Preview : Galaxy Z Fold2 สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นที่ 3 ของ Samsung
ที่ใช้คำว่า “สมบูรณ์แบบ” ได้แล้วจริง ๆ !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความพรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ Galaxy Z Fold2 สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นที่ 3 จาก Samsung หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวไป วันนี้ก็เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อย รอบนี้ Samsung ปรับดีไซน์ยกใหญ่ เน้นหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น เพิ่มลูกเล่นของจอพับในการใช้งานได้หลากหลาย และสเปคก็ยังจัดเต็มไม่เปลี่ยน ตัวจริงจะสวยแค่ไหน วันนี้เราพรีวิวให้ชมกันครับ
จอใหญ่ขึ้นเต็มตาทั้งด้านนอก-ใน
Galaxy Z Fold2 มาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นแบบจริงจัง แก้ปัญหาที่หลายคนไม่ชอบจากรุ่นก่อนไปได้เยอะเลย
ที่หน้าจอด้านนอกหรือที่ Samsung เรียกว่า Cover Screen มาพร้อมขนาด 6.2” ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 1.63 เท่า ดีไซน์แบบ Infinity-O ชิดขอบไปหมดเหลือเพียงรูกล้องหน้าตรงกลางเท่านั้น ชนิดหน้าจอเป็น Super AMOLED ความละเอียด HD+ ในอัตราส่วนแบบยาว 25:9
ในเรื่องการใช้งานด้วยความที่จอนอกใหญ่ขึ้น ทำให้การใช้งานทั่วไปนั้นเหมาะมาก เราสามารถหยิบขึ้นมาใช้งานได้ในมือเดียวได้อย่างถนัด ด้วยความที่จอเป็นอัตราส่วนแบบยาว ทำให้ตัวเครื่องไม่อ้วนจนเอื้อมนิ้วไปไม่ถึง
ส่วนหน้าจอด้านในหรือจอหลักของ Galaxy Z Fold2 ก็ขยายใหญ่ขึ้นมาอีกเป็น 7.6” ทำให้แสดงผลได้เต็มตา ใช้จอแบบ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียดระดับ QXGA+ ในอัตราส่วนแบบ 22.5:18 ครับ
แถมยังรองรับ refresh rate สูง 120Hz แล้วด้วย ทำให้การตอบสนองนั้นดีขึ้นเยอะ เหมือนเราเล่นแท็บเล็ตระดับไฮเอนด์ที่สามารถพกพาใส่กระเป๋ากางเกงไปได้เลย
จอใหญ่ใช้งานหลายแอปในจอเดียว
จุดเด่นของหน้าจอที่ใหญ่ก็คือการแบ่งหน้าที่ได้เยอะขึ้นนี่แหละ Galaxy Z Fold2 สามารถใช้งานหลาย ๆ แอปได้ในจอเดียว อย่างในภาพจะเห็นว่าเราเปิด 3 แอปแบ่งหน้าจอกันทั้งงานไว้เป็นส่วน ๆ มีประโยชน์ขึ้นเยอะ
กลไกที่ดีขึ้นไม่ใช่แค่พับ-กาง
ในส่วนของกลไกการพับหน้าจอรอบนี้ Samsung คิดใหม่และปรับรูปแบบให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่แค่พับ-กางแล้ว แต่สามารถเปิดค้างไว้ได้ด้วย ให้นึกถึงอารมณ์โน้ตบุ๊คครับที่เราสามารถเปิดแช่ไว้ได้ในองศาต่าง ๆ และใช้งานในรูปแบบนั้นได้ด้วย
ตัวบานพับตรงกลางนี้สามารถปรับระดับได้ 3 องศาคือ 75, 90 และ 115 องศา เวลาเรากางออกจะรู้สึกว่ามีความเป็นระดับไม่อ่อนไปตึงเหมือนตอน Fold รุ่นแรก
ความบางที่มากกว่าเดิม
ตัวเครื่อง Galaxy Z Fold2 จะมาพร้อมความบางที่มากกว่าเดิม เมื่อกางออกจะเหลือแค่ 6.9 มม. เท่านั้น ดูแบบนี้แล้วเหมือนแท็บเล็ตตระกูล Tab S เลยเนอะ
ส่วนเมื่อพับเข้าหากันก็จะบางสุดที่ 13.8 มม. ครับช่วงต่อเวลาพับเข้าหากันก็น้อยลง จะเห็นว่าช่องระหว่างหน้าจอน้อยลง แทบจะปิดสนิทเข้าแล้ว
กรอบโลหะกับกระจกหลังด้าน
กรอบตัวเครื่องใช้วัสดุแบบโลหะผิวด้าน ให้ความรู้สึกเวลาจับถือที่ดีมาก เข้ากับวัดสุฝาหลังกระจกด้านมาก ๆ
ดีไซน์ฝาหลังของ Galaxy Z Fold2 ยกเอาของ Note20 มาเลย มาพร้อมโมดูลกล้องขนาดใหญ่พร้อมกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 12MP ทั้งหมด
มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- 12MP กล้องหลัก f/1.8, Dual-Pixel AF, OIS
- 12MP เลนส์ Ultra Wide f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
- 12MP เลนส์ Tele f/2.4, Optical Zoom 2x, Digital Zoom 10x, OIS
และแน่นอนว่าความจอพับได้แบบนี้เรายังสามารถใช้กล้องหลังในการเซลฟี่ลองคิดว่าเราใช้เลนส์ Ultra Wide 123 องศาในการเซลฟี่ภาพมุมกว้างสุด ๆ ได้อีกด้วย
หรือจะเปิด Live View ให้ผู้ที่ถูกถ่ายเห็นภาพขณะที่เรากำลังเก็บภาพได้อีกด้วยนะ เจ๋งดีแบบนี้
สแกนนิ้วที่ด้านข้าง
ระบบสแกนลายนิ้วมือก็ยังมีอยู่ที่ปุ่ม Power ด้านข้าง แตะได้อย่างสะดวก
ลำโพง Stereo อย่างเทพ
ลูกครึ่งแบบนี้การใช้งานมัลติมีเดียก็ไม่ต้องห่วง Galaxy Z Fold2 มาพร้อมลำโพงคู่บน-ล่าง ให้เสียงที่กระจายออก 2 ทิศทางแบบ Stereo จัดเต็มมาก แถมเสียงดังแบบมิติสุด ๆ
พอร์ต USB type-C ไม่มีช่องหูฟัง
พอร์ตการเชื่อมต่อของ Galaxy Z Fold2 จะเป็น USB type-C อยู่ด้านล่างตัวเครื่อง ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้เหมือนรุ่นก่อน อันนี้ก็คงไม่แปลกใจอะไรเนาะ
ใส่ได้ 1 ซิมไม่รองรับ micro-SD
ในส่วนของถาดซิม Galaxy Z Fold2 รองรับแบบ 1 ซิมไม่รองรับ micro-SD เนาะ ส่วนถ้าจะใช้งานซิมที่ 2 ก็ต้องเปิดบริการแบบ e-SIM เอาครับ ไม่สามารถใส่ร่วมกันได้เลยจากตัวเครื่อง
ใช้งานได้หลากหลายขึ้นกับจอพับใหม่
มาดูเรื่องฟีเจอร์การใช้งานกันบ้าง อย่างที่บอกว่า Galaxy Z Fold2 นั้นสามารถปรับมุมมองได้หลากหลายมากขึ้น Samsung นำเสนอรูปแบบใหม่ในชื่อ Flex Mode หรือการกางออกแล้วตั้งค้างไว้ ตรงนี้เราสามารถใช้ประโยชน์จากหน้าจอ 2 จอได้อย่างเต็มที่แยกออกจากกัน
อย่างในแอปถ่ายรูปก็จะแบ่ง 2 ส่วนที่เป็น Viewfinder ไว้จอนึง และอีกจอจะเป็นไอคอนควบคุมมีปุ่ม Shutter เลือกโหมดรวมถึงตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายล่าสุดก็จะโผล่ตรงนี้ด้วย ช่วยให้การถ่ายภาพนั้นง่ายขึ้น
หรือจะใช้ตั้งวางเป็นขาตั้งกล้องนิ่ง ๆ เลยก็ได้ จะพับออกพับเข้าก็ได้หมดยืดหยุ่นต่อการใช้งานมากขึ้นไปอีก
ต่อเนื่องเหมือนเดิม ไร้รอยต่อสุด ๆ
อีกฟีเจอร์ที่เคยทำได้ดีตอน Galaxy Fold เดิมก็คือความต่อเนื่องของการใช้แอปอย่างดูแผนที่อยู่บนจอนอก แล้วอยากเห็นอะไรที่เต็มขึ้นกว่าเดิม ก็กางจอออกมาดูต่อที่จอหลักได้เลย ฟีเจอร์นี้ก็ยังอยู่บน Z Fold2 ด้วยนะ
สเปคจัดเต็มขั้นสุด
ปิดท้ายที่สเปค Galaxy Z Fold2 มาล้ำ ๆ แบบนี้จะให้สเปคแบบธรรมดามาไม่ได้เนาะ รุ่นนี้ได้หน่วยประมวลผลตัวท็อปสุดอย่าง Snapdragon 865+, แรม 12GB ความจุ 256GB และแน่นอนรองรับ 5G ด้วยครับ
สเปค Galaxy Z Fold2 5G
- หน้าจอด้านนอก Super AMOLED 6.2” HD+ อัตราส่วน 25:9 refresh rate 60Hz
- หน้าจอหลักด้านใน Dynamic AMOLED 2X 7.6” QXGA+ อัตราส่วน 22.5:18 refresh rate 120Hz
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 865+ (7nm)
- รองรับ 5G
- แรม 12GB LPDDR5
- ความจุ 256GB UFS3.1
- แบตเตอรี่ 4500mAh
- รองรับชาร์จไว 25W
- รองรับชาร์จไร้สาย
- รองรับระบบ Reverse Wireless Charge ที่ 10W
- กล้องหน้า 10MP f/2.2
- กล้องหลัง 3 ตัว
- 12MP กล้องหลัก f/1.8, Dual-Pixel AF, OIS
- 12MP เลนส์ Ultra Wide f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
- 12MP เลนส์ Tele f/2.4, Optical Zoom 2x, Digital Zoom 10x, OIS
- รัน Android 10
ราคาและโปรโมชั่นการจอง
Galaxy Z Fold2 5G เปิดราคาอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทยอยู่ที่ 69,900 บาท
มีให้เลือก 2 สี Mystic Bronze และ Mystic Black เปิดจองแล้วตั้งแต่วันที่ 2 - 13 ก.ย.63 โดยเพื่อน ๆ ที่สั่งจองล่วงหน้าจะได้รับหูฟัง Galaxy Buds Live มูลค่า 6,990 บาท, ประกันจอแตกนาน 1 ปีและ Samsung Care+ ด้วย
สั่งจอง Galaxy Z Fold2 ได้ที่นี่
และพิเศษสำหรับเพื่อน ๆ ที่สั่งจองกับทางฌโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ค่ายราคาเริ่มต้นเพียง 49,900 บาทเท่านั้นครับ
สรุปคร่าว ๆ หลังลองจับ
Galaxy Z Fold2 ก็เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นที่ 3 ของ Samsung ที่พัฒนามาจนถึงจุดที่เรียกว่า สมบูรณ์แบบได้แล้วจริง ๆ ทั้งในเรื่องรูปแบบของการพับการกางดูแข็งแรงและปรับรุปแบบได้เยอะขึ้น ลูกเล่นของจอพับก็มากขึ้นจนเห็นประโยชน์จนอยากจะลองใช้งานแบบจริงจัง หน้าจอด้านนอกใหญ่ขึ้นจนสามารถใช้งานเป็นจอหลักได้แบบไม่ฝืนแล้ว ดีไซน์สวยหรูอิงมาจาก Note20 Series สี Mystic Bronze ยังคงชวนหลงรักไม่เปลี่ยน สุดท้ายราคาค่าตัวก็เปิดมาเท่าตอน Galaxy Fold ไม่แพงอย่างที่คิดอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งพรีเมี่ยมโฟนที่น่าลองมาก ๆ เลยล่ะ
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite