แกะกล่อง OPPO 5G Now
Unbox : แกะกล่องพรีวิว OPPO Reno4 Z, Reno4 Pro และ Find X2 Pro สามสมาร์ทโฟน 5G จาก OPPO ครบทุก Segment ทุกกลุ่มราคา !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความแกะกล่องมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เรามีสมาร์ทโฟน 5G จาก OPPO มาแกะกล่องให้ชมกัน แต่ไม่ใช่แค่ 1 เพราะมาด้วยกัน 3 รุ่นเลย ประกอบด้วย OPPO Reno4 Z 5G, OPPO Reno4 Pro 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G ทั้ง 3 รุ่นนี้เรียกว่าออกมาครบทุกกลุ่มราคาของมือถือ 5G เลยก็ว่าได้ครับ และวันนี้เราก็ได้กล่องแบบเวอร์ชั่นพิเศษมาด้วย น่าสนใจแค่ไหนมาติดตามพร้อม ๆ กันเลยครับ :)
กล่องใหญ่ OPPO 5G Now
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าแพ็กเกจที่เราจะแกะกล่องให้ชมนี้เป็นกล่องพิเศษที่ทำขึ้นมาให้สื่อแกะกล่องเท่านั้นเนาะ ชุดขายจริงไม่มีแบบนี้นา ที่หน้ากล่องจะระบุไว้ชัดเจนว่า OPPO 5G Now เพื่อเป็นการนำเสนอว่า 5G ของ OPPO พร้อมแล้ว !
เปิดขึ้นมาเราจะเจอกับชุดกล่องที่วางเรียงกันไว้ 3 เครื่อง ที่ฝากล่องจะมีระบุคำนำเสนอว่า Your 5G Experience Starts Here หรือ ประสบการณ์ 5G ของคุณเริ่มขึ้นจากที่นี่ ส่งต่อมาถึงเครื่องที่วางอยู่ด้านล่างนี้
ซึ่ง 3 เครื่องที่เราจะมาแกะกล่องให้ชมกันวันนี้ก็จะมีครบทุก Segment ทุกกลุ่มราคากันเลยประกอบด้วย
- OPPO Reno4 Z 5G สุดยอดสมาร์ทโฟน 5G ระดับกลางในราคาที่คุ้มค่า
- OPPO Reno4 Pro 5G สุดยอดสมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายวิดีโอได้ดีที่สุด
- OPPO Find X2 Pro 5G สีใหม่ Green Vegan Leather Edition สุดยอดสมาร์ทโฟน 5G ที่เร็วที่สุด
แต่ละรุ่นจะเป็นอย่างไรบ้าง เดี๋ยวเราแกะกล่องให้ชมเป็นรุ่น ๆ เลยดีกว่าครับ
OPPO Reno4 Z 5G
แกะกล่อง OPPO Reno4 Z 5G
เริ่มต้นกันที่ OPPO Reno4 Z 5G กันก่อนเลย รุ่นกลางในราคาคุ้มค่าที่ว่า มาพร้อมกล่องทรงมาตรฐานของ Reno4 Series ใช้สีเขียวอมฟ้า มีระบุชื่อรุ่นที่ด้านหน้าชัดเจนและมีลวดลายคำว่า “Reno” ซ่อนอยู่ด้วยเมื่อวางเครื่องในแนวนอน
ที่มุมของตัวเครื่องจะมีระบุความจุซึ่ง OPPO Reno4 Z 5G จะมีความจุ 8GB + 128GB ครับ
และที่ขาดไม่ได้ก็คือโลโก้ 5G เพื่อยืนยันว่ารุ่นนี้สามารถใช้งาน 5G ในบ้านเราได้แน่นอนครับ
ยกกล่องชั้นแรกขึ้นมาเราจะเจอกับกล่องภายในที่เป็นสีขาวล้วนพร้อมโลโก้ OPPO ครับ
ภายในเราจะเจอกับกล่องเล็กอีกหนึ่งกล่องที่ข้างในนี้จะมีชุดอุปกรณ์เสริม 3 อย่างดังนี้
- คู่มือการใช้งาน
- เคสซิลิโคนใส
- เข็มจิ้มถาดซิม
ต่อมาเราจะเจอกับตัวเครื่อง OPPO Reno4 Z 5G ที่อยู่ในซองอย่างดี ที่หน้าซองจะมีฟีเจอร์เด่นระบุไว้ชัดเจน ของรุ่นนี้มีด้วยกัน 5 จุดเด่นหลัก ๆ คือ
- Dual mode 5G
- 120Hz Silky Display
- Dual-lens Front Camera
- 48MP Ultra-wide Quad Camera
- 8GB + 128GB
อีกชั้นลงไปเราจะเจอกับอุปกรณ์เสริมอีก 3 อย่างคือ อะแดปเตอร์ชาร์จไฟที่ของ OPPO Reno4 Z 5G นั้นจะรองรับชาร์จไวที่ 18W ครับ ไซซ์มาตรฐานแบบนี้เลย
สายชาร์จก็เป็นแบบ Usb type-C to type-A มาตรฐานเช่นกันครับ
มีหูฟังแถมมาในกล่องด้วย โดยพอร์ตก็จะเป็นแบบแจ็ค 3.5 มม. ครับ แสดงว่ารุ่นนี้มีช่องหูฟังมาให้ใช้ด้วยนะจ๊ะ เย่ !
ครบเรียบร้อย เบ็ดเสร็จอุปกรณ์ภายในกล่องของ OPPO Reno4 Z 5G ก็จะมีทั้งหมด 7 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง OPPO Reno4 Z 5G
- เคสซิลิโคน
- อะแดปเตอร์ชาร์จ (รองรับ 18W)
- สายชาร์จ
- หูฟัง (แจ็ค 3.5 มม.)
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เอกสารคู่มือ
แรกสัมผัส OPPO Reno4 Z 5G
มาดูที่ดีไซน์ของ OPPO Reno4 Z 5G กันเลย ตัวเครื่องดีไซน์สวยงามและเข้ามือดีมาก ๆ รุ่นนี้ได้หน้าจอ IPS แบบแบนขนาดใหญ่ถึง 6.57” แสดงผลได้เต็มตาบนอัตราส่วน 20:9 ความละเอียด FHD+ ในเรื่องสีสันความสวยงามทำได้ดีเลยครับ สีขาวเป็นขาวจริง ๆ ไม่อมเหลือง
หน้าจอ 120Hz Silky Display
OPPO Reno4 Z 5G มาพร้อมจอลื่น ๆ 120Hz Silky Display มี refresh rate สูงถึง 120Hz เรียกว่าจอนี่ระดับเรือธงเลย ช่วยให้การตอบสนองในการใช้งานดีมาก ทัชลื่นสุด ๆ
ส่วนดีไซน์ของหน้าจอก็จะใช้แบบ Dual punch-hole Display มีรูกล้องหน้าอยู่ 2 ตัวที่มุมซ้ายบนแบ่งเป็นกล้องหลัก 16MP และเลนส์ Depth อีก 2MP ครับ
บอดี้สวยหรูแบบ 2.5D และความบางเฉียบที่น่าสัมผัส
OPPO Reno4 Z 5G มาพร้อมความบางเพียง 8.1 มม. เท่านั้น ตัวเครื่องจะถูกออกแบบมาให้มีความโค้งเล็ก ๆ ที่มุมตัวเครื่องรวมถึงที่ด้านหน้า-หลังด้วย ช่วยให้สวยและเหมาะมือดีมาก ๆ
ฝาหลังผิวด้านพร้อมไล่เฉดสีสวย
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลัง OPPO Reno4 Z 5G มาพร้อมกับฝาหลังผิวด้านที่ให้ความรู้สึกเวลาสัมผัสที่ดีเยี่ยม ไม่เก็บรอยนิ้วมือ แถมยังมีลูกเล่นไล่เฉดสีเวลากระทบกับแสงได้เป็นอย่างดีอีกต่างหาก สีที่เราได้มารีวิวนี้ก็คือสี Dew White สวยเนอะ
ดีไซน์กล้องโดดเด่นสะดุดตา
การจัดวางเลนส์ของ OPPO Reno4 Z 5G มีการจัดวางได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกถึงความลึกตื้น มีมิติของลำดับชั้นหลายชั้นด้วยกัน พร้อมวางเลนส์ทั้ง 4 อยู่รอบไฟแฟลชตรงกลาง ฉีกรูปแบบการออกแบบเดิม ๆ ได้อย่างลงตัวดีจริง ๆ ครับ ส่วนกล้องหลักของรุ่นนี้ก็ความละเอียดสูงถึง 48MP กันเลยล่ะ
มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power
ที่ด้านข้างตัวเครื่องฝั่งขวาเราจะเห็นปุ่ม Power ที่มีความเว้าลงไปนิดหน่อย ตรงนี้จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ภายในด้วย ออกแบบมาให้แตะกดได้ง่ายดีแบบนี้
พอร์ตการเชื่อมต่อทั้งหมดจะอยู่ด้านล่าง และอย่างที่บอกไปรุ่นนี้มีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ด้วย ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อหลักก็เป็น USB type-C ละ
ส่วนช่องใส่ซิมจะอยู่ที่มุมซ้ายครับ ถาดซิมของรุ่นนี้จะเป็นแบบ Dual-Slot ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้นะครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OPPO Reno4 Z 5G ก็ถือว่าออกแบบมาดีเลยครับ เลนส์กล้องวางสวยโดดเด่นแปลกตา บอดี้สวยดูหรูหรา ความฝาหลังด้านก็ช่วยให้ถือใช้งานได้อย่างเนียนมือ รวมถึงจุดเด่นเรื่องหน้าจอ 120Hz นี่ก็แจ่มจริง ๆ นะจะบอกให้
รองรับ 5G Dual-mode
ในส่วนของสเปค OPPO Reno4 Z 5G จัดว่าเป็นรุ่นกลางที่สเปคดีมาก ได้หน่วยประมวลผล Dimensity 800 ที่รองรับ 5G แบบ Dual-mode คือใช้ได้ทั้ง SA และ NSA จัดสรรพพลังงานได้เป็นอย่างดี ใส่ซิมปุ๊บโลโก้ 5G ก็ขึ้นปั๊บ รุ่นนี้พร้อมใช้งาน 5G ตั้งแต่แกะกล่องแน่นอนครับ
สเปค OPPO Reno4 Z 5G
- หน้าจอ IPS ขนาด 6.57” ความละเอียด FHD+
- อัตราส่วน 20:9, refresh rate 120Hz
- ซีพียู Dimensity 800 5G Octa-Core (7nm)
- จีพียู Mali-G57 MC4
- แรม 8GB
- ความจุ 128GB
- ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้
- แบตเตอรี่ 4000mAh
- รองรับชาร์จไว 18W
- กล้องหน้าคู่ 16MP + 2MP
- กล้องหลัง 4 ตัว
- 48MP กล้องหลัก f/1.7
- 8MP เลนส์ Ultra Wide Angle f/2.2
- 2MP เลนส์ macro f/2.4
- 2MP เลนส์ Depth f/2.4
- รัน Android 10 ครอบด้วย ColorOS 7.1
- ขนาดตัวเครื่อง 163.8 x 75.5 x 8.1 มม.
- น้ำหนัก 184 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี Ink Black, Dew White
ราคา OPPO Reno4 Z 5G
สำหรับ OPPO Reno4 Z 5G จะวางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท รับของแถมเป็น บัตร E-VIP และ OPPO Goft Set มูลค่ารวม 6,699 บาท
OPPO Reno4 Pro 5G
แกะกล่อง OPPO Reno4 Pro 5G
มาต่อที่รุ่นไฮเอนด์อย่าง OPPO Reno4 Pro 5G กันบ้าง ที่หน้ากล่องก็มีดีไซน์แบบเดียวกับของ OPPO Reno4 Z 5G ครับ แต่ชื่อรุ่นเด่น ๆ เปลี่ยนเป็น OPPO Reno4 Pro เนาะ
ส่วนความจุของรุ่นนี้ได้มาเยอะถึง 12GB + 256GB เลย ไฮเอนด์ไม่น้อยเลยล่ะ
กล่องเป็นแบบ 2 ชั้นเหมือนกัน เปิดขึ้นมาเราจะเจอกับกล่องขาวภายในอีกหนึ่ง และมีกล่องชั้นเล็กอยู่ภายในกล่อง
ซึ่งภายในก็จะมีอุปกรณ์เสริมอย่าง เคสซิลิโคน, เข็มจิ้มถาดซิม และคุ่มือการใช้งานคร้บ
ตัวเครื่องจะอยู่ถัดลงไปอยู่ในซองอย่างดี ที่หน้าซองจะมีฟีเจอร์เด่นประกอบด้วย
- Ultra Night Wide-angle Video
- 65W SuperVOOC 2.0
- Qualcomm Snapdragon 765G
- 7.6mm Ultra Slim Body
- 90Hz 3D Curved Screen
และชุดชาร์จกับหูฟังอยู่ถัดลงไปเหมือนเดิม แต่ทีเด็ดกว่าของ OPPO Reno4 Pro 5G ก็คือได้อะแดปเตอร์ชาร์จไว SuperVOOC 2.0 65W มาให้เลย ขนาดก็จะใหญ่กว่าทั่วไปนิดหน่อย
สายชาร์จก็เป็นแบบมาตรฐาน USB type-C to type-A และรองรับ SuperVOOC 2.0 มีโลโก้ SuperVOOC อยู่บนตัวสายชาร์จด้วย
ส่วนหูฟังของรุ่นนี้ยังมีทรงคล้ายกับของ OPPO Reno4 Z 5G แต่ตัวพอร์ตจะเป็นแบบ USB type-C แทนครับ
เบ็ดเสร็จแล้วของที่ให้มาในกล่องของ OPPO Reno4 Pro 5G ก็มีมาให้ 7 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง OPPO Reno4 Pro 5G
- เคสซิลิโคน
- อะแดปเตอร์ชาร์จ (รองรับ 65W)
- สายชาร์จ
- หูฟัง (พอร์ต USB type-C)
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เอกสารคู่มือ
แรกสัมผัส OPPO Reno4 Pro 5G
สิ่งแรกที่รู้สึกได้เมื่อหยิบ OPPO Reno4 Pro 5G ขึ้นมาก็คือน้ำหนักเบามาก เป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่ดูเพรียวบางแบบสุด ๆ ตามสเปคแล้วรุ่นนี้จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 172 กรัมเท่านั้น ซึ่งหาได้ยากบนสมาร์ทโฟนยุคนี้ที่มักจะมีแต่หนักขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนความบางก็เพียง 7.6 มม. ใครที่ชอบความบางเฉียบและน้ำหนักเบาพกพาง่าย ถ้าได้ลองจับ OPPO Reno4 Pro 5G คงต้องตกหลุมรักกันอย่างแน่นอน Ultra Slim Body ของแท้เลยรุ่นนี้
หน้าจอโค้ง 3D refresh rate 90Hz
ดีไซน์หน้าจอของ OPPO Reno4 Pro 5G จะมาพร้อมกับจอ AMOLED โค้งแบบ 3D ขนาดใหญ่ถึง 6.5" ให้ความรู้สึกที่พรีเมี่ยมเหนือขึ้นมาอีกด้วยการตอบสนองแบบลื่นไหลระดับ 90Hz refresh rate
ดีไซน์ Punch-hole Display มีลำโพง Stereo คู่
OPPO Reno4 Pro 5G ใช้ดีไซน์แบบ Punch-hole Display มีรูกล้องหน้าความละเอียด 32MP ฝังอยู่ที่มุมซ้ายบน และที่เหนือหน้าจอขึ้นไปเราจะเห็นแถบลำโพงสนทนาซึ่งรุ่นนี้สามารถใช้งานร่วมกับลำโพงหลักของตัวเครื่องเป็นลำโพง Stereo คู่ได้ด้วยนะ เยี่ยมมาก ๆ
มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
และแน่นอนว่าการที่ใช้หน้าจอแบบ AMOLED ก็เลยมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอหรือ Hidden Fingerprint Unlock มาให้ด้วย สแกนได้แบบเท่ ๆ และรวดเร็วแบบสุด ๆ
ดีไซน์ฝาหลังสวยเด่นแบบ Reno Glow
OPPO Reno4 Pro 5G ที่เราได้มาเป็นสี Galactic Blue ซึ่งจะมีความสวยเด่นและพื้นผิวที่เป็นเอกลักษณ์ มีความด้านของฝาหลังพร้อม Texture แบบผิวทรายที่มีความระยิบระยับขึ้นเมื่อมีการสะท้อนกับแสงหรือสัมผัส และรอบนี้ OPPO ยังเพิ่มตัวอักษรคำว่า Reno Glow เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับฝาหลังดูโดดเด่นขึ้นไปอีกด้วยครับ
กล้องหลัง 3 ตัวพร้อม LDAF
ส่วนกล้องหลังของ OPPO Reno4 Pro 5G ก็จะให้มาด้วยกัน 3 ตัวพร้อม LDAF เลเซอร์จับภาพโฟกัสที่เหนือชั้นกว่า ช่วยให้เราได้ถ่ายภาพได้อย่างแม่นยำในทุกสภาพแสง และทีเด็ดของรุ่นนี้จริง ๆ ก็คือมีโหมด Ultra Night Wide-angle Video ที่จะมาเติมเต็มการถ่ายวิดีโอแสงน้อยในมุมกว้างให้ดียิ่งขึ้นด้วย
ดีไซน์ตัดเหลี่ยมบน-ล่างเพิ่มความพรีเมี่ยม
ดีไซน์ด้านบน-ล่างของ OPPO Reno4 Pro 5G จะเป็นแบบตัดเหลี่ยมเพื่อเพิ่มความพรีเมี่ยมขึ้นไปอีก พอร์ตการเชื่อมต่อหลักจะอยู่ที่ด้านล่างเพียงแค่พอร์ต USB type-C เท่านั้น ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้แล้วเนอะ
ปุ่มกดก็จะแยกฝั่งกัน ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ฝั่งซ้ายและปุ่ม Power อยู่ฝั่งขวา มีแถบสีเขียวอยู่บนปุ่มเพิ่มความโดดเด่นเข้าไปอีกนิดหน่อยด้วยนะ
ถาดซิมของ OPPO Reno4 Pro 5G ยังคงเป็นแบบ Dual-SIM ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้ครับ แต่ในเครื่องก็ให้มาเยอะถึง 256GB แล้ว เหลือเฟือแหละแบบนี้
สรุปแล้วในเรื่องดีไซน์ OPPO Reno4 Pro 5G ก็ถือว่าออกแบบมาได้สวยงามพรีเมี่ยมมาก ๆ ทั้งหน้าจอ AMOLED แบบ 3D ที่อยู่บนตัวเครื่องที่เพรียวบางเป็นอย่างมาก ช่วยให้การจับถือใช้งานนั้นดูเข้ามือมาก ๆ ฝาหลังสี Galactic Blue ที่เราชื่นชอบตอน OPPO Reno4 พอมาอยู่บนรุ่นนี้ที่มีเพิ่มลวดลายคำว่า Reno Glow เข้ามาอีกก็ยิ่งสวยและดูแพงไปอีก
สเปค OPPO Reno4 Pro 5G
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.5” ความละเอียด FHD+
- อัตราส่วน 20:9, refresh rate 90Hz
- ซีพียู Snapdragon 765G Octa-Core (7nm)
- จีพียู Adreno 620
- แรม 12GB
- ความจุ 256GB
- ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้
- แบตเตอรี่ 4000mAh
- รองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0
- กล้องหน้า 32MP
- กล้องหลัง 3 ตัว
- 48MP กล้องหลัก f/1.7
- 13MP เลนส์ Tele 2x f/2.4
- 12MP เลนส์ Ultra Wide-angle f/2.2
- Triple LDAF
- รัน Android 10 ครอบด้วย ColorOS 7.2
- ขนาดตัวเครื่อง 159.6 x 72.5 x 7.6 มม.
- น้ำหนัก 172 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี Galactic Blue (Reno Glow), Space Black (Hilight)
อย่างที่เห็นว่าสเปคของ OPPO Reno4 Pro 5G นั้นไม่ธรรมดาเลย ได้หน่วยประมวลผลตัวแรงอย่าง Snapdragon 765G ความจุเยอะถึง RAM 12GB + ROM 256GB ใช้งานได้อย่างล้นเหลือแบบสุด ๆ
รองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0
แต่สิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือระบบชาร์จ เพราะ OPPO Reno4 Pro 5G รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 เปิดประสบการณ์การชาร์จไวระดับเรือธง ลดเวลาการชาร์จลงไปครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ 30W VOOC 4.0 ของ OPPO Reno3 Pro เดิม สามารถชาร์จแบตฯ 4000mAh ได้เต็มในเวลาเพียง 36 นาทีเท่านั้น โอ้โห !
ราคา OPPO Reno4 Pro 5G
OPPO Reno4 Pro 5G สุดยอดสมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายวิดีโอได้ดีที่สุด เปิดราคามาที่ 24,990 บาท
รับของแถมเป็น บัตร E-VIP และ OPPO Enco M31 มูลค่ารวม 10,699 บาท
OPPO Find X2 Pro 5G (Green Vegan Leather)
แกะกล่อง OPPO Find X2 Pro 5G (Green Vegan Leather Edition)
และรุ่นสุดท้ายที่เราจะมาแกะกล่องให้ชทก็คือ OPPO Find X2 Pro 5G นั่นเอง แต่รอบนี้ไม่ใช่ OPPO Find X2 Pro 5G ตัวเดิมที่เคยแกะกล่องหรือรีวิวไปก่อนหน้านี้หรอกนะ เพราะในกล่องนี้เป็นเครื่องสีใหม่ Green Vegan Leather Edition นั่งเองจ้า !
ซึ่งหน้ากล่องก็ยังเหมือนเดิม ดีไซน์พรีเมี่ยมมีความระยิบระยิบพร้อมลวดลายสามเหลี่ยมสีน้ำเงินซ้อนกันอยู่อย่างเป็นระเบียบพร้อมตัวหนังสือสีทองบนตัวกล่อง และแน่อนที่ด้านหลังระบุไว้ชัดเจน สี "Green" นะจ๊ะ
ด้วยความเป็นซีรีส์เรือธง เราจะเห็นว่าตัวกล่องจะมาในโทรดำแทนสีขาวต่างจากอีก 2 รุ่นที่เราได้แกะไปเนาะ ภายในจะมีกล่องเล็กที่ใส่อุปกรณ์เสริมเหมือนเดิมประกอบด้วย
ตัวเคสซิลิโคน, เข็มจิ้มถาดซิม และเอกสารคู่มือและใบรับประกัน ซึ่งความเป็นเรือธงก็ต้องพิเศษอีกหน่อย OPPO Find X2 Pro 5G นี้มีเอกสารใบรับประกันยืนยันว่ารับประกันตัวเครื่องแบบ International Warranty สามารถเข้าศูนย์บริการ OPPO ได้ทั่วโลกหากเกินปัญหาครับ
ถัดลงไปเราจะเจอตัวเครื่อง OPPO Find X2 Pro 5G สีใหม่ Green Vegan Leather Edition อยู่ในซองอย่างเป็นระเบียบ สีเขียวนวลดีจริง ๆ
ถัดลงไปอีกในกล่องเราจะเจอกับอุปกรณ์เสริมอีกชุด มีหูฟัง In-Ear แบบ USB type-C ที่ดูพรีเมี่ยมดีเลยล่ะ ใช้สีดำตัดกับสีเขียว
และในกล่องหูฟังนี้ก็จะมีสายชาร์จ USB type-C to type-A อยู่ด้วย มีสลักคำว่า VOOC ลงไปด้วย แน่นอนรองรับชาร์จไวของ OPPO ด้วยสายนี้
และสุดท้ายเป็น อะแดปเตอร์ชาร์จ 65W SuperVOOC 2.0 รูปร่างหน้าตาคล้ายของ OPPO Reno4 Pro 5G แต่ของรุ่นนี้จะมีแถบสีเหลืองเพิ่มเข้ามาด้วยครับ
เบ็ดเสร็จแล้ว OPPO Find X2 Pro 5G สี Green Vegan Leather นี้ก็ให้อุปกรณ์มาตามมาตรฐาน 7 อย่างด้วยกันประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง OPPO Find X2 Pro 5G
- เคสซิลิโคน
- อะแดปเตอร์ชาร์จ (รองรับ 65W)
- สายชาร์จ
- หูฟัง (พอร์ต USB type-C)
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เอกสารคู่มือ
ยลโฉม OPPO Find X2 Pro 5G Green Vegan Leather Edition
ได้เวลายลโฉมตัวเครื่องแบบชัด ๆ กันแล้ว OPPO Find X2 Pro 5G Green Vegan Leather Edition หรือสีเขียวใหม่นี้จะมาพร้อมกับวัสดุแบบหนังเทียมคล้ายกับสี Orange Vegan Leather ครับ ผิวสัมผัสมีความเนียน นุ่มมือดีมาก ๆ ทำให้เราอยากถือเครื่องโดยที่ไม่ใส่เคสเป็นอย่างยิ่ง
ตัวสีเขียวจะมีความตุ่น ๆ หน่อยให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติ งานประกอบดีมาก ๆ รับรู้ได้ถึงความพิถีพิถันในการผลิตอย่างแท้จริง และเห็นฝาหลังเป็นหนังแบบนี้แต่ก็มาพร้อมความสามารถกันน้พกันฝุ่น ทนต่อความชื้น รวมถึง การสึกหรอได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
สีเขียวโอบล้อมตัวเครื่อง ละมุนไปหมด
รอบ ๆ ตัวเครื่องก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวทั้งหมดด้วย รวมถึงวัสดุกรอบเครื่องที่เปลี่ยนมาเป็นโลหะผิวด้าน (บนสี Black และ Orange เป็นแบบมันวาว) ซึ่งสัมผัสแล้วเนียนมือมาก เข้ากับฝาหลังที่เป็นผิวนุ่ม ๆ แบบที่สุด
หน้าจอที่ดีที่สุดบน 120Hz
และแน่นอนว่าที่หน้าจอของ OPPO Find X2 Pro 5G ก็ยังคงสวยงามไม่เปลี่ยน มาพร้อมจอ 10bit แสดงผลสีได้กว่า 1,000,000,000 สี แถมความละเอียดยังคมชัดที่ระดับ QHD+ มีค่า refresh rate สูง 120Hz อีกต่างหาก ยังคงเป็นจอที่ยอดเยี่ยมที่สุดเหมือนเคยครับ
กล้องที่เหนือชั้นด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX689
และกล้องที่โดดเด่นด้วยเซ็นเซอร์หลัก Sony IMX689 ความละเอียด 48MP และเลนส์อีก 2 ตัวที่เก็บภาพได้อย่างครบช่วงตั้งแต่ มุมกว้างไปจนถึงซูมสุด 60x โดยมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้
- 48MP กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX689 1/1.43" f/1.7
- 48MP เลนส์ Ultra Wide Angle เซ็นเซอร์ IMX586 f/2.2 120 องศา
- 13MP เลนส์ Periscope 5x (รองรับ Hybrid Zoom 10x, Digital Zoom 60x, และ VDO Zoom 30x)
สเปค OPPO Find X2 Pro 5G Green Vegan Leather Edition
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78” ความละเอียด QHD+
- อัตราส่วน 19.8:9, refresh rate 120Hz
- ซีพียู Snapdragon 865 Octa-Core (7nm)
- จีพียู Adreno 650
- แรม 12GB
- ความจุ 512GB
- ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้
- แบตเตอรี่ 4260mAh
- รองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0
- กล้องหน้า 32MP
- กล้องหลัง 4 ตัว
- 48MP กล้องหลัก f/1.7
- 48MP เลนส์ Ultra Wide-angle f/2.2
- 13MP เลนส์ Periscope 5x f/3.0
- รัน Android 10 ครอบด้วย ColorOS 7.1
- ขนาดตัวเครื่อง 165.2 x 74.4 x 9.5 มม.
- น้ำหนัก 200 กรัม
ในส่วนของสเปคก็ไม่ต้องห่วงครับ OPPO Find X2 5G Pro Green Vegan Leather Edition ให้สเปคมาชุดเดียวกับ OPPO Find X2 Pro 5G สีอื่น ๆ จัดเต็มทั้งหน่วยประมวลผล Snapdragon 865, ความจุเยอะ RAM 12GB + ROM 512GB และยังมีชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 อีกต่างหาก
รองรับ 5G แล้วทดลองใช้กันได้
สำหรับ OPPO Find X2 Pro 5G นั้นตอนนี้ก็สามารถใช้งาน 5G ได้แล้ว แต่ต้องทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่าน OTA เป็น Android 11 เวอร์ชั่น Beta ซะก่อน ซึ่งวิธีนี้สามารถทำเองได้ด้วยวิธีการตั้งค่าดังนี้ครับ
เข้าแอปการตั้งค่า (Settings) > Software Update > สัญลักษณ์หกเหลี่ยมมุมขวาบน > เลือก Trial Version > Download เท่านี้ก็จะใช้งาน 5G ได้แล้วครับ
ราคา OPPO Find X2 Pro Green Vegan Leather Edition
สำหรับราคา OPPO Find X2 Pro สีใหม่ Green Vegan Leather จะราคาเท่าเดิมคือ 40,990 บาท รับของแถมเป็น บัตร E-VIP และ OPPO Enco Free ชุดชาร์จ VOOC ในรถมูลค่ารวม 15,739 บาท
สรุป OPPO 5G Now
ก็ถือว่าเปิดตัวมาได้ครบทุกกลุ่มราคาแล้วจริง ๆ สำหรับสมาร์ทโฟน OPPO 5G ตอนนี้ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ตั้งแต่กลุ่มราคาหมื่นต้น ๆ ไปจนถึงรุ่นท็อปสุด รองรับการใช้งาน 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ได้เร็วกว่า
นี่ก็เป็นเพียงบทความมหึหาพรีวิวแกะกล่องกันก่อนเนาะ สำหรับฟีเจอร์และการใช้งานของสมาร์ทโฟน OPPO 5G แต่ละรุ่นทั้ง OPPO Reno4 Z 5G, OPPO Reno4 Pro 5G รวมถึง OPPO Find X2 Pro 5G Green Vegan Leather Edition จะเป็นอย่างไร โดดเด่นตรงไหน เดี๋ยวเรามาเจาะเป็นรีวิวฉบับเต็มเพิ่มเติมให้อีกที อดใจรอกันอีกนิด สำหรับวันนี้ เฮียแม็พ. TechXcite คงต้องลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่บทความหน้าครับ :D
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite