Unbox : แกะกล่องพรีวิว realme X2 Pro Master Edition สีแดง Red Brick
โดยนักออกแบบชื่อดังจากญี่ปุ่น !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความพรีวิวมือถือรุ่นใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ realme X2 Pro Master Edition รุ่นพิเศษที่ออกมาต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์ช่วงปลายปีแบบนี้ได้ดีจริง ๆ กับตัวเครื่องสีแดงอิฐสวย ๆ พร้อมฝาหลังแบบใหม่พิเศษกว่าเดิม ที่ได้นักออกแบบชื่อดังชาวญี่ปุ่นคุณ Naoto Fukasawa มาร่วมออกแบบรุ่นพิเศษนี้ด้วย วันนี้เฮียจะมาแกะกล่องให้ชมความงามของรุ่นนี้กัน มามะ เริ่มกันเลย !
พิเศษตั้งแต่กล่องเลย
มาดูตัวกล่องกันก่อนเลย realme X2 pro Master Edition ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นรุ่น Master จะให้กล่องแบบธรรมดามาได้ยังไง ตัวกล่องจะใช้วัสดุเป็นกระดาษผิวด้านสีเทาคล้ายกำมะหยี่ ตัดกับตัวโลโก้สีรุ้ง ๆ ด้านหน้าได้เป็นอย่างดี ต่างจากรุ่นปกติที่เป็นกล่องสีขาวทั่ว ๆ ไป
ตรงด้านหน้าก็มีสลักคำว่า Master Edition ไว้ด้วย พร้อมคำว่า Designed by Naoto Fukasawa ให้ทราบด้วยว่ารุ่นนี้ได้นักออกแบบชาวญี่ปุ่นท่านนี้ด้วย ขออธิบายเพิ่มเติมอีกนิดเกี่ยวกับคุณ Naoto เขาคือหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาของ MUJI แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่มีทั้งความ Minimal และสวยงามลงตัวอยู่ในที่เดียวกัน ไม่แปลกเลยที่รุ่น Master Edition นี้จะมากับกล่องแบบนี้เนาะ
เปิดกล่องออกมาก็จะเจอพวกกล่องและแผ่นรองเป็นสีเทาทั้งหมด อุปกรณ์ที่ให้มาก็จะเป็นแบบเดียวกับรุ่นปกติครับ มีสาย USB Type-C, อะแดปเตอร์ SuperVOOC และเข็มจิ้มถาดซิม
ในกล่องเล็กสีเทาจะมีตัวเคสซิลิโคนสีขุ่นพร้อมกับเอกสารคู่มือของรุ่นนี้เช่นเดียวกับรุ่นปกติครับ ตรงนี้แอบเสียดายนิด ๆ น่าจะให้เคสที่ดูเข้ากับตัวเครื่องกว่านี้หน่อย อันนี้พอใส่ไปแล้วก็แอบธรรมดาไปหน่อยเนาะ
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ของ realme X2 Pro Master Edition ก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 6 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง realme X2 Pro Master Edition
- เคสซิลิโคน
- สาย USB Type-C to Type-A
- อะแดปเตอร์ชาร์จ (SuperVOOC 50W)
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เอกสารคู่มือการใช้งาน
ดีไซน์สีแดงอิฐ สวยอะไรขนาดนี้ !
แกะของเริ่มร้อยหมดแล้วทีนี้ก็มาถึงตัวเครื่องกันสักที realme X2 Pro Master Edition จะมาพร้อมกับฝาหลังแบบพิเศษต่างจากรุ่นปกติ ด้วยพื้นผิวแบบกระจกฝ้าที่ให้ความรู้สึกในการสัมผัสที่นุ่มนวลในสีแดงอิฐเพื่อให้สื่อถึงความรู้สึกทางประวัติศาสตร์อันยาวนานของการออกแบบและนำมาผสานกับความทันสมัยของตัวสมาร์ทโฟนได้อย่างลงตัว ผิวสัมผัสให้ความรู้สึกที่ดีมากในการจับถือไม่ลื่นจนเกินไปและไม่หนืดเมื่อจับถือ
มีเลนส์กล้องที่วางตำแหน่งลงมาในแนวตั้ง เพิ่มลูกเล่นความสวยงามด้วย realme Ring วงแหวนสีทองรอบ ๆ กรอบเลนส์ตัวบนสุด พร้อมสกรีนไว้ชัดเจนว่า 64MP แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็มาพร้อมกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซลนั่นเอง !
มีโลโก้และก็มีลายเซ็น
โลโก้ realme ยังคงวางไว้ที่มุมขวาเช่นเดียวกับรุ่นปกติ แต่ที่เด่นกว่านั้นก็คือมีลายเซ็นของคุณ Naoto อยู่ถัดลงมาจากโลโก้ของ realme ด้วย ตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมไปวางโลโก้ไว้แปลกแบบนั้น จะกลางก็ไม่กลาง จะริมไปเลยก็ไม่สุด ตรงนี้คุณ Naoto ได้ให้เหตุผลว่าแท้จริงแล้วการวางโลโก้นี้ไม่ได้ผิดแปลกอะไร เพราะโดยทั่วไปเราจะเห็นว่าพวกเสื้อสูท เสื้อเชิ้ตต่าง ๆ ก็มักจะวางตำแหน่งโลโก้ไว้ที่มุมขวาอยู่แล้ว ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สะดุดตามากที่สุด รวมถึงยังเป็นตำแหน่งเดียวกับหัวใจด้วย แถมการวางโลโก้ไว้ตรงนี้ยังช่วยให้โลโก้ไม่ถูกบล็อคกเวลาถืออยู่ในมืออีกด้วย โอ้โห ! ลึกซึ้ง !!
สีสวยไปถึงรอบ ๆ ตัวเครื่อง
นอกจากสีที่ฝาหลังแล้ว สีที่กรอบเครื่องก็จะเป็นสีแดงอิฐเช่นกัน ใช้วัสดุเป็นโลหะผิวด้านมีความเย็น ๆ ในการจับถือและขอบเครื่องที่เหลี่ยมกำลังดี ช่วยให้จับถือได้แบบไม่บาดมือจนเกินไป การวางตำแหน่งของปุ่มกดก็ยังอยู่ที่มาตรฐานคือมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ที่มุมซ้ายของตัวเครื่อง
ปุ่ม Power ก็จะอยุ่ที่มุมขวา มีแถบสีเหลืองทองตัดอยู่ในปุ่มกดด้วย เพิ่มความโดดเด่นขึ้นมาอย่างมากเมื่ออยู่บนสีแดงอิฐแบบนี้
ช่องใส่ซิมก็จะอยู่ที่มุมขวามือนี้ด้วย ถาดซิมจะเป็นแบบ Dual-SIM ไม่มีช่อง micro-SD นะครับ รุ่นนี้เพิ่มหน่วยความจำภายนอกไม่ได้แบบเดียวกับรุ่นปกติ
พอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้จะอยู่ที่ด้านล่างทั้งหมด มีช่องหูฟัง 3.5 มม.มาอยู่ข้างกับไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตการเชื่อมต่อหลักเป็น USB Type-C และลำโพงหลักของตัวเครื่องที่มีการทำมุมเว้าลงไปอีกหน่อยเพื่อเพิ่มมิติของเสียง
ด้านบนจะมีเพียงไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนเท่านั้นครับ
หน้าจอ Ultra Smooth ลื่นไหล แสดงผลสวย
พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้าของตัวเครื่องกันบ้าง realme X2 Pro Master Edition มาพร้อมกับหน้าจอ Super Amoled ขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว พร้อมอัตราส่วนแบบ 20:9 จอจะยาว ๆ หน่อย ในเรื่องการแสดงผลทำได้ดีมากสีสันสวย รองรับการแสดงผล HDR10+ และยังมีค่า Refresh Rate สูงถึง 90Hz อีกด้วยตอบสนองการใช้งานดีมาก ๆ
ดีไซน์หน้าจอของ realme X2 Pro Master Edition ถึงแม้จะไม่เต็มจอไปหมด เหลือติ่งบนจอเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าให้การแสดงผลที่สวยและเต็มตามาก ๆ แล้ว ไม่ได้กวนใจเวลาใช้งานเลย
ในหน้าจอยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังไว้ด้วย ในเรื่องความเร็วก็หายห่วงครับ 0.23 วินาทีก็สแกนติดเข้าไปได้แล้ว
โดยรวมเรื่องดีไซน์ของ realme X2 Pro Master Edition ก็ถือว่าเป็นงานออกแบบที่พิเศษขึ้นกว่ารุ่นธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งฝาหลังแบบพิเศษที่มีสีแดงอิฐพร้อมวัสดุผิวสัมผัสแบบพิเศษอีก เหมาะสำหรับใครที่มองหาสมาร์ทโฟนหรู ๆ เป็นของขวัญช่วงเทศกาลแบบนี้มาก ๆ ครับ
สเปค realme X2 Pro Master Edition
- หน้าจอ Super Amoled ขนาด 6.5" ความละเอียด FHD+
- อัตราส่วน 20:9, Refresh Rate 90Hz
- ซีพียู Snapdragon 855+ Octa-Core 2.96GHz (7nm)
- จีพียู Adreno 640
- แรม 12GB
- ความจุ 256GB (UFS3.0)
- แบตเตอรี่ 4000mAh
- รองรับชาร์จไว SuperVOOC 50W
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้องหลัง 4 ตัว 64 + 13 + 8 + 2 ล้านพิกเซล
- (Main + Tele 2x + Ultra Wide Angle + Portrait)
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รัน Android 9.0 Pie (ColorOS 6.1)
- ขนาดตัวเครื่อง 161 x 75.7 x 8.7 มม.
- น้ำหนัก 199 กรัม
ในเรื่องของสเปค realme Master Edition นี้ก็ให้มาแบบจัดเต็มเช่นเดียวกับรุ่นปกติ ทั้งหน่วยประมวลผลตัวท็อปสุด ๆ Snapdragon 855+ แรม 12GB หน่วยความจำภายใน 256GB และที่สำคัญระบบชาร์จไว SuperVOOC ที่เร็วที่สุดในไทยก็ได้มาด้วย ! เรียกว่าในเรื่องประสิทธิภาพ realme X2 Pro Master Edition นี้จัดเป็นที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ หายห่วงเรื่องความแรงได้เลย
ซอฟต์แวร์ตัวล่าสุดมี Dark Mode แล้วนะ
ในเรื่องของซอฟต์แวร์ realme X2 pro Master Edition ยังคงมาพร้อมกับ ColorOS 6.1 ที่ครอบอยู่บน Android 9.0 Pie อยู่ แต่ก็มีการอัปเดตเวอร์ชั่นล่าสุดให้รองรับการใช้งานใหม่ ๆ ตามเทรนด์เรียบร้อย อย่าง Dark Mode ก็ใส่มาให้แล้วเช่นกันครับบนเวอร์ชั่นนี้
วิธีการเปิดก็ให้เข้าไปที่ Settings > realme Labs แล้วจะเจอ Dark Mode มาให้เปิดใช้งานได้เลยในนั้นครับ
กล้องเทพ 4 ตัว 64MP
แน่นอนว่ากล้องก็เป็นจุดเด่นของ realme X2 Pro Master Edition ด้วย โดยกล้องหลัง 4 ตัวของรุ่นนี้ก็จะมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลยครับ
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล f/1.8, Samsung GW1 Sensor
- เลนส์ Tele 2x ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.5, ซูมแบบไฮบริดได้ 5x และดิจิทัลสูงสุด 20x
- เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2, มุมกว้าง 115 องศา
- เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, สำหรับวัดระยะและเพิ่มฟิลเตอร์
มีฮาร์ดแวร์กล้องชั้นยอดทั้งมุมกว้าง 115 องศา กล้องหลักความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล และช่วงซูม 5x แบบไฮบริดรวมถึงซูมดิจิทัลแบบ 20x อีกด้วย ส่วนกล้องหน้าของรุ่นนี้ก็ความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิเซลเลยด้วยนะ
รองรับชาร์จไว SuperVOOC ไวที่สุด !
อีกเรื่องที่เป็นไฮไลท์สุด ๆ ของรุ่นนี้ก็คงหนีไม่พ้นระบบชาร์จ เพราะให้ระบบชาร์จที่ขึ้นชื่อว่าเร็วที่สุดอย่าง SuperVOOC มาให้เลย สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 50W อนิเมชั่นตอนเสียบชาร์จนี่เท่มาก ๆ พร้อมตัวเลขนับแบบเรียลไทม์เลย เห็นตัวเลขวิ่งต่อเนื่องแบบนี้รู้สึกว่าเร็วมาก ๆ เลยล่ะ
ซึ่งความเร็วในการชาร์จต้องบอกเลยว่าเร็วมาก ๆ 50W นี่เราสามารถชาร์จจาก 0 - 100% ได้ในเวลาเพียง 35 นาทีเท่านั้น !! ลองแล้วได้แบบนั้นจริง ๆ ช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นมาก สมมติวันไหนเราลืมชาร์จก่อนนอน ตื่นมาเหลือแบตอยู่นิดหน่อย ก็เสียบชาร์จแล้วไปอาบน้ำเชื่อว่าออกมาก็พร้อมใช้งานต่อไปทั้งวันแล้วแหละ เจ๋งมาก ๆ
ราคาเดิม จำนวนจำกัดนะรุ่นนี้ !
ปิดท้ายด้วยราคาค่าตัว สำหรับ realme X2 Pro Master Edition ก็จะเปิดตัวมาที่ 19,999 บาทเท่านั้น ! และแน่นอนว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษที่วางจำหน่ายแบบจำนวนจำกัด โดยเริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ realme Brand Shop และช่องทางออนไลน์ที่ realme Official Store บน Lazada รับของแถมเป็น VIP Card และ realme Buds Wireless พร้อมประกันจอแตกนาน 12 เดือน ประกันตัวเครื่องนาน 24 เดือนอีกต่างหาก ! เรียกว่าออกมาเป็นของขวัญสำหรับช่วงเทศกาลให้ใครหลาย ๆ คนเลยล่ะเนาะ :D
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite