Article : OnePlus 7T vs OnePlus 7T Pro ต่างกัน 9,000 บาท
ต่างกันตรงไหนบ้าง เลือกรุ่นไหนดี เรามีคำตอบ !!
วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ OnePlus 7T Series ทั้ง 2 รุ่นกับ OnePlus 7T และ OnePlus 7T Pro ทั้งคู่ก็จัดว่าเป็นรุ่นสุดคุ้มมาก ๆ ที่ออกมาในช่วงปลายปีแบบนี้ แต่ก็มีราคาที่แตกต่างกันอยู่ถึง 9,000 บาท อะ..แล้วถ้าอยากได้ซีรีส์นี้จริง ๆ เราควรเลือกตัวไหนดี และราคาส่วนต่างที่ห่างกันขนาดนี้มีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง ถ้ากำลังลังเลอยู่ เฮียจะมาอธิบายให้อ่านกันว่าต่างกันตรงไหนและรุ่นไหนกันแน่ที่เหมาะกับเรา มามะ เริ่มกันเลย !
หน้าจอ
OnePlus 7T - หน้าจอ Fluid Display 2.5D ขนาด 6.55", ความละเอียด FHD+ (อัตราส่วน 20:9), Refresh Rate 90Hz
OnePlus 7T Pro - หน้าจอ Fluid Display โค้ง 3D ขนาด 6.67", ความละเอียด QHD+ (อัตราส่วน 19.5:9), Refresh Rate 90Hz
เริ่มกันที่เรื่องของหน้าจอกันก่อนเลย เป็นจุดที่ทำให้แยกแยะทั้ง 2 รุ่นนี้ออกจากกันชัดเจน ทั้งคู่ให้หน้าจอที่แตกต่างกันโดย OnePlus 7T นั้นจะเป็นหน้าจอ Super Amoled แบบแบน (2.5D) ที่มาพร้อมกับติ่งบนหน้าจอแบบ Waterdrop ส่วนรุ่น Pro จะได้หน้าจอ Super Amoled แบบโค้ง 3D ที่ไม่มีติ่งหรือรูบนหน้าจอเลยด้วย เรียกว่าตรงนี้ก็แตกต่างกันพอควรแล้ว
ส่วนความละเอียดก็เป็นอีกจุดที่แตกต่างกันโดยรุ่น OnePlus 7T นั้นจะได้ความละเอียดมาในระดับ FHD+ กับอัตราส่วนแบบ 20:9 ส่วนรุ่น Pro จะได้ความละเอียดสูงสุดถึง QHD+ ในอัตราส่วนแบบ 19.5:9 แตกต่างกันอยู่พอควรเลย
แต่จุดเด่นหลักของรุ่นนี้ที่เป็นหน้าจอ Refresh Rate สูงถึง 90Hz ยังคงใช้งานได้ทั้งคู่เช่นเดียวกับการแสดงผล HDR10+ ด้วย โดยรวมในเรื่องของหน้าจอเรียกว่าตัว Pro นั้นนำไปค่อนข้างเยอะทั้งในเรื่องของการแสดงผลที่คมชัดกว่า เต็มตากว่าไม่มีติ่งบนหน้าจอ ส่วน 7T จะได้เปรียบสำหรับคนที่ไม่ชอบความโค้งของหน้าจอเพราะเป็นจอแบนกับอัตราส่วนที่ยาวกว่าอีกหน่อย เวลาดูคอนเทนต์แนวตั้งหรือวิดีโอแบบ 21:9 ก็จะเต็มจอกว่านั่นเองครับ
ดีไซน์
OnePlus 7T - ขนาดตัวเครื่อง 160.9 x 74.44 x 8.1 มม., น้ำหนัก 190 กรัม, ฝาหลังกระจกด้านมีให้เลือก 2 สีคือ Glacier Blue และ Frosted Silver
OnePlus 7T Pro - ขนาดตัวเครื่อง 162.6 x 75.9 x 8.8 มม., น้ำหนัก 206 กรัม, ฝาหลังกระจกด้านมีให้เลือกสีเดียว Haze Blue
ต่อมาที่แตกต่างกันภายนอกเลยก็คือเรื่องของดีไซน์รูปลักษณ์ พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังจะเห็นได้ชัดว่าดีไซน์กรอบเลนส์นั้นแตกต่างกันชัดเจนตัว 7T นั้นจะได้กรอบเลนส์ทรงกลมขนาดใหญ่อยู่ที่ด้านหลังพร้อมเรียงกล้องเป็นแนวนอน ในขณะที่ 7T Pro นั้นจะเรียงกล้องเป็นแนวตั้งในกรอบเลนส์ทรงปกติไม่วงกลม ส่วนฝาหลังก็ได้สีสันมาไม่เหมือนกันโดย OnePlus 7T จะมีตัวเลือกมาให้เลือก 2 สีคือ Glacier Blue และ Frosted Silver แต่ 7T Pro มีสีเดียวคือ Haze Blue แต่ทั้งคู่ยังได้วัสดุที่พรีเมี่ยมด้วยฝาหลังแบบกระจกด้านทั้งหมดครับ
อีกเรื่องที่สัมผัสจริงแล้วจะรู้สึกว่าต่างก็คือขนาดและน้ำหนักจองตัวเครื่องครับ โดย 7T นั้นจะได้ขนาดที่กะทัดรัดกว่าด้วยความบางเพียง 8.1 มม. จัดได้ถนัดมือด้วยน้ำหนัก 190 กรัม ส่วน 7T Pro จะหนากว่าหน่อยขึ้นมาเป็น 8.8 มม. และน้ำหนักแอบหนักกว่าพอควรเป็น 206 กรัมกันเลย
สเปค
OnePlus 7T - Snapdragon 855+, แรม 8GB, ความจุ 128GB (UFS3.0)
OnePlus 7T Pro - Snapdragon 855+, แรม 8GB, ความจุ 256GB (UFS3.0)
ในส่วนของสเปคทั้งคู่เรียกว่าแทบจะให้สเปคเดียวกันมาเลย ทั้งหน่วยประมวลผลตัวแรงอย่าง Snapdragon 855+, แรม 8GB แต่จุดที่แตกต่างกันอยู่ก็คือหน่วยความจำภายในที่ 7T จะได้มาที่ 128GB ส่วน 7T Pro ได้มามากถึง 256GB ทั้งคู่เป็นหน่วยความจำแบบ UFS3.0 และไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ทั้งคู่เหมือนกันครับ
ตรงนี้จุดนี้เรียกว่าให้สเปคมาไม่แตกต่างกันเลย คะแนนทดสอบที่ลองเทียบกันมาก็ห่างกันนิดหน่อย ไม่มีผลต่อการใช้งานจริงเลย จุดที่น่าพิจารณาก็คงเป็นเรื่องหน่วยความจำซึ่งถ้ามองว่าจำเป็นไหม ก็ถือว่าเป็นจุดสำคัญอยู่ เพราะทั้งคู่ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้ ถ้าต้องการใช้งานแบบจัดเต็มก็คงต้องมองไปที่รุ่น Pro เพราะมีความจุมามากกว่า
กล้อง
OnePlus 7T - กล้องหลัง 3 ตัว 48 + 16 + 12MP (Main + Wide + Tele 2x)
- กล้องหน้า 16MP ที่ติ่งบนหน้าจอ
OnePlus 7T Pro - กล้องหลัง 3 ตัว 48 + 16 + 8MP (Main + Wide + Tele 3x)
- กล้องหน้า Pop Up 16MP
เข้ามาอีกเรื่องที่แตกต่างกันก็คือเรื่องของกล้อง ทั้งคู่ได้กล้องหลัง 3 ตัวมาเหมือนกันก็จริง แบ่งเป็นกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + กล้อง Ultra Wide Angle 117 องศา + กล้องซูม แต่จะมีจุดที่แตกต่างกันอยู่ก็คือกล้องตัวที่ 3 หรือกล้องซูมนี่แหละที่ 7T จะได้ช่วงซูมมาแค่ 2x ในขณะที่ 7T Pro นั้นจะได้ไกลกว่าเป็น 3x ครับ นอกนั้นก็จะเหมือนกัน ในส่วนของซอฟต์แวร์การใช้งานทั้ง Nightscape, Ultra Wide Video รวมไปถึงระบบกันสั่นขั้นเทพ Steady Video ก็ใช้งานได้เหมือนกันหมดครับ
กล้องหน้าตรงนี้จะแตกต่างกันอยู่หน่อย โดย 7T จะเป็นกล้องหน้าที่อยู่บนติ่งหน้าจอ ส่วน 7T Pro ใช้กล้อง Pop Up ที่ซ่อนอยู่ในตัวเครื่องแทน ในมุมของการเซลฟี่ไม่ต่างกันมากครับ คุณภาพสวยงามเหมือนกัน แต่ในเรื่องการเปิดใช้งานรวมถึงสแกนใบหน้า 7T ทำได้เร็วกว่าเพราะไม่ต้องยกกล้องขึ้นมานั่นเอง
แบตเตอรี่
OnePlus 7T - แบตเตอรี่ความจุ 3800mAh, รองรับระบบชาร์จไว Warp Charge 30T
OnePlus 7T Pro - แบตเตอรี่ความจุ 4085mAh, รองรับระบบชาร์จไว Warp Charge 30T
เรื่องของแบตเตอรี่นี่แตกต่างกันอยู่พอสมควรตามขนาดหน้าจอ โดย 7T นั้นให้ความจุแบตฯมาที่ 3800mAh ในขณะที่ 7T Pro ได้มาที่ 4085mAh ห่างกันเกือบ 300mAh ในการใช้งานจริงเทียบกัน รู้สึกว่าตัว 7T Pro นั้นใช้งานได้อึดกว่าอยู่พอควร
เรื่องระบบชาร์จทั้งคู่มาพร้อมกับระบบ Warp Charge 30T เช่นเดียวกัน ก็คือชาร์จได้ไวด้วยความเร็ว 30W เหมือนกัน ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของทั้งคู่เยล ชาร์จเร็วมาก ๆ ตรงนี้ 7T แอบได้เปรียบเพราะแบตฯน้อยกว่า เวลาชาร์จเต็มก็เร็วกว่าด้วยเช่นกันครับ
ราคา
OnePlus 7T - 17,990 บาท
OnePlus 7T Pro - 26,990 บาท
ปิดท้ายกันที่ราคา แน่นอนว่าแตกต่างกันถึง 9,000 บาทอย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้น เทียบกันมาแล้วก็เห็นความแตกต่างกันอยู่หลายจุด ทั้งในเรื่องของหน้าจอ, ขนาดตัวเครื่อง, กล้อง, แบตเตอรี่ พอจะเห็นจุดที่เพื่อน ๆ ต้องการได้อยู่บ้างแล้วเนอะในส่วนของความต่าง แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเอาตัวไหนดี เฮียขอแนะนำแบบนี้ละกัน
เลือก OnePlus 7T เพราะ…
อยากสัมผัสความลื่นไหลของ 7T Series ชอบหน้าจอแบบแบน Fluid Display ลื่น ๆ ด้วย Refresh Rate 90Hz, หน่วยประมวลผลตัวแรง Snapdragon 855+ กับแรม 8GB เล่นอะไรก็ลื่นไปหมด, แบตไม่ค่อยอึดมากไม่เป็นไรเพราะมีระบบชาร์จไวสุด ๆ WarpCharge 30T มาแล้ว, ไม่ได้สนใจกล้องที่ซูมเยอะถึง 3x, หน่วยความจำภายในแค่ 128GB ก็เหลือ ๆ และมีงบที่จำกัดประมาณ 20,000 บาท ก็มองมาที่ OnePlus 7T เลยครับ เพราะมันตอบโจทย์ที่สุดแล้วครับ
อ่านรีวิว OnePlus 7T ได้ที่นี่
เลือก OnePlus 7T Pro เพราะ…
อยากได้รุ่นท็อปไปเลย ไม่ชอบหน้าจอติ่ง จอโค้งรับได้ ความลื่นของหน้าจอ 90Hz ในความละเอียดที่สูงถึง QHD+, สเปคก็แรงจัดเต็มไปเลย Snapdragon 855+ บวกกับหน่วยความจำ 8GB + 256GB ใช้กันได้อีกยาว ๆ ได้แบตฯที่เยอะขึ้นใช้งานได้ยาวนานไร้กังวล มีกล้อง 3 ตัวที่กว้างไปจนถึงซูมได้ระดับ 3x แบบไม่เสียรายละเอียด และมีงบที่สูงขึ้นมาแบบไม่จำกัดก็ข้ามมาเล่นรุ่น Pro ได้เลย ได้ครบกว่าครับ !
อ่านรีวิว OnePlus 7T Pro ได้ที่นี่
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับบทความเปรียบเทียบของ OnePlus 7T และ 7T Pro นี้เฮียหวังว่าเพื่อน ๆ ที่กำลังตัดสินใจเลือก 2 รุ่นนี้อยู่จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเนอะ ถ้ายังไม่จุใจก็สามารถอ่านรีวิวของทั้ง 2 รุ่นนี้เพิ่มเติมได้จากลิ้งก์ด้านบนต่อเนื่องไปได้เลย ยังไงวันนี้ เฮียแม็พ. TechXcite คงต้องลาไปก่อนไว้พบกันใหม่บทความหน้าครับ :D
บทความโดย : เฮียแม็พ. TechXcite