แกะกล่อง
Unbox : แกะกล่องพรีวิว realme Buds Air Neo และ realme Watch
อุปกรณ์ AIoT ใหม่ฟีเจอร์ครบครัน ราคาเบา ๆ !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความแกะกล่องอุปกรณ์ใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เรามี 2 อุปกรณ์ AIoT ใหม่ของ realme กับ หูฟัง realme Buds Air Neo และนาฬิกาอัจฉริยะ realme Watch มาแกะกล่องให้ชมกัน 2 ตัวนี้ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจ เพราะให้ความสามารถมาครบไม่แพ้คู่แข่งแต่ราคาค่าตัวนั้นจับต้องได้แบบสุด ๆ อุปกรณ์ภายในกล่องของแต่ละตัวมีอะไรบ้าง มาชมกันเลยครับ :D
แพ็กเกจเอกลักษณ์ realme จริง ๆ
ชุดแพ็กเกจของทั้ง 2 อุปกรณ์ก็คงเอกลักษณ์ของ realme ได้ดีจริง ๆ ด้วยสีเหลืองที่เป็นสีของแบรนด์ตัดกับชื่อผลิตภัณฑ์อยู่ชัดเจนที่ด้านหน้าพร้อมภาพประกอบอยู่ด้วยครับ เดี๋ยวเรามาแยกแกะกันเป็นอย่าง ๆ ไปดีกว่าเนาะ
realme Buds Air Neo
หูฟัง True Wireless ราคาประหยัดสุด ๆ
เริ่มต้นที่ realme Buds Air Neo กันก่อนเลย รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นราคาประหยัดลงมาจาก realme Buds Air เดิมที่เปิดตัวไปช่วงต้นปีอีกนิด ตัวกล่องมีภาพประกอบอย่างที่บอกไปครับ
เปิดกล่องออกมาก็จะเจอตัวเคสของหูฟังพร้อมซองคาดไว้บรรจุอยู่ในกล่องอย่างดีครับ
ตัวเคสมีขนาดกะทัดรัดเหมือนเดิม ทรงน่าพกพาสีที่เราได้มารีวิวเป็นสีขาว Pop White แต่นอกจากสีขาวเบสิค ๆ แบบนี้แล้ว realme Buds Air Neo ยังมีตัวเลือกสีอื่นอย่าง สีเขียว Punk Green และ สีแดง Rock Red ด้วยนะ
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีคู่มือและเอกสารเคล็ดลับการใช้งานมาให้ด้วย
ส่วนสายชาร์จก็จะเป็นแบบ micro-USB ครับ แตกต่างจาก realme Buds Air ที่ตัวนั้นจะเป็น USB Type-C ครับ ก็มีเท่านี้ครับอุปกรณ์ภายในกล่องก็มาตรฐานเอกสารและสายชาร์จ
ดีไซน์
มาดูตัวดีไซน์ของ realme Buds Air Neo กันต่อเลย อย่างที่บอกไปว่าตัวเคสนั้นมาพร้อมขนาดที่เล็กกะทัดรัด ทรงยอดฮิตของหูฟัง True Wireless นี่แหละ วัสดุเป็นพลาสติกขัดเงาตัวสีขาวก็ดูดีใช้ได้เลย มีไฟสถานะที่หน้าเคสด้วยเมื่อเวลาเราเปิดก็จะมีไฟติดขึ้นมาครับ
ที่ตัวเคสจะมีปุ่มสำหรับเชื่อมต่ออยู่ตรงกลางเลยถ้าหากเปิดเคสแล้วยังไม่สามารถเชื่อมต่อได้หรืออยากจะรีเซ็ตสัญญาณก็กดที่ปุ่มตรงนี้ค้างไว้สักครู่ได้เลยครับ
ตัวหูฟังก็ยังมาในทรงยอดฮิตครับ คล้ายกับตอน Buds Air เดิม แต่จะสังเกตว่าที่ตัวหูมีจุดสีดำ ๆ เพียงข้างละจุด ใช่แล้วครับนั่นเป็นไมโครโฟน ตัว Buds Air Neo จะไม่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับเวลาสวมใส่มาแบบรุ่นที่แล้ว ก็คือไม่มีฟีเจอร์แบบเอาหูฟังออกแล้วเพลงหยุดเล่นอัตโนมัติแบบนั้นนั่นเอง
ที่ก้านหูฟังจะรองรับระบบสัมผัสไว้ใช้งานแตะเพื่อสั่งงานจะเป็นการรับสาย, เล่น-หยุดเพลง, เลื่อนเพลง หรือเปลี่ยนโหมดก็ใช้แตะที่บนสุดของก้านหูฟังได้ครับ
ตรงท้ายของก้านจะมีคำว่า L R สกรีนอยู่เพื่อแบ่งแยกข้างของหูฟัง มีแถบแม่เหล็กอยู่เด่น ๆ ที่ด้านล่างเอาไว้ใช้งานชาร์จไร้สายเมื่อเวลาเก็บคืนเข้าไปในเคสครับ
ที่ตัวเคสด้านหลังจะมีสกรีนคำว่า Designed by realme อยู่ด้วยนะ
พอร์ตการเชื่อมต่อของตัวเคสอย่างที่บอกไปตอนเห็นสายในกล่องเนาะ รุ่นนี้ใช้ micro-USB อยู่ครับ ยังไม่ใช่ USB Type-C เนอะ ตรงนี้แอบเสียดายนิดหน่อย เพราะยุคนี้แล้วน่าจะให้ Type-C มาเลยมากกว่า
การเชื่อมต่อง่ายดายมากสำหรับ realme Buds Air Neo ก็มาพร้อมกับระบบ Google Fast Pair สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่รองรับ Android 10 ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่เปิดฝาเคสแล้วนำไปใกล้ ๆ สมาร์ทโฟนก็จะมี Pop Up ขึ้นมาถามทันทีว่าเราจะเชื่อมต่อเลยไหม
ก็ถือว่าเป็นหูฟังอีกตัวที่น่าสนใจ ตามสเปคแล้ว รุ่นนี้โดดเด่นพลังเสียงที่มีไดรเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 13 มม.เบสแน่น เรื่อง Latency หรือความหน่วงต่ำเพียง 119.2ms ช่วยให้เราดูวิดีโอแล้วภาพไม่ดีเลย์ รวมถึงการเล่นเกมก็รองรับ Game mode ช่วยซิงค์เสียงให้ตรงกับภาพได้มากขึ้น ตรงนี้ไว้เดี๋ยวไว้ไปลองแบบจริงจัง ๆ แล้วมารีวิวให้อ่านกันอีกทีเนาะ อันนี้แกะกล่องคร่าว ๆ ให้ชมกันก่อน เดี๋ยวเราไปชมตัว realme Watch กันต่อดีกว่า
realme Watch
สมาร์ทวอทช์ตัวแรกของแบรนด์ ฟีเจอร์ครบอยู่
มาต่อกันกับ realme Watch สมาร์ทวอทช์ตัวแรกของแบรนด์ realme มีจุดน่าสนใจเยอะทีเดียว ตัวกล่องมาพร้อมกล่องยาว ๆ พร้อมภาพประกอบตัวเรือนชัดเจน สีที่เราได้มารีวิวคือสายสีดำครับ มาตรฐานเนาะ
ที่ด้านหลังจะมีฟีเจอร์เด่นของเจ้า realme Watch อยู่ ทั้งหน้าจอสีขนาดใหญ่, รองรับการเปลี่ยนสายได้, ตรวจจับกิจกรรมระหว่างวันได้, ตรวจจับออกซิเจนในเลือดได้, มี Heart Rate Monitor ตรวจจับได้ 24 ชม. และโหมดการตรวจจับการออกกำลังกายถึง 14 แบบครับ
เปิดกล่องมาชั้นแรกเราจะเจอกับตัว realme Watch เลย วางไว้อย่างเป็นระเบียบ ตัวเลือกสายของ realme Watch จะมีให้เลือก 4 สีคือ ดำ, เขียว, แดง และน้ำเงินครับ
ตัวเรือนเมื่อหยิบขึ้นมาแล้วก็ให้ความรู้สึกที่เบากำลังดีครับ
อุปกรณ์ภายในก็จะมีสายชาร์จที่เป็นตัวประกบแบบแม่เหล็กเข้ากับตัวเครื่องโดยตรงออกไปเป็นพอร์ต USB Type-A ครับ
และอีกอย่างก็จะเป็นเอกสารคู่มือการใช้งานเนาะ
เชื่อมต่อผ่าน realme Link
แกะกล่องเสร็จแล้ว วิธีการใช้งานของ realme Watch ก็คือต้องเขื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเราผ่านแอป realme Link ก่อนเลย ซึ่งตอนนี้ตัวแอปยังมีเฉพาะบน Android เท่านั้นเนาะ
ตัว realme Watch มีภาษาไทยรองรับมาให้เลยตั้งแต่แกะกล่องครับ เปิดครั้งแรกก็ทำการจับคู่กับสมาร์ทโฟนได้ง่าย ๆ ทำตามขั้นตอนเปิดแอปมาและเลือกเชื่อมต่อสแกน QR Code แล้วเซ็ตไม่กี่ขั้นตอนก็เรียบร้อยครับ
ดีไซน์
ในตัวแอปจะมีการตั้งค่าของ realme Watch หลายอย่างทั้งการแจ้งเตือน หน้าปัดต่าง ๆ อันนี้ไว้ค่อยพูดถึงอีกทีละกันเนาะ มาดูดีไซน์ของตัวเรือนกันก่อนดีกว่า realme Watch มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 1.4” ความละเอียด 320 x 320 พิกเซล แสดงผลได้สวยใช้ได้เลย ตัวกระจกหน้าจอจะเป็น Gorilla Glass แบบ 2.5D สังเกตดี ๆ จะมีโลโก้ realme อยู่ที่ล่างหน้าจอนี้ด้วยนะ
ที่ด้านหลังของตัวเรือนจะมีเซ็นเซอร์ Heart Rate Monitor อยู่ด้วย รองรับการใช้งานตรวจจับดารเต้นของหัวใจรวมถึงฟีเจอร์อย่างการวัดออกซิเจนในเลือดด้วย ตัวสายจากตรงนี้เราสามารถถอดออกและเปลี่ยนได้เองด้วยนะ
ที่มุมขวาจะมีปุ่มกด 1 ปุ่ม พร้อมกบัการทำเส้นสีเหลืองที่เป็นเอกลักษณ์ของ realme อยู่ด้วย เห็นปุ่มนี้แล้วนึกถึงบนสมาร์ทโฟน realme จริง ๆ
realme Watch มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ด้วย ปลอดภัยหายห่วงถ้าเกิดต้องลุยฝนหรือโดนน้ำเวลาออกกำลังกายครับ
ตัวสายของ realme Watch จะเป็นสายซิลิโคร ผิวนุ่ม ใส่ได้สบายและไม่ระคายผิวเท่าไหร่ครับ กระชับกับตัวข้อมือได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
หน้าปัดเลือกได้ 6 แบบจากในเครื่องเอง แน่นอนว่าด้วยความเป็นสมาร์ทวอทช์เนาะ เราจะใช้หน้าปัดหรือ Watch Faces แบบเดียวก็คงกระไรอยู่เนอะ ซึ่งจากตัว Watch เองเราสามารถแตะค้างที่หน้าปัดแล้วเลือกเปลี่ยนได้มากถึง 6 แบบ
แต่จริง ๆ แล้วจะมีมาให้ทั้งหมด 12 แบบ มาเลือกเพิ่มเติมได้จากบนแอป realme Link อีกทีเนาะ
ฟีเจอร์การออกกำลังกายครบเลยล่ะ ตัว realme Watch รองรับการตรวจจับการออกกำลังกายมากถึง 14 แบบตามสเปค ได้แก่ การเดิน การวิ่งในร่ม การวิ่งกลางแจ้ง การปั่นจักรยาน การปั่นจักรยานออกกำลังกาย การเต้นแอโรบิค ฟุตบอล บาสเกตบอล ปิงปอง แบตมินตัน การฝึกกล้ามเนื้อ การเล่นฟิตเนส โยคะ คริกเกต
หรือจะเป็นฟีเจอร์อื่นๆ อาทิ อัลกอริทึมนับจำนวนก้าวเดิน ตรวจจับการเคลื่อนไหวต่างๆ วัดคุณภาพการนอน แจ้งเตือนการดื่มน้ำ และการพักผ่อนก็มีให้ด้วยครับ
นี่ก็เป็นฟีเจอร์คร่าว ๆ ของ realme Watch เนาะ เรียกว่าน่าสนใจดีทีเดียว เดี๋ยวเฮียขอลองไปใช้งานแบบจริง ๆ อีกแล้วคู่กับทั้ง realme Buds Air Neo ด้วย ว่าจะตอบโจทย์การใช้งานแค่ไหนเนาะ แต่ก่อนจากไปขอสรุปราคาของทั้ง 2 อุปกรณ์นี้กันหน่อยว่าที่ว่าราคาสมเหตุสมผลนี่เท่าไหร่กันบ้าง
ราคา
realme Buds Air Neo เปิดราคามาเพียง 1,499 บาท และโปรโมชั่นพิเศษ Flash Sale ในวันที่ 28 และ 30 พฤษภาคม ในราคา 1,399 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ realme online official store ทาง Shopee และ Lazada และ BaNANA, TG Fone, IT CITY และ CSC
ช่องทางการสั่งซื้อ
Lazada : : https://bit.ly/2M0MSJu
Shopee : : https://bit.ly/2ZuBwW6
ส่วน realme Watch นาฬิกาอัจฉริยะ จะวางจำหน่ายในราคาเพียง 2,499 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์ realme Official Store ทาง Shopee และ Lazada และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศครับ
สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของ realme Buds Air Neo และ realme Watch จาก realme สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/realmeTH/
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite