ดีไซน์
Review : realme X50 Pro 5G เรือธงสุดครบเครื่องที่มาพร้อมนิยาม
“ความเร็วแห่งอนาคต” !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ realme X50 Pro 5G เรือธง 5G รุ่นแรกของ realme ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ นี่เอง รุ่นนี้มาพร้อมจุดเด่นที่ครบมาก ๆ ทั้งหน่วยประมวลผลแรงสุด Snapdragon 865 5G, หน้าจอลื่น 90Hz, กล้องหลัง 4 ตัว 64MP และยังได้ระบบชาร์จไวที่สุด 65W SuperDart Charge อีกต่างหาก ! และหลังจากเราลองไปใช้งานมากว่าสัปดาห์ วันนี้ขอมารีวิวความประทับใจในการใช้งานให้อ่านกันครับ :D
หน้าจอสวยสด แถมลื่นสุด ๆ
เริ่มต้นกันที่ด้านหน้ากันก่อนเลย realme X50 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอ SuperAMOLED ขนาด 6.44” มีรูกล้องหน้า 2 รูอยู่ที่มุมซ้ายบน อันนี้คุ้นเคยกันดีเนอะ เพราะเห็นทรงนี้มาหลายรุ่นแล้วแหละ มีการใช้พื้นที่หน้าจอมากถึง 92% ขอบหน้าจอนี่เรียกว่าบางเฉียบสุด ๆ
ในเรื่องการแสดงผลทำได้ดีตามสไตล์ SuperAMOLED สีสวยสด สู้แสงได้ดีความสว่างสูงสุด 1000nits แหนะ ความละเอียดอยู่ที่ FHD+ รองรับการแสดงผล HDR10+, ช่วงสีกว้าง DCI-P3 100% และ NTSC 105% คมชัดถูกใจแน่นอน
ส่วนการตอบสนองรุ่นนี้ก็ทำได้ดีด้วย Refresh Rate 90Hz พร้อม Touch Sampling Rate 180Hz จะเลื่อนหน้าจอ ปัดไป ปัดมาก็ลื่นไปหมดครับจอนี้
และด้วยความที่หน้าจอเป็นแบบ SuperAMOLED ก็สามารถซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือลงไปบนหน้าจอได้ด้วย รุ่นนี้เขาเคลมว่าสามารถสแกนได้เร็วเพียง 0.27 วินาทีเท่านั้น เร็วขนาดนี้เรียกว่าแค่แตะก็เข้าเครื่องไปได้แล้วอะ
ที่รูกล้องหน้าก็ทำพื้นที่ได้ดีไม่ใหญ่จนเกินไปครับ เลนส์กล้อง 2 ตัวจะประกอบด้วยกล้องหลัก 32MP และเลนส์ Super Wide มุมกว้าง 105 องศาครับ
ดีไซน์สวยทั้งรูป จูบก็หอม !
พลิกกลับมาที่ด้านหลัง ต้องชมเลย realme นี่เขาเก่งในเรื่องการออกแบบสมาร์ทโฟนหน้าจอสวย ๆ สัมผัสดีจริง ๆ รุ่นนี้ทำให้เราประทับใจอีกแล้ว ด้วยวัสดุฝาหลังแบบกระจกผิวด้าน ช่วยให้สัมผัสได้เนียนมือและไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือมากเท่าแบบผิวมันปกติ ตรงนี้ชอบมาก !
พื้นผิวของฝาหลังจะใช้กระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยี AG พร้อมกระบวนการเคลือบสี 6 ชั้นและบ่มสีอีกกว่า 21 วัน ทำให้สีสันบนตัวฝาหลังนั้นสวยและมีมิติอย่างมาก จะเห็นว่าสีสันภายในนั้นหลากหลายมาก เมื่อมีการหักมุมหรือสะท้อนกับแสงก็ตะเปลี่ยนไปแตกต่างกัน บางมุมเป็นทองแดงบ้าง บางมุมเป็นแดงเข้ม ๆ บ้าง
ส่วนสีที่วางจำหน่ายก็มี 2 สีคือ Rust Red สีที่เรารีวิวนี้ และสี Moss Green ได้แรงบันดาลใจมาจากสสารที่อยู่นอกโลก แฝงความลึกลับน่าค้นหา อยู่ในห้วงลึกของจักรวาล และคอยเปล่งแสงรอวันค้นพบ อ่าห์ ~ ลึกซึ้งไหมล่ะ
ตำแหน่งกล้องหลังของ realme X50 Pro 5G จะวางไว้ที่มุมซ้ายบนเหมือนเดิม มีเลนส์ 4 ตัวพร้อม realmw Ring วงแหวนสีเหลืองครอบอยู่บนเลนส์บนสุด เพิ่มความโดดเด่น ส่วนไฟแฟลชก็แยกออกมาอยู่ข้างนอก 1 ดวงครับ
บอดี้หรูหรา น้ำหนักดี
รอบ ๆ ตัวเครื่องรุ่นนี้ก็ใช้วัสดุแบบโลหะคุณภาพดีจับถือละรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมไม่น้อย ตัวขอบมีการออกแบบให้โค้งนูนขึ้นมานิดหน่อยให้เราจับถือได้อย่างดี ความบางอยู่ที่ 8.9 มม. และหนักราว 205 กรัม ก็ถือว่ากำลังดีเลยให้น้ำหนักที่ดูแน่นหนาใช้ได้
ตำแหน่งปุ่มกดของ realme X50 Pro 5G จะวางไว้ที่มุมมาตรฐานปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ที่ฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง, ปุ่ม Power อยู่ที่ฝั่งขวาและมีการทำลายเส้นสีเหลืองอยู่ในปุ่มที่เป็นเอกลักษณ์ของ realme ด้วยครับ
ดีไซน์บน-ล่างของตัวเครื่องจะใช้แบบโค้งมนทั้งหมด ไม่มีการตัดเหลี่ยมใด ๆ ครับ ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนครับ
ส่วนด้านล่างจะเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง ซึ่งตรงนี้สามารถใช้งานร่วมกับลำโพงสนทนาเพื่อใช้งานเป็นลำโพงคู่บน-ล่างได้ด้วย มีไมโครโฟนสนทนาอยู่ข้าง ๆ ช่องใส่ซิมด้วย
ถาดใส่ซิมของ realme X50 Pro 5G จะเป็นแบบ Dual-Slot ใส่ซิมได้ 2 ใบและไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้ครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ realme X50 Pro 5G ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดีมาก เป็นอีกรุ่นที่จับแล้วรักเลย งานประกอบพรีเมี่ยมขอบเครื่องเป็นโลหะ น้ำหนักดี ฝาหลังกระจกแบบผิวด้านนี่ก็ประทับใจไม่เปลี่ยนจับแล้วรักเลย ส่วนหน้าจอก็สวยสดด้วย SuperAMOLED ลงตัวมาก ๆ
สเปคและประสิทธิภาพ
สเปค realme X50 Pro 5G
- หน้าจอ SuperAMOLED 6.44” (2400x1080) อัตราส่วน 20:9
- Refresh Rate 90Hz, Touch Sampling Rate 180Hz, รองรับ HDR10+
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 865 5G 2.84GHz (7nm)
- รองรับ 5G
- แรม 12GB (LPDDR5)
- ความจุ 256GB (UFS3.0 Turbo)
- แบตเตอรี่ 4200mAh
- รองรับชาร์จไว 65W SuperDart Charge
- กล้องหน้าคู่
- 32MP กล้องหลัก, f/2.5
- 8MP เลนส์ Super Wide, f/2.2 มุมกว้าง 105 องศา
- กล้องหลัง 4 ตัว
- 64MP กล้องหลัก Ultra High-Resolution เซ็นเซอร์ 1/7.2”, f/1.8
- 12MP เลนส์ Tele 2x, f/2.5
- 8MP เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 119 องศา, f/2.3
- 2MP เลนส์ Portrait (B&W), f/2.4
- รองรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับสแกนใบหน้า
- รองรับ 2 ซิม
- ขนาดตัวเครื่อง 158.96 x 74.24 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก 205 กรัม
- รัน Android 10 ครอบด้วย realmeUI 1.0
- วางจำหน่าย 2 สี Rust Red, Moss Green
สเปคจัดเต็ม Snapdragon 865 รองรับ 5G ด้วย
มาเข้าเรื่องสเปคกันต่อ อย่างที่บอกว่า realme X50 Pro 5G นั้นอัดสเปคมาให้แบบจัดเต็มที่สุด ครบเครื่องไปหมด เริ่มตั้งแต่หน่วยประมวลผล Snapdragon 865 ตัวแรงความเร็วสูงสุดถึง 2.84GHz เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมเพิ่มขึ้น 25% ความเร็วในการเรนเดอร์ภาพกราฟิกเพิ่มขึ้น 25% ประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 30% และประสิทธิภาพระบบ AI เพิ่มขึ้น 200% เลยทีเดียว
ใช้ 5G ได้เลยตั้งแต่แกะกล่อง
และแน่นอนว่ารุ่นนี้รองรับ 5G ด้วย รองรับเครือข่ายทั้งแบบ SA และ NSA และยังรองรับคลื่นความถี่ 5G อื่นๆ เช่น n1/n3/n41/n78/n79 ช่วยให้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม และใช้ได้เลยตั้งแต่แกะกล่องเลย เปิดกล่องมาใส่ซิมที่รองรับก็พร้อมใช้งานได้ทันที
นอกจากนี้ realme X50 Pro ยังมีฟีเจอร์ Smart 5G ที่สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่าง 4G และ 5G โดยอัตโนมัติ ช่วยใประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น และลดการใช้พลังงานลงอีก 30% ด้วยนะ
รองรับ Wi-Fi 6 พร้อม Dual Wi-Fi Acceleration
5G ว่าเยี่ยมแล้ว ระบบ Wi-Fi ก็ครบไม่แพ้กันรุ่นนี้รองรับ Wi-Fi 6 รองรับความเร็วระดับ Gbps มั่นใจได้เลยว่าเราจะได้ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เต็มประสิทธิภาพ แถมยังรองรับการเชื่อมต่อ Dual Wi-Fi ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi สองเครือข่ายในเวลาเดียวกันได้ เพื่อการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพมากขึ้น
RAM ROM ก็เร็วถึงใจ !
ในเรื่องหน่วยความจำก็ไม่ธรรมดา ให้แรมมามากถึง 12GB เป็น LPDDR5 ด้วยเร็วกว่ารุ่นเดิมถึง 29% แต่ใช้พลังงานน้อยกว่าเดิมถึง 20% รอมใช้เป็น UFS3.0 และเทคโนโลยีแบบ Turbo Write ทำให้เขียนข้อมูลได้ไวระดับ 730 - 760MB/s และอ่านข้อมูลได้ไวถึง 1700 - 1900MB/s เลยล่ะ
ทดสอบคะแนนกันหน่อยไหมล่ะ ?
บอกว่าประสิทธิภาพสูงแบบนี้แล้ว ก็อาจจะยังไม่เห็นภาพเท่าไหร่ เราขอจับมาเทียบด้วยคะแนน Benchmark กันอีกนิด โดยคะแนนทดสอบจาก AnTuTu Benchmark ก็ออกมาสูงถึง 594388 คะแนน เทียบแล้วก็เป็นอันดับ 1 บนตารางตอนนี้เลยก็ว่าได้ครับ แบ่งคะแนนออกเป็น
- CPU - 181091
- GPU - 218625
- MEM - 105097
- UX - 89575
ส่วนทางฝั่ง GeekBench 5.0 ก็ได้คะแนนออกมาสูงเช่นเดียวกันแบ่งเป็น
- Single-Core = 915 คะแนน
- Multi-Core = 3151 คะแนน
เล่นเกมและความบันเทิง
เล่นเกมพิสูจน์เลยดีที่สุด
เห็นคะแนนการทดสอบกันแบบยกใหญ่ไปแล้ว ก็มาลองเล่นเกมแบบจริงจัง ๆ กันต่อบ้างดีกว่า ในเรื่องเกม realme X50 Pro 5G มาพร้อมกับแอป Game Space ที่ช่วยจัดการระบบให้พร้อมเล่นเกมมากที่สุด ปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น ปรับเครือข่ายให้พร้อมต่อการออนไลน์ แถมยังรวมเกมไว้ในโซนเดียวกันนี้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีตัว HyperBoost 2.0 ที่เข้ามาเร่งประสิทธิภาพการทำงานให้เสถียรยิ่งขึ้นอีกด้วย
ซึ่งตัว Game Space นี้จะมีหน้า UI เสริมขณะเล่นเกมด้วย ซึ่งเมื่อเราลากนิ้วจากมุมจอบนฝั่งซ้ายหรือขวาเข้ามาก็จะมีทางลัดให้เข้าถึงเวลาเล่นเกม ทั้งการแชทผ่าน Messenger, บันทึกหน้าจอ, แคปหน้าจอ หรือบล็อกการแจ้งเตือนต่าง ๆ รวมถึงมีสถานะการเล่นเกมว่า FPS อยู่ที่ไหนแบบ realtime และ CPU GPU ทำงานไปเท่าไหร่แล้วด้วยครับ
สำหรับเกมที่เราใช้ทดสอบในรอบนี้เป็น 3 เกมฮิตตอนนี้ Call of Duty, PUBG, Marvel Super War ครับ
เริ่มกันที่เกม Call of Duty เราสามารถปรับคุณภาพกราฟิกได้ที่ระดับสูงสุด Very High ส่วน เฟรมเรตก็ได้สูงสุด Max รวมถึงตัวเลือกอย่างการลบรอยหยักและอื่น ๆ ก็เปิดได้ครบครับ
ตัวเกมรันได้ดีมากภาพกราฟิกสวยและเฟรมเรตนิ่ง ๆ ที่ 60fps ตลอดทั้งเกม หน้าจอการแสดงผลทำได้กว้างดี รวมถึงการตอบสนองที่ได้ Touch Sampling Rate ถึง 180Hz ก็ช่วยให้การสัมผัสนั้นแม่นยำและยิงได้อย่างสนุกมากยิ่งขึ้นครับ
ส่วน PUBG ก็เช่นเดียวกันปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ระดับ HDR และเฟรมเรตไปถึง Extreme เล่นกันได้แบบลื่น ๆ เลยล่ะ ซึ่งตัวเกมก็รันได้อย่างไม่มีปัญหาภาพสวยเฟรมเรตนิ่ง ๆ เลย
เกมแนวยิง ๆ แบบนี้เสียงเป็นสิ่งสำคัญเพราะใช้บอกทิศทางของกระสุนได้ รุ่นนี้ลำโพงคู่ออกแบบ Stereo ซ้าย-ขวา ชัดเจนดีมาก ๆ ไม่พลาดจังหวะศัตรูมาแน่นอนครับ
ปิดท้ายที่ Marvel Super War เกมแนว MOBA ที่ก็ปรับคุณภาพกราฟิกได้สูงสุดเช่นกัน เปิดภาพ HD ทุกอย่างสุดหมด ตัวเกมแสดงผลกราฟิกได้สวยงามโดดเด่นบนจอ SuperAMOLED แบบนี้มาก ๆ
เฟรมเรตก็ไม่มีตกอยู่ที่ 60fps ตลอดทั้งเกม แม้จะปล่อยท่าต่าง ๆ มากมาย เอฟเฟกต์มาเต็มจอก็ยังนิ่ง ๆ เลยครับ เจ๋งมาก ๆ
ในเรื่องการเล่นเกมก็อย่างที่บอกไว้จริง ๆ ตัวเครื่องรันได้อย่างสมบูรณ์ไร้ที่ติ ปรับสุดแค่ไหนก็ลื่น แถมในเรื่องความร้อนตรงนี้ realme ก็จัดการได้ดีด้วยระบบระบายความร้อน Vapor Cooling 5 ชั้น เล่นเกมต่อเนื่องเป็นชม.ยังไม่ร้อนจี๋ แค่อุ่น ๆ เท่านั้นเอง แจ่มมาก !!
หน้าจอสวย ดูหนังก็เพลิน ดูรูปก็โอ
ความบันเทิงอื่น ๆ อย่างการดูหนัง ฟังเพลงล่ะ realme X50 Pro 5G ก็จัดเต็มมาก ๆ เพราะมาพร้อมหน้าจอ SuperAMOLED สีสันสวยสด เหมาะกับการดูหนังที่มีคอนทราสจัด ๆ สีดำเป็นดำ สีแดงเป็นแดง ตัวอัตราส่วนหน้าจอก็กว้าง 20:9 ดูพวกหนังสเกลโรงหนังก็เหลือขอบดำนิดเดียวเท่านั้น
แถมตัวหน้าจอยังรองรับเทคโนโลยี HDR10+ ดูพวกวิดีโอแบบ HDR ได้แจ่ม สีสันและความสว่างมาครบเลยล่ะ เพราะดันไปได้สูงสุดถึง 1000nits
ส่วนเรื่องเสียงก็ไม่ต้องห่วงเพราะได้ลำโพงคู่ Dual Super Liner Speaker ให้เสียงแบบ Stereo ซ้าย-ขวาชัดเจน พร้อมกันนี้ยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos เพิ่มประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ส่วนการฟังเพลงผ่านหูฟังก็ต้องผ่านช่อง USB type-C อย่างเดียวเนาะ แต่ก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในยุค 2020 นี้แล้ว มีคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ด้วยเมื่อเชื่อมต่อหูฟัง
ในเรื่องความบันเทิงทั้งดูหนังหรือเล่นเกม realme X50 Pro 5G นี่เอาอยู่จริง ๆ หน้าจอสวยเต็มตา สเปคก็แรงถึงใจ แถมยังมีลำโพงแบบคู่เพิ่มจุดเด่นในเรื่องเสียงอีก ใครที่อยากใช้งานด้านนี้แบบครบ ๆ เจ้าตัวนี้ก็ตอบโจทย์ไม่น้อยครับ
ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์การใช้งาน
ใช้ realme UI ลูกเล่นเยอะ ลื่นไหลสุด ๆ
ในส่วนของซอฟต์แวร์ realme X50 Pro 5G ใช้ Android 10 ที่ครอบทับด้วย realme UI มีการปรับแต่งหน้าตาไปในทางสีสันสดใส ให้ความรู้สึกที่มีชีวิตชีวา และยังมีลูกเล่นในการปรับแต่งเพิ่มเติมอีกด้วย
ทั้ง Theme, Wallpaper, Font ก็ปรับแต่งเพิ่มเติมได้หมดในแอป Theme Store มีให้เลือกทั้งแบบฟรีและเสียตังค์
Icon Style ก็เลือกปรับได้หลายรูปแบบ เผื่อไม่อยากใช้แบบกลม ๆ มาตรฐานที่ติดเครื่องมา ก็เข้ามาปรับเพิ่มเติมได้อีกด้วยครับ เข้าไปตั้งค่ากันได้ที่
Settings > Home screen & Lock screen Magazine > Set Icon Style
บน realme UI จะมาพร้อมกับ App Drawer หรือหน้ารวมแอปมาตั้งแต่ต้นเลย เราสามารถเลื่อนจากแถบด้านล่างเพื่อดูแอปทั้งหมดที่มีอยู่ในเครื่องได้เลย ตรงนี้ก็ง่ายดี ไม่จำเป็นต้องเอาทุกแอปไปไว้บนหน้าจอ เลือกแค่ที่จำเป็น ๆ ไว้ได้ครับ
Gesture ใช้งานได้ดี ลื่นไหล
ในเรื่องของการควบคุมก็มีแบบ Gesture มาให้เลือกปรับเช่นเดียวกับรุ่นก่อน เราสามารถปิดตัวปุ่ม 3 ปุ่ม (Navigation Keys) ด้านล่างไปได้เลย และใช้งานรูปแบบนี้แทน จะเลื่อนจากด้านล่างเพื่อเข้าสู่หน้าโฮม เลื่อนแล้วค้างไว้เพื่อเปิดหน้า Recent Apps ก็ทำได้สะดวก มีการปรับอนิเมชั่นในการเปิด-ปิดแอปให้เร็วยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกถึงความลื่นไหลในการใช้งาน แถมมันลื่นไหลดีมาก ๆ เมื่ออยู่บนจอแบบ 90Hz แบบนี้ด้วยนะ
Dark Mode ก็มีให้เลือกปรับแล้ว
Dark Mode หรือโหมดกลางคืนก็มีมาให้เลือกปรับแล้วเช่นกัน ซึ่งเราสามารถเลือกใช้งานแบบเปิดไว้ตลอดเลยก็ได้หรือจะเลือกแบบตามเวลา ถ้าถึงช่วงกลางคืนแล้วค่อยปรับแบบอัตโนมัติก็ได้เหมือนกันครับ เข้าไปตั้งค่าได้ที่
Settings > Display & Brightness > Dark Mode
ที่มุมขวาบนของหน้าจอจะมีหน้า Smart SideBar หรือแถบทางลัดเข้าแอปรวมถึงพวกการบันทึกหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอหน้าจอก็ได้จากมุมนี้เลยครับ
มีทั้งสแกนใบหน้าสแกนลายนิ้วมือครบ
ในเรื่องความสะดวกสบายในการใช้งานปลดล็อคตัวเครื่อง realme X50 Pro 5G ก็ทำได้ดีครับ ให้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาบนหน้าจอ ทำความเร็วได้ดีมาก 0.27 วินาทีก็ปลดล็อคได้แล้ว ช่วงนี้ใครไม่ชอบระบบสแกนหน้าเพราะใส่หน้ากากบ่อย ๆ สแกนนิ้วนี่แหละแจ่มสุด ๆ
แต่ถ้าชินกับการใช้งานระบบ Raise to Wake ยกเครื่องเพื่อปลุกจอหรือเคาะหน้าจอเพื่อปลุก ระบบสแกนใบหน้าก็สะดวกดีไม่น้อยครับ ปลุกจอด้วยการเคาะที่หน้าจอแล้วพอจอติดตัวระบบก็จะสแกนใบหน้าให้เราได้ทันทีพร้อมสไลด์ปลดล็อคเข้าเครื่องได้เหมือนกัน
กล้อง
กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซลอีกแล้ว !
เข้าสู่เรื่องกล้อง realme X50 Pro 5G ก็ได้กล้องหลังมามากถึง 4 ตัว พร้อมความละเอียดสูงสุดที่ 64 ล้านพิกเซล ตามรอยเรือธงรุ่นก่อนมาติด ๆ และนอกจากกล้องหลักที่ว่าเด่น ๆ แล้ว อีก 3 ตัวที่ให้มาก็ช่วยตอบโจทย์ในการใช้งานได้เป็นอย่างดี สเปคกล้องทั้งหมดมีดังนี้ครับ
- 64MP กล้องหลัก Ultra High-Resolution เซ็นเซอร์ 1/7.2”, f/1.8
- 12MP เลนส์ Tele 2x, f/2.5
- 8MP เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 119 องศา, f/2.3
- 2MP เลนส์ Portrait (B&W), f/2.4
ในส่วนของซอฟต์แวร์ realme X50 Pro 5G นั้นใช้งานได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพราะฟีเจอร์มี AI Scene และ Auto HDR มาคอยปรับภาพให้สวยโทน realme อยู่แล้ว ไม่ต้องปรับแต่งอะไรให้ยุ่งยากก็สวย ตัว UI การใช้งานสลับเลนส์ต่าง ๆ ก็กดเลือกได้เลย ไม่งงครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง realme X50 Pro 5G จะเห็นว่าไฟล์ภาพมีความคมชัดสูง โทนสีต่าง ๆ มีความสดใสและเป็นเอกลักษณ์ของ realme อยู่ ตัว HDR หรือภาพย้อนแสงต่าง ๆ ทำได้ดีเลยเรียกว่าแค่จัดองค์ประกอบภาพดี ๆ แล้วกดถ่าย สวย ครบ จบ เลยล่ะ
ซูมได้ดี แม้ระยะไกล
ในเรื่องพลังซูม ถึงแม้รุ่นนี้จะไม่ได้ชูจุดเด่นมาแบบ SuperZoom แต่ก็มีเลนส์ซูมแบบ Optical ที่ 2x มาให้ ใช้งานร่วมกับตัวกล้องหลักเป็น Hybrid Zoom ได้อีก คุณภาพในระยะ 2x - 5x นี่จะยังคมชัดมาก ๆ แต่ถ้าซูมเข้าไปอีกก็ลดหลั่นคุณภาพลงไปตามระยะเนาะ ซึ่งรุ่นนี้สามารถซูมได้ไกลสุดที่ 20x กันเลยล่ะครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากการซูมของ realme X50 Pro 5G จะเห็นว่าคุณภาพโดยรวมในการซูมของ realme X50 Pro 5G นั้นทำได้ไม่เลวเลย อย่างที่บอกว่าในระยะ 2x - 5x นี่ทำได้ดีมาก ไม่เสียรายละเอียดเลย แต่ถ้าซูมเข้าไปใกล้กว่านั้นคุก็ยังพอรับได้อยู่ มี AI คอยปรับภาพให้คมชัดมากขึ้นอีกนิด รวม ๆ ถึงแม้จะไม่ได้ซูมแบบสุดพลังแต่ก็ใช้งานการซูมได้พอประมาณเลยล่ะครับ
เลนส์มุมกว้างพร้อม macro ก็ได้
ส่วนเลนส์ Ultra Wide Angle รอบนี้ก็ได้มุมกว้าง 119 องศา เก็บภาพวิวหรือถ้าภาพคนให้ขายาวก็ทำได้ด้วยเลนส์ตัวนี้เลย แถมตัวเลนส์นี้ยังใช้งานเป็น macro ในระยะ 3.5 ซม.ได้อีกด้วย ทำให้ไม่ต้องเพิ่มเลนส์ macro เข้ามาอีกตัวเนาะ ครบดีในตัวเดียว
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Ultra Wide Angle เห็นได้ชัดว่าพอเรามีเลนส์มุมกว้างแบบนี้การเก็บภาพที่กว้างจริง ๆ ก็ง่ายขึ้น เพียงแค่กดสลับเลนส์ก็เหมือนถอยออกไปหลายก้าวแล้ว คุณภาพก็ทำได้ดีตัว Distortion ของภาพก็ไม่เยอะเพราะองศาที่ให้มา 119 องศากำลังสวยเลย หรือจะใช้ยืดขาให้กับภาพคนก็ได้เช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่าย macro จากเลนส์ Ultra Wide Angle ส่วนในการใช้งานเป็นเลนส์ macro ก็ทำได้ดีครับ เพราะความละเอียดของเลนส์นั้นเยอะถึง 8MP เข้าใกล้วัตถุได้พอประมาณ เก็บภาพออกมาได้สวยอยู่
Portrait สวย หน้าเนียน มีฟิลเตอร์ให้เลือกปรับ
ในส่วนของโหมด Portrait ก็ยังยอดเยี่ยมเหมือนเคย มีซอฟต์แวร์ AI Portrait มาช่วยเพิ่มความเนียนของใบหน้ารวมถึงการตัดขอบฉากหลังที่เนียนตา และ HDR เข้ามาใช้งานร่วมกันด้วย ในโหมดนี้เราสามารถเลือกระยะได้ 2 ระยะคือ 1x หรือ 2x ซึ่งทั้งคู่จะใช้เลนส์หลัก 64MP ในการถ่ายทั้งหมดครับ
นอกจากนี้ตัวกล้อง Portrait ใหม่นี้ยังมีฟิลเตอร์ที่ให้เราเลือกปรับแต่งภาพเป็นสไตล์อื่น ๆ ได้ด้วย มีให้เลือกกว่า 6 แบบ ซึ่งฟิลเตอร์สุดท้ายที่ 06 นั้นจะเป็นการใช้ความสามารถของเลนส์ Portrait 2MP เพื่อให้เราได้ภาพขาว-ดำแนวอาร์ท ๆ เพราะใช้เลนส์ในการทำภาพขาวดำจริง ๆ นั่นเอง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait ของ realme X50 Pro 5G ภาพที่ได้ต้องยอมรับว่าไฟล์นั้นเนียนตาดีจริง ๆ ใบหน้าของแบบก็ดูสวยขึ้นด้วย AI Portrait ปรับระดับได้อย่างเป็นธรรมชาติ สกินโทนสวยมาก ๆ การตัดขอบก็ทำได้ดีด้วย ตามเส้นผมสมจริงขึ้น ส่วนฟิลเตอร์ที่มีมาให้ก็ช่วยให้ได้ภาพที่สวยจนเราไม่ต้องแต่งเพิ่มเลยด้วย เท่าที่ลองใช้มาเราว่ากล้องของ realme นี่ถ่าย Portrait ได้สวยที่สุดแล้วล่ะ
Nightscape 3.0 กลางคืนก็เก่งขึ้น
ในโหมดกลางคืนรุ่นนี้ยังคงโดดเด่นเหมือนเคยด้วย Nightscape 3.0 ใช้การรวมภาพในหลายสภาพแสงเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ภาพตอนกลางคืนได้สวยกว่า Auto ทั่วไป แถมการประมวลผลก็เร็วใช้ได้เลยด้วย รอบนี้ใช้งานร่วมกับเลนส์อื่น ๆ ได้ทั้ง Ultra Wide Angle และ Tele ได้ด้วยทำให้เราสามารถเก็บภาพกลางคืนได้หลายมุมมากขึ้นไปอีก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Nightscape 3.0 จะเห็นว่าภาพที่ได้นั้นสวยงามเอามาก ๆ เก็บรายละเอียดของภาพได้สวย ทั้งส่วนที่แสงจ้ากับแสงมืด ประมวลผลออกมาได้แสงที่เท่า ๆ กัน รวมถึงความสวยสดของภาพก็ยอดเยี่ยม ทำให้ภาพดูมีมิติมากขึ้นจริง ๆ ครับโหมดนี้
กล้องหน้า 2 ระยะ แหม่ ถูกใจเราจริง ๆ
ส่วนกล้องหน้าก็เด่นไม่แพ้กันเพราะมาพร้อมกับกล้องหน้าคู่ มีเลนส์คู่ให้เลือก 2 ระยะคือ Wide 80 องศา และ Super Wide 105 องศา มุมกว้างสะใจเซลฟี่กลุ่มหรืออยากได้มุมดี ๆ ใช้เลนส์ตัวนี้ถูกใจแน่นอนครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ realme X50 Pro 5G คุณภาพกล้องหน้าก็ดีไม่น้อยหน้ากล้องหลังเลย ให้เลนส์มา 2 ตัวใช้งานได้ 2 ระยะจริง คุณภาพเยี่ยมทั้งเลนส์หลักและมุมกว้างเลย สกินโทนยังถูกใจเราเหมือนเดิมครับ
วิดีโอก็เจ๋งมีกันสั่นทั้งหน้า-หลัง
ในส่วนของโหมดวิดีโอ realme X50 Pro 5G ก็เจ๋งใช่ย่อยเพราะมีระบบกันสั่นแบบ UIS และ UIS Max มาทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย โดยช่วยให้เราได้ภาพที่นิ่งและเนียนไปกว่าการถ่ายแบบทั่ว ๆ ไป
ตัวอย่างวิดีโอกันสั่นจากโหมด UIS และ UIS Max ของ realme X50 Pro 5G
มีโหมดหน้าชัด-หลังเบลอบนวิดีโอด้วย
ส่วนอีกลูกเล่นที่เจ๋งมาก ๆ ก็คือ real-time Bokeh Effect ที่ให้เราสามารถใช้ฟีเจอร์หน้าชัด-หลังเบลอได้ในโหมดวิดีโอด้วย และที่สำคัญใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเหมือนเดิม
ตัวอย่างวิดีโอจากโหมด real-time Bokeh Effect ของ realme X50 Pro 5G
วิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 4K/60fps
ส่วนการอัดวิดีโอความละเอียดสูงแบบมาตรฐานรุ่นนี้ทำได้สูงสุดที่ 4K/60fps ครับ ก็ถ่ายกันที่ความละเอียดสูงแบบลื่น ๆ ได้เลย
โดยรวมในเรื่องกล้อง realme X50 Pro 5G ก็ยังทำได้ยอดเยี่ยมตามสไตล์ realme เหมือนเคยครับ โหมดการใช้งานมีมาให้ครบ ถ่ายได้ง่ายและไฟล์ออกมาสวยถูกใจ โดยเฉพาะโหมด Portrait เด็ดจริง ๆ กล้องหน้าก็ยอดเยี่ยมมี 2 ช่วงมาให้เลือกถ่ายเซลฟี่เดี่ยวเซลฟี่กลุ่มก็เก็บได้ครบหมด ส่วนวิดีโอก็เก่งขึ้นทั้งระบบกันสั่น ลูกเล่นหน้าชัด-หลังเบลอมาด้วย ถือว่าเป็นเรือธงอีกรุ่นที่ถึงแม้ไม่ได้เน้นจุดขายเรื่องกล้อง แต่กล้องก็จัดเต็มไม่น้อยครับ
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่เอาเรื่อง ใช้ได้เลยนะ
ปิดท้ายด้วยเรื่องของแบตเตอรี่ realme X50 Pro 5G ได้แบตเตอรี่ความจุ 4200mAh มาถือว่ากำลังดีกับสเปคที่ได้ ตัวชิปเซ็ตก็มีระบบจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยมครับไม่ถึงกับสูบแบตฯแม้จะใช้หน้าจอแบบ 90Hz ก็ตาม เท่าที่ลองใช้งานมากว่า 1 สัปดาห์รู้สึกได้เลยว่าแบตฯอึดเอาเรื่อง แม้จะใช้งานหนัก ๆ อย่างถ่ายรูป เล่นเกม หรือดูวิดีโอแบบต่อเนื่องครับ
รองรับชาร์จไว 65W ไวที่สุดในโลก !
เรื่องเด่นเรื่องสุดท้ายของ realme X50 Pro 5G ก็หนีไม่พ้นเรื่องระบบชาร์จ เพราะรุ่นนี้ได้ระบบ 65W SuperDart Charge ชาร์จไวที่สุดในโลกแล้วตอนนี้ เรียกว่าเสียบปุ๊บก็วิ่งไปปรู๊ด ๆ เลย ตรงนี้ทาง realme เคลมว่าแบตฯ 4200mAh นั้นชาร์จ 20 นาทีก็ได้เกือบ 60% แล้ว
ซึ่งเท่าที่เราลองชาร์จดูจริง ๆ แล้วก็ใกล้เคียงกับที่เคลมไว้จริง ๆ ครับ เล่นให้แบตฯเหลือ 5% แล้วเริ่มชาร์จผ่านไปครั้งชม.ได้แบตฯขึ้นมาถึง 85% แล้ว และชาร์จต่อไปจนเต็มก็ใช้เวลาราว ๆ 42 นาทีเท่านั้นเอง เร็วจริง ๆ !
สรุปแล้ว...เราชอบมาก ๆ รุ่นนี้
realme X50 Pro 5G ก็จัดว่าเป็นเรือธง 5G อีกรุ่นที่เราประทับใจมาก ๆ ทั้งในเรื่องดีไซน์ที่สวยโดดเด่น บอดี้งานประกอบดีขึ้นมาอีกเยอะด้วยกรอบเครื่องโลหะ ฝาหลังกระจกด้านอีก สเปคนี่ก็แรงแบบไม่ต้องพูดถึงได้ Snapdragon 865 5G ความจุเยอะ 12GB + 256GB พร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่สุดในตลาดตอนนี้ หายห่วงเล่นอะไรก็ลื่น กล้องก็ไม่ธรรมดาความสามารถครบ ช่วงเลนส์ดี Portrait นี่ต้องยอมเขาเลย และสุดท้ายเรื่องระบบชาร์จที่เร็วถึง 65W ไม่ต้องรอเวลาชาร์จอีกต่อไป มันเร็วมาก ! ทั้งหมดที่ว่ามานี้มันครบและตอบโจทย์การใช้งานของเราอย่างมาก ใครกำลังต้องการเรือธงสักรุ่นที่รองรับ “ความเร็วแห่งอนาคต” อยู่ จัด realme X50 Pro 5G ตัวนี้ได้เลย ถูกใจแน่นอน !!
ราคาและโปรโมชั่น
สำหรับราคาค่าตัวของ realme X50 Pro 5G นั้นเปิดมาที่ 28,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.เป็นต้นไป พร้อมรับของแถมเป็นบัตร VIP Card และเครื่องฟอกแากาศ
นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นกับทางผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง AIS และ True เริ่มต้นเพียง 19,990 บาทเท่านั้นครับ !
จุดเด่น
- บอดี้งานประกอบดีมาก สี Rust Red โคตรสวย
- หน้าจอ SuperAMOLED 90Hz ลื่น ๆ สีสด
- สเปคเร็วแรง ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์
- รองรับ 5G เลยตั้งแต่แกะกล่อง
- กล้องหลังไว้ใจได้ ไฟล์ดีช่วงครบ
- 65W SuperDart Charge ไวมาก
- ลำโพงคู่ Stereo เสียงแจ่ม
จุดสังเกต
- ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้ (แต่ในเครื่องให้มา 256GB แล้ว)
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite