เปิดตัว Fitbit Charge 4 สมาร์ทแบนด์ที่มาพร้อม built-in GPS, SpO2, และฟีเจอร์ใหม่
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับ สำหรับ Fitbit Charge 4 สายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Fitbit ขวัญใจคนชอบออกกำลังกาย โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ และเริ่มเปิดให้สั่งจองแล้วในต่างประเทศ ก่อนวางขายจริงในวันที่ 13 เมษายนนี้
Fitbit Charge 4 รุ่นต่อยอดจาก Charge 3 ตัวขายดีในปัจจุบัน โดยในรุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมกับ built-in GPS (สักที) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มาพร้อมฟีเจอร์นี้ด้วย (เพราะอย่างในรุ่นก่อนๆ อย่าง Fitbit Versa, Versa 2 หรือ Versa Lite ก็ไม่เคยมีมาก่อน)
ทางด้านดีไซน์ของ Charge 4 แทบจะไม่เปลี่ยนจากรุ่น 3 เลยครับ ซึ่งด้วยราคาค่าตัว $150 หรือประมาณ 4,900 บาท อาจจะไม่ได้มาพร้อมกับฟีเจอร์ล้ำๆ อย่างบน Apple Watch Series 5 ที่มี electrocardiography หรือระบบตรวจจับการล้ม แต่ฟีเจอร์หลักๆ ที่สมาร์ทแบนด์ควรมี เรียกว่ามาครบถ้วนครับ
ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจจับ HR แบบ 24/7 ตลอดวันตลอดคืน วัดแคลอรี่ตลอดเวลา ระบบแนะนำการหายใจ ระบบตรวจสุขภาพของผู้หญิง ระบบเตือนให้ขยับร่างกาย ตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ และแน่นอนว่าขาดไม่ได้ กับระบบตรวจสอบการนอนหลับอย่างระเอียด ที่มีการให้คะแนนการนอนหลับทุกคืน และมีการแนะนำวิธีการตื่นนอนอย่างสดชื่นในตอนเช้า
ถ้าฟีเจอร์ด้านบนจะดูเหมือนไม่แตกต่างจาก Charge 3 เลย ก็จะมีอีกฟีเจอร์ใหม่บน Charge 4 ก็คือระบบตรวจสอบอ๊อกซิเจนในเลือด คือมีเซ็นเซอร์ SpO2 เพิ่มเข้ามาให้แล้ว หรือจะเป็นฟีเจอร์ Active Zone Minutes ที่มอบการตรวจสอบช่วงเวลาที่ผู้ใช้กำลัง active ได้แม่นยำ เที่ยงตรงกับกิจกรรมที่กำลังทำอยู่มากขึ้น
และที่สำคัญที่สุด คือมี GPS ในตัวแล้วครับ ทำให้คุณสามารถทิ้งสมาร์ทโฟนไว้ที่บ้าน แล้วออกมาวิ่งได้อย่างหมดห่วง ปล่อยให้ Fitbit Charge 4 ตรวจจับการออกกำลังกาย ระยะทาง ความเร็ว หรือข้อมูลอื่นๆ ได้ด้วยตัวของมันเอง
ทางด้านระบบการจ่ายเงิน Fitbit Charge 4 รองรับ Fitbit Pay และระบบชำระเงินอื่นๆ ที่รองรับมากมาย รวมถึงใช้ควบคุมเพลงบน Spotify ได้
ความสามารถในการกันน้ำก็สามารถทำได้เต็มที่เหมือนเดิม คือสามารถใส่ว่ายน้ำได้เลย ดังนั้นทำกิจกรรมอื่นๆ หรือเรื่องเหงื่อนี่หมดห่วงได้เลยครับ และทางด้านแบตเตอรี่ รุ่นนี้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 วันสำหรับโหมดไม่เปิด GPS และถ้าเปิดใช้ ก็น่าจะลดลงไปมากกว่านี้แน่นอน
Fitbit Charge 4 เปิดตัวที่ราคาประมาณ 4,900 บาทในต่างประเทศ คือเท่ากับ Charge 3 ตอนเปิดตัวพอดี มีสีให้เลือกที่หลากหลาย และมีรุ่นพิเศษ Special Edition ที่ราคาแพงขึ้นอีก $20 โดยตอนนี้เริ่มเปิดให้สั่งจองแล้ว และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 13 เมษายนครับ
source: phonearena