Preview : realme 7 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นกลางสเปคครบ จอ Super AMOLED พร้อมการชาร์จที่เหนือขั้น
 65W SuperDart !!

สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความพรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราจะมาพรีวิว realme 7 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นกลางตัวใหม่จาก realme ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ นี่เอง ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมจุดเด่นหลักคือระบบชาร์จเพราะมาพร้อมสโลแกนว่า “65W สู่การชาร์จเหนือขั้น” แต่บอกก่อนว่านอกจากเรื่องชาร์จรุ่นนี้ก็ยังมีจุดเด่นอื่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน วันนี้เราจะมาพรีวิว realme 7 Pro ให้ชมกันครับ เริ่มกันเล้ยย !

หน้าจอ SuperAMOLED สวยกว่าที่เคย

เริ่มต้นกันที่เรื่องหน้าจอกันก่อนเลย แน่นอนว่าสมาร์ทโฟนนี่จุดเด่นหลักก็คงหนีไม่พ้นหน้าจอเนาะ รอบนี้ realme เลือกใช้หน้าจอแบบ SuperAMOLED แทนจอ IPS ของรุ่นก่อน ช่วยให้การแสดงผลนั้นสวยกว่าเดิมมาก ความสว่างนั้นสูงสุดได้ที่ 600nits ช่วงสีกว้าง 98% NTSC เลย 

ให้ขนาดหน้าจอมาที่ 6.4” ใหญ่เพียงพอต่อการดูหนังหรือดูวิดีโอก็ฟินถูกใจแน่นอน แสดงผลบนความละเอียด FHD+ อัตราส่วนเป็น 20:9 สีสันสวยงามและมีมิติมากขึ้น ตัวหน้าจอของ realme 7 Pro นั้นใช้พื้นที่ด้านหน้าไปมากถึง 90.8% กันเลย

ดีไซน์แบบ Punch-Hole Display

หน้าจอของ realme 7 Pro ใช้ดีไซน์แบบ Punch-Hole Display มีรูกล้องหน้าความละเอียด 32MP อยู่ที่มุมซ้ายบน มีขนาดเพียง 3.69 มม. เท่านั้นไม่กวนสายตาเราเท่าไหร่ เนียน ๆ เลยล่ะ

และด้วยการเปลี่ยนหน้าจอมาเป็น Super AMOLED ทำให้มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาบนหน้าจอได้ด้วย แตะสแกนได้ง่ายและความเร็วทำได้ดีมากครับ

แต่จอยังเป็น 60Hz นะ

ด้าน refresh rate ตัว realme 7 Pro นั้นลดลงมาอยู่ที่ 60Hz แทน ต่างจากตอน realme 6 Pro ที่ได้ 90Hz เนาะ ตรงนี้แลกกับการเปลี่ยนหน้าจอเป็น Super AMOLED ซึ่ง realme ให้เหตุผลว่าจากผลโหวต ผู้ใช้หลายคนอยากได้หน้าจอที่แสดงผลแบบ AMOLED มากกว่าจอ LCD ถึงแท้ refresh rate จะเป็น 60Hz ก็ตาม

ฝาหลังผิวด้านโดดเด่น

พลิกกลับมาดูที่ฝาหลัง realme บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติรอบตัวที่มีการสะท้อนเล่นกับแสงคล้ายพื้นผิวแผ่น CD ที่เวลาโดนแสงจะมีความแฉก ๆ ออกมา สวยเด่นไม่เหมือนใครจริง ๆ  

ผิวสัมผัสของ realme 7 Pro จะเป็นแบบด้านที่สวยงามด้วยเทคโนโลยี AG เพิ่มความพรีเมี่ยม ให้กับตัวเครื่องเป็นอย่างมาก จับถือแล้วดูดีทีเดียว สำหรับ realme 7 Pro มีให้เลือก 2 สีคือ Mirror Blue และ Mirror Silver (สีที่รีวิว)

ตัวเครื่องมีความบางเพียง 8.7 มม. พร้อมน้ำหนักที่ 182 กรัม บางเบากำลังดี จับถือแล้วไม่ก๊องแก๊งจนเกินไปหรือหนักมือจนเกินไปด้วย

ถาดซิมของ realme 7 Pro จะเป็นแบบ Triple Slot สามารถใส่ได้ทั้ง 2 ซิมพร้อมกับ micro-SD ได้เลย

พอร์ตการเชื่อมต่อของ realme 7 Pro เป็นแบบ USB type-C มีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ด้วยเนาะ และลำโพงรุ่นนี้น่าสนใจตรงนี้ได้ลำโพงคู่ Stereo ด้วย

ใช้งานคู่กันระหว่างลำโพงหลักและลำโพงสนทนาช่วยกระจายเสียงรอบทิศทาง พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res Certification เมื่อใช้งานผ่านหูฟังด้วย เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นในงบนี้ที่ลำโพงดีใช้ได้เลย

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ realme 7 Pro ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียวครับ งานประกอบดูหรูหราฝาหลังแบบด้านเทคโนโลยี AG ช่วยให้ดูแพงขึ้นมา หน้าจอ Super AMOLED ที่ realme เลือกใช้ก็ช่วยให้สีสันนั้นสวยคมชัดขึ้น ตอบโจทย๋การใช้งานในที่แจ้งมากกว่าเดิมด้วยครับ

สเปคใหม่ Snapdragon 720G

มาพูดถึงเรื่องสเปคกันต่อ realme 7 Pro มาพร้อมสเปคครบครัน ใช้หน่วยประมวล Snapdragon 720G คู่ความจุ 8GB + 128GB ใช้งานได้อย่างลื่นไหล เราทดสอบคะแนนผ่าน AnTuTu ก็ได้คะแนนออกมาที่ 288101 คะแนนครับ

สเปค realme 7 Pro

• หน้าจอ Super AMOLED 6.4” ความละเอียด FHD+
• อัตราส่วนหน้าจอ 20:9, refresh rate 60Hz
• หน่วยประมวลผล Snapdragon 720G
• แรม 8GB
• ความจุ 128GB
• แบตเตอรี่ 4500mAh
• รองรับชาร์จไว 65W SuperDart Charge
• กล้องหน้า 32MP
• กล้องหลัง 4 ตัว
• 64MP กล้องหลัก f/1.8
• 8MP เลนส์ Ultra Wide f/2.3
• 2MP เลนส์ Portrait
• 2MP เลนส์ macro
• รองรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
• รองรับระบบสแกนใบหน้า
• ลำโพงคู่ Stereo
• รัน Android 10 ครอบทับด้วย realme UI

ใช้ realme UI ลูกเล่นเยอะ

ในส่วนของซอฟต์แวร์ realme 7 Pro มาพร้อม realme UI ที่ครอบทับบน Android 10 อีกที ลูกเล่นในการปรับแต่งและใช้งานครบถ้วน ทั้ง Dark mode, Theme, Smart SideBar หรือฟีเจอร์บันทึกวิดีโอหน้าจอมีให้เลือกใช้หมดครับ

มี Game Space ช่วยจัดการเรื่องเกมให้ดีขึ้น

realme 7 Pro มีแอป Game Space ที่ช่วยจัดการเรื่องเกมให้เสถียรมากขึ้น ตัดการแจ้งเตือนขณะเล่น ไม่ให้มีอะไรมากวน หรือตัวช่วยในการบันทึกภาพหรือวิดีโอในการเล่นเกมก็สามารถใช้งานได้ด้วยครับ



กล้องหลัง 4 ตัวสูงสุด 64MP

เรื่องกล้องของ realme 7 Pro ก็ไม่ธรรมดา ได้กล้องหลังมาทั้งหมด 4 ตัวมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ

• 64MP กล้องหลัก f/1.8 เซ็นเซอร์ Sony IMX682
• 8MP เลนส์ Ultra Wide f/2.3 มุมกว้าง 119 องศา
• 2MP เลนส์ Portrait
• 2MP เลนส์ macro

มาพร้อมลูกเล่นกล้องเพียบ ๆ ทั้งโหมด 64MP, Super Nightscape, Pro Nightscape, Ultra macro, Starry mode, Portrait, Slow motion ต่าง ๆ

ส่วนโหมดวิดีโอก็มีลูกเล่นอย่าง AI Color Portrait หรือ Monochrome Video ด้วย ดูดสีฉากหลังหรือเลือกสีเด่นให้ใช้งาน หรือจะเป็นโหมดกันสั่นเทพอย่าง UIS Video, UIS Max มาครบ

ไฮไลท์รองรับชาร์จไว 65W SuperDart Charge นะจ๊ะ

ไฮไลท์หลักของ realme 7 Pro ก็คือเรื่องของการรองรับระบบชาร์จไว 65W SuperDart Charge นี่แหละครับ ปกติความสามารถนี้จะอยู่บนสมาร์ทโฟนระดับเรือธงเท่านั้น แต่ครั้งนี้ realme ใส่มาให้บนรุ่นกลางแบบนี้ถือว่าใจป้ำไม่เบา ซึ่งความเร็ว 65W นี้ realme เคลมว่าสามารถชาร์จ realme 7 Pro จาก 0 - 100% ได้ในเวลาเพียง 34 นาทีเท่านั้นเอง !

realme 7 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland

ที่สำคัญกว่าอื่นใด realme 7 Pro ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland Smartphone Reliability (ทียูวี ไรน์แลนด์) อีกด้วย มีการทดสอบส่วนสำคัญ 22 ส่วน และส่วนอื่น ๆ อีก 38 ส่วน ถือว่าครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่า realme 7 Pro จะใช้งานได้อย่างปลอดภัย หายห่วงครับ !

**TÜV Rheinland (ทียูวี ไรน์แลนด์) เป็นองค์กรอิสระด้านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมหลากประเภทจากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล**

ราคา realme 7 Pro

สำหรับ realme 7 Pro เปิดราคาค่าตัวมาที่ 10,990 บาท เริ่มเปิดให้จองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 17 - 24 กันยายนนี้ 

รับของแถมเป็นกระเป๋าเป้และบัตร VIP Card มูลค่ากว่า 5,890 บาท

สรุปคร่าว ๆ หลังลองจับ realme 7 Pro

realme 7 Pro ก็ถือว่าเป็นรุ่นกลางอีกรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยสเปคและฟีเจอร์ที่ให้มาเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ทั้งหน้าจอ Super AMOLED สวย ๆ ชิปเซ็ต Snapdragon 720G ที่แรงพอเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล กล้องที่ลูกเล่นน่าสนใจ บอดี้งานประกอบสวยดูดีใช้ได้ และที่ขาดไม่ได้คือระบบชาร์จไว 65W SuperDart เร็วมาก เปลี่ยนรูปแบบการชาร์จทั่วไปที่เราเคยรู้จักไปหมด แค่ 34 นาทีแบตฯเต็ม มัน OMG สุด ๆ ทั้งหมดนี้อยู่บนสมาร์ทโฟนราคาเพียง 10,990 บาท แบบนี้ไม่เรียกคุ้มจะเรียกอะไรได้ล่ะครับ :D

พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite