เสียวหมี่ เปิดตัวแชมป์สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น:Redmi 9 ซีรี่ย์
Redmi 9 ซีรีย์ จะมาสร้างประสบการณ์ใช้งานสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่
เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
เสียวหมี่ ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น 3 รุ่น ได้แก่ Redmi 9 Redmi 9A และ Redmi 9C ในราคาเข้าถึงได้ ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตทรงพลังและคุณสมบัติระดับพรีเมียม สะท้อนถึงพันธกิจของเสียวหมี่ ที่ต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงประสบการณ์ใช้งานสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมได้
Redmi 9: ปฏิวัติประสบการณ์สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น
นับเป็นสมาร์ทโฟนในตระกูล Redmi ระดับเริ่มต้นรุ่นแรก ที่มาพร้อมกล้องสี่ตัวที่มีคุณสมบัติรอบด้าน ซึ่ง Redmi 9ช่วยให้คุณเก็บช่วงเวลาสุดพิเศษในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว การถ่ายภาพกลุ่มมุมกว้าง หรือจะถ่ายรูประยะใกล้เก็บรายละเอียดต่างๆ และภาพพอร์เทรตแสนสวย Redmi 9 ก็ทำได้หมด สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ได้ผสานรวมความสนุกสนานกับความสร้างสรรค์เข้าด้วยกันให้เกิดประสบการณ์การถ่ายรูปด้วยฟีเจอร์กล้องสุดพรีเมียม ที่รวมไปถึงโหมด kaleidoscope หรือกล้องสลับลาย และชัตเตอร์ด้วยฝ่ามือ
ขณะเดียวกัน Redmi 9 ก็ทำให้คุณสามารถเห็นภาพได้มากขึ้นกับหน้าจอที่ใหญ่และดีขึ้น ด้วยหน้าจอแสดงผล FHD+ Dot Drop ขนาด 6.53 นิ้ว Redmi 9 มอบประสบการณ์การมองเห็นแบบเหนือชั้นอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดที่อยู่เพียงปลายนิ้วของคุณ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองการป้องกันแสงสีฟ้าจากสถาบัน TÜV Rheinland และป้องกันรอยขีดข่วนด้วยนวัตกรรม Corning® Gorilla® Glass อีกด้วย
ประสิทธิภาพชั้นเลิศรอบด้านของ Redmi 9 มาพร้อมระบบประมวลผล MediaTek Helio G80 SoC ซึ่งปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 107% มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5020mAh (typ) นอกจากนี้ Redmi 9 ยังอัดแน่นไปด้วยพลังงานที่คุณต้องการสำหรับทำงานและความสนุกตลอดวัน และยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18 วัตต์ เพื่อให้คุณประหยัดเวลาสามารถกลับไปเล่นเกมได้
Redmi 9 มาพร้อมดีไซน์สวยสะดุดตาที่คู่ควรให้คุณเป็นเจ้าของ ฝาหลังนั้นออกแบบมาให้มีการไล่เฉดสีสุดชิคและพื้นผิวเป็นคลื่นกันรอยนิ้วมือ เซ็นเซอร์นิ้วมือด้านหลังถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้อยู่ข้างๆกล้องหลังล้อมไปด้วยดีไซน์วงกลมล้ำสมัยที่มีอยู่ในไลน์ของสมาร์ทโฟน Redmi ในรุ่นปัจจุบัน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Redmi 9 นั้นสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและปลดล็อคได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ Redmi 9 ยังมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. IR blaster และ multi-functional NFC** และรองรับการใช้งานสองซิม ทั้งยังมีช่องเสียบการ์ด microSDเพิ่มได้อีกด้วย สำหรับ Redmi 9 คุณจะมีได้ครบทุกฟังก์ชันโดยไม่ต้องสละฟีเจอร์ไหนไปเลย
Redmi 9 มาพร้อม 3 สีสวยให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Carbon Grey Ocean Green และ Sunset Purple ขณะนี้ Redmi 9 ขนาดความจุ 3GB+32GB ได้วางจำหน่ายในราคา 3,899 บาท และ Redmi 9 ขนาดความจุ 4GB+64GB วางจำหน่ายในราคา 4,599 บาท วางจำหน่ายแล้วทุกช่องทาง ทั้ง Shopee, Lazada และ JD Central รวมถึงร้านค้า Jaymart, TG, Com7 ร้านค้า Mi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ผ่านการรับรองทั่วประเทศ
Redmi 9C: กล้องหลัง AI พร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้ว
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วแบบ Dot Drop เพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ให้คุณใช้งานได้เพลิดเพลินมากขึ้น Redmi 9Cใช้ระบบประมวลผลทรงพลังด้วย MediaTek Helio G35 ชิปเซ็ตเกมมิ่ง octa-core ที่สามารถให้ความเร็วถึง 2.3GHz และยังมาพร้อมกล้องหลัง AI คุณภาพสูงที่คุณถ่ายภาพได้รวดเร็วและง่ายดาย ได้ภาพสวยคมชัดในทุกสถานการณ์
ข้อมูลการจัดจำหน่ายในประเทศไทยของ Redmi 9C จะประกาศให้ทราบภายหลังเมื่อสินค้ามีการจัดจำหน่าย
Redmi 9A: หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh
สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ล่าสุดนี้มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วแบบ Dot Drop เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานชั้นเลิศและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจถึง 5000mAh ให้คุณได้ใช้งานและเพลิดเพลินได้มากขึ้น Redmi 9A นั้นใช้ระบบประมวลผลทรงพลังด้วย MediaTek Helio G25 ชิปเซ็ตเกมมิ่ง octa-core ซึ่งจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลตลอดทั้งวัน และยังมีกล้องหลัง AI ความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซลที่คุณถ่ายภาพได้รวดเร็วและง่ายได้และได้ภาพสวยคมชัดในทุกสถานการณ์
Redmi 9A ความจุ 2GB+32GB จะวางจำหน่ายในราคา 2,799 บาท วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ Lazada Shopee และ JD Central รวมไปถึงร้านค้า Banana TG Fone Jaymart ร้าน Mi Stores และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ผ่านการรับรองทั่วประเทศ เริ่มวางจำหน่ายสินค้าตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป
คุณสมบัติหลัก:
Redmi 9 | Redmi 9A | Redmi 9C | |
หน้าจอแสดงผล | 6.53’’ FHD+ Dot Drop display 400 nit (typ) brightness Color contrast ratio: 1500:1 (typ) NTSC: 70% (typ) TÜV Rheinland low blue light certification Reading mode 2.0 Corning®Gorilla®Glass 3 | 6.53” HD+ Dot Drop display 400 nit (typ) brightness Color contrast ratio: 1500:1 (typ) TÜV Rheinland Low Blue Light certification Reading mode | 6.53” HD+ Dot Drop display 400 nit (typ) brightness Color contrast ratio: 1500:1 (typ) TÜV Rheinland Low Blue Light certification Reading mode |
กล้องหลัง | 13MP wide-angle camera 8MP ultra wide-angle camera, 118° FOV 5MP macro camera 2MP depth sensor | 13MP main camera | 13MP main camera, 2MP macro camera, 2MP depth sensor |
กล้องหน้า | 8MP selfie camera | 5MP front camera | 5MP front camera |
ตัวเครื่อง | Splash-proof nano coating | ||
ขนาด | 163.32 x 77.01 x 9.1mm | 164.9 x 77.07 x 9.0mm | 164.9 x 77.07 x 9.0mm |
ระบบประมวลผล | MediaTek Helio G80 12nm process technology Oct-core CPU, up to 2.0 GHz | MediaTek Helio G25 12nm process technology Octa-core CPU, up to 2.0 GHz | MediaTek Helio G35 12nm process technology Octa-core CPU, up to 2.3 GHz |
น้ำหนัก | 198g | 194g | 196g |
ความปลอดภัย | Rear fingerprint sensor Face unlock | AI Face unlock* | AI Face unlock* |
การชาร์จ | 5020mAh (typ) battery 18W wired fast charging 10W in-box charger | 5000mAh (typ) battery Supports 10W charging 10W in-box charger | 5000mAh (typ) battery Supports 10W charging 10W in-box charger |
เครือข่ายที่รองรับ | Dual 4G standby | Dual 4G standby | Dual 4G standby |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.0 Multi-functional NFC** IR blaster | Micro USB 3.5mm headphone jack Dual mic** | Micro USB 3.5mm headphone jack Supports multi-functional NFC** |
ระบบปฏิบัติการ | MIUI 11 based on Android 10 | MIUI 12 based on Android 10 | MIUI 12 based on Android 10 |
ความจุ | 3GB + 32GB, 4GB + 64GB** Expandable storage up to 512GB | 2GB+32GB Expandable storage up to 512GB | 2GB+32GB, 3GB+64GB[2] Expandable storage up to 512GB |
สี | Carbon Grey, Ocean Green, Sunset Purple | Granite Gray, Peacock Green, Sky Blue | Midnight Gray, Sunrise Orange, Twilight Blue |