Review realme 7 Pro
Review : realme 7 Pro สมาร์ทโฟนสุดคุ้ม “65W สู่การชาร์จที่เหนือขั้น” ชาร์จ 0 - 100% ใน 34 นาที !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราจะมารีวิว realme 7 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นกลางตัวใหม่ที่มาพร้อมจุดเด่นชาร์จไว 65W SuperDart ชาร์จ 0 - 100% ได้ในเวลาแค่ 34 นาทีเท่านั้น ! แต่...นอกจากเรื่องชาร์จแล้ว รุ่นนี้ก็ยังมีจุดเด่นอื่นที่เด่นไม่แพ้กัน ทั้งหน้าจอ Super AMOLED, หน่วยประมวลผล Snapdragon 720G และกล้อง 64MP ด้วย น่าสนใจแค่ไหนติดตามได้จากรีวิว realme 7 Pro นี้เลยครับ !
ดีไซน์ realme 7 Pro
ดีไซน์สวย พรีเมี่ยมด้วยฝาหลังแบบด้าน
เริ่มต้นกันที่เรื่องดีไซน์กันก่อน realme 7 Pro มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม ใช้เทคนิคฝาหลังแบบ AG ผิวด้าน ให้ความรู้สึกที่ดีเวลาจับถือและแน่นอนว่าไม่เก็บรอยนิ้วมือมากเท่าแบบมันวาวด้วยครับ ชอบตรงนี้
นอกจากความพรีเมี่ยมในการจับถือแล้ว ดีไซน์ที่ด้านหลังยังใช้แบบ AG Split ที่มีการแบ่งส่วนของฝาหลังเป็น 2 ซีกเพื่อให้ตัวเครื่องดูมีมิติและมีการเล่นกับแสงสะท้อนในมุมต่าง ๆ ได้คล้ายกับพื้นผิวของแผ่น CD สวยเด่นดีมาก ๆ ครับ
ตัวเครื่องมาพรัอมความบางเพียง 8.7 มม.เท่านั้น น้ำหนักก็ไม่เยอะ 182 กรัม ใครที่ติดมือถือใช้นาน ๆ ก็ไม่เมื่อยมือแน่ ๆ
หน้าจอ Super AMOLED สีสวย สู้แสงดี
อีกจุดที่ realme 7 Pro พัฒนามาได้ตอบโจทย์ก็คือหน้าจอ รุ่นนี้เลือกเปลี่ยนมาใช้จอแบบ Super AMOLED แทนที่ IPS แบบเดิม จึงช่วยให้ความสวยสดและความสว่างนั้นดีขึ้นไปอีก รุ่นนี้สว่างได้สูงสุดถึง 600nits กันเลย
ขนาดหน้าจอก็ใหญ่ถึง 6.4” เต็มตาเต็มอารมณ์ในการดูคอนเทนต์ต่าง ๆ ความละเอียดอยู่ที่ FHD+ เพียงพอและเป็นที่น่าพอใจมาก ๆ อัตราส่วนก็เป็น 20:9 เหมาะกับคอนเทนต์ยุคใหม่ที่มีอัตราส่วนยาว ๆ เลยล่ะ
แต่การเปลี่ยนหน้าจอมาเป็น Super AMOLED ในครั้งนี้ realme เลือกลด refresh rate ของ realme 7 Pro ลงมาเหลือ 60Hz แทน ต่างจากตอน realme 6 Pro ที่ได้ 90Hz ซึ่งตรงนี้ realme ให้เหตุผลว่า จากผลโหวตผู้ใช้งานส่วนใหญ่ต้องการหน้าจอที่สวยคมชัดแบบ Super AMOLED มากกว่าจอ LCD ที่ลื่น ๆ ครับ อันนี้ก็เลยเป็นจุดสังเกตที่อาจจะไม่ถูกใจคนที่อยากได้จอลื่น ๆ นักเนาะ
ดีไซน์แบบ Punch-Hole Display
ส่วนเรื่องดีไซน์หน้าจอรุ่นนี้ใช้แบบ Punch-Hole Display มีรูกล้องที่มุมซ้ายบนขนาดเล็กเพียง 3.69 มม.เท่านั้น ไม่กวนสายตาเวลาใช้งานแน่นอน
และด้วยการเปลี่ยนหน้าจอมาเป็น Super AMOLED ทำให้มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาบนหน้าจอได้ด้วย แตะสแกนได้ง่ายและความเร็วทำได้ดีมากครับ
ปุ่มกดที่เป็นเอกลักษณ์และคุ้นเคย
สำหรับปุ่มกดของ realme 7 Pro ก็ยังวางไว้ในมุมมาตรฐานที่ให้เรากดได้อย่างสะดวก มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ที่ด้านซ้าย และปุ่ม Power ที่มีเส้นสีเหลืองเป็นเอกลักษณ์อยู่ที่ด้านขวามือ
พอร์ตการเชื่อมต่อของ realme 7 Pro จะเป็นแบบ USB type-C มีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ด้วย และลำโพงหลักกับไมโครโฟนก็อยู่ที่มุมล่างนี้เช่นกัน
ตัวลำโพงของ realme 7 Pro นั้นสามารถใช้งานควบคู่กับลำโพงสนทนาเพื่อเป็นลำโพงคู่ได้ด้วย ตรงนี้ดีมาก เสียงที่ได้คือคุณภาพเยี่ยมและกระจายออก 2 ทิศทางแบบ Stereo ใครที่ชอบใช้มือถือดูหนัง ฟังเพลง realme 7 Pro นั้นตอบโจทย์สุด ๆ ไปเลย
ช่องใส่ซิมของ realme 7 Pro จะเป็นแบบ Triple Slot มาเลย เหมาะกับเพื่อน ๆ ที่ต้องการใส่ 2 ซิมพร้อมกับ micro-SD ซึ่งรุ่นนี้สามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 256GB เลยครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ realme 7 Pro ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียวครับ งานประกอบดูหรูหราฝาหลังแบบด้านเทคโนโลยี AG ช่วยให้ดูแพงขึ้นมา หน้าจอ Super AMOLED ที่ realme เลือกใช้ก็ช่วยให้สีสันนั้นสวยคมชัดขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานในที่แจ้งมากกว่าเดิมด้วยครับ
และเหนือสิ่งอื่นใด realme 7 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland Smartphone Reliability ซึ่ง TÜV Rheinland Smartphone Reliability นี้ได้ทำการทดสอบส่วนสำคัญ 22 ส่วน และส่วนอื่น ๆ อีก 38 ส่วน ถือว่าครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทำให้มั่นใจได้ว่า realme 7 Pro ได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อให้กับสมาร์ทโฟน ให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับความสุขที่ได้รับจากเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดและการออกแบบที่ทันสมัย
สเปค realme 7 Pro
สเปคใหม่ใช้ Snapdragon 720G
ในเรื่องสเปค realme 7 Pro มาพร้อมหน่วยประมวลผลตัวใหม่อย่าง Snapdragon 720G เร็วแรงเหมาะกับการใช้งานเป็นอย่างมาก มาพร้อมสถาปัตยกรรมแบบ 8nm มีประสิทธิภาพ CPU สูงขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน 10% และ GPU เป็น Adreno 618 เทียบเท่าระดับ Snapdragon 730G ได้เลยด้วย มีความจุให้เลือกความจุเดียวคือ 8GB + 128GB และแบตเตอรี่อีก 4500mAh ครับ
สเปค realme 7 Pro
- หน้าจอ Super AMOLED 6.4” ความละเอียด FHD+
- อัตราส่วนหน้าจอ 20:9, refresh rate 60Hz
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 720G
- แรม 8GB
- ความจุ 128GB
- แบตเตอรี่ 4500mAh
- รองรับชาร์จไว 65W SuperDart Charge
- กล้องหน้า 32MP
- กล้องหลัง 4 ตัว
- 64MP กล้องหลัก f/1.8
- 8MP เลนส์ Ultra Wide f/2.3
- 2MP เลนส์ Portrait
- 2MP เลนส์ macro
- รองรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- ลำโพงคู่ Stereo
- รัน Android 10 ครอบทับด้วย realme UI
คะแนน Benchmark ของ realme 7 Pro
ซึ่งสเปคระดับนี้เท่าที่เราทดสอบกับแอป AnTuTu Benchmark ก็ได้คะแนนออกมาที่ 288071 คะแนนเลย ถือว่าไม่ธรรมดาแบ่งออกเป็น
CPU - 103884
GPU - 72644
MEM - 55024
UX - 56519
เล่นเกมถูกใจ ลื่นไหลปรับได้ระดับสูง
คะแนนมาเยอะแบบนี้เล่นเกมจะเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ? ในเรื่องการเล่นเกม realme 7 Pro มีฟีเจอร์ Game Space ที่ช่วยจัดการระบบการเล่นเกมให้ยอดเยี่ยม ปิดการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม เพิ่มประสิทธิภาพของตัวเครื่องและเครือข่ายให้เสถียรมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ตัว Game Space จะมีเมนูลัดเมื่อเล่นเกมให้ใช้งาน เผื่ออยากเช็กค่าของ FPS ในเกมหรือบันทึกวิดีโอหน้าจอ แคปหน้าจอ หรือตั้งค่าเพิ่มเติมก็ให้ปาดนิ้วลงมาจากมุมซ้ายหรือขวาบนของหน้าจอได้เลย
และแน่นอนสำหรับเกมที่เราจะมาทดสอบวันนี้ก็คือ Call of Duty และ ROV ครับเกมออนไลน์ยอดฮิต
Call of Duty บน realme 7 Pro
สำหรับเกม Call of Duty บน realme 7 Pro สามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ Very High และเฟรมเรตสูงสุดที่ Max แต่อันนี้ต้องเลือกเอาว่าจะเปิดอันไหนสูงสุดเพราะถ้าเลือกกราฟิกเป็น Very High เฟรมเรตจะถูกลดลงมาที่ Very High แต่ถ้าเลือกเฟรมเรตเป็น Max กราฟิกก็จะลดกลับไปที่ High แทน ในที่นี้เราเลือกปรับเป็นกราฟิกและเฟรมเรตแบบ High + Max เพราะความลื่นไหลนี่สำคัญกว่าภาพอะเนอะ
ในการตั้งค่าแบบนี้ realme 7 Pro สามารถรันเกมได้อย่างลื่นไหล เฟรมเรตนิ่งมาก ๆ เล่นได้อย่างสะใจ ได้ตัวลำโพง Stereo ช่วยให้เสียงที่ออกมามีมิติมากขึ้น ยิ่งเล่นเกมอนวยิ่งแบบนี้เสียงก็เป็นเรื่องสำคัญ การตอบสนองของหน้าจอก็ทำได้ดีครับ ติดนิ้วใช้ได้เลย
ROV บน realme 7 Pro
ส่วน ROV อันนี้ก็มาตรฐานครับ เราเลือกปรับ HD Display ไปที่ระดับ Ultra เลย Display Quality ก็ที่ Medium และเฟรมเรตสูงเปิดไว้ครบ ตัวเกมรันได้อย่างราบรื่นเฟรมเรตในเกมนิ่งมาก ๆ อยู่ที่ระดับ 60 อย่างเนียน ๆ บางครั้งขึ้นสูงไปถึง 61 - 62fps ก็มี
โดยรวมในเรื่องสเปคประสิทธิภาพของ realme 7 Pro ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี เกมฮิตสามารถเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา กราฟิกสวยบนหน้าจอขนาดใหญ่ระดับ 6.4" รวมถึงยังได้ลำโพง Stereo ที่ช่วยให้เสียงกระจายออกรอบทิศทางเล่นเกมหรือดูหนังนี่ฟินดีจริง ๆ
ซอฟต์แวร์ realme 7 Pro
รันบน realmeUI ลูกเล่นเพียบ
มาต่อกันที่เรื่องซอฟต์แวร์ภายใน realme 7 Pro รันบน Android 10 ที่ครอบทับด้วย realme UI มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลพร้อมฟีเจอร์การปรับแต่งการทำงานเพิ่มเติมให้ใช้งานได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น
ใช้งานแบบ Navigation Gesture ได้เต็มรูปแบบ
รูปแบบการควบคุมของ realme 7 Pro สามารถเลือกปรับเป็นแบบ Navigation Gesture ได้เพื่อการใช้งานที่ต่อเนื่องกว่าเคย ใช้การเลื่อนจากล่างหน้าจอเพื่อเข้าหน้าโฮม ปาดจากมุมซ้ายหรือขวาเพื่อย้อนกลับ หรือเลื่อนจากมุมล่างค้างเพื่อเข้าหน้า Recent Apps ถ้าปรับตัวได้จะใช้งานได้ถนัดกว่าแบบ 3 ปุ่มเยอะเลยทีเดียวครับ
มีหน้า Smart SideBar เพิ่มทางลัดอีกจุด
บน realme UI จะมีหน้า Smart SideBar แถบทางลัดที่อยู่มุมขวาของหน้าจอให้เราเรียกใช้ทางลัดอย่างการบันมึกหน้าจอหรือแคปหน้าจอได้ง่าย ๆ รวมถึงตั้งค่าทางลัดเข้าแอปที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ด้วย ตรงนี้สะดวกดีเวลาเรารีบ ๆ ก็เลื่อนแถบด้านข้างออกมาแล้วจิ้มเข้าแอปแบบด่วนได้เลย
Dark Mode เลือกเปิด-ปิดอัตโนมัติได้
Dark Mode ของ realme UI มีให้เลือกเปิดใช้งานเช่นเดียวกับหลาย ๆ แบรนด์ แต่ของทาง realme จะมีฟีเจอร์การเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วย โดยจะมีตัวเลือกให้ตั้งทั้งแบบตามเวลาพระอาทิตย์ขึ้นไปถึงพระอาทิตย์ตก หรือเลือกเวลาเอาเองก็ได้เช่นกัน สะดวกมาก ๆ เราไม่ต้องมาคอยสลับไปมาเองแล้ว
หน้า Always On Display ก็มี
ด้วยความที่หน้าจอของ realme 7 Pro นั้นเป็นแบบ Super AMOLED แล้ว การใช้พลังงานเมื่อเปิดจอสีดำก็น้อยลง ทำให้ฟีเจอร์ Always On Display นั้นสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่เปลืองแบตฯ ซึ่งหน้านี้จะแสดงเวลา, วันที่และเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่อยู่ตลอดเวลา หรือถ้ามีการแจ้งเตือนเข้ามาเราก็จะเห็นไอคอนของแอปนั้น ๆ โผล่อยู่ในหน้านี้ด้วยครับ
และนอกจากนี้ realme ยังมีฟีเจอร์การส่งไฟล์แบบรวดเร็วให้กับอุปกรณ์อื่นง่าย ๆ อย่าง realme Share หรือ Nearby Share ที่นอกจากของแบรนด์ realme เองแล้ว ก็ยังส่งให้พันธมิตรได้ด้วย อย่างในที่นี้เราส่งไฟล์ให้กับ POCO X3 NFC ก็ได้แบบรวดเร็ว ไม่ต้องจับคู่ให้ยุ่งยากด้วย
กล้อง realme 7 Pro
กล้องหลัง 4 ตัวเซ็นเซอร์ 64MP รุ่นที่ 2
มาต่อในเรื่องกล้อง realme 7 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว วางดีไซน์แบบ C-Shaped สวยงามพร้อมกำกับด้วยคำว่า 64MP AI Camera มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้
- 64MP กล้องหลัก f/1.8 เซ็นเซอร์ Sony IMX682
- 8MP เลนส์ Ultra Wide f/2.3 มุมกว้าง 119 องศา
- 2MP เลนส์ Portrait
- 2MP เลนส์ macro
ตัวกล้องหลังของ realme 7 Pro รอบนี้จะอัปเกรดขึ้นมาด้วยกล้องหลัก 64MP ที่เป็นรุ่นที่ 2 แล้ว ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX682 ที่จัดการในเรื่องภาพๆด้ดียิ่งขึ้น ส่วนเลนส์เสริมอีก 3 ตัวก็จะเป็น Ultra Wide Angle, macro และ Portrait ครับ
ตัว UI กล้องของ realme 7 Pro ยังออกแบบมาได้เรียบง่ายและใช้งานได้อย่างคล่องตัว มีฟีเจอร์ AI Dazzle Color ให้เลือกเปิดรวมถึงฟิลเตอร์ต่าง ๆ ได้จากตรงนี้ ระยะของภาพก็สามารถกดได้เลยเลื่อนไป 0.6x คือสลับไปเลนส์ Ultra Wide Angle หรือเขยิบไปที่ 2x, 5x ก็เป็นการซูมแบบดิจิตอลครับ
โหมดการใช้งานมีมากมายนอกจากโหมดถ่ายภาพและวิดีโอแบบปกติ ก็ยังมีทั้ง Nightscape, 64MP, Portrait, Ultra macro, Slow motion หรือ Expert มาให้เลือกปรับด้วย เลื่อนมาที่เมนู more ได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Auto ของ realme 7 Pro คุณภาพโดยรวมทำได้ดีทีเดียว ตัว AI Scene คอยปรับภาพให้สวยขึ้นไปอีกหลังถ่าย ทำให้เราได้ภาพที่สวยคมชัดแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มแล้ว ตัว Auto HDR ก็ฉลาดพอที่จะดึง Dynamic Range ให้กว้างขึ้นได้
โหมด 64MP เก็บภาพความละเอียดสูงสุด ครอปได้ภาพยังชัด
อย่างที่บอกว่ากล้องหลักของ realme 7 Pro นั้นมีความละเอียดสูงถึง 64MP แถมเป็นรุ่นที่ 2 ที่มีการอัปเกรดให้เก่งขึ้นกว่าเดิมด้วย ในการใช้งานในโหมด Auto ทั่วไปตัวระบบจะเซฟภาพที่ความละเอียด 16MP เพื่อประหยัดพื้นที่ แต่ถ้าเราอยากได้ไฟล์เต็มที่มีขนาดใหญ่ระดับ 64MP จริงก็มีโหมด 64MP แยกออกมาให้เลือกใช้ด้วย ในโหมดนี้เราสามารถปรับการตั้งค่าเพิ่มเติมได้อีกด้วยในตัวเลือก Pro ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด 64MP อย่างที่เห็นไฟล์ใหญ่ระดับนี้เราสามารถครอปภาพเพิ่มเติมได้โดยที่ภาพยังไม่แตก ใครที่อยากได้ไฟล์คม ๆ แบบมาเลือกครอปเป็นส่วน ๆ ได้ทีหลังก็เลือกมาที่โหมดนี้ได้ครับ ถูกใจแน่นอน แต่ถ้าใช้งานทั่วไป ลงโซเชี่ยลโหมดนี้อาจไม่จำเป็นนัก แถมไฟล์ยังใหญ่ระดับ 15 - 20MB เลยล่ะ
มีเลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 119 องศา
นอกจากเลนส์หลักที่เก่งมาก ๆ แล้ว เลนส์เสริมของ realme 7 Pro อย่างเลนส์ Ultra Wide Angle ก็ช่วยให้เราถ่ายรูปได้สนุกมากขึ้น ขยายมุมกว้างไปถึง 119 องศา ช่วยให้เก็บภาพวิวหรือภาพคนได้กว้างกว่าที่เคย โดยที่ไม่ต้องถอดออกมาไกล
ตัวอย่างภาพถ่ายจากเลนส์ Ultra Wide Angle ของ realme 7 Pro จะเห็นว่ามุมมองที่ได้กว้างขึ้นอย่างชัดเจน ใช้ถ่ายวิวหรือถ่ายคนให้ขายาวดูตัวสูงก็ได้ด้วย มีประโยชน์มาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ ในเรื่องโทนสีและคุณภาพก็โอเค ใกล้เคียงกับตัวเลนส์หลักอยู่พอสมควร
เลนส์ macro ถ่ายวัตถุใกล้ ๆ ได้ง่ายขึ้น
อีกเลนส์ที่มีมาให้บน realme 7 Pro ก็คือเลนส์ macro ช่วยให้เราถ่ายภาพวัตถุใกล้ ๆ ระดับ 4 มม. ได้ง่ายขึ้น วิธีการใช้งานก็ให้เปิดไปที่ตัวเลือก more แล้วเลือกโหมด Ultra macro เลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Ultra macro ของ realme 7 Pro เราสามารถเข้าใกล้วัตถุได้มากขึ้นจริง ๆ คุณภาพถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ด้วยความละเอียดของเลนส์ที่ 2MP เท่านั้น ถ่ายในสภาพแสงปกติใช้ได้ครับ แต่ในสภาพแสงน้อยอันนี้ไม่แนะนำเท่าไหร่
Portrait mode ถ่ายคนสวยมีฟิลเตอร์ให้เลือกปรับ
โหมด Portrait หน้าชัด-หลังเบลอของ realme 7 Pro จะใช้เลนส์หลักในการถ่าย มีให้เลือกระยะเดียวเลยคือ 1x สามารถปรับระดับความเบลอของฉากหลังเพิ่มเติมได้ที่ไอคอน Bokeh กลม ๆ ที่มุมซ้าย รวมถึงฟิลเตอร์สีของภาพด้วย ตรงนี้ก็สะดวกสำหรับใครที่อยากได้ภาพ Portrait สวย ๆ แบบไม่ต้องไปปรับเพิ่มทีหลัง เลือกตรงนี้แล้วถ่ายได้เลยจบในตัว
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait ของ realme 7 Pro ในโหมดนี้ realme ยังเก่งเหมือนเดิมครับ ใบหน้าของแบบสวยเด่นขึ้นมา พร้อมกับการละลายฉากหลังที่เนียนสวยอีกต่างหาก
Nightscape เก่งขึ้น มีลูกเล่น Night Filter ด้วย
สำหรับโหมดกลางคืน realme ยังทำได้ดีเหมือนเดิมครับ รุ่นนี้สามารถเลือกเลนส์ที่จะใช้ได้ 2 ช่วงทั้งเลนส์หลักและเลนส์ Ultra Wide Angle มีโหมด Pro ให้เราเลือกปรับค่าสำหรับโหมดกลางคืนเพิ่มเติมได้ รวมถึง Night Filters ที่ช่วยปรับโทนสีของโหมดกลางคืนให้เราถ่ายได้สนุกขึ้นด้วย ฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกจะมี 3 แบบคือ Modern Gold, Cyberpunk และ Flamingo ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Nightscape ของ realme 7 Pro ไฟล์กลางคืนยังสวยงามและโดดเด่นเหมือนเดิมครับ จัดการแสงได้เป็นอย่างดีรวมถึงสีสันด้วย ตัว Night Filters ก็ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนนั้นสนุกยิ่งขึ้น เปลี่ยนแนวภาพกลางคืนทั่วไปเป็นแบบเท่ ๆ ได้โดยที่ไม่ต้องไปปรับแต่งเพิ่มทีหลัง เจ๋งดีครับ !
กล้องหน้า 32MP ถ่ายสวยเหมือนเดิม
ปิดท้ายเรื่องภาพนิ่งกันที่กล้องหน้า realme 7 Pro เห็นรูกล้องหน้าเล็ก ๆ แบบนี้แต่ความละเอียดที่ให้มามากถึง 32MP เลยนะจ๊ะ เซลฟี่ได้สวยคมชัดแน่นอน ในเรื่องฟีเจอร์กล้องก็ให้มาครบทั้ง AI Beauty, Portrait หรือ Nightscape Selfie ก็มีด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าของ realme 7 Pro
วิดีโอ 4K ภาพคม ๆ
มาต่อเรื่องวิดีโอ realme 7 Pro สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K กันเลย ด้วยคุณภาพของเลนส์หลักนั้นช่วยให้เราได้ภาพที่คมชัดและสวยงามแน่นอน
ตัวอย่างวิดีโอ 4K จาก realme 7 Pro
มีลูกเล่น AI Color Portrait VDO ด้วย
realme 7 Pro มีลูกเล่น AI Color Portrait Video ช่วยดึงความโดดเด่นของแบบขึ้นมาจากฉากหลังได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี Monochrome Video ที่เลือกดูดสีเป็นสี ๆ ทั้ง แดง, ฟ้า หรือเขียวได้ด้วย ใช้งานได้ง่ายเพียงแค่กดที่ไอคอนฟิลเตอร์และเลือกไปที่ฟิลเตอร์ท้าย ๆ ได้เลยครับ
ระบบชาร์จ realme 7 Pro
แบตฯ 4500mAh ใช้งานได้ดีตลอดทั้งวัน
ปิดท้ายด้วยเรื่องแบตเตอรี่ของ realme 7 Pro รุ่นนี้ให้แบตฯมาเยอะถึง 4500mAh เยอะพอที่จะใช้งานได้ตลอดทั้งวันแบบไม่ต้องกังวลเลย เท่าที่เราลองใช้งานมาจริง ๆ แบตเตอรี่นั้นอยู่ทนมาก ๆ ตอบโจทย์การใช้งานทั้งเล่นเกม ถ่ายรูปหรือดูหนังเลย ไม่ต้องห่วงว่าจะหมดเอาง่าย ๆ
ชาร์จไวที่สุด 65W SuperDart
พูดถึงเรื่องแบตเตอรี่แล้วระบบชาร์จที่เป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยจริง ๆ realme 7 Pro มาพร้อมระบบชาร์จไว 65W SuperDart สูงที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนบ้านเราตอนนี้แล้ว ซึ่งตรงนี้ realme เคลมว่าชาร์จเพียง 3 นาทีก็ได้แบตฯ 13% และสามารถชาร์จจาก 0 - 100% ได้ในเวลาเพียง 34 นาทีเท่านั้น !
ตรงนี้ทาง realme ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ Dual 3C Cells จะแบ่งเซลล์หลักเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 2250 mAh ผ่านการชาร์จแบตเตอรี่โดยตรง ด้วยอะแดปเตอร์ 10V 6.5A ภายใต้การควบคุมด้วย อัลกอริธึมการชาร์จเร็ว สำหรับกระบวนการปล่อยไฟของการชาร์จเร็ว SuperDart ใช้วงจรอัดประจุเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่สองเซลล์ลงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจถึงความเร็วในการชาร์จและการควบคุมอุณภูมิ
อุปกรณ์ชาร์จและตัวเครื่องของ realme 7 Pro ยังมาพร้อมการป้องกัน 5 ชั้น ตั้งแต่อะแดปเตอร์ไปยังตัวเครื่องประกอบด้วย
1. อะแดปเตอร์ป้องกันการจ่ายไฟเกินกำลัง
2. การป้องกันขณะชาร์จเร็ว
3. ป้องกันการโอเวอร์โหลดอินเทอร์เฟซ
4. ป้องกันกระแสไฟเกินและแรงดันไฟฟ้าเกิน
5. การป้องกันขณะรวมแบตเตอรี่
รวมถึงยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิถึง 10 ตัว NTC Thermistor (Negative Temperature Coefficient) หรือเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิประเภทเทอร์มิสเตอร์ สร้างขึ้นเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิระหว่างการชาร์จและสามารถปรับกำลังการชาร์จแบบไดนามิก พร้อมระบายความร้อนอีกด้วย มั่นใจได้ว่าเมื่อเราใช้อุปกรณ์แท้ที่แถมมาให้ในกล่อง ยังไงก็ปลอดภัยแน่นอนครับ
ซึ่งและเท่าที่เราลองชาร์จใช้งานจริง ๆ ก็เป็นไปตามที่ระบุไว้จริง ๆ ครับ ชาร์จเพียง 3 นาทีได้แบตเตอรี่ไปกว่า 15% และชาร์จจาก 1 - 100% ในเวลาราว ๆ 34 นาทีตามที่โฆษณาไว้เป๊ะ ๆ เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของการชาร์จบนสมาร์ทโฟนระดับหมื่นต้นเลยก็ว่าได้ครับ เพราะปกติฟีเจอร์ระดับนี้เรามักจะเห็นบนรุ่นเรือธงราคาสูง ๆ เท่านั้น แต่รอบนี้ realme ส่งมาบนรุ่นราคาประหยัดแล้ว เยี่ยมยอด !
และนอกจากระบบชาร์จของตัวเองอย่าง 65W SuperDart Charge แล้ว realme 7 Pro ยังรองรับระบบชาร์จไว PD ที่ 18W ด้วย ไม่ใช่แค่รองรับชาร์จไวของตัวเอง แต่ยังรองรับชาร์จไวทั่วไป ทำให้เราสามารถชาร์จผ่านอุปกรณ์อื่นอาทิ พาวเวอร์แบงค์ได้ในความเร็วมากกว่ามาตรฐาน 10W ด้วยเนาะ ดีจริง ๆ
สรุป realme 7 Pro
สรุปให้เลยละกันนี่คือ "มือถือหมื่นต้นที่ชาร์จไวที่สุด"
realme 7 Pro ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางราคาหมื่นต้นที่สุดคุ้ม จัดทุกอย่างที่ต้องการมาให้แล้วจริง ๆ ทั้งดีไซน์ที่สวยโดดเด่น สเปคที่ตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี มีลำโพงคู่ หน้าจอ Super AMOLED สวย หรือจะเป็นเรื่องกล้องก็คุณภาพดีมีลูกเล่นมาให้เลือกใช้อยู่ไม่น้อย และทีเด็ดจริง ๆ ของรุ่นนี้อย่างระบบชาร์จก็ได้มามากถึง 65W SuperDart Charge ไวที่สุดในกลุ่มราคานี้แล้ว ช่วยให้การชาร์จเป็นเรื่องง่ายและไม่ต้องรออีกต่อไป ประหยัดเวลาได้อีกเยอะเลย ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีไซน์ดีฟีเจอร์การใช้งานครบครัน และที่สำคัญอยากได้ระบบชาร์จไวแบบเหนือขั้น realme 7 Pro รุ่นนี้คือคำตอบแบบไม่ต้องสงสัยเลยครับ !
realme 7 Pro ราคา 10,990 บาท
ย้ำราคากันอีกครั้ง realme 7 Pro เปิดราคามาที่ 10,990 บาท พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ realme Brand Shop, ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ที่ Lazada, Shopee, Thisshop มีให้เลือก 2 สี Mirror Silver และ Mirror Blue ครับ
จุดเด่น
- ชาร์จไว 65W SuperDart เร็วที่สุดในกลุ่มราคานี้
- หน้าจอ Super AMOLED สีสวย แสดงผลคมชัด
- Snapdragon 720G สเปคแรงตอบโจทย์
- ลำโพงคู่ Stereo
- ดีไซน์สวยฝาหลังผิวด้านเทคโนโลยี AG
- ถาดซิมแบบ Triple Slot
- มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
จุดสังเกต
- refresh rate ถูกลดลงมาที่ 60Hz ความลื่นไหลน้อยลง
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite