ดีไซน์
Review : HUAWEI P40 เรือธงไซซ์กะทัดรัดที่ตอบโจทย์คนไม่ต้องการเครื่องใหญ่ด้วยสเปคครบและ
กล้อง LEICA 3 ตัว !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับรีวิวฉบับเต็มของ HUAWEI P40 หลังจากใช้งานมาสัปดาห์กว่า ๆ ก็เจอเรื่องที่น่าสนใจเพียบเลย ทั้งเรื่องดีไซน์ที่เหมาะมือมาก ๆ สเปคภายในที่เอาอยู่ รวมถึงกล้องที่เรียกว่าจัดเต็มมาให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นแบบนี้เลย เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วมาอ่านรีวิวฉบับเต็มของ HUAWEI P40 กันเลยดีกว่าครับ !
ดีไซน์เยี่ยม พกพาง่าย
เริ่มต้นกันที่เรื่องดีไซน์กันก่อนเลย HUAWEI P40 มาพร้อมขนาดหน้าจอขนาด 6.1” และมาพร้อมขนาดตัวเครื่องที่ฟิตพอดีกับหน้าจอมาก ตอบโจทย์เพื่อน ๆ ที่อยากได้สมาร์ทโฟนหน้าจอกำลังดีเหมาะกับการพกพามาก ๆ เพราะตัวเครื่องนั้นไม่ใหญ่เลย เทียบกับขนาดหน้าจอขนาดนี้ก็ยังไม่ถึงกับเล็กจนเกินไปครับ
น้ำหนักก็อยู่ที่ 175 กรัม จับถือและใช้งานมือเดียวได้อย่างสะดวกเลย ขอบหน้าจอก็ชิดไปเลยทำให้เครื่องดูไม่เทอะทะ
หน้าจอของ HUAWEI P40 จะเป็นจอแบบ 2.5D มีความโค้งที่มุมจอเล็ก ๆ ซึ่งตัวจอจริง ๆ จะเป็นจอแบนครับ ตรงนี้หลายคนอาจจะชอบเนาะ ชนิดหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็น OLED มีความละเอียดอยู่ที่ FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) ในอัตราส่วนมาตรฐาน 19.5:9 ครับ การแสดงผลสีสันต่าง ๆ ถือว่าทำได้ดีและสวยงามตามมาตรฐานของ HUAWEI คมชัดและตอบสนองการสัมผัสได้ดี มีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 60Hz เสียดายที่ไม่ได้ให้มา 90Hz เหมือนรุ่น Pro แต่ด้วยซอฟต์แวร์ EMUI 10.1 ที่มีการปรับแต่งตรงนี้มาได้ดี ก็ถือว่าให้การแสดงผลที่ยอมเยี่ยม ๆ แล้วครับ
รูกล้องหน้าคู่ แอบใหญ่ไปนิดนะ
ตัวกล้องหน้าของ HUAWEI P40 จะเป็นแบบ Dual Punch-Hole หรือจอรูคู่ที่มุมซ้ายบน ใช้พื้นที่ไปพอควรเพราะด้านในนั้นจะมีกล้องหน้าความละเอียด 32MP และกล้อง IR แต่ส่วนตัวคิดว่ารูกล้องมันแอบใหญ่ไปนิดตรงนี้เป็นจุดที่ไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะเวลาใช้งานปกติกับแอปหรือ Wallpaper สีสว่าง ๆ รูกล้องหน้านี่เด่นใช้ได้เลยแหละ
การมีรูปกล้องหน้าที่ใหญ่ขึ้นมานิดหน่อยนี้อาจจะดูไม่สวยงาม แต่ในเรื่องการใช้งานถือว่ายอดเยี่ยม เพราะกล้อง IR นี้สามารถใช้งานสแกนใบหน้าแบบ 3D ได้ด้วย ทำให้สามารถสแกนใบหน้าในที่มืดรวมถึงความแม่นยำที่มากกว่าแบบ 2D ทั่วไปเยอะเลยล่ะครับ
แต่ถ้าไม่ชอบจริง ๆ HUAWEI ก็มีทางเลือกให้ผู้ใช้อย่างเราปิดรูกล้องด้วยการถมดำแถบด้านบนไปซะเลยด้วยนะ โดยเราสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่
Settings > Display & Brightness > More Display Settings > Cutout > Hide Cutout
มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเหมือนเคย ตำแหน่งจะอยู่ตรงเกือบกลางเครื่องถ้าถือใช้งานมือเดียวแบบเต็มมือก็ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ตอบสนองได้ดีครับ
ขอบเครื่องจะเป็นโลหะขัดเงาสวยงามครับ มีแถบเสาอากาศคาดอยู่ตามมุม ไม่ถึงกับขัดใจอะไร ความหรูหราของกรอบแบบนี้ก็ทำได้ดีมากครับ ตัวเครื่องมีความบาง 8.5 มม. ดูจากตัวเลขอาจจะไม่ได้น้อยมาก แต่เชื่อเถอะครับว่าจับจริง ๆ แล้วมันโอเคมากเลย
ปุ่มกดต่าง ๆ จะอยู่ที่ด้านขวาของตัวเครื่องทั้งหมด อันนี้ก็กดได้ง่ายและไม่มีปัญหาในการใช้งานครับ วางปุ่ม Power ไว้ให้แตะปลุกจอได้สะดวกดี มีแถบสีแดงลึกลงไปอีกนิดเผื่อจะลูบคลำก็ทำได้ง่ายเลย
พอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้จะอยู่ที่ด้านล่าง แน่นอนว่าเหลือเพียงพอร์ต USB type-C อย่างเดียวแล้ว ช่องหูฟังที่ไม่มีก็คงชินกันแล้วเนาะ มีไมโครโฟนและลำโพงตัวหลักอยู่ตรงนี้ด้วยครับ
ส่วนช่องใส่ซิมที่อยู่ที่ด้านล่างนี้ก็จะเป็นถาดซิมแบบ Dual-SIM ถ้าอยากจะเพิ่มความจำภายนอกก็ทำได้ แต่ต้องเป็น NM Card ของ HUAWEI เท่านั้นครับ ใส่ในช่องซิม 2 ได้เลย
ด้านบนของรุ่นปกตินั้นจะมีแค่ช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนครับ ไม่มี IR Blaster แบบรุ่น Pro เขาเนาะ
ฝาหลังผิวด้าน แบบนี้แหละที่ต้องการ
พลิกกลับมาดูที่ฝาหลังกันต่อ HUAWEI P40 มาพร้อมดีไซน์แบบกระจกโค้งพร้อมโมดูลกล้องสี่เหลี่ยมวางไว้ที่มุมซ้ายบน ตัวเครื่องสี Silver Frost ที่เราได้มารีวิวนี้จะใช้กระจกผิวด้านด้วยครับ ตรงนี้แหละที่เฮียชอบมาก ๆ ให้ความรู้สึกที่หรูหรามากแถมยังไม่เก็บรอยนิ้วมือมากเท่าแบบผิวมันด้วย
ตัวกระจกโค้งที่ด้านหลังก็เป็นแบบ 3D ทำให้เวลาจับถือนั้นจะรับรูปมือเราได้ดีมาก บวกกับผิวแบบด้าน ๆ ก็ทำให้จับถือได้กระชับไม่ลื่นจนเกินไปอีก
โมดูลกล้องก็น่าจะเป็นเทรนด์ของปี 2020 ไปแล้วกับกล้องกรอบสี่เหลี่ยมรวมทุกอย่างไว้ในนี้ HUAWEI P40 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ทรงกลม ๆ วางเรียงกันอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมนี่แหละครับ และแน่นอนเรือธงซีรีส์ P แบบนี้ก็ต้องเป็น LEICA ด้วย มีสกรีนสเปคกล้องคร่าว ๆ ไว้ตรงนี้ด้วยพร้อมกับไฟแฟลช LED อีก 2 ดวง
ตัวเครื่องออกแบบมาให้ถือแนวนอนถึงจะเหมาะอย่างที่แล้ว ๆ มา สังเกตจากโลโก้ HUAWEI ก็วางไว้ในแนวนอนแบบนั้น เวลาจับแบบนี้ก็จะให้ความรู้สึกเหมือนจับกล้องสักตัวหนึ่งเลยล่ะ
ความหนาของตัวเลนส์ (Camera Bump) ก็ถือว่าเลยออกมาจากตัวเครื่องพอควร เวลาวางเครื่องนอนกับพื้นเรียบ ๆ แล้วลองกดที่มุมซ้ายดูก็จะเจอความไม่เสมออยู่ครับ ตรงนี้คงต้องแก้ด้วยการใส่เคสน่ะเนาะ
โดยรวมในเรื่องของดีไซน์นั้น HUAWEI P40 ทำได้ดีมากครับ ที่ชอบเลยก็คือขนาดตัวเครื่องที่เล็กกะทัดรัดมาก ขอบจอบางชิดสุด ๆ ตัวหน้าจอก็เป็นแบบแบน รวมถึงฝาหลังที่เป็นกระจกผิวด้านบนสี Silver Frost นี้ยิ่งถูกใจเข้าไปใหญ่ ใครที่ชอบมือถือเครื่องเล็ก ๆ พกพาสะดวกมือตัวนี้ตอบโจทย์มาก ๆ เลยล่ะ
กล้อง
กล้อง Ultra Vision LEICA Triple Camera
เข้ามาสู่เรื่องกล้องกันก่อนเลยละกันครับ แน่นอนว่า HUAWEI นั้นชูเรื่องกล้องมาโดยตลอด ซึ่งบน P40 ถึงแม้จะเป็นแค่รุ่นเริ่มต้น แต่ก็จัดเต็มให้กล้องหลังมา 3 ตัวครบช่วงพร้อมใช้งานมาก ๆ แล้วครับ โดยสเปคกล้องของ HUAWEI P40 จะมีดังนี้
- 50MP กล้องหลัก Ultra Vision LEICA, f/1.9, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.28", OIS
- 16MP เลนส์ Ultra Wide, f/2.2, มี Autofocus
- 8MP เลนส์ Tele, Optical 3x, Hybrid 5x, Digital 30x, f/2.4, OIS
- เซ็นเซอร์อุณหภูมิสี แบบ 8 Channel
ซึ่งจะเห็นว่าจากสเปคกล้องอย่างเดียวก็ไม่ธรรมดาแล้ว ตัวกล้องหลักรอบนี้ HUAWEI เลือกใช้เซ็นเซอร์ตัวเดียวกันทั้งรุ่นปกติและรุ่น Pro เลย หมายความว่าถ้าถ่ายเทียบกันในระยะปกติก็จะได้ภาพแบบเดียวกันเลยนั่นล่ะครับ ซึ่งตัวเซ็นเซอใหม่นี้ก็จะมีความละเอียดสูงถึง 50MP มีขนาดใหญ่ 1/1.28” ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนตอนนี้เลยครับ การมีเซ็นเซอร์ที่ใหญ่แบบนี้ก็จะช่วยให้เก็บแสงได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการละลายฉากหลังด้วย
มี Master AI เหมือนเดิม
ในส่วนของการถ่ายภาพแบบ Auto นั้นจะมีฟีเจอร์ Master AI มาให้เลือกเปิดใช้งานเหมือนเดิม ตัวระบบจะเลือกว่าภาพนั้น ๆ ควรใช้ Scene ไหน และปรับแต่งให้ภาพดูสวยมากขึ้น โดยที่เราไม่ต้องมาปรับแต่งทีหลังเพิ่มเลยด้วย เรียกว่าแค่เล็งองค์ประกอบดี ๆ ถ่ายไปยังไงก็สวยอะครับ
มีระยะซูมเยี่ยม ซูมสูงสุด 30x
เลนส์ซูมของ HUAWEI P40 นั้นถึงแม้จะไม่ได้เลนส์ Periscope แบบรุ่น Pro มา แต่ก็ได้เลนส์ Tele ที่มี Optical Zoom ถึง 3x มาแล้วครับ แถมยังใช้ Hybrid Zoom ได้ถึง 5x อีกด้วย และซูมแบบ Digital สูงสุดที่ 30x เรียกว่าเพียงพอต่อการใช้งานซูมทั่วไปแล้วเนาะเท่านี้
มี Ultra Wide มุมกว้างแถมได้ Super Macro ด้วย
ตัวเลนส์ Ultra Wide ของ HUAWEI P40 นั้นมีมุมกว้างเก็บภาพวิวต่าง ๆ ได้ครบถ้วน แถมความละเอียดยังเยอะถึง 16MP รายละเอียดคมชัดแน่นอน พร้อมทั้งยังมีระบบ Autofocus ให้ใช้งานฟีเจอร์ Super Macro ได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ HUAWEI P40 ต้องยอมใจจริง ๆ HUAWEI ยังไงก็ HUAWEI ครับ คุณภาพไฟล์บอกเยี่ยมมาก ยิ่งรูปที่ถ่ายจากกล้องหลักยิ่งสวยด้วยคุณภาพของเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ บวกกับ Master AI ที่ฉลาดขึ้น ทำให้ถ่ายออกมาสวยโดยที่ไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเลย ส่วนช่วงซูมก็ทำได้ดีมากครับ หวังผลได้ตั้งแต่ 3x - 10x เลยมี AI คอยปรับภาพให้เนียนขึ้นหลังถ่ายด้วย และสุดท้ายเลนส์ Ultra Wide ก็ได้มุมกว้างจริงแถมยังใช้ Super Macro ได้อีกแหนะ
ฟีเจอร์ใหม่ Golden Snap
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ HUAWEI โปรโมทตอนเปิดตัวแล้วว้าวมาก ๆ ก็คือฟีเจอร์ Golden Snap ที่คล้าย ๆ Best Shot ถ่ายไปแล้วมาเลือกช็อตที่ดีที่สุดทีหลัง หรือกระทั่งการลบผู้คนออกจากฉาก ลบเงาสะท้อนของกระจก เป็นฟีเจอร์ที่เจ๋งมาก ๆ ฟีเจอร์นี้จะถูกซ่อนอยู่ในโหมด Moving Picture ครับ
โดยตัวระบบจะใช้การถ่ายนิ่งหลาย ๆ ช็อตเป็นเวลา 2 วินาที และเราสามารถมาเลือกเซฟภาพได้ทีหลังด้วยฟีเจอร์เพิ่มเติมอาทิ เลือกช็อตที่ดีที่สุด, ลบคนออกจากฉาก หรือลบแสงสะท้อนออกจากภาพด้วย กด Edit แล้วมาเลือกได้เลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากฟีเจอร์ Remove Passersby
ตัวอย่างภาพถ่ายจากฟีเจอร์ Remove Reflection
โหมดกลางคืนฉลาดขึ้น
อีกโหมดที่ HUAWEI ทำได้ดีมาก ๆ ก็คือโหมดกลางคืนหรือ Night Mode ที่ทำงานร่วมกับ HUAWEI A.I.S ช่วยให้เราถ่ายภาพกลางคืนได้โดยไม่ต้องพึ่งขาตั้งกล้อง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดกลางคืนของ HUAWEI P40 จะเห็นว่าภาพจาก Night Mode นั้นเก็บรายละเอียดของภาพได้เป็นอย่างดี สีสันรวมถึงความคมชัดยังคงอยู่ และง่ายต่อการถ่าย เพราะไม่ต้องพึ่งขาตั้งกล้องเลยด้วย
Portrait ก็สวยเนียน มีเอฟเฟกต์ให้เลือก
ในส่วนของโหมด Portrait บน HUAWEI P40 ก็ทำได้ดีเหมือนเคย เพราะนอกจากใบหน้าที่ปรับเนียนขึ้นมาได้แล้ว ยังมีเอฟเฟกต์ละลายฉากหลังให้เลือกปรับมากขึ้นด้วย จะอยากได้วงกลมเด่น ๆ Bokeh ลอยมา หรือ Bokeh รูปหัวใจหวาน ๆ ก็เลือกปรับได้ มีให้เลือกตั้ง 9 แบบแหนะ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait รอบนี้จัดการในเรื่องของโทนสีได้ดีขึ้น การตัดฉลาดหลังก็ด้วย ถึงแม้ P40 รุ่นปกติจะไม่มีเลนส์ ToF มาให้ แต่ก็ยังใช้ AI คำนวณได้เป็นอย่างดีครับ
วิดีโอเก่งขึ้นแล้ว
วิดีโออาจจะเป็นเรื่องที่ HUAWEI ไม่ได้ถนัดมาแต่ก่อน แต่บน P40 Series ก็มีการอัปเกรดขึ้นมาอีกขั้น สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 4K60fps แล้วนะ มีระบบกันสั่นที่ยอดเยี่ยมมากขึ้นจากรุ่นเดิมด้วย
กล้องหน้า 32MP เอ้ยมันเนียนเป็นธรรมชาติ
กล้องหน้าของ P40 ก็ให้ความละเอียดมาสูงถึง 32 ล้านพิกเซล โดดเด่นกันมาก ๆ แถมรอบนี้ก็ปรับให้ความเนียนนั้นเป็นธรรมชาติมากขึ้น มีระบบ Auto HDR ถ่ายย้อนแสงได้ดี รวมถึงตัว Portrait ที่ละลายฉากหลังได้แม่นยำมากขึ้นด้วยครับ
สเปคและฟีเจอร์การใช้งาน
สเปค HUAWEI P40
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.1" ความละเอียด FHD+
- อัตราส่วนแบบ 19.5:9, Refresh Rate 60Hz
- ซีพียู Kirin 990 | 5G Octa-core 2.86GHz (7nm+)
- จีพียู Mali-G76 MP6
- แรม 8GB (LPDDR4X)
- ความจุ 128GB (UFS3.0)
- แบตเตอรี่ 3800mAh
- รองรับชาร์จไว SuperCharge 22.5W
- กล้องหน้าคู่
- 32MP กล้องหลัก f/2.0
- กล้อง IR TOF (สำหรับสแกนใบหน้าแบบ 3D เท่านั้น)
- กล้องหลัง 3 ตัว
- 50MP กล้องหลัก Ultra Vision LEICA, f/1.9, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.28", OIS
- 16MP เลนส์ Ultra Wide, f/2.2, มี Autofocus
- 8MP เลนส์ Tele 3x, Hybrid 5x, f/2.4, OIS
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับระบบสแกนใบหน้าแบบ 3D
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP53 (กันน้ำสาด)
- รัน Android 10 (HMS)
เข้าสู่เรื่องสเปคกันต่อ ดูจากสเปคด้านบนก็คงจะเห็นแล้วว่าตัวให้มาแบบครบครันเลยจริง ๆ ถึงแม้จะเป็นแค่รุ่นเริ่มต้น ทั้งหน่วยประมวลผล Kirin 990 | 5G แรม 8GB (LPDDR4X) และความจุ 128GB (UFS3.0) และแบตเตอรี่ 3800mAh เท่านี้ก็ถือว่าไฮเอนด์สุด ๆ แล้วครับ
ซีพียูตัวแรง รองรับ 5G ด้วย !
HUAWEI P40 ใช้ชิปเซ็ต Kirin 990 | 5G ตัวท็อปสุดของ HUAWEI ตอนนี้ ที่สถาปัตยกรรม 7nm+ EUV แบบ Octa-Core แบ่งการทำงานเป็น 4 Little Core (Cortex-A55) ตัวประหยัดพลังงาน 1.95GHz + 2 Middle Core (Cortex-A76) ตัวกลาง 2.36GHz + 2 Big Core (Cortex-A76) ตัวแรง 2.86GHz ช่วยให้ประมวลผลได้มีประสิทธิภาพ รวมถึงการทำงานของ AI ที่ดีขึ้นกว่าเดิม และแน่นอนว่ารองรับ 5G ทำความเร็วดาวน์โหลดได้สูงสุดถึง 2.3Gbps และอัปโหลดอีก 1.25Gbps อีกด้วยครับ !
คะแนนสูง ไม่ใช่เล่น ๆ
ด้วยสเปคที่เหนือชั้นขนาดนี้ คะแนนทดสอบจากแอป Benchmark ก็ไม่ธรรมดาด้วยครับ ซึ่ง HUAWEI P40 ทำคะแนนทดสอบจาก AnTuTu Benchmark ไปได้มากถึง 453185 คะแนนเลยทีเดียวแบ่งคะแนนย่อยออกเป็น
CPU - 136537
GPU - 161451
MEM - 87755
UX - 67442
ส่วนคะแนนจากแอป Geekbench 5.0 ก็ออกมาสูงไม่แพ้กันดังนี้
Single Core - 753
Multi Core - 2952
รันด้วย EMUI 10.1 บน Android 10
ซอฟต์แวร์บน HUAWEI P40 ก็ได้ตัวล่าสุดของ HUAWEI มาเลยกับ EMUI 10.1 ยังคงครอบทับอยู่บน Android 10 เหมือนเดิม รแบนี้มีเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาอีก ทั้งระบบผู้ช่วยอัจฉริยะใหม่ Celia, AOD ที่สวยงามมากขึ้น, แถบ Multi Window ใหม่ รวมถึงการปรับปรุงความลื่นไหลให้ได้มากกว่าเดิมด้วยครับ
ในเรื่องความลื่นไหลอย่างที่บอกไปว่า HUAWEI ปรับแต่งมาได้อย่างดีครับ เพิ่มการตอบสนองที่ติดนิ้วมือขึ้นกว่า EMUI10 ถึง 20.8% ทำให้การตอบสนองเลื่อนหน้าจอ กดสลับแอปต่าง ๆ นั้นลื่นไหลมาก ถึงแม้หน้าจอจะแค่ 60Hz แต่ให้ความสมูทที่บอกเยี่ยมมาก ๆ แล้วล่ะ
นำเสนอรูปแบบ Gesture เต็มรูปแบบ
ตั้งแต่ EMUI9 มา HUAWEI พยายามนำเสนอรูปแบบการควบคุมให้เป็นแบบ Gesture มาตลอดเพื่อความลื่นไหลที่มากขึ้น และพอมาเป็น EMUI10.1 รอบนี้ก็ตั้งค่าแรกมาให้เป็นแบบ Gesture แทนปุ่ม 3 ปุ่มด้านล่างไปเลย ส่วนตัวเฮียชอบแบบนี้นะ มันดูต่อเนื่องใช้งานปาดจากซ้ายหรือขวาเพื่อย้อนกลับ เลื่อนค้างเพื่อเข้าหน้า Recent App ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด ยิ่งมีการปรับ Response Latency ลงด้วยแล้วยิ่งทำให้ลื่นไหลเข้าไปใหญ่
มีแถบ Multi Window ที่มุมข้างไม่ต้องกดสลับแอป
บน EMUI10.1 มีเพิ่มแถบทางลัดแอปไว้ที่มุมจอโดยเราสามารถเรียกแถบนี้ออกมาง่าย ๆ ด้วยการเลื่อนจากมุมจอ (เหมือนกดย้อนกลับ) ค้างไว้ครู่หนึ่ง จากนั้นจะมีแถบทางลัดแอปโผล่ออกมา ให้เราเลือกแตะใช้งานแอปเหล่านั้นได้ทันที หรือจะแตะค้างไว้แล้วลากลงมาบนหน้าจอเพื่อใช้งานแบบ Multi Window ก็ได้ครับ สะดวกดี
มี Dark Mode เหมือนเดิม
เพื่อน ๆ ที่ไม่ชอบหน้าจอสว่างพื้นหลังสีขาว บน EMUI ก็มี Dark Mode ให้เลือกปรับเหมือนกัน และโทนก็เป็นการปรับให้เข้มขึ้น ไม่ใช่การปรับทุกอย่างจากขาวเป็นดำแบบทั่ว ๆ ไป ส่วนสีตัวอักษรก็จะกลายเป็นสีเทา ไม่ใช่ขาวจนแสบตาครับ
ปรับแต่งได้เยอะในแอป Themes
ในเรื่องการปรับแต่ง EMUI ถือว่าทำได้ดีมาตลอด บน EMUI10.1 ของ P40 ก็จะมีรูปแบบการปรับแต่งมากมายทั้ง Theme, ตัว Font และ Wallpaper หลากหลายดีครับ ในหน้า Lockscreen ก็จะมี Magazine Unlock ที่คัด Wallpaper สวย ๆ มาให้โดยเฉพาะอีกด้วย
Celia ผู้ช่วยอัจฉริยะใหม่ของ HUAWEI
ปิดท้ายด้วยผู้ช่วยคนใหม่ของ HUAWEI อย่าง Celia ที่เข้ามาตอบโต้กับเราผ่านคำสั่งเสียง สั่งให้ตั้งปลุก สั่งให้ค้นหาต่าง ๆ ทำได้ เท่าที่ลองใช้งานมาก็ถือว่าตอบสนองได้ดีพอควรครับ มีคำสั่งเสียง “Hey, Celia” ด้วยนะ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ Celia ยังคงรองรับแค่ 3 ภาษา อังกฤษ, จีน และสเปนเท่านั้นครับ
หน้าจอ ระบบเสียง เล่นเกม
หน้าจอ OLED สวย ดูภาพดูวิดีโอแจ่ม
ในส่วนของความบันเทิง HUAWEI P40 มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.1” ที่มีความละเอียดอยู่ที่ FHD+ เทียบกับไซซ์หน้าจอแล้วถือว่ากำลังงามเลยครับ การแสดงผลทำได้ดีมาก ใช้ดูภาพหรือวิดีโอก็สวยชัดเลย แถมตัว Gallery ของตัว HUAWEI จะมีการเร่งภาพให้คมชัดขึ้นอีกหน่อยด้วย
ลำโพงเดี่ยว น่าเสียดายไปหน่อย
เรื่องระบบเสียง HUAWEI P40 ให้ลำโพงหลักมาตัวเดียวที่ด้านล่างของตัวเครื่อง คุณภาพโดยรวมโอเคครับ เสียงแน่นกำลังดีและความดังก็ยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายตรงที่เสียงที่ได้มันออกมาเป็น Mono นี่แหละ
ลำโพงสนทนาแบบสะเทือนกระจก
สาเหตุที่ลำโพงเหลือเพียงตัวเดียวที่ด้านล่างก็เพราะ HUAWEI เลือกใช้ระบบเสียงแบบ Acoustic Sound หรือการสั่นสะเทือนของกระจกในการกระจายเสียงแทนนั่นเอง ถึงแม้จะไม่มีลำโพงที่ด้านบนแล้ว แต่การกระจายเสียงแบบนี้ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันครับ ดังชัดเจนและได้ยินทั่วไม่ต้องหูไปจ่อที่ช่องลำโพงอีกต่อไปแล้ว
เล่นเกมสะใจ สเปคแรง !
ส่วนเรื่องเล่นเกม HUAWEI P40 ใช้ชิปเซ็ต Kirin 990 | 5G ตัวแรงอย่างที่บอกไป ทำงานร่วมกับระบบ GPU Turbo 3.0 ด้วยช่วยให้เล่นเกมได้เป็นอย่างดีอีก เกมที่เราจะใช้ทดสอบคือ Asphalt 9 และ Call of Duty ครับ
สำหรับเกม Asphalt 9 สามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน AppGallery เลย ตัวเกมก็รองรับเต็มที่เปิดกราฟิกได้ที่นะดับสูงสุด ตัวเกมเล่นได้อย่างลื่นไหล เฟรมเรตถือว่านิ่งมาก ๆ ครับ
ส่วนเกม Call of Duty อันนี้ต้องหาโหลดแยกกันหน่อย วิธีการติดตั้ง ดูได้จากที่นี่ เกมนี้ก็ยังรันได้อย่างลื่นไหลครับ ปรับคุณภาพกราฟิกและเฟรมเรตได้ที่ระดับ Very High ทั้งคู่
ตัวเกมเล่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เฟรมเรตนิ่งสุด ๆ ตอบสนองการสัมผัสได้เป็นอย่างดีครับ เล่นแล้วฟินสุด ๆ
ในเรื่องของประสิทธิภาพคงไม่ต้องพูดอะไรมาก ชิปเซ็ต Kirin 990 | 5G นี่เอาอยู่อยู่แล้วคร้บ ทั้งการประมวลผลทั่วไปจนถึงเกมหนัก ๆ ปรับแต่งมาให้เข้ากันได้อย่างดีเลยล่ะ
การใช้งาน HMS
ใช้งาน HMS เต็มตัว โอเครึยังตอนนี้ ?
เข้าสู่การใช้งานด้วยแบบจริงจังบน HUAWEI P40 อย่างที่ทีาบกันดีว่า HUAWEI นั้นเริ่มหันมาใช้ HUAWEI Mobile Services (HMS) แทนที่ Google Mobile Services (GMS) ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้บริการหลาย ๆ อย่างที่เราคุ้นเคยนั้นหายไป อาทิ Play Store, Gmail, Google Chrome, YouTube เป็นต้น หลาย ๆ อย่างนั้นจะถูกแทนที่ด้วยบริการจากทาง HUAWEI เองเช่นดาวน์โหลดแอปก็จาก HUAWEI AppGallery, เล่นเบราว์เซอร์ผ่าน HUAWEI Browser แทน ซึ่งเท่าที่เฮียลองใช้งานมาจริง ๆ แบบไม่มี GMS เลย ผลก็ออกมาแบบนี้ครับ...
ใช้งานแอปผ่าน AppGallery
ในส่วนของการใช้งานแอปทั้งหลาย แน่นอนว่าช่องทางหลักก็คือ HUAWEI AppGallery ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีแอปทยอยมาลงกันเพียบแล้ว แอปช้อปปิ้งอันนี้หายห่วงครับ Shopee, Lazada, THISSHOP, JD CENTRAL มากันครบหมด ใช้งานได้เต็มรูปแบบ หรือจะเป็นแอปของผู้ให้บริการเครือข่าย myAIS, dtac, True iService ก็มีแล้ว แอปสำคัญทางด้านธนาคารก็มาเกือบหมด ขาดธนาคารกรุงเทพ (ซึ่งเฮียใช้ของเจ้านี้ ><“) ตรงนี้ก็คงต้องรออัปเดตกันในอนาคตต่อไป
ส่วนแอป Social ตอนนี้พวก TikTok, Snapchat ก็มีมาแล้ว แต่หลัก ๆ ที่ใช้กันอย่าง Facebook, Instagram หรือ Twitter ก็ยังไม่มีใน AppGallery ครับ
เกมก็ทยอยมา แอปเกมตอนนี้เกมใหญ่ ๆ ก็เริ่มมาแล้ว ทั้ง Asphalt 9, Lord Mobile, Game of Thrones แต่ก็ยังไม่ครบซะทีเดียว
ซึ่งเท่าที่ลองใช้งานจริง ๆ ถ้าพึ่งแต่ AppGallery เป็นหลักน่าจะยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานได้เท่าที่ควรในความรู้สึกของเฮีย แต่โชคดีที่ HUAWEI P40 ยังรันบน Android ทำให้เรายังสามารถดาวน์โหลดไฟล์ APK มาติดตั้งเองได้อยู่
ติดตั้งผ่าน APK ล่ะ ใช้ได้งานได้โอเคไหม ?
ในการติดตั้งผ่านไฟล์ APK ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เพราะไฟล์ที่เราหามาลงแาจจะไม่ได้มีการตรวจเช็กเข้มข้นเหมือนบน AppGallery หรือ PlayStore เนาะ แต่ในที่นี้เฮียใช้แอป APKPure ในการดาวน์โหลดและติดตั้ง APK ทั้งหลาย เพราะค่อนข้างน่าเชื่อถือ อย่างตอน Mate 30 Pro มีการตั้งเป็น Bookmark ไว้บนหน้า Browser เลยด้วย
แอป Social
ซึ่งในนี้เราสามารถหาแอปเด่น ๆ มาติดตั้งได้โดยง่ายครับ อาทิ Facebook, IG, Twitter ที่ไม่มีบน AppGallery เราก็หาดาวน์โหลดได้จากในนี้เลย ติดตั้งใช้งานได้ 100% ไม่มีปัญหาครับ เพราะแอปพวกนี้จะใช้บริการของตัวเองไม่เกี่ยวกับของ Google ตรงนี้พอแก้เรื่องแอป Social หลัก ๆ ไปได้
แต่ LINE ไม่ได้เลยนะ แต่สำหรับใครที่อยากจะใช้ LINE เป็นหลัก อันนี้อาจจะต้องทำใจนะครับ เพราะถึงแม้เราจะโหลดมาติดตั้งได้ แต่ตอนที่เปิดใช้งานตัวแอปจะเด้งออก และไม่สามารถใช้งานได้ครับ คิดว่าคงเป็นการถามหา GMS เลยไม่ได้ แต่ก็ยังพอแก้ขัดด้วย LINE lite แทนไปได้อยู่เนาะ
เกมล่ะ !?
เกมก็เช่นเดียวกันครับ เราสามารถดาวน์โหลดได้จากที่นี่ เท่าที่ลองเกมที่ไม่ต้องพึ่ง GMS ก็พอจะโหลดมาเล่นได้เช่น PUBG หรือ Call of Duty เพราะอันนั้นซิงค์ผ่าน Facebook ได้แต่ถ้าเกมที่ต้องดึงข้อมูลจาก Google มาอันนี้ก็คงต้องทำใจไปก่อน
วิธีดาวน์โหลดเกม Call of Duty บนสมาร์ทโฟน HUAWEI ที่นี่
แล้วแอปของ Google !?
อย่างที่บอกไปว่าแอปที่เรียกการเข้าถึงของ Google นั้นจะไม่สามารถเปิดได้เลย ซึ่งเท่ากับว่าแอปอย่าง YouTube หรือ Maps ก็จะใช้งานไม่ได้ด้วย ถึงแม้จะโหลดและติดตั้งได้ แต่เราก็ยังมีวิธีใช้งานได้อยู่ผ่านเวอร์ชั่นเว็บไซต์ครับ
YouTube เวอร์ชั่นเว็บไซต์ใช้งานได้ดีเลยนะ
ใช้แอปไม่ได้ไม่เป็นไรครับ ยังพอใช้งานผ่านเว็บไซต์ได้อยู่ ! อันนี้ก็เป็นวิธีแก้ขัดได้อีกอย่าง ด้วยการใช้งานผ่าน Browser ไปเลยนี่แหละ อย่าง YouTube เวอร์ชั่นบนเว็บตอนนี้ก็ถือว่าทำออกมาค่อนข้างสมบูรณ์มากแล้ว ถ้ามีการ Sign In เข้าไปในหน้าเว็บก็คล้ายแอปเลยครับ มีแถบ Subscriptions หรือ Inbox เหมือนกันเป๊ะ
แถมเรายังสามารถแตะที่มุมขวา 2 ทีเพื่อ Skip 10 วินาทีได้อีก และความละเอียดบนหน้าเว็บก็ปรับได้สูงสุดเท่าที่ทำได้เลยด้วย จะดูความละเอียด 4K ก็ทำได้ (ในแอปจำกัดตามความละเอียดหน้าจอนะจ๊ะ) แต่สิ่งที่ไม่สามารถทำได้ในนี้ก็คือการขยายให้วิดีโอเต็มหน้าจอนั่นเอง มีขอบดำกินเข้ามาอยู่นะ ตรงนี้น่าเสียดาย
เท่าที่เห็นตัว YouTube สามารถใช้งานผ่าน Browser ได้ 90% เลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งเราก็สามารถ Add หน้าเว็บ YouTube ไปอยู่บนหน้าหลักได้ เผื่อเวลาเราอยากเข้าจะได้แตะทีเดียวถึง YouTube ได้เหมือนบนแอปเลยยังไงล่ะครับ อันนี้ใช้แก้ขัดไปได้เยอะเลย
รวม ๆ แล้วถ้าพูดถึงเรื่องการใช้งานด้วย HMS เป็นหลักบน HUAWEI P40 ตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าช่วง Mate 30 Pro พอควรแล้ว แอปที่รองรับมีเยอะขึ้นบน AppGallery แต่ถ้าพูดกันตรง ๆ ก็คงต้องยอมรับว่ายังไม่ตอบโจทย์แบบ 100% ซึ่งตรงนี้ทาง HUAWEI ก็ทยอยอัปเดตกันเรื่อย ๆ ในอนาคต แต่โชคดีที่เรายังพอติดตั้งผ่าน APK ได้อยู่เนาะ ก็เอาใจช่วยครับ หวังว่าถ้ามีการร่วมมือกับทาง Google ได้เหมือนก่อนก็คงจะดีไม่น้อย
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่ไม่อึดมาก แต่ใช้งานได้ดี
ปิดท้ายเรื่องแบตเตอรี่ HUAWEI P40 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3800mAh ดูจากสเปคและหน้าจอแล้วก็ถือว่าโอเคเลย แต่เท่าที่ลองใช้งานจริง รู้สึกว่าแบตอยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ครับ ไม่ได้อึดจริงจังแบบรุ่น P30 Pro หรือ Mate 30 Pro ที่เคยทดสอบมา
ส่วนระบบชาร์จก็ได้ HUAWEI SuperCharge 22.5W มาครับ ถึงแม้จะไม่ได้เร็วปรู๊ดปร๊าดแบบ 40W แต่เทียบกับแบตเท่านี้ก็ถือว่าใช้งานได้เร็วพอแล้วล่ะครับ
สรุปให้เลยละกัน
HUAWEI P40 ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนจากซีรีส์เรือธงรุ่นเริ่มต้นที่ให้ทุกอย่างมาค่อนข้างครบครันครับ ทั้งเรื่องของสเปคภายในที่ครอบคลุมไม่ต่างจากรุ่นใหญ่มากนัก กล้องที่หวือหวาพอตัวเลยเพราะได้กล้อง Ultra Vision LEICA Triple Camera มาเลย ตัวหลัก 50MP ตัวท็อปเหมือนกัน มีเลนส์ Ultra Wide และ Tele มาให้ครบพร้อมใช้ ในขณะที่ดีไซน์ตัวเครื่องก็สวย กะทัดรัดเหมาะมือมาก ๆ เรียกว่าออกมาตอบโจทย์คนที่อยากได้สมาร์ทโฟนเรือธงในขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไปจริง ๆ ส่วนเรื่อง Google ที่หลาย ๆ คนยังเป็นกังวลบนรุ่นนี้ HMS ก็ถือว่ามีการอัปเดตแอปหลาย ๆ เข้ามาแทนที่ได้บ้างแล้ว รวมถึงการใช้งานผ่านช่องทางอื่นก็ดูสะดวกกว่าช่วงแรกมากครับ แต่ก็ยังหวังว่าถ้ามีการร่วมมือกับทาง Google ได้เหมือนก่อนก็คงจะดีไม่น้อย เอาใจช่วยอยู่เด้อ
โดยรวมถ้าอยากได้เรือธงในขนาดที่เหมาะมือตอบโจทย์เรื่องกล้องได้อย่างครบครัน HUAWEI P40 นี้คือคำตอบแล้วล่ะครับ !!
จุดเด่น
- ตัวเครื่องไซซ์กะทัดรัดเหมาะมือมาก
- บอกี้งานประกอบดีเลิศ สี Silver Frost คือสุดจริง
- สเปคเร็วแรงไม่ลดหย่อนจากรุ่นใหญ่เลย
- กล้องหลัง 3 ตัวครอบคลุมทุกการใช้งานแล้ว
- EMUI10.1 ทำงานลื่นไหลมาก
- รองรับชาร์จไว SuperCharge 22.5W
จุดสังเกต
- ไม่มี GMS
- รูกล้องหน้าแอบใหญ่ไปนิด
- ลำโพงเป็นแบบ Mono
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite