Preview : Galaxy S20 FE นี่แหละคือสมาร์ทโฟน Samsung ที่แฟน ๆ รอคอย !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความพรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราจะมา พรีวิว Galaxy S20 FE สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากซีรีส์เรือธงของ Samsung แน่นอนว่าคำว่า FE นี้ย่อมาจาก “Fan Edition” นั่นเอง เพราะฉะนั้นรุ่นนี้ Samsung เลยคงคอนเซ็ปต์ว่าสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์แฟน ๆ ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสเปค ฟีเจอร์ ดีไซน์ รวมถึงราคาด้วย เจ้า Galaxy S20 FE จะน่าสนใจแค่ไหน ติดตามได้จากพรีวิวนี้เลยครับ
ดีไซน์โดนใจมีให้เลือกมากถึง 6 สี
เริ่มต้นที่เรื่องดีไซน์กันก่อนเลย Galaxy S20 FE ออกแบบมาเพื่อแฟน ๆ โดยเฉพาะ แต่แน่นอนว่าแฟน Samsung นี่มีหลายกลุ่มหลายรสนิยม จะจำกัดเรื่องดีไซน์ไว้แค่ไม่กี่สีไม่ได้ บน Galaxy S20 FE จึงมีตัวเลือกสีให้เลือกมากถึง 6 สีด้วยกัน ใช้คำนำหน้าสีว่า “Cloud” ประกอบด้วย Cloud Navy, Cloud Mint, Cloud Lavender, Cloud Red, Cloud White และ Cloud Orange ครับ
วัสดุงานประกอบของ Galaxy S20 FE จะใช้ฝาหลังพลาสติกผิวด้าน ตรงนี้ Samsung ใช้ชื่อเรียกว่า Reinforced Polycarbonate แบบเดียวกับที่ใช้บน Note20 นั้นเอง ผิวสัมผัสให้ความรู้สึกที่ดี ไม่เก็บรอยนิ้วมือเท่าแบบกระจกมันวาว น่าจะตอบโจทย์แฟน ๆ ได้เป็นอย่างดีเนาะ
นอกจากนี้ตัวกรอบเครื่องยังใช้เป็นกรอบโลหะ เพิ่มความหรูหราเข้าไปอีก ทำให้โดยรวมเวลาเราถือมันดูลงตัวมาก ๆ เลยล่ะครับ
หน้าจอใหญ่ Super AMOLED ที่ชื่นชอบ
มาดูกันที่หน้าจอกันบ้าง Galaxy S20 FE มาพร้อมจอ Super AMOLED แบบแบนที่แฟน ๆ ชื่นชอบและมีขนาดใหญ่ถึง 6.5” เต็มตาบนความละเอียด FHD+ การแสดงผลทำได้ดีมาก พร้อมดีไซน์แบบ Infinity-O Display มีรูกล้องหน้าตรงกลางนิดเดียวไม่กวนสายตาเวลาใช้งาน
จอลื่น 120Hz อย่างที่แฟนต้องการ
ในปีนี้การแข่งขันในเรื่องความลื่นของหน้าจอจริงจังมากขึ้น Samsung ก็ไม่ปล่อยให้แฟน ๆ ต้องผิดหวัง ให้หน้าจอ 120Hz มาบน Galaxy S20 FE แล้ว และยังมีค่า Touch Sampling rate สูงถึง 240Hz ด้วย ตอบสนองลื่น ๆ กันไปเลยครับ
และบนจอนี้ยังมาพรัอมระบบสแกนลายนิ้วมือ In Screen Fingerprint ซะด้วย
ตัวเครื่องบางและน้ำหนักกำลังดี
เรื่องความบาง Galaxy S20 FE ยังทำได้ดีให้ขนาดมาที่ 74.5 x 159.8 x 8.4 มม. บางกำลังดี และน้ำหนักที่ 190 กรัม ให้ความรู้สึกที่แน่นหนาเวลาถืออยู่บนมือไม่ก๊องแก๊งจนเกินไป
ตำแหน่งปุ่มกดก็ยังอยู่ที่มุมขวาเหมือนเดิม วางไว้แบบพอดีไม่ต้องเอื้อมกดกันให้ยากเย็น
ส่วนด้านล่างมีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB type-C พร้อมไมโครโฟนและลำโพงหลักของตัวเครื่อง แต่ไร้ช่องหูฟัง 3.5 มม. มาแล้ว อันนี้ไม่รู้ว่าแฟน ๆ ไม่เรียกร้องแล้วหรือ Samsung ไม่อยากใส่มามากกว่า :P
ลำโพงของ Galaxy S20 FE ก็จะมาเป็นแบบ Stereo ใช้งานร่วมกันระหว่างลำโพงหลักกับลำโพงสนทนา อันนี้แหละที่แฟน ๆ ต้องการจริง ๆ เยี่ยมครับ Samsung !
ส่วนถาดซิมรุ่นนี้เป็นแบบ Hybrid Slot แบบที่เรือธงของ Samsung ใช้มาตลอด รองรับ micro-SD ได้สูงสุด 1TB อันนี้ถูกใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ
กล้อง 3 ตัวรอบนี้มาครบช่วง
มาต่อกันเรื่องกล้อง Galaxy S20 FE มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวที่วางดีไซน์เหมือนกับ Galaxy Note20 เลย รอบนี้ Samsung ใจดีให้มาครบช่วงตั้งแต่มุมกว้างไปจนถึงซูม 3x มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- 12MP เลนส์ Ultra Wide Angle f/2.2, มุมกว้าง 123 องศา
- 12MP เลนส์หลัก f/1.8, Dual Pixel, OIS
- 8MP เลนส์ Tele 3x, f/2.4, OIS รองรับ SpaceZoom 30x
เป็นเรื่องที่ดีมากที่รอบนี้ Samsung เลือกใส่เลนส์ซูมเข้ามาแทนที่เลนส์ macro เพราะดูจะได้ใช้งานจริงมากกว่าเยอะ
ในส่วนของฟีเจอร์ก็ได้มาเหมือนกับ S20 หลายอย่างเลย ทั้ง Single Take, Bright Night mode, Super Steady, Pro Video จะขาดก็แต่ 8K Video ที่แฟน ๆ อาจจะไม่ได้เรียกร้องขนาดนั้นเนาะ
ส่วนกล้องหน้ารุ่นนี้ถูกใจสายเซลฟี่แน่ให้ความละเอียดมามากถึง 32MP f/2.2 เซลฟี่ได้สวยถูกใจ ฟีเจอร์อย่าง Live Focus หรือ Bright night บนกล้องหน้าก็มีด้วยแหละ
มี 2 รุ่น 4G และ 5G
Galaxy S20 FE เปิดตัวมาด้วยกัน 2 โมเดลคือ รุ่น 4G LTE และรุ่น 5G ก็แน่นอนว่าออกแบบมาให้เลือกซื้อกันตามความเหมาะสม แต่นอกจากการรองรับสัญญาณแล้ว 2 รุ่นนี้ยังมีความแตกต่างอื่นอีกคือความจุ ที่รุ่น 4G จะมีแค่ความจุเดียว 128GB ในขณะที่รุ่น 5G มี 2 ความจุคือ 128GB กับ 256GB ครับ และอีกจุดก็คือหน่วยประมวลผลครับ...
ชิปเซ็ต Snapdragon ตัวท็อปที่แฟน ๆ โหยหา มาแล้ว !
โดยรุ่น 4G จะใช้ชิปเซ็ต Exynos 990 ตัวเดียวกับที่ใช้บน S20 Series และ Note20 Series ในบ้านเรานั่นเอง ส่วนรุ่น 5G จะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 865 ครับ ย้ำครับเครื่องศูนย์ไทยมี Snap 865 แล้วครับ ! น่าจะเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์แฟน ๆ ที่สุดเลยล่ะ จริงไหม !?
นอกนั้นสเปคอื่น ๆ ก็จะเหมือนกันครับ แบตเตอรี่ 4500mAh ใช้งานได้ทั้งวัน พร้อมรองรับชาร์จไว Super Fast Charge 25W ด้วยแฟน ๆ ถูกใจไปอีก
สเปค Galaxy S20 FE 5G
- หน้าจอ SuperAMOLED 6.5” FHD+ 120Hz
- หน่วยประมวลผล Exynos 990 (รุ่น 4G) | Snapdragon 865 (รุ่น 5G)
- แรม 8GB
- ความจุ 128GB/256GB
- รองรับ micro-SD สูงสุด 1TB
- แบตเตอรี่ 4500mAh
- รองรับชาร์จไว Super Fast Charge 25W
- รองรับชาร์จไร้สาย
- กล้องหน้า 32MP
- กล้องหลัง 3 ตัว 12MP + 12MP + 8MP
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- รัน Android 10 (OneUI 2.5)
- มีให้เลือก 6 สี
ราคา Galaxy S20 FE
ปิดท้ายกันที่ราคา Galaxy S20 FE มีทั้งรุ่น 4G และ 5G มีราคาดังนี้
Galaxy S20 FE รุ่น 4G (Exynos 990+ 128GB) = 20,900 บาท
Galaxy S20 FE รุ่น 5G (Snapdragon 865 + 128GB) = 23,900 บาท
Galaxy S20 FE รุ่น 5G (Snapdragon 865 + 256GB) = 25,900 บาท
สำหรับโปรโมชั่นสั่งจองล่วงหน้า รุ่น 4G รับสิทธิ์อัพเกรดเป็น Galaxy S20 FE 5G รุ่น 128GB มูลค่า 3,000 บาท ฟรีทันที! และลูกค้าที่สั่งจอง Galaxy S20 FE 5G รุ่น 256GB จะได้รับสิทธิ์ซื้อสินค้าในราคาพิเศษเพียง 22,900 บาท
นอกจากนี้ ผู้ที่สั่งจอง Galaxy S20 FE และ S20 FE 5G ทุกรุ่นความจุ จะได้รับบริการ Samsung Care+ เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่า 2,939 บาท รวมประกันอุบัติเหตุตัวเครื่อง ครอบคลุมถึงกรณีหน้าจอแตกระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปีอีกด้วย ทางไปจอง
สั่งจอง Galaxy S20 FE ได้ที่นี่
นอกจากนี้โปรโมชั่นกับโอเปเรเตอร์ทั้ง 3 ค่ายยังเริ่มต้นเพียง 10,900 บาทอีกด้วย เช็กโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ
รวมโปรโมชั่นจอง Galaxy S20 FE จาก 3 ค่าย
AIS dtac true เริ่มต้นเพียง 10,900 บาท !!
สรุปคร่าว ๆ หลังลองจับ
สำหรับ Galaxy S20 FE ก็ถือว่า Samsung ตั้งใจทำออกมาเพื่อแฟนจริง ๆ ตอบโจทย์ในหลาย ๆ อย่างที่ต้องการ ทั้งดีไซน์หลากสีสัน หน้าจอลื่น 120Hz กล้องที่ใช้งานได้จริงยิ่งขึ้น และที่ขาดไม่ได้หน่วยประมวลผล Snapdragon ที่โหยหากัน ก็มาอยู่บนรุ่นนี้แล้ว แถมราคาเปิดตัวก็ไม่สูงเกินไปสำหรับแบรนด์ Samsung อีกต่างหาก เรียกว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าคบหามาก ๆ เลยล่ะ :D
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite