์ที่เพิ่มความสวยเนียนให้ดวง Bokeh และสีสันนั้นสวยขึ้นกว่าแบบ Ultra Night mode ผสมกับ Portrait ได้อย่างลงตัว หน้าก็เนียนฉากหลังก็สวย แถมสีสันในตอนแสงน้อยยังเยี่ยมอีกต่างหาก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากฟีเจอร์ Night Flare Portrait จะเห็นว่าฟีเจอร์นี้ช่วยยกระดับให้ภาพถ่าย Portrait กลางคืนนั้นสวยขึ้นไปอีก สีสันจะสดขึ้นกว่าโหมด Portrait ปกติ เหมือนเร่งความสดระดับเดียวกับ Ultra Night Mode และ Bokeh เด่นชัดมากขึ้นด้วย
ขาว-ดำเพิ่มความอาร์ทก็มี
เลนส์ mono 2 ตัวที่มีบนกล้องหลังของ OPPO A93 นี่มองเผิน ๆ เหมือนใส่มาเพื่อให้มันครบ ๆ แต่เอาเข้าจริงก็มีลูกเล่นซ่อนอยู่ครับ โดยเลนส์ 2 ตัวนี้จะมาเป็นฟิลเตอร์ในโหมด Portrait คือ OP6 และ OP7 ครั้บ เพิ่มความอาร์ทในการถ่าย Portrait เข้าไปอีก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากฟิลเตอร์ OP6 และ OP7 ไฟล์ภาพที่ได้จะออกแนวอาร์ท ๆ จริง ความเท่ของขาว-ดำจากฟิลเตอร์นี้ถ้าใครชอบแนวนี้ก็อย่าลืมมาเลือกฟิลเตอร์ OP6 และ OP7 ไปใช้กันได้ครับ
มี AI Super Clear Portrait ถ่าย Portrait สวยเป็นธรรมชาติ
นอกจากลูกเล่น Portrait เจ๋ง ๆ ที่ว่าแล้ว ในโหมด Portrait ทั่วไปก็ยังมีระบบ AI Super Clear Portrait ที่จะมาเพิ่มความเนียนของใบหน้าเข้าไปอีกด้วย โดยตัวระบบจะคอยตรวจจับใบหน้าของแบบและปรับหน้าให้สว่างกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ให้หน้ามืดโดนกลืนไปกับฉากอีกด้วย ตรงนี้ในค่าเริ่มต้นยังไม่ได้เปิดมาให้เราเลือกเปิดเพิ่มเติมได้ในการตั้งค่าของแอปกล้อง ติ๊กคำว่า “AI Ultra Clear mode” ไว้ได้เลย
ตัวอย่างภาพจากโหมด Portrait ของ OPPO A93 จะเห็นว่าใบหน้าของแบบนั้นเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนการเบลอฉากหลังก็เนียนสวยใช้ได้ มีระบบ Auto HDR ให้ด้วย แม้จะถ่ายย้อนแสงก็ยังได้ภาพที่สวยคมอยู่ไม่น้อยครับ
ถ่ายวิว ถ่ายอาหารก็สวย มี AI ช่วย
เห็นฟีเจอร์ถ่ายคนเจ๋ง ๆ แล้ว ใช่ว่าถ่ายอย่างอื่นจะด้อย เพราะจะถ่ายภาพวิว, อาหาร, ดอกไม้ และอื่น ๆ ก็ยังสวย เพราะเขามี AI Scene Recognition คอยปรับภาพให้สวย โดยที่ไม่ต้องปรับอะไรให้ยุ่งยากเลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ OPPO A93 จะเห็นว่าสีสันและ Dynamic Range ของภาพดีมาก ๆ ได้ AutoHDR คอยดึงให้แสงดูมีมิติมากขึ้น มีเลนส์ Ultra Wide Angle เพิ่มมุมมองให้ภาพวิวกว้างอีกด้วย
Ultra Night Mode แสงน้อยยังสวยเหมือนเดิม
อีกเรื่องที่ OPPO A93 ยังเก่งเหมือนรุ่นพี่ก็คือ Ultra Night Mode ที่ช่วยเปลี่ยนภาพแสงน้อยสวยขึ้น เก็บสีสันและรายละเอียดของภาพได้มากกว่าโหมด Auto ทั่วไป และหากเราอยู่ในสภาพแสงที่มืดมากๆ ก็ยังมี Ultra Dark Mode เข้ามาดึงภาพให้สว่างและรายละเอียดครบถ้วนอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Ultra Night Mode เห็นได้ชัดว่าการดึงรายละเอียดของภาพขึ้นมานั้นยังยอดเยี่ยม สีสันก็สวยสด แถมตัว AI ก็ประมวลผลภาพได้รวดเร็ว ทำให้เราถ่ายภาพกลางคืนได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งขาตั้งกล้องเลยล่ะ
กล้องหน้ามี AI Beauty 2.0
ส่วนกล้องหน้า OPPO A93 ก็โดดเด่นด้วยกล้องหน้าคู่ 16MP + 2MP ที่มี AI Beauty 2.0 มาช่วยเพิ่มความเนียนของใบหน้าให้สวยเป็นธรรมชาติ ตรวจจับการแต่งหน้าและปรับรูปแบบให้เข้ากันได้อย่างเนียนเลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ OPPO A93
AI Super Night Portrait ถ่ายกลางคืนก็ยังสวยเด่น
นอกจากในแสงปกติจะสวยแล้ว OPPO A93 ยังมีโหมด AI Super Night Selfie ที่ช่วยเพิ่มความงามเวลาเซลฟี่ยามค่ำคืนให้สวยขึ้นไปอีก โดยโหมดนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย รวบรวมชุดอัลกอริทึมของ AI รวมทั้ง HDR ที่จะรวมภาพในเวลากลางคืนให้สวยขึ้นไปอีก วิธีการใช้งานก็ให้เลือกมาที่โหมด Night ได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่าย AI Super Night Portrait
สเปคและประสิทธิภาพ
สเปค OPPO A93
- หน้าจอ Super AMOLED 6.43” ความละเอียด FHD+
- อัตราส่วนหน้าจอ 20:9, refresh rate 60Hz
- หน่วยประมวลผล MediaTek Helio P95
- แรม 8GB
- ความจุ 128GB
- แบตเตอรี่ 4000mAh
- รองรับชาร์จไว 18W Fast Charge
- กล้องหน้าคู่
- 16MP กล้องหลัก f/2.4
- 2MP เลนส์ Depth f/2.4
- กล้องหลัง 4 ตัว
- 48MP กล้องหลัก f/1.8
- 8MP เลนส์ Ultra Wide f/2.2
- 2MP เลนส์ mono f/2.4
- 2MP เลนส์ mono f/2.4
- รองรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- ขนาดตัวเครื่อง 73.8 x 160.1 x 7.48 มม.
- น้ำหนัก 164 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี Matte Black, Shiny White
- รัน Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7.2
สำหรับสเปค OPPO A93 มาพร้อมสเปคที่ใช้งานได้ดีในกลุ่มราคานี้ด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Helio P95 ความจุเยอะ 8GB + 128GB และแบตเตอรี่ใหญ่ 4000mAh อีกต่างหาก สเปคระดับนี้แต่ได้บอดี้ที่บางเฉียบ 7.48 มม. และเบาแค่ 164 กรัมแบบนี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาแล้วจริง ๆ
ผลคะแนนทดสอบจากสเปคของ OPPO A93 ผ่านแอป AnTuTu Benchmark ก็ออกมาที่ 200,597 คะแนนครับ ถือว่าโอเคในกลุ่มราคานี้เนาะ
เล่น ROV ลื่น ๆ 60fps ตลอดทั้งเกม
ไหน ๆ ก็ทดสอบคะแนนแล้ว เราขอมาลงสนามจริงกับการเล่นเกมกันดีกว่า OPPO A93 มาพร้อมสเปคดีระดับนี้ ถ้าเล่นเกมจริง ๆ จะเป็นอย่างไร โดยเกมที่เราจะใช้ทดสอบวันนี้คือ ROV นั่นเองครับ
คุณภาพกราฟิกนั้นสามารถปรับได้ระดับ UltraHD เลย ส่วนเฟรมเรตสูงก็เปิดได้ด้วย เรียกว่าได้ภาพระดับสูงสุดแล้วล่ะเนอะสำหรับเกมแนว Moba ยอดฮิตนี้
เท่าที่ลองเล่นจริง ๆ ก็ถือว่า OPPO A93 ทำเฟรมเรตได้ดีมากเลย รันได้นั่ง ๆ ที่ 60fps ตลอดทั้งเกม บางจังหวะที่โล่ง ๆ มีเขยิบไป 61fps ด้วยนะ ตัวกราฟิกในเกมก็แสดงผลได้สวยบนหน้าจอ Super AMOLED นี้ครับ ความเบาของตัวเครื่องก็ทำได้ดีจนเราสามารถถือเล่นได้หลาย ๆ แมทช์โดยที่ไม่เมื่อยมือเลย
ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์การใช้งาน
ใช้ ColorOS 7.2 มีลูกเล่นใหม่ ๆ
ในส่วนของซอฟต์แวร์ภายใน OPPO A93 ใช้ Android 10 ที่ครอบทับด้วย ColorOS 7.2 ตัวล่าสุดที่เพิ่มความลื่นไหลให้มากขึ้น พร้อมลูกเล่นใหม่ ๆ อย่าง Icon Pull Down Gesture หรือ Gravity Wallpaper ด้วยครับ
Dark Mode มีให้เลือกปรับ
หรือฟีเจอร์ที่เราคุ้นเคยอย่าง Dark Mode บนรุ่นนี้ก็มีให้เลือกปรับด้วย ซึ่งนอกจากเปิดตลอดแล้วเรายังสามารถเลือกปรับแบบตั้งเวลาได้ด้วย หรือจะเลือกทดลองใช้กับแอป Third Party ได้ด้วยนะ
มี Air Gesture ด้วย
รวมถึงฟีเจอร์เจ๋ง ๆ อย่าง Air Gesture ที่ให้เราผายมือโบกมือเพื่อรับสายโทรสัพท์ได้ด้วย เผื่อมือไม่สะดวกมาแตะที่หน้าจอก็ใช้สั่งงานด้วยท่าทางได้ครับ
หน้าจอ Super AMOLED สีสวยแบบที่หลายคนต้องการ
มาเข้าสู่เรื่องความบันเทิงบน OPPO A93 กันต่อ รุ่นนี้ให้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43” มาพร้อมความละเอียดระดับ FHD+ แสดงผลได้สวยงามมาก เหมาะกับการเอามาดูหนังหรือพวก MV ที่สีสันเด่น ๆ จริง ๆ
นอกจากนี้ตัวหน้าจอยังรองรับ HDR10 ด้วย ทำให้เวลาเราดูคอนเทนต์ HDR บน YouTube หรือ Netflix นั้นรองรับเต็มที่ไม่เสียคุณภาพไป จัดเต็มแบบนี้ถูกใจหลาย ๆ คนแน่นอน
ลำโพงตัวเดียวมีช่องหูฟังด้วยนะ
เรื่องระบบเสียง OPPO A93 ให้ลำโพงมาเพียงตัวเดียวที่ด้านล่างตัวเครื่อง เสียงดังใช้ได้เลย แถมมีช่องกหูฟัง 3.5 มม. มาด้วย เวลาฟังเพลงก็สะดวกดีเสียบผ่านช่องหูฟังได้เลยทันทีครับ
แบตเตอรี่และระบบชาร์จ
แบตเตอรี่ใช้ได้เลยเครื่องบางขนาดนี้
ปิดท้ายกันที่เรื่องของแบตเตอรี่รุ่นนี้ให้แบตฯความจุ 4000 mAh ถือว่าเยอะใช้ได้เมื่อเทียบกับตัวเครื่องที่บางเฉียบขนาดนี้ เท่าที่ลองใช้งานมาจริง ๆ ก็ถือว่าอึดพอตัวเลย ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio P95 ไม่กินพลังงานมากเท่าไหร่ บวกกับการจัดการที่ดีของ ColorOS 7.2 ช่วยให้เราสามารถใช้งานได้อย่างดี ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตฯเลย
รองรับชาร์จไว 18W Fast Charge
ส่วนเรื่องระบบชาร์จไว OPPO A93 ก็รองรับระบบชาร์จไวที่ 18W Fast Charge ทาง OPPO เคลมว่าชาร์จ 5 นาที คุยโทรศัพท์ได้นาน 2 ชม. ชาร์จ 5 นาทีเล่น IG ดู YouTube ได้ 1 ชม.เลยทีเดียว
นอกจากนี้สำหรับคนที่ชอบชาร์จแบตฯทิ้งไว้ข้ามคืน OPPO A93 ก็มาพร้อมระบบ AI Night Charging ที่ช่วยจัดการการชาร์จของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วย AI อัลกอริทึมเรียนรู้เวลาตื่นของเรา โดยจะชาร์จแบตฯให้ถึง 80% แบบปกติจากนั้นก็ค่อย ๆ ปล่อยไฟไปจนก่อนเราจะตื่น 90 นาทีตัวระบบจะอัดไฟจนเต็ม 100% เพื่อเป็นการถนอมแบตไม่ต้องอัดกำลังไฟแบบรวดเดียวในเวลากลางคืนนั่นเอง
สรุป
สรุปแล้วนะ...
สรุปแล้ว OPPO A93 ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางตัวใหม่ของ OPPO A-Series ที่น่าสนใจในหลาย ๆ ด้าน ทั้งดีไซน์ที่สวยงามและบางเบา งานประกอบหรูหราใช้ได้เลย หน้าจอที่สวยด้วย Super AMOLED สูงแสงได้ดี สเปคภายในที่โอเคใช้งานทั่วไปรวมถึงเกมฮิตอย่าง ROV ได้อย่างราบรื่น และที่ขาดไม่ได้คือกล้อง OPPO เก่งเรื่องนี้อยู่แล้ว ใครที่อยากได้มือถือราคาดี ๆ มาถ่ายรูปสนุก ๆ รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลย ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่นที่ถ่ายรูปได้สวย ดีไซน์ลงตัว OPPO A93 คือคำตอบนั้นครับ :D
ราคาและโปรโมชั่น
สำหรับ OPPO A93 ก็เปิดราคาอย่างเป็นทางการแล้วที่ 8,999 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Matte Black และสีขาว Metallic White วางจำหน่ายแล้ววันนี้ !
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite