Sony เผยข้อมูลสเปค PlayStation 5 ยืนยันใช้ SSD ดาวน์โหลดเร็วขึ้น 100x รองรับเกม PS4 และระบบเสียงแบบ 3 มิติ

Sony เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมของ PlayStation 5 เครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่ล่าสุดที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ โดยบนเวที Game Developers Conference 2020 นาย Mark Cerny หัวหน้าฝ่ายพัฒนาระบบของ Sony เป็นผู้เปิดเผยข้อมูลนี้

อย่างไรก็ตาม ในงานนี้ไม่มีการเปิดเผยภาพตัวเครื่อง PlayStation 5 แต่อย่างใด เพราะงานนี้จะเน้นหนักในด้านของระบบซอฟท์แวร์ภายในสำหรับนักพัฒนาเท่านั้น ส่วนข้อมูลอื่นๆ ทาง Sony ระบุว่าจะเปิดเผยช่วงก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกที

ฟีเจอร์เด่นอย่างแรกเลยของ PS5 คือ จะมาพร้อมกับหน่วยความจำแบบ SSD หรือ solid state storage ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้

PS5 จะเลิกใช้หน่วยความจำภายในแบบ hard drive แล้วหันมาใช้เป็น SSD แทนเพื่อประสิทธิภาพการอ่านข้อมูลที่เร็วยิ่งขึ้นเหมือนกับ Xbox Series X นั่นเอง โดย Sony เคลมว่าจะมีความเร็วอยู่ที่ 5.5GB/s เทียบกับ PS4 รุ่นก่อนหน้า ก็คือเร็วขึ้นถึง 100 เท่า และจากภาพจะเห็นว่า PS4 จะโหลดเกม 1GB ได้ใน 20 วินาที แต่ PS5 จะโหลดเกม 2GB ได้ใน 0.27 วินาทีเท่านั้น !!

นอกจากนี้ ข้อดีของการมีหน่วยความจำที่เร็วขึ้น จะช่วยในเรื่องของการโหลดเกมได้มาก คือ เกมจะเปิดได้เร็วขึ้น โหลดเร็วขึ้น และไม่จำเป็นต้องโหลดบ่อยครั้งเช่นเดิม อาจทำให้การเล่นเกมไม่จำเป็นต้องมีหน้า Loading เลยด้วยซ้ำ

เช่นเดียวกับ RAM ที่ PS5 จะมาพร้อม RAM 16GB GDDR6 แทนที่ 8GB GDDR5 ที่จะช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

ส่วนด้าน CPU Sony PlayStation 5 จะใช้ CPU AMD Zen 2 แบบ Octa-Core ความเร็วสูงสุุด 3.5GHz ใช้ GPU เป็น RDNA 2 ที่ทำความเร็วได้ 2.23GHz เรียกได้ว่าฮาร์ดแวร์นั้นเหมือนกับ Xbox Series X ของคู่แข่ง แต่จะแตกต่างกันที่ซอฟท์แวร์ภายใน

จุดเด่นอีกอย่างที่น่าสนใจของ PS5 คือจะรองรับการใช้หน่วยความจำเสริม คือสามารถใช้ USB Drive มาเสียบกับตัวเครื่องเพื่อเล่นเกม PS4 ได้ (แต่เล่นเกม PS5 ด้วยวิธีนี้ไม่ได้)

ระบบเสียงบน PS5 จะมาพร้อมกับระบบเสียงแบบ 3 มิติ ที่สามารถแยกตะแหน่งของเสียงได้ถึง 100 จุด เหมาะมากสำหรับการใช้งานร่วมกับระบบ Virtual Reality และทาง Sony กำลังพัฒนาเพื่อให้สามารถทำงานได้กับเครื่องเสียงที่หลากหลาย เช่น ลำโพงทีวี หูฟัง หรือชุดลำโพง อีกด้วย

ใครสนใจดู keynote เกี่ยวกับ Sony PlayStation 5 แบบเต็มๆ ดูได้ที่คลิปนี้เลยครับ

source: gsmarena