Preview : ASUS ZenBook 15 with ScreenPad 2.0 โน้ตบุ๊ค 2 หน้าจอ
พร้อมขุมพลัง Core i7 10th Gen !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความพรีวิวโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ ASUS ZenBook 15 (UX534F) รุ่นใหม่ของปีนี้ ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ScreenPad 2.0 หรือหน้าจอบน TouchPad พร้อมสเปคที่อัปเกรดขึ้นมาจากเดิมอีกเยอะ และดีไซน์ที่ลงตัวขึ้นกว่าเดิม วันนี้เราขอมาพรีวิวให้ชมกันสักหน่อย มาดูกันว่า ZenBook 15 ใหม่นี้น่าสนใจแค่ไหน :D
ดีไซน์สวยเรียบ ขอบจอบางเฉียบ
เริ่มด้วยเรื่องดีไซน์กันก่อน ZenBook 15 มาในทรงที่คุ้นตา โดดเด่นด้วยความเรียบหรู มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วตามชื่อรุ่น แต่จะเห็นว่าตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่เทอะทะเลย ด้วยขอบหน้าจอแบบ Nano-Edge Display ชิดขอบข้างทั้ง 4 มุมให้หน้าจอที่เต็มตามาก ๆ
เทียบกับการแสดงผลหน้าจอด้านหน้าแล้วทำได้มากถึง 92% เลยทีเดียว ขอบจอบางเพียง 2.9 มม.เท่านั้น สีสันและความสวยงามทำได้ดี ค่าสี sRGB นั้นตรงถึง 100% และมุมมองจอกว้างถึง 178 องศา จะหันไปมุมไหนภาพก็ยังคมชัดเช่นเคย
เหนือหน้าจอมีกล้อง IR Camera ที่รองรับการใช้งานล็อกอินเข้าสู่เครื่องผ่านระบบ Windows Hello ได้แบบไม่ต้องพิมพ์รหัสด้วย
บอดี้เรียบหรู ตามสไตล์ Zen
บอดี้ของ ZenBook 15 ยังสวยโดดเด่นตามสไตล์ Zen เหมือนเคย สีที่เราได้มานั้นเป็นสี Icicle Silver มาพร้อมบอดี้สีเงินที่ตัดกับแถบสีทองตรงเหนือแป้นคีย์บอร์ด ที่ฝาหลังจะมีความสะท้อนแสงพร้อมลวดลายแบบ Brush Finish เส้น ๆ สะท้อนออกมาจากตรงโลโก้ ASUS ตรงกลางสวย ๆ
แป้นคีย์บอร์ดของรุ่น ZenBook 15 จะเป็นแบบ Full Size พร้อมมีตัว NumPad มาให้ด้วย วางพื้นที่ได้ครบดีทีเดียว จัวคีย์บอร์ดสามารถพิมพ์กดเด้งรับกับนิ้วมือได้ดีครับ พิมพ์สนุก
แต่ตัว NumPad แอบวางตำแหน่งแปลกไปนิดหน่อย ให้ปุ่มเลข 0 และ . สลับกันนิดหน่อย ทำให้เวลาเราพิมพ์แบบเคยชินที่มักจะกดเลข 0 จากตรงกลางต้องปรับตัวกันนิดหน่อย
ตัวคีย์บอร์ดมาพร้อมไฟ Backlit ด้วย ปรับระดับความสว่างได้ 3 ระดับ
ScreenPad 2.0 อย่างกับรุ่น Pro
ในปีที่แล้ว ASUS เริ่มเพิ่มฟีเจอร์ ScreenPad เข้ามาบนรุ่นใหญ่อย่าง ZenBook Pro ก็เพิ่มลูกเล่นการใช้งานให้กับเราได้เยอะเลยทีเดียว มาปีนี้ ZenBook Series ก็เริ่มเพิ่มฟีเจอร์นี้มาให้แล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งบน TouchPad จะมีขนาดใหญ่และมีหน้าจอซ่อนอยู่ด้วย เราสามารถใช้งานตรงนี้ได้ประหนึ่งสมาร์ทโฟนสักรุ่นขนาด 5.65" แปะอยู่เลย
ซึ่งตัว ScreenPad ใหม่นี้จะเป็นเวอร์ชั่น 2.0 แล้ว ดูมีการอัปเกรดขึ้นมาจากเวอร์ชั่นก่อนมากขึ้น มีแอปที่รองรับมากขึ้น แถมตัว UI ยังมีหน้าตาคล้ายมือถือ Android ย่อม ๆ มาฝั่งอยู่ด้วย ดูน่าใช้งานในส่วนนี้มากขึ้นไปอีก
มี ErgoLift ยกเครื่องขึ้นเหมือนเดิม
ZenBook 15 มาพร้อมกับดีไซน์แบบ ErgoLift ที่จะยกตัวเครื่องขึ้นทำมุม 3 องศา ทำให้เหมาะกับการพิมพ์มากขึ้น พร้อมทั้งระบายอากาศได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย ส่วนหน้าจอก็สามารถกางออกได้ถึง 145 องศา ทำมุมได้มากสุดแบบในภาพด้านบนนี้เลย
พอร์ตการเชื่อมต่อให้มาค่อนข้างครบดีทีเดียว เริ่มด้วย USB Type-A 3.1 Gen 1 พอร์ตที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องพร้อมช่องหูฟัง และด้านขวาก็มีมาครบช่องชาร์จไฟ, HDMI, USB Type-A 3.1 Gen 2, USB Type-C 3.1 Gen 2, และช่องใส่ SD การ์ดครับ
พลิกกลับมาดูที่ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องของลำโพงและช่องระบายความร้อนอยู่
ตัวเครื่องยังโดดเด่นในเรื่องของน้ำหนักตัวเครื่องและความบางเป็นอย่างดี สำหรับรุ่น ZenBook 15 มาในน้ำหนักที่ 1.65 กก. และบางอยู่เพียง 18 มม. เท่านั้นเอง เรียกว่าตัวเครื่องนั้นขนาดพกพาได้สะดวกอยู่ทีเดียว ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเป็นไซส์ 15 นิ้วก็ตาม
สเปค ASUS ZenBook 15 with ScreenPad 2.0 (UX534F)
- หน้าจอ 15.6" LED UHD 3840 x 2160 พิกเซล
- หน้าจอ ScreenPad 2.0 5.65" Full-HD
- หน่วยประมวลผล Intel Core i7 10510U (10th Gen)
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q
- แรม 16GB
- ความจุ 1TB Pcle SSD
- พอร์ตการเชื่อมต่อ USB Type-A Gen 1 x 1, USB Type-A Gen 2 x 1, USB 3.1 Type-C x1, HDMI x1, SD Card Reader x1, Headphone Jack
- ขนาดตัวเครื่อง 35.4 x 22 x 1.8 ซม.
- น้ำหนัก 1.65 กก.
ในส่วนของสเปคต้องบอกว่าจัดเต็มมาก ๆ ทั้งหน่วยประมวลผล Intel Core-i7 10th Gen พร้อมการ์ดจอแยก GeForce GTX 1650 Max-Q ที่มีประสิทธิภาพสูง หายห่วงเรื่องการทำงานกราฟิกหรือเล่นเกมหนัก ๆ เลยจริง ๆ ครับ
Windows แท้ ใช้งานได้เลย !
ในเรื่องของระบบปฏิบัติการ ทาง ASUS ไม่ต้องห่วงเลยเพราะมีการผูก Windows แท้มาให้ในโน้ตบุ๊คทุกรุ่นแล้ว ซึ่งบน ASUS ZenBook 15 ก็ให้ Windows 10 Home มาให้เลย ไม่ต้องกังวลว่าซื้อเครื่องแล้วจะต้องมาติดตั้ง Windows เพิ่มแล้วครับ
ScreenPad 2.0 ไฮไลท์ใหม่
เรื่องที่รุ่นนี้โดดเด่นก็คือ Screen Pad 2.0 นั่นเอง หน้าจอ ScreenPad รอบนี้รู้วึกว่าตอบสนองการสัมผัสได้ดีกว่าเดิม คือลื่นไหลมากขึ้น เหมาะกับการใช้งานเป็นหน้าจอเสริมมากขึ้นแล้ว ลองแตะ ๆ เลื่อน ๆ ดูก็ทำได้ดีเลย เหมือนพวกมือถือที่ติดฟิล์มด้าน สัมผัสจะไม่หนืดนิ้วและไม่ค่อยเก็บคราบรอยนิ้วมือเท่าไหร่
ตัวหน้าจอนี้เราสามารถใช้งานเป็นหน้าจอที่ 2 ได้เลยด้วยโดยการยกเอาโปรแกรมมาไว้ด้านล่าง ช่วยให้การทำงานเราสะดวกมากขึ้น จะเปิดจอล่างดูหนัง จอบนทำงานไปก็ได้เลย
หรือจะใช้จอด้านล่างเป็นเครื่องมือต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน อย่างเช่นในโปรแกรมจำพวก Office อันนี้ก็รองรับเต็มรูปแบบมาเลย ใช้จอด้านล่างเป็นแถบเครื่องมือหรือพวกโปรแกรมตัดต่อก็น่าจะเวิร์คไม่น้อยเลยล่ะ
แบตเตอรี่จุใจใช้งานนาน 17 ชม.
ในส่วนของแบตเตอรี่ ASUS เคลมว่า ZenBook 15 นั้นสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 17 ชม.เลยทีเดียว ตรงนี้น่าจะถูกใจคนที่พกไปใช้งานข้างนอกแบบที่ไม่ต้องพึ่งที่ชาร์จกันล่ะ และในเรื่องของระบบชาร์จรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับระบบชาร์จไวถึง 120W อีกต่างหาก
สรุป !
ZenBook 15 with ScreenPad 2.0 รุ่นนี้ก็จัดว่าเป็นโน้ตบุ๊คทำงานอีกรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยสเปคที่ให้มาอย่างครอบคลุมทั้ง Intel Core 10th Gen การ์ดจอ GTX 1650 Max-Q ตัวเครื่องที่พอเหมาะพอเจาะในการพกพา มีลูกเล่นในเรื่องของ ScreenPad 2.0 ที่เพิ่มการใช้งานให้สะดวกมากขึ้น แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานแบบนี้ ตอบโจทย์คนทำงานที่ต้องใช้งานอย่างต่อเนื่องแน่นอน รวม ๆ แล้วใครที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊คทำงานที่ครบ ๆ อยู่ตัวนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะครับ
ราคาค่าตัว !
สำหรับ ASUS ZenBook 15 (UX534F) นี้ก็เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อย โดยเคาะราคายู่ที่ 46,990 บาท สำหรับรุ่น Core i7 ที่รีวิวนี้ มีให้เลือกด้วยกัน 2 สีคือ Royal Blue และ Icicle Silver (สีที่รีวิว) ครับผม
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite