เปิดตัว DJI Mavic Air 2 โดรนรุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกล้องตัวใหม่จาก Sony และระบบความปลอดภัยจัดเต็ม

DJI อัพเดตโดรนรุ่นใหม่ ต่อยอดจาก Mavic Air ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2018 กับ DJI Mavic Air 2 ที่พัฒนาคุณภาพขึ้นในทุกด้าน ทั้่งการถ่ายภาพ การบิน และด้านความปลอดภัยที่มากขึ้น

DJI Mavic Air 2 มาพร้อมเซ็นเซอร์กล้องตัวใหม่ Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (12MP pixel-binning) ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2" ทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพใหม่สุดฉลาด SmartPhoto ที่สามารถเลือก scene ด้วยระบบ AI วิเคราะห์ว่าจะใช้โหมด HDR, Hyperlight, และ Scene Recognition อย่างอัตโนมัติ

โดยในแต่ละโหมดมีการทำงานดังนี้

• HDR เป็นการถ่ายภาพ 7 รูปใน exposure ที่แตกต่างกัน จากนั้นนำภาพมารวมเป็นภาพเดียวเพื่อให้ได้รายละเอียดที่ดีที่สุด
• Hyperlight หรือเรียกแบบเข้าใจง่ายก็คือ Night Mode นั่นล่ะครับ ใช้สำหรับถ่ายภาพกลางคืน หรือในที่แสงน้อย ระบบจะถ่ายภาพหลายภาพจากนั้นนำมารวมกันเพื่อลด noise
• Scene Recognition โหมดนี้จะตรวจสภาพแวดล้อมอัตโนมัติ ว่าคุณกำลังถ่ายอะไร เช่น พระอาทิตย์ตก ท้องฟ้า พื้นหญ้า หิมะ หรือต้นไม้ อย่างอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะกับภาพที่ถ่ายมากที่สุด

สำหรับการถ่ายวีดีโอ Mavic Air 2 รองรับการถ่าย 4K @60fps รวมถึงมีโหมดสโลว์โมชั่น 120fps และ 240fps ได้ และรองรับการถ่ายวีดีโอแบบ HDR ด้วย

DJI ระบุว่าโดรนรุ่นใหม่นี้มาพร้อมระบบ FocusTrack ที่ดีที่สุดเท่าที่บริษัทเคยทำมา โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 โหมด คือ ActiveTrack 3.0 ที่ตรวจจับวัตถุด้วยเทคโนโลยี mapping แบบใหม่ เช่นเดียวกันกับเส้นทางการบินแบบใหม่, Point of Interest 3.0 โหมดนี้ให้คุณกำหนดเส้นทางบินเอง โดยพัฒนาขึ้นให้สามารถจดจำพื้นผิววัตถุได้ดีขึ้น และสุดท้าย Spotlight 2.0 โหมดนี้ให้คุณล็อคกล้องกับวัตถุจากนั้นผู้ใช้สามารถบังคับการเคลื่อนไหวของโดรนได้อย่างอิสระ

นอกจากนี้ยังมีโหมด hyperlapse ระดับ 8K ที่ผู้บังคับสามารถเลือกโหมดการบินได้หลากหลาย เช่น Free movement, Circle, CourseLock, และ WayPoints เพื่อให้ได้ภาพในมุมที่แตกต่างกันอย่างสร้างสรรค์

จุดที่พัฒนาขึ้นอย่างมากอีกอย่างของ DJI Mavic Air 2 คือประสิทธิภาพการบินครับ เพราะมาพร้อมมอเตอร์ตัวใหม่ และระบบควบคุมความเร็วแบบอิเล็กทรอนิกส์ และยังมีการใช้พลังงานที่ลดลง และมี aerodynamic ที่ดีขึ้น โดยโดรนตัวนี้สามารถบินได้สูงสุด 34 นาที

DJI ยังพัฒนาระบบ OcuSync 2.0 ที่ช่วยส่งสัญญาณภาพแบบ HD ได้ไกลสูงสุด 10 กิโลเมตรแบบไม่มีสิ่งกีดขวาง โดยระบบนี้ใช้คลื่นสัญญาณ 2.0GHz หรือ 5.8GHz และมีระบบสลับอัตโนมัติเพื่อป้องกันการชนกันของคลื่น

ด้านระบบความปลอดภัย Mavic Air 2 มีเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางรุ่นใหม่ ที่จะแจ้งเตือนได้เมื่ออยู่ใกล้วัตถุเกินไป รวมถึงสามารถหยุดเองได้อัตโนมัติ ด้านการลงจอด ในรุ่นใหม่นี้มีระบบลงจอดใหม่ที่แม้ว่าแสงจะน้อยก็สามารถจอดได้ และมี GEO geofencing ที่เป็นฟีเจอร์สำหรับหลีกเลี่ยงพื้นที่อันตรายอัตโนมัติ เช่น บริเวณสนามบิน เป็นต้น

DJI Mavic Air 2 ตอนนี้เริ่มวางจำหน่ายแล้วในประเทศจีนครับ ส่วนในพื้นที่อื่นๆ คาดว่าจะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 แพ็คเกจ คือ

• Standard package มาพร้อมตัวโดรน, แบตเตอรี่ 1 ชุด, รีโมทคอนโทรล, และสายเชื่อมต่อต่างๆ ในราคา $799 (ประมาณ 26,000 บาท)
• Fly More package มาพร้อมตัวโดรน, แบตเตอรี่ 3 ชุด, รีโมทคอนโทรล, กระเป๋า, ฟิลเตอร์ ND, charging hub และสายเชื่อมต่อต่างๆ ในราคา $988 (ประมาณ 32,000 บาท) ครับ

source: gsmarena