ดีไซน์
Review : Xperia 10 II รุ่นกลางรูปลักษณ์ดี ถ้าไม่เน้นสเปค ก็ถูกใจใช่เลย !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ Xperia 10 II (เอ็กพีเรียเท็น มาร์ค ทู) สมาร์ทโฟนรุ่นกลางตัวล่าสุดของ Sony รุ่นนี้ก็ถือว่าได้รับความสนใจจากสาวกอย่างมากเพราะถือสมาร์ทโฟน Sony รุ่นแรกของปีนี้เลยก็ว่าได้ โดดเด่นทั้งในเรื่องหน้าจอ, ดีไซน์, กล้องและความสามารถกันน้ำกันฝุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sony หลังจากเราลองใช้งานมากว่า 1 สัปดาห์ก็ขอมารีวิวให้ชมกันหน่อยว่ารุ่นนี้ดีสมการรอคอยสักแค่ไหนเนาะ :D
ดีไซน์ทรงยาว จับถนัดมือ
มาเริ่มต้นกันที่ดีไซน์กันก่อนเลย Xperia 10 II นั้นมาพร้อมกับดีไซน์ทรงยาวกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ เพราะใช้อัตราส่วนแบบ 21:9 มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6” จับถือได้สะดวกเพราะความกว้างของตัวเครื่องนั้นไม่ได้มากนัก ซึ่งถ้าเทียบความกว้างแล้วจะเท่ากับสมาร์ทโฟนหน้าจอราว ๆ 5” แบบอัตราส่วน 16:9 ประมาณนั้นครับ
หน้าจอ OLED คือถูกใจมาก
หน้าจอของ Xperia 10 II นั้นใช้ชนิดจอแบบ OLED ที่ความละเอียด FHD+ ซึ่งให้สีสันและความคมชัดที่ดีมาก ๆ สมกับที่เป็น Sony ที่เด่นเรื่องหน้าจอการแสดงผลมาอย่างยาวนานจริง ๆ
ในเรื่องขนาดและน้ำหนัก Xperia 10 II ทำได้ดีมาก ๆ หนักเพียง 151 กรัมและบางเพียง 8.2 มม.เท่านั้นเรียกว่าเป็นทรงพกพาที่ดีมาก ๆ เลย เป็นสมาร์ทโฟนที่ทำน้ำหนักได้ดีอีกรุ่น ถือใช้งานได้นาน ๆ โดยไม่ปวดมือเลยล่ะ
กระจกลิงทั้งหน้าและหลัง
ในเรื่องความแข็งแรงทนทาน Xperia 10 II ก็ทำได้ดีเพราะใช้กระจก Gorilla Glass 6 มาทั้งหน้าและหลัง ทนทานต่อรอยขีดข่วนและการตกแตกได้ระดับนึงเลยทีเดียวครับ แถมยังให้ความหรูหรามาก ๆ เวลาจับถืออีก
ส่วนกรอบเครื่องจะเป็นวัสดุแบบ Polycarbonate แทน แต่ใช้ผิวสัมผัสเป็นแบบด้าน ก็ให้ความรู้สึกที่เนียนมือดีไม่ได้ขี้เหร่อะไร แถมยังช่วยให้น้ำหนักตัวเครื่องนั้นเบาอีกด้วยเนาะ
กล้องหลัง 3 ตัววางเรียงไว้ที่มุม
ในส่วนของกล้องหลัง Xperia 10 II ให้มา 3 ตัววางเรียงกันอย่างมีระเบียบไว้ที่มุมซ้ายบน กล้องหลัง 3 ตัวนี้ประกอบไปด้วย
- 12MP กล้องหลัก f/2.0, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8”, Dual-Pixel PDAF
- 8MP เลนส์ Tele 2x f/2.4, PDAF
- 8MP เลนส์ Ultra Wide f/2.4, มุมกว้าง 120 องศา
มีปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง
ในส่วนของระบบปลดล็อค Sony เลือกใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่องที่ปุ่ม Power แทน ช่วยให้ตัวเครื่องนั้นเรียบหรูไปทั้งตัวไม่มีปุ่มส่วนเกินอยู่ที่ด้านหลัง ซึ่งการแตะสแกนก็ทำได้ง่ายเพราะตำแหน่งอยู่ในมุมที่วางนิ้วโป้งลงไปได้พอดีเป๊ะอยู่แล้ว
พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีครบนะ
ในเรื่องการเชื่อมต่อ Xperia 10 II ให้มาครบทั้งพอร์ต USB Type-C และช่องหูฟัง 3.5 มม.โดยจะวางตำแหน่งไว้ที่ด้านล่าง-บนตามลำดับครับ
ลำโพงวางไว้ด้านหน้าทั้งหมด
ในส่วนของลำโพงของตัวเครื่องจะวางไว้บนหน้าจอทั้งหมด ตัวลำโพงสนทนาก็อยู่เหนือหน้าจอปกติ รวมถึงลำโพงหลักของตัวเครื่องก็อยู่ที่ด้านล่างหน้าจอครับ แต่น่าเสียดายที่ลำโพงทั้งคู่นั้นไม่สามารถใช้งานร่วมกันเป็น Stereo ได้ เวลาฟังเพลงเสียงจะออกมาที่ด้านล่างอย่างเดียวเนาะ
ไฟ LED แจ้งเตือนก็มีด้วย
ในปี 2020 เราคงไม่ค่อยได้เห็นตัวไฟ LED แจ้งเตือนบนสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่แล้ว แต่ Sony ยังคงติดมาให้เราอยู่ ส่วนตัวชอบมาก ๆ เพราะเราไม่จำเป็นต้องให้หน้าจอติดตลอดหรือคอยมาปลุกจอดูว่ามีแจ้งเตือนเข้ามาไหม การมีไฟ LED แจ้งเตือนก็ช่วยได้เยอะทั้งการชาร์จหรือข้อความเข้าเนาะ
เปลี่ยนซิมได้เลยไม่ต้องพึ่งเข็ม
อีกหนึ่งข้อดีของสมาร์ทโฟน Sony ก็คือการที่เราสามารถดึงถาดซิมออกมาได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เข็มจิ้มถาดซิมแบบรุ่นอื่น ๆ แค่ใช้เล็บดึงตัวถาดซิมออกมาก็ได้แล้ว แต่การที่มันดึงออกมาได้ง่ายแบบนี้ก็มีเรื่องความปลอดภัยเข้ามาทดแทนคือตัวเครื่องจะรีสตาร์ททุกครั้งที่เราดึงถาดซิมออกมานั่นเองครับ
ซึ่งถาดซิมของ Xperia 10 II ก็จะเป็นแบบไฮบริดเนาะ ต้องแบ่งเอาว่าจะใช้แบบ 2 ซิมหรือแบบ 1 ซิม 1 เม็มการ์ด
กันน้ำกันฝุ่นด้วยนะ
อีกจุดเด่นของสมาร์ทโฟน Sony ก็คือเรื่องกันน้ำ ซึ่ง Xperia 10 II นั้นได้มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IP65/IP68 มาเลย ลงน้ำได้ระดับ 1.5 เมตรนานถึง 30 นาที หายห่วงเรื่องโดนฝนหรือเผลอทำตกน้ำได้เลย
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ Xperia 10 II ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานรุ่นกลางของ Sony บอดี้ดูหรูหราและให้ความรู้สึกที่เป็น Sony เอามาก ๆ งานประกอบดี หน้าจอสวยคมชัด รวมถึงการกันน้ำกันฝุ่นที่หาได้ยากในสมาร์ทโฟนรุ่นราคาหมื่นต้น ๆ แบบนี้เนาะ
สเปคและฟีเจอร์การใช้งาน
สเปค Sony Xperia 10 II
- หน้าจอ OLED 6” ความละเอียด FHD+ (2520 x 1080 พิกเซล)
- อัตราส่วน 21:9, 60Hz กระจกกันรอย Corning Glass 6
- ซีพียู Snapdragon 665 Octa-core 2GHz (11nm)
- จีพียู Adreno 610
- แรม 4GB
- ความจุ 128GB
- รองรับ micro-SD
- แบตเตอรี่ 3600mAh
- รองรับชาร์จไว 18W
- กล้องหน้า 8MP f/2.0
- กล้องหลัง 3 ตัว
- 12MP กล้องหลัก f/2.0, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8”, Dual-Pixel PDAF
- 8MP เลนส์ Tele 2x f/2.4, PDAF
- 8MP เลนส์ Ultra Wide f/2.4, มุมกว้าง 120 องศา
- รองรับ 2 ซิม (4G LTE)
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4/5G, Bluetooth 5.0, USB Type-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
- รองรับสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง
- รัน Android 10
- ขนาดตัวเครื่อง 157 x 69 x 8.2 มม.
- น้ำหนัก 151 กรัม
- วางจำหน่าย 3 สี ดำ, น้ำเงินและเขียวมิ้นต์
สเปคกลาง ๆ ใช้งานโอเค
ในเรื่องของสเปค Xperia 10 II นั้นไม่ได้ชูจุดเด่นเรื่องความแรงเหมือนกับแบรนด์อื่น ๆ ในกลุ่มราคาเท่ากัน ให้สเปคมาแบบพอใช้งานทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่ดีแทน Xperia 10 II ได้หน่วยประมวลผล Snapdragon 665, แบตเตอรี่ 3600mAh มีชาร์จไว 18W และความจุภายใน 128GB แต่จุดที่อยากติจริง ๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องแรมที่ให้มาแค่ 4GB ถึงแม้จะบอกว่าไม่เน้นเรื่องสเปคมากนัก แต่ถ้าให้เพิ่มมาเป็น 6GB ก็น่าจะดีกว่าดีนา
ผลคะแนนก็กลางจริง
ในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพจากแอป AnTuTu Benchmark ก็ได้คะแนนคร่าว ๆ ออกมาที่ 176987 คะแนน ถือว่ากลาง ๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรเนาะ แบ่งคะแนนออกเป็นส่วน ๆ ดังนี้ครับ
- CPU : 71349
- GPU : 35137
- MEM : 38577
- UX : 31924
ใช้ Android 10 มีลูกเล่นเพิ่มนิดหน่อย
ในเรื่องของซอฟต์แวร์ Xperia 10 II ใช้ Android 10 ที่ครอบทับมาด้วย XperiaUI มีความเรียบหรูและใกล้เคียงกับ Stock Android มาก ใช้งานได้อย่างลื่นไหลดีทีเดียว
แต่ด้วยแรมที่ให้มาเพียง 4GB เท่าที่ใช้งานมาก็เจออาการแอปดีดอยู่บ้าง เมื่อสลับใช้งานหลาย ๆ แอปพร้อมกัน อย่างเช่นเราเล่นเกมอยู่เพลิน ๆ อยากกลับมาตอบแชทกดสลับไปสลับมา บางครั้งกลับเข้าไปเล่นเกมก็ดีดออกต้องโหลดเข้าใหม่ก็มีครับ
ตัวแอปที่ให้มาในเครื่องตั้งแต่แกะกล่องก็จะมีเพียงแอปของ Sony นิดหน่อยและ Google เป็นหลักเลย ให้ความคลีนแบบสุด ๆ ขนาดแอป Album หรือ Gallery พี่ท่านยังใช้ Google Photos
ตัว UI ก็เข้าใจง่ายไม่ยุ่งยากครับมีหน้า App Drawer มาให้ใช้งาน หน้า Recent App หรือแถบการแจ้งเตือน (Notification Bar) ก็เรียบ ๆ เป็นของ Stock Android มาเลย
มี Dark mode ให้เลือกปรับด้วย โทนเป็นสีเข้มให้ใช้งานได้อย่างสบายตามากขึ้น
ใช้รูปแบบ Navigation Gesture ก็ได้ด้วย
ในส่วนของการควบคุมแน่นอนว่าเป็น Android 10 เราก็สามารถเลือกใช้งาน Navigation Gesture ในการควบคุมแทน 3 ปุ่มด้านล่างได้แล้ว ซึ่งพอมาใช้บนหน้าจอยาว ๆ แบบนี้ก็ให้ความสะดวกมากกว่าเราใช้แบบ 3 ปุ่มด้านล่างเยอะ เราไม่ต้องเอื้อมนิ้วลงมาเนาะ
มี Side Sense แถบทางลัดเข้าถึงง่าย
XperiaUI ใหม่นี้จะมีฟีเจอร์ Side Sense ให้เราได้แตะที่มุมจอ 2 ครั้งเพื่อเรียกแถบทางลัดขึ้นมาได้ด้วย ตรงนี้จะมีทั้งตัวเลือกแอป, ตัวเลือกเปิด-ปิด WiFi, Bluetooth รวมถึง Multi Window ด้วยครับ
จอยาวแบบนี้เหมาะกับใช้งาน Multi-Window
หน้าจอของ Xperia 10 II ใช้อัตราส่วนแบบ 21:9 แบบนี้ก็เหมาะกับการใช้งาน Multi Window หรือ 2 แอปในหน้าจอเดียวกันจริง ๆ เพราะตัวอัตราส่วนจะแบ่งเท่า ๆ กันใช้งานได้อย่างพอดี แถมมีแอปเรียกใช้งาน Multi Window ง่าย ๆ อยู่บนหน้าโฮมแล้วด้วย กดปุ๊บก็มาเลือกแอปใช้งานคู่กันได้เลยสะดวกสุด ๆ
หน้าจอ ระบบเสียง เล่นเกม
หน้าจอเต็มตา ดูหนังอย่างฟิน
ความบันเทิงบน Xperia 10 II นั้นได้หน้าจอ OLED ขนาด 6” มา จากขนาดอาจจะไม่ถึงกับใหญ่สะใจเท่าไหร่ แต่อัตราส่วนที่ได้มานั้นเรียกว่าเต็มตามาก ๆ เพราะเป็นอัตราส่วนแบบโรงภาพยนตร์เลย กว้างสุดเอามาดูหนังหรือวิดีโออัตราส่วนก็เต็มไม่เหลือขอบดำใด ๆ ครับ
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีฟีเจอร์ Video Image Optimization ที่จะช่วยยกระดับวิดีโอให้สีสันนั้นสดมากขึ้น ความคมชัดโดดเด่นกว่าแบบทั่วไปอีกเยอะเลย ซึ่งตรงนี้ตัวรบบจะเปิดมาให้ตั้งแต่ต้นเราไม่ต้องไปปรับตั้งค่าใด ๆ ครับ แต่ถ้าใช้งานแล้วรู้สึกว่าจอสดไปอยากได้แบบธรรมชาติก็เข้าไปปรับออกได้ด้วยนะ
ตั้งค่าที่ Settings > Display > Quality > Image Quality Settings > Video Image Optimization
จอยาว ๆ นี่ดูคอนเทนต์แนวตั้งดีจริง ๆ
นอกจากเรื่องความสวยสดเวลาแสดงผลแล้ว ในเรื่องการอ่านฟีดหรือใช้งานแนวตั้ง จอแบบ 21:9 ของ Xperia 10 II นี้ก็ทำได้ดีมาก เพราะความยาวที่มากกว่ารุ่นทั่วไป เวลาเราดูคอนเทนต์ที่เป็นแนวตั้งก็จะได้เยอะกว่า อย่างปกติเลื่อน Facebook อาจจะเห็นแค่ 1 โพสต์ต่อการเลื่อน แต่พอเป็นบน Xperia 10 II เห็นมากขึ้นเป็นโพสต์ครึ่ง หรืออ่านรีวิวบนเว็บไซต์อาจจะเห็นแค่ 1 ย่อหน้าบนสมาร์ทโฟนทั่วไป พอมาบนรุ่นนี้ได้ถึง 2 ย่อหน้าเลย ก็ช่วยให้เราเห็นเนื้อหาได้เยอะขึ้น ไม่ต้องเลื่อนมากเท่าที่เคย
ลำโพงเดี่ยวเสียงตรง แต่แอบเบาไปหน่อย
ส่วนเรื่องเสียง Xperia 10 II นั้นได้ลำโพงเพื่อความบันเทิงมาเพียงตัวเดียวที่ด้านล่างหน้าจอ เสียงที่ได้ให้ทิศทางที่ดีครับ เพราะส่งตรงมาที่ตัวเราเลยว่าดูหนังหรือเล่นเกม แต่ส่วนตัวคิดว่าเสียงนั้นแอบเบาไปหน่อย ต้องเปิดแบบเกือบสุดถึงจะได้อรรถรสในการดูหนังหรือเล่นเกมครับ
มีช่องหูฟัง 3.5 มม. นะ
ส่วนในเรื่องการฟังเพลงผ่านหูฟัง Xperia 10 II ได้ช่องหูฟังมาอยู่ ใครที่ใช้งานหูฟังคุณภาพแบบแจ็ค 3.5 มม. อยู่ก็ไม่ต้องไปหาตัวแปลงมาใช้งานร่วมกับรุ่นนี้ เสียบใช้งานได้เลยครับ
เล่นเกมไหวแค่ไหนสเปคนี้
มาถึงเรื่องการเล่นเกมกันบ้าง อย่างทื่บอกไปว่าสเปคของ Xperia 10 II นั้นไม่ได้เน้นความแรงแบบขั้นสุด ให้มาแบบพอดี ๆ สามารถเล่นเกมได้ในระดับกลาง และเกมที่เราทดสอบในคราวนี้ก็คือ Call of Duty, Asphalt 9 และ PUBG ครับ
ในส่วนของ Call of Duty ด้วยความเป็นเกมใหม่ก็มีการปรับแต่งประสิทธิภาพให้เข้ากับชิปเซ็ตได้เป็นอย่างดี เราสามารถปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตได้ที่ Very High เลย พร้อมเอฟเฟกต์อื่น ๆ อย่าง Depth of Field, ลบรอยหยักต่าง ๆ ก็ปรับได้ด้วยเช่นกันครับ
ซึ่งเท่าที่ลองเล่นมาตัวเกมก็รันได้อย่างดีเลย เฟรมเรตนิ่งใช้ได้ กราฟิกก็สวยเมื่อเล่นบนหน้าจอ OLED ของ Xperia 10 II นี้ แถมตัวหน้าจอที่กว้างขนาดนี้ก็ให้การแสดงผลที่มากกว่ารุ่นทั่ว ๆ ไปอีก
การตอบสนองการสัมผัสเวลาเล่นก็ทำได้ดีครับ ทันนิ้วเวลาเล่นก็ไม่ขัดใจ แต่จะมีเรื่องอัตราส่วนที่กว้างกว่าปกติที่อาจจะต้องปรับตำแหน่งการวางปุ่มกันใหม่หน่อยไม่งั้นอาจไม่ชินเนาะ
ส่วน Asphalt 9 อันนี้ก็สามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดแต่ในค่าตั้งต้นเลือกมาที่ Default ก็โอเคครับ เฟรมเรตมีตกบ้างในจังหวะที่มีเอฟเฟกต์เยอะ ๆ หรือเบียดกันหนัก ๆ แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีครับ
ตัวเกมก็รองรับอัตราส่วนหน้าจอแบบ 21:9 แล้ว (จะมี UI ในหน้าเมนูที่ยังไม่เต็มนิดหน่อย) แสดงขอบเขตได้กว้างดีจริง ๆ ครับ
ปิดท้ายที่ PUBG อันนี้น่าจะไม่ได้ปรับแต่งมาให้เข้ากับตัวหน้าจอเท่าไหร่ เพราะการแสดงผลนั้นยังมีขอบดำเหลืออยู่บ้างที่มุมซ้าย-ขวารวมถึงด้านล่างด้วยนิดหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรครับ
อันนี้คิดว่าตัวแอปอาจจะไม่ได้ปรับจูนให้เข้ากับสเปคเท่าไหร่ ตัวกราฟิกนั้นสามารถเลือกปรับได้ที่ Smooth (ต่ำสุด) เฟรมเรตสูงสุดที่ High เท่านั้นครับ ภาพอาจจะไม่สวยถูกใจนักแต่เฟรมเรตทำได้นิ่งใช้ได้ครับ
โดยรวมในเรื่องความบันเทิง Xperia 10 II ก็โดดเด่นในเรื่องหน้าจออย่างมาก แสดงผลได้สวยงามดูหนังเล่นเกมนี่อิ่ม ๆ เลย ส่วนในเรื่องระบบเสียงก็กลาง ๆ ไม่โดดเด่นอะไร และเรื่องการเล่นเกมถึงแม้สเปคจะไม่ได้สูงมากแต่เท่าที่ทดสอบกับเกมฮิต ๆ ก็ถือว่าเล่นได้ในระดับที่ดีใช้ได้เลยครับ
กล้อง
กล้องหลัง 3 ตัวช่วงครบนะตัวนี้
มาเข้าสู่เรื่องกล้อง Xperia 10 II นั้นได้กล้องหลังมาทั้งหมด 3 ตัว ครบช่วงทั้งมุมกว้าง, มุมหลัก และซูม 2x มีสเปคดังนี้
- 12MP กล้องหลัก f/2.0, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8”, Dual-Pixel PDAF
- 8MP เลนส์ Tele 2x f/2.4, PDAF
- 8MP เลนส์ Ultra Wide f/2.4, มุมกว้าง 120 องศา
เรียกว่าได้ครบช่วงมาเหมือนกันไม่กั๊ก ๆ ให้พวกเลนส์ Depth หรือ macro มาเนาะ
ในส่วนของ UI กล้องก็เข้าใจง่ายไม่ยุ่งยากเนาะ มีไอคอนให้เลือกปรับเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอ ส่วนตัวเลือกเพิ่มเติมที่ฝั่งซ้ายก็ใช้งานได้สะดวก ทั้งการสลับกล้อง, การปรับความสว่าง, อัตราส่วนของภาพ, โหมดหน้าชัด-หลังเบลอ และเปิด-ปิดไฟแฟลช
ปรับโทนสีก็ได้ไม่ใช่แค่ปรับแสง
ในการปรับตั้งค่าความสว่างเวลาถ่ายภาพ UI ของ Xperia 10 II ก็เพิ่มลูกเล่นตัว White Balance เข้ามาด้วย เมื่อเราแตะที่ไอคอนรูปพระอาทิตย์ที่มุมซ้ายจะมีแถบให้เลือกปรับ 2 แบบ โทนสีกับความสว่างครับ เผื่อบางครั้งเราอยากได้โทนที่เย็นขึ้นหน่อยก็กดแค่ตรงนี้ไม่ต้องไปโหมด Manual เนาะ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Xperia 10 II โทนสีของภาพคงเอกลักษณ์ของ Sony ได้เป็นอย่างดี สกินโทนจะออกเนียน ๆ สีสันสวย ไม่เน้นโทนจัดจ้าน มุมภาพก็ทำได้ดีเพราะมีทั้งมุมกว้างไปจนถึงช่วงซูม แต่ข้อเสียเท่าที่ลองใช้งานมาจริง ๆ ก็คือความหน่วงในการจับภาพ ชัตเตอร์ไม่เร็วเอาซะเลย ใช้เวลาโฟกัสบวกจับภาพราว 1 - 3 วินาทีต่อการถ่ายภาพ 1 ภาพ ซึ่งอาจจะไม่ทันใจในการใช้งานนักตรงนี้
Portrait mode บน Xperia 10 II
ส่วนการถ่าย Portrait หรือหน้าชัด-หลังเบลอ สามารถเลือกถ่ายได้ง่าย ๆ โดยการแตะที่ไอคอนตรงมุมซ้ายล่าง เราสามารถเลือกระดับความเบลอของภาพได้หลายระดับ โดยตัวกล้องจะใช้เลนส์ Tele 2x ในการเก็บภาพครับเมื่อเลือกมาในโหมดนี้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait สกินโทนยังสวยสมกับเป็น Sony ครับ มีความเป็นธรรมชาติใช้ได้ แต่ปัญหาหลักของโหมดนี้ก็ยังอยู่ที่เรื่องความหน่วงของการจับภาพ ในโหมด Auto ว่าช้าแล้ว พอเป็น Portrait นี่หนักเลย ใช้เวลาราว 3 - 5 วินาทีได้ ทำให้หลายครั้งจังหวะที่กดกับภาพที่ได้นั้นอาจไม่ตรงกันซะทีเดียว แบบอาจจะหุบยิ้มไปแล้วทั้ง ๆ ที่กล้องยังจับภาพไม่เสร็จ
Night Mode มีแล้ว เก็บภาพได้ดี
ส่วนเรื่อง Night Mode บน Xperia 10 II ก็มีมาให้แล้ว ใช้เวลาจับภาพแบบปกติราว 7 - 8 วินาทีตามสไตล์โหมดนี้ ใช้เวลารวมภาพไม่นานเท่าไหร่ ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Night Mode คุณภาพก็ถือว่าทำได้ดีตามสภาพครับ สีสันและความคมชัดยกขึ้นมาจากโหมด Auto ทั่วไป แต่ถ้าบางภาพที่มืดมาก ๆ ก็จะเห็นว่ามีการเร่ง ISO จนภาพนั้น Noise เยอะก็มีครับ
กล้องหน้า 8MP เซลฟี่โทนสวย
ในส่วนของกล้องหน้าเซลฟี่ Xperia 10 II ก็ให้กล้องหน้ามา 8MP เซลฟี่ได้ดีโทนยังคงความเป็น Sony มีลูกเล่นเพิ่มความเนียนของใบหน้า ตาโต คางเรียว และละลายฉากหลังให้เลือกปรับด้วยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ Xperia 10 II
โดยรวมในเรื่องกล้อง Xperia 10 II นั้นทำออกมาได้โอเคตามสไตล์ Sony โทนของภาพได้เอกลักษณ์มาก ๆ รู้เลยว่าถ่ายจากกล้อง Sony สีสันดี ถ่ายคนก็สวย ถ่ายวิวก็ได้ แต่ปัญหาหลักของกล้องรอบนี้ก็คือเรื่องของความหน่วงของชัตเตอร์ที่ช้าเกินไปหน่อย กว่าจะโฟกัสและถ่ายได้ ถ้าปรับเรื่องนี้ได้จะเป็นกล้องที่ดีตัวหนึ่งเลยล่ะครับ
ส่วนวิดีโอ Xperia 10 II สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30fps มีระบบกันสั่นมาให้ด้วย และมีฟีเจอร์ Smile Shutter กับ Object Tracking ล็อคโฟกัสติดตามไปได้ด้วย แต่ฟีเจอร์ทั้งหมดที่ว่ามานี้จะใช้ได้เฉพาะบนความละเอียดระดับ 1080p 30fps เท่านั้นนะครับ
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่พอใช้ได้
ในเรื่องของแบตเตอรี่ Xperia 10 II ให้แบตฯมาที่ 3600mAh เทียบกับสเปคและขนาดหน้าจอก็ถือว่ากำลังดีครับ เท่าที่ใช้มาก็อยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ไม่ถึงกับอึดมากนัก ถามว่าใช้งานได้ตลอดทั้งวันไหม ถ้าไม่เล่นเกมหนักหรือถ่ายรูปเยอะ ๆ ก็พอได้อยู่ครับ แต่ถ้าจัดเต็มจริง ๆ ไม่ไหวแน่นอน
รองรับชาร์จไว 18W
แต่ยังดีที่รุ่นนี้รองรับระบบชาร์จไว 18W ช่วยให้ใช้เวลาชาร์จไม่นาน แต่ถ้าอยากชาร์จไวก็ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมแยกอีกทีเพราะในกล่องพี่ท่านให้มาแค่ 7.5W เท่านั้นเอง
สรุปแล้ว
Xperia 10 II ก็ถือว่าเป็นรุ่นกลางอีกตัวที่น่าสนใจในกลุ่มราคานี้ โดดเด่นด้วยหน้าจอ OLED แบบ 21:9 ที่ไม่เหมือนใคร แสดงผลได้สวยคม บอดี้งานประกอบที่ดูดีสมกับ Sony มีความสามารถกันน้ำกันฝุ่นตาม IP65/IP68 ด้วย มีกล้องที่ครบช่วงแต่ทำงานช้าไปหน่อย ส่วนเรื่องสเปคก็อาจจะไม่ใช่จุดเด่นของรุ่นนี้มากนักแต่ก็ถือว่ายังใช้งานได้อย่างราบรื่นในการทำงานทั่วไป เทียบกับราคาค่าตัว 12,990 บาทและได้แบรนด์ Sony ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อยครับ :D
จุดเด่น
- หน้าจอ OLED แสดงผลสวยจริง ๆ
- อัตราส่วนแบบ 21:9 จอกว้าง
- บอดี้งานประกอบดีกระจก Gorilla Glass 6 หน้า-หลัง
- ขนาดน้ำหนักเบาพกพาง่าย
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP65/IP68
- ซอฟต์แวร์คลีน ๆ มีลูกเล่นนิดหน่อย
- มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
จุดสังเกต
- กล้องมีความหน่วงในการถ่าย
- ให้แรมมาน้อยไปหน่อย (4GB)
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite