แกะกล่องและดีไซน์
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ กู๊ดดรีม TexhXcite มาส่งรีวิวมือถือในรุ่นที่หลายคนรอคอย และเป็นรุ่นที่ทำเอาวงการมือถือตื่นตะลึงกันเลยทีเดียวจนกล้ายกให้สิ่งนี้คือนักฆ่าเรือธงที่แท้ทรูไปเลย นั่นคือ Xiaomi Mi 10T Pro มือถือระดับกลาง ที่ขนสเปคตัวท็อปเทียบชั้นเรือธงมาอยู่ในมือถือราคาหมื่นต้น สเปคและการใช้งานจะเป็นอย่างไร ได้มาอยู่ในมือแล้วไม่รอช้ามาแกะกล่องรีวิวไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
สิ่งที่ให้มาในกล่อง
- เครื่อง Xiaomi Mi 10T Pro
- สายชาร์จ USB-C
- อะแดปเตอร์ชาร์จ
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เคสใส
อุปกรณ์ต่างๆถือว่าให้มาครบครัน ขาดแค่เพียงหูฟังที่ไม่มีมาในกล่องซึ่งก็ถือว่าไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะมือถือส่วนใหญ่ก็นำหูฟังออกไปแล้ว การจัดวางในกล่องนั้นเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ที่กล่องไม่มีพลาสติกซีน เป็นการช่วยลดขยะพลาสติกที่จะทำลายสิ่งแวดล้อม
ดีไซน์
สัมผัสแรกหลังจากไล่จับตัวเครื่อง เรื่องน้ำหนักถือว่าหนักพอสมควรแต่ก็ไม่ถึงขั้นว่าหนักจนเกินไป ข้อดีคือมันช่วยให้จับถือได้ถนัดมือ แต่สำหรับคนที่ชอบมือถือไซส์บางน้ำหนักเบาก็อาจจะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่
ฝาหลังเป็นกระจกแวววาวเงาวับ ยิ่งเมื่อสะท้อนเข้ากับแสงแดดจะดูโดดเด่นสวยงามขึ้นมาทีเดียว สีที่ได้มาเป็นสีดำที่ดูเท่ มีเสน่ห์น่าค้นหา สามารถใช้งานได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ถ้าไม่ได้ใส่เคสนิรภัยอาจจะต้องระวังกันสักนิดนึง เพราะฝาหลังค่อนข้างลื่นพอสมควรเลยด้วยความที่เป็นกระจก ถ้าร่วงหล่นขึ้นมาอาจจะเป็นรอยได้ง่าย
กล้อง 3 ตัววางอยู่ที่มุมซ้ายของตัวเครื่อง ตำแหน่งของกล้องค่อนข้างนูนออกมาจากฝาหลังระดับนึง แต่ก็มีขอบสูงล้อมรอบอีกชั้นเพื่อป้องกันการกระแทกที่หน้าเลนส์ มีข้อความคั่นกลางระหว่างกล้องหลักกับก็กล้องตัวรองเป็นคำว่า 108MP Camera เป็นเหมือนการตอกย้ำและแอบขิงเบาๆ ถึงความละเอียดกล้องหลักที่สูงถึง 180 MP ถัดมาที่มุมซ้ายล่างก็เป็นโลโก้ของ Mi ชื่อบริษัทและตอกย้ำถึงการรองรับ 5G
มาดูการจัดวางปุ่มในตำแหน่งต่างๆ กันบ้าง ปุ่ม power และปุ่มโวลลุ่มเพิ่มลดเสียงจะอยู่ฝั่งเดียวกันที่ขอบด้านขวาของตัวเครื่อง ปุ่ม power นั้นเป็นแถบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปในตัว ซึ่งส่วนตัวคิดว่าตำแหน่งสแกนลายนิ้วมือจุดนี้เป็นตำแหน่งที่สะดวกต่อการปลดล็อคเครื่องมากที่สุด และสามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนขอบด้านซ้ายและบนไม่มีปุ่มและพอร์ตการใช้งานอะไร มาดูที่ด้านล่างกันเลยดีกว่าบริเวณฐาน มีลำโพงมาให้ 1 ฝั่ง ตามด้วยพอร์ตชาร์จ USB-C และตำแหน่งของถาดซิม
ถาดซิมรองรับ 2 ซิมการ์ดหน้าหลังแบบนาโนซิม ใครหาเข็มจิ้มถาดซิมไม่เจอ มันจะถูกเหน็บอยู่ที่กล่องใส่คู่มือ
หน้าจอให้ขนาดมาอยู่ที่ 6.67 นิ้ว เป็นรูปแบบจอแสดงผล IPS-LCD รองรับอัตรา refresh rate อยู่ที่ 144 Hz ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากๆทีเดียวเมื่อเทียบกับราคาของ Mi 10T Pro และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้
ตำแหน่งของกล้องหน้าอยู่บริเวณมุมซ้ายของหน้าจอ เป็นรูปแบบ Punch Hole Display หรือหน้าจอที่เจาะรูเล็กๆ เพื่อไม่ให้รบกวนการใช้งานหน้าจอ ซึ่งจากการใช้งานจริงรูปแบบกล้องหน้าเจาะรูแบบนี้ไม่ใช่ปัญหาในการใช้งานเลย
โดยรวมเรื่องของดีไซน์ อาจจะไม่ได้มีความโดดเด่นหรือแตกต่างจากรุ่นก่อนๆเท่าไหร่นัก เน้นความเรียบง่ายหรูหราน่าใช้งาน น่าเสียดายนิดๆ ตรงที่ไม่มีช่องเสียบหูฟังมาให้ ซึ่งเป็นสิ่งที่มือถือรุ่นใหม่หลายรุ่นตัดทิ้งไปแล้ว โดยในกล่องก็ไม่ได้แถมสายเชื่อมต่อ Jack 3.5 มาให้ด้วย
สเปคการใช้งาน
- หน้าจอ IPS-LCD 6.67 นิ้ว
- อัตรา Refresh Rate หน้าจอ 144Hz
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 865 ความเร็ว 2.84 GHz
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 บนพื้นฐาน Android 10.0
- RAM 8GB
- ความจุ 128GB
- กล้องหน้า 20MP
- กล้องหลัง 3 ตัว
- 108MP กล้องหลัก
- 15MP เลนส์ Ultra-Wide
- 5MP เลนส์ Mono
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จไว 33W
สำหรับสเปคที่ให้มาถ้าไม่รู้มาก่อน มองแว๊บๆอาจจะคิดว่านี่คือสเปคมือถือเรือธงได้ อย่างแรกเลยคือ CPU ที่เป็น Snapdragon 865 ซึ่งเป็น chipset เรือธง ส่วนใหญ่มักถูกบรรจุอยู่ในมือถือตัวท็อปของแต่ละรุ่น แต่ Mi 10T Pro ก็ยังได้ครอบครองชิปเซ็ตตัวนี้มาช่วยในการประมวลผล นอกจากนี้ยังมีกล้องหลักความละเอียดสูงสุด 108MP หน้าจอ Refresh Rate 144Hz ซึ่งส่วนใหญ่มักมีเฉพาะในมือถือราคาสองหมื่นขึ้น จัดว่าเป็นสเปคที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
การเล่นเกมส์
เห็นสเปคกันไปแล้วให้ Snapdragon 865 มาขนาดนี้ เรื่องของการประมวลผลและการเล่นเกมต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ซึ่งเกมที่เลือกโหลดมาเล่นนั้น เป็นเกมที่ค่อนข้างมีการแสดงผลที่คมชัด เอฟเฟกต์สูงและเป็นเกมยอดนิยมในตอนนี้
Call of Duty
เริ่มเกมแรกกับ call of duty เกมนี้จะได้ใช้ประสิทธิภาพของจอ 144Hz แบบเต็มที่ ก็ต้องอาศัยความลื่นไหลในการควบคุมการเคลื่อนไหว ทิศทางการเดิน และความไวในระบบสัมผัส โดยในเกมนี้เรื่องของภาพกราฟิกทำได้ดี คมชัดสวยงามเพลินตา ความลื่นของจอไม่ต้องพูดถึงสามารถบังคับได้อย่างแม่นยำทั้งทิศทางการเดินและการเล็งเป้าหมายไปที่ศัตรู ตลอดทั้งเกมไม่เจอสภาวะเครื่องหน่วงหรือกระตุกเลยแม้แต่น้อย โดยรวมเกมนี้ถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว
ROV
นี่คืออีกหนึ่งเกมยอดนิยมที่คนฮิตเล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง สิ่งสำคัญเลยคือการประมวลผลที่ลื่นไหล เพราะถ้าเครื่องเกิดหน่วงหรือกระตุกแม้แต่นิดเดียวก็อาจจะพาให้หัวร้อนเล่นไม่สนุกได้ การโหลดเข้าเกมสามารถทำได้ไว ความแม่นยำในระบบสัมผัสก็ยังคงทำได้ดีเช่นเดียวกันในเกมนี้ จังหวะการปล่อยสกิล เอฟเฟคต่างๆ สวยงาม บวกกับจอที่ใหญ่ถึง 6.67 นิ้ว ช่วยให้การเล่นเกมนั้นสนุกและเพลินกว่าจอเล็กๆ กว่ามากทีเดียว
Survival Hero
สำหรับเกมนี้จะเป็นการทดสอบความอึดของแบตเตอรี่ และความลื่นไหลในการประมวลผล เพราะการเล่นเกมแต่ละตาจะใช้เวลาค่อนข้างมาก ถ้าเครื่องทำได้ไม่ดีพอก็จะพบเจอกับอาการฝาหลังร้อน เครื่องอุ่น และอาจจะค้างได้ เมื่อได้ลองเล่นเกมนี้ไป 1 ตาใช้เวลาประมาณ 20 นาที เมื่อจบเกมเครื่องอุ่นนิดๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นร้อนอะไร มากมาย ส่วนแบตเตอรี่ก็ลดลงไปพอสมควร ส่วนเรื่องความสวยงามของเอฟเฟกต์ยังคงทำได้ดี
ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์การใช้งาน
ใน Mi 10T Pro ใช้ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 บนพื้นฐาน Android 10.0 ซึ่งมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆทั้งเรื่องของดีไซน์และความปลอดภัยในการใช้งานที่มากกว่าเดิม ลักษณะไอคอนที่หน้าจอหลักจะเป็นสี่เหลี่ยม ใช้งานสะดวก
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Dark Mode 2.0 ที่สามารถใช้งานร่วมกับแอปอื่นๆได้ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า Dark Mode แบบอัตโนมัติโดยพื้นหลังจะค่อยๆเปลี่ยนสีหม่นลงเรื่อยๆ ตามช่วงเวลาของวันได้อีกด้วย
เรื่องความปลอดภัยใน Mi 10T Pro ก็รองรับการปลดล็อคด้วยรหัสผ่าน เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รายการสแกนใบหน้าเพื่อเข้าถึงตัวเครื่อง ซึ่งความไวและความแม่นยำในเซ็นเซอร์ทั้งสแกนลายนิ้วมือและใบหน้าทำได้ดี เข้าถึงตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ฟีเจอร์อื่น
- Dark Mode
- โหมดประหยัดพลังงาน
- โหมดทำความสะอาดขยะในตัวเครื่อง
- การแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน
- Find my Phone
- โหมดถนอมสายตา
- Mi Share
กล้อง
กล้องของ Mi 10T Pro ให้กล้องหลักความละเอียดสูงถึง 180 ล้านพิกเซล แน่นอนว่าเราแทบไม่เห็นมือถือรุ่นกลางที่ให้ความละเอียดกล้องมาสูงถึงขนาดนี้ สามารถซูมได้ 2 ระยะ มาพร้อมกล้องเลนส์ wide angle เพื่อการถ่ายภาพในมุมมองกว้าง และเลนส์ Mono
- 108MP กล้องหลัก
- 15MP เลนส์ Ultra-Wide
- 5MP เลนส์ Mono
มาดูตัวอย่างภาพถ่ายกัน
นี่คือการประสิทธิภาพการซูมทั้ง 3 ระยะ เริ่มจากรูปแรกคือมุมมอง Ultra-Wide ตามด้วย Normal และมุมมองซูม 2X
เปรียบเทียบระยะเลนส์ Wide และ Normal
ตัวอย่างภาพจาก Mi 10T Pro
กล้องหน้า 20MP
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่ใน Mi 10T Pro ให้มาอยู่ที่ 5000 มิลลิแอมป์รองรับชาร์จไวที่ 33W จากการใช้งานจริงความเร็วในการชาร์จถือว่าทำได้ดี ส่วนแบตเตอรี่ถ้าเล่นเกมที่กราฟิกสูงมากๆแบบก็ถือว่าหมดเร็วเหมือนกัน ใครที่ต้องการเล่นเกมโดยคงแบตเตอรี่ให้นานแนะนำให้ลดรายละเอียดเกมลง อย่างเช่นเฟรมเรตหรือความละเอียดภาพก็จะช่วยให้แบตเตอรี่นั้นใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม นอกจากนี้การใช้งานทั่วไปมีโหมดประหยัดแบตเตอรี่ที่จะยิ่งช่วยเซฟพลังงานเครื่องให้อีกด้วย
สรุปการใช้งาน
Mi 10T Pro เป็นมือถือที่ทำให้เราได้ยินคำว่านักฆ่าเรือธงอีกครั้ง ด้วยสเปคที่ใช้พลังงานจากวัสดุตัวท็อปมากมาย ทั้ง CPU เรือธง Snapdragon 865 หน้าจอ refresh rate 144 Hz รวมไปถึงความละเอียดกล้องหลักที่ให้มามากถึง 108 MP ใครที่กำลังมองหามือถือรุ่นคุ้มค่าราคาดี ได้สเปคใกล้เคียงเรือธง Mi 10T Pro เป็นมือถือที่ตอบโจทย์ที่สุดแล้วในตอนนี้ โดยวางขายในราคาเริ่มต้นเพียง 13,990 บาทเท่านั้น
จุดเด่น
- หน้าจอ refresh rate 144 Hz
- chipset Snapdragon 865
- แบตเตอรี่ 5000 mAh
- กล้องหลัก 108MP
จุดสังเกต
- ไม่มีช่องเสียบหูฟัง
- ตัวเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนัก