DJI Mavic Mini รุ่นปีที่แล้วถูกเปิดตัวพร้อมกับเป็นเครื่องบินโดรนที่มีขนาดเล็ก และเบาที่สุดในตลาด ล่าสุดทาง DJI ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ต่อยอดจากรุ่นเก่าแล้วในชื่อ DJI Mini 2 (ตัดคำว่า Mavic) ออกไป
DJI Mini 2 มาพร้อมดีไซน์แทบไม่ต่างจากเดิม หรือแม้แต่น้ำหนักก็ยังเท่าเดิมที่ 249 กรัม (ทำให้ผู้ใช้ในต่างประเทศไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนกับ FAA) โดยในรุ่นใหม่นี้มาพร้อมระบบการเชื่อมต่อไร้สาย DJI’s OcuSync 2 ที่เพิ่มระยะการเชื่อมต่อให้ไกลขึ้น 2.5 เท่า และเพิ่มความเสถียรในการเชื่อมต่อด้วย แตกต่างจาก DJI รุ่นเริ่มแรกที่ใช้การเชื่อมต่อแบบ WiFi ซึ่งอาจมีระยะไม่ไกล และไม่สม่ำเสมอเท่า
คอนโทรลเลอร์สำหรับควบคุมจะใช้ตัวเดียวกันกับ Mavic Air 2 ครับ แต่ระบบการใช้งานอย่างพวกระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางแบบล้ำๆ หรือระบบติดตามอาจจะยังไม่ดีเท่า เพราะเซ็นเซอร์ที่น้อยกว่านั่นเอง
DJI Mini 2 จุดที่พัฒนาขึ้นอีกจุดคือ เพิ่มความละเอียดการบันทึกวีดีโอไปที่ระดับ 4K 30fps ที่ 100Mbps จากเดิมที่ถ่ายได้ 2.7K 25/30fps 40Mbps รวมถึงสามารถถ่ายไฟล์ RAW ได้แล้ว ในขณะที่การถ่ายวีดีโอ Full HD ได้ที่ 60fps และเซ็นเซอร์ยังมีขนาด 1/2.3" เท่าเดิม
สิ่งที่พัฒนาขึ้นยังเป็นในเรื่องของความเร็วการบิน ที่ในรุ่นใหม่จะเพิ่มสปีดมอเตอร์ให้สามารถบินได้ 35.8 ไมล์ต่อชั่วโมง (เดิม 29) และแบตบินได้นานขึ้น 1 นาที (ตอนนี้บินได้ 31 นาที) รวมถึงสามารถทนต่อลมแรงที่ 24 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ (เดิม 18)
DJI Mini 2 ข้อเสียอย่างเดียวที่มีตอนนี้คือ เปิดตัวมาที่ราคาแพงขึ้น $50 คือมาอยู่ที่ $449 หรือประมาณ 14,000 บาท ซึ่งราคานี้จะได้ตัวโดรน + คอนโทรลเลอร์ + แบต เท่านั้น ถ้าอยากได้ชุดใหญ่ Fly More Combo จะต้องเพิ่มเป็น $599 ประมาณ 18,600 บาท จะเพิ่มแบตเป็น 3 ก้อน, แท่นชาร์จ, และเคสสำหรับพกพาอีกด้วย
source: theverge