Preview : Samsung Galaxy Fold สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้สุดว้าว
ที่เตรียมเข้าไทยเร็ว ๆ นี้ !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เฮียรู้สึกตื่นเต้นกับความล้ำของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาก ๆ เพราะหลังจากที่เปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปี ตอนนี้มันก็เดินทางมาถึงบ้านเราเรียบร้อยกับ Galaxy Fold สมาร์ทโฟนจอพับได้สุดว้าว ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่มาเพียบ วันนี้ได้ลองจับตัวจริงมาแล้ว ขอเขียนบทความแรกสัมผัสให้อ่านถึงความล้ำกันหน่อยดีกว่า เริ่มเลยเนอะอย่าให้เสียเวลา ! :D
แรกสัมผัส Galaxy Fold
ตั้งแต่ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปพร้อมกับ Galaxy S10 Series เราก็เฝ้ารอการมาของ Galaxy Fold มาตลอด เพราะด้วยเทคโนโลยีการพับได้ของหน้าจอที่ใช้ได้จริง บวกกับดีไซน์ที่โดดเด่น และหลังจากลองจับจริง ๆ ต้องยอมรับว่า "ว้าว" มาก เป็นการออกแบบที่ลงตัวดีจริง ๆ ของการใช้งานแบบพับและกางออกของตัวเครื่อง
ตัวเครื่องจะมีหน้าจอทั้งด้านในและด้านนอก ในจังหวะที่พับอยู่ก็จะมีหน้าจอไซซ์เล็ก 4.6" ไว้ให้ใช้งาน ตรงนี้ฟิลจะเหมือนมือถือยุคเก่าที่ขนาดจอเล็ก ๆ พร้อมขอบบน-ล่างที่หนาหน่อย
อัตราส่วนตรงนี้จะเป็นแบบ 21:9 คือแบบยาว ๆ เหมือนพวกรีโมทเลย การแสดงผลยังเป็น Super Amoled (HD+) ไม่ต้องห่วงเรื่องสีสันและการแสดงผลนะ สวยตั้งแต่จอนอกนี้แล้ว
ถ้าเราเน้นใช้งานมือเดียวแบบทั่วไป อาจจะคิดว่าทรงมันไม่ค่อยเพรียวบางสักเท่าไหร่ ก็แน่นอนว่าเน้นไปให้กางออกขยายร่างได้ด้วยนี่เนอะ ความหนาเวลาเราพับเข้าหากันจะอยู่ที่ 15.5 มม. แหนะ ก็ถือว่าหนาแบบที่เราไม่คุ้นชินเท่าไหร่เลย
เวลาพับเข้าหากันก็จะเกือบสนิทกันไปเป็นชิ้นเดียวอยู่ เหลือเพียงช่องเล็ก ๆ เท่านั้น ส่วนตัวชอบที่มันประกบเข้าหากันได้เนียนขนาดนี้นะ
แต่ไฮไลท์มันไม่ได้อยู่ที่เวลาพับนี่เนอะ เพราะ Galaxy Fold ถูกออกแบบมาให้เป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถพับและกางออกได้ในตัว ทำให้เพิ่มขอบเขตหน้าจอขึ้นไปอีกขั้น ภายในจะมีหน้าจอ Infinity Flex Display ขนาด 7.3" ซ่อนอยู่ด้านใน เมื่อกางออกก็จะขยายมาในระดับเดียวกับแท็บเล็ตไซซ์เล็กเลยล่ะ ตรงนี้นี่แหละไฮไลท์เลย
ตัวหน้าจอภายในจะใช้เป็นจอ Dynamic Amoled ที่แสดงผลได้สวยงามเช่นเดียวกับ Galaxy S10 หรือ Note 10 เลยล่ะ สีสวยมาก อัตราส่วนหน้าจอจะอยู่ที่ 4.2:3 อาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่ แต่มันคืออัตราส่วนแบบเดียวกับบน iPad Pro เลย ไม่ยาวหรืออ้วนจนเกินไปเวลากางออก ทำให้เวลาจับถือดูไม่ล้นมือจนเกินไป เวลาดูคอนเทนต์ก็ยังสามารถถือในมือเดียวได้อยู่ครับ
ตัวหน้าจอจะมีวัสดุเป็นพลาสติกที่มีการเคลือบฟิล์มกันรอยแบบพิเศษมาไว้บนจอแล้ว ทำให้มีการยืดหยุ่นในการพับและกางออกเป็นแสน ๆ ครั้ง หลายคนน่าจะมีคำถามอยู่ในใจว่าตรงกลาวจอจะมีความไม่เรียบเนียนของจออยู่รึเปล่า อันนี้เท่าที่ลองสังเกตมา ถ้าใช้งานจริง ๆ จะไม่รู้สึกเลยครับ ผิวของตัวหน้าจอจะเรียบเนียนกันไป แต่ถ้ามองด้วยตาเปล่าจะมีเห็นเส้นตรงกลางอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กวนใจในการใช้งานขนาดนั้น
ตัวล่าสุดที่พร้อมวางจำหน่ายนี้มีการปรับรูปแบบของกลไกในการกางและพับขึ้นมาใหม่ ช่วยให้มีความแข็งแรงกว่าเดิมตรงนี้ทาง Samsung เคลมไว้เลยว่าใช้งานได้นานถึง 200,000 ครั้งเลยล่ะ ไม่ต้องกลัวว่าพับไปพัลมาจะเจ๊งไปดื้อ ๆ นะจ๊ะ
ดีไซน์รอบ ๆ ตัวเครื่องก็น่าสนใจดีไม่น้อยเลย ตัวปุ่มกดจะอยู่ที่มุมขวาของตัวเครื่องทั้งหมด มีทั้งปุ่มเพิ่ม - ลดเสียง, ปุ่ม Power และตัวสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ถัดลงมา รอบนี้ Samsung เลือกที่จะไว้ในมุมที่จับสแกนได้ง่าย ทั้งตอนพับและกางออก
พอร์ตการเชื่อมต่อจะอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่องเหมือนเดิมแบบ USB Type-C และไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.มาแล้วเช่นเดียวกับ Note 10
ตัวลำโพงของรุ่นนี้จะได้มาเป็นลำโพงคู่บน-ล่าง ของทั้ง 2 ฝั่ง เวลาใช้งานกางเครื่องออกมาเต็ม ๆ ก็จะได้อรรถรสในการฟังและมิติที่ดีมากขึ้น เช่นเคย Galaxy Fold รองรับระบบเสียงจาก Dolby Atmos ด้วยนั่นแหละ
พับเครื่องกลับมาแล้วดูที่ด้านหลังของตัวเครื่องเราจะเห็นดีไซน์กล้องที่วางไว้มุมซ้ายบนเช่นเดียวกับของ Note 10 เรียงกันลงมา 3 ตัวสวย ๆ ตัวกล้องหลังทั้งหมดจะเป็นชุดเดียวกับ Galaxy S10 ครับคือมี กล้องหลัก 12MP, กล้อง Ultra Wide 16MP และกล้อง Tele 2x 12MP อีกตัวนั่นเอง
นอกเหนือจากกล้องหลัก 3 ตัวนี้แล้ว ก็ยังมีกล้องหน้า 10MP บนจอหน้าซึ่งก็คือกล้องหน้าเดียวกับของ Note 10 นั่นเอง (f/2.2)
แต่แค่นั้นยังไม่พอ เพราะจอด้านในก็จะมีกล้องหน้าอีก 2 ตัวอยู่ด้วย โดยจะใช้เป็นกล้อง 10MP f/2.2 คู่กับกล้อง Depth 8MP f/1.9 ที่มีความสามารถอย่าง Live Focus อยู่ด้วยนั่นเองครับ รวม ๆ แล้วเท่ากับ Galaxy Fold นี่มีกล้องมาให้มากถึง 6 ตัวกันเลยทีเดียว นี่ถือเป็นจุดขายรึเปล่านะ ? อ๋อ...ไม่เนอะ :P
Galaxy Fold รุ่นที่วางจำหน่ายนี้จะมีด้วยกัน 2 สีคือ Space Silver และ Cosmos Black ก็เป็นสีเงินและดำสุดคลาสสิคที่ดูเลอค่ายิ่งนักเวลาใช้งานครับ ในเรื่องของดีไซน์รวม ๆ ต้องบอกเลยว่าทำออกมาได้ล้ำดีจริง ๆ แต่จะมีจุดที่คงต้องปรับกันในรุ่นต่อ ๆ ไปคือความหนาเวลาเราพับเก็บนี่แหละ เรียกว่ายังหนาเตอะเอามาก ๆ เลยอะ
สเปค Samsung Galaxy Fold
- หน้าจอหลัก Dynamic Amoled 7.3" QXGA+
- หน้าจอด้านหน้า Super Amoled 4.6" HD+
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 855 Octa-Core 2.84GHz (7nm)
- แรม 12GB
- ความจุ 512GB
- แบตเตอรี่ 4380mAh
- รองรับระบบชาร์จไว Fast Charge (15W)
- กล้องที่จอด้านหน้า 10MP f/2.2
- กล้องหน้าคู่ 10 + 8MP f/2.2 + f/1.9
- กล้องหลัง 3 ตัว 12 + 16 + 12MP f/1.5, f/2.4 + f/2.2 + f/2.4
- (Main + Ultra Wide + Tele 2x)
- รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย OneUI
สเปคของ Galaxy Fold ต้องบอกเลยว่าจัดเต็มมาก ๆ เรียกว่าใส่มาให้สุดแล้วล่ะ ทั้งหน่วยประมวลผลตัวแรงอย่าง Snapdragon 855, แรมที่ให้มาเยอะสุด ๆ ถึง 12GB พร้อมทั้งยังได้หน่วยความจำภายในอีก 512GB ครบมาแบบสุด ๆ ถือว่าสูงที่สุดของแอนดรอยด์ตอนนี้แล้วก็ว่าได้ ให้มาขนาดนี้ทำให้มั่นใจได้เลยว่าประสิทธิภาพของ Galaxy Fold นั้นจะจัดเต็มไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นไหนเลยล่ะ
หน้าจอพับ-กางออกได้ ทำงานต่อเนื่อง
จุดเด่นของ Galaxy Fold คงหนีไม่พ้นเรื่องของการขยายหน้าจอจากเล็กไซซ์ถนัดมือไปเป็นแท็บเล็ตไซซ์พอเหมาะพอเจาะจริง ๆ ซึ่งตรงนี้ก็จะมีประโยชน์มาก ๆ เหมือนเราพกมือถือและแท็บเล็ตไปพร้อม ๆ กัน แต่ทีเด็ดจริง ๆ ก็คือการทำงานที่ต่อเนื่องกันมาก ๆ อาทิ เรากำลังดูแผนที่บนจอเล็กอยู่ แล้วมันไม่สะใจ ก็สามารถกางจอแบบเต็ม ๆ ออกมาเพื่อดูได้ในขนาด 7.3" เลยล่ะ
ซึ่งตัวแอปที่ทำมารองรับเราก็จะสามารถใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อเลย อย่างเครื่องที่ลองวันนี้มีเกม Asphalt 9 ลงอยู่ เราก็สามารถเล่นเกมอยู่บนจอเล็กด้านนอก แล้วกางจอออกมาจนเต็มเพื่อเล่นต่อเนื่องได้เลย โดยที่ตังเกมไม่หยุด รวมถึงอัตราส่วนหน้าจอก็รองรับกันได้อย่างพอดีเป๊ะ ไม่มีแสดงผลผิดเพี้ยนด้วย แจ๋วมาก ๆ ตรงนี้
หน้าจอใหญ่แต่ใช้งานได้สะดวก
ถึงแม้หน้าจอจะใหญ่ถึงระดับ 7.3" แต่เราก็ยังจับถือใช้งานได้อย่างดี ด้วยความที่ขอบหน้าจอนั้นบางเฉียบมาก ๆ เลยไม่ทำให้รู้สึกว่าจอมันใหญ่จนล้นมือเกินไป แถมยังเหมาะกับการจับถือ 2 มือและใช้พิมพ์งานหรือดูคอนเทนต์แบบจัดเต็มอีกด้วย
แบ่งหน้าจอไปเลย 3 แอป
นอกจากเรื่องคอนเทนต์ที่เต็มตาแล้ว ตัวหน้าจอของ Galaxy Fold ยังสามารถทำงาน Multi Active Window ได้อีกด้วย อะ...ใช่ครับมีคำว่า Active เพิ่มเข้ามาบนรุ่นนี้ด้วย เพราะหน้าต่างทั้ง 3 แอปจะรันไปด้วยกันโดยที่ไม่มีแอปไหนหยุด ทำให้เราสะดวกในการใช้งานอย่างต่อเนื่องมาก ๆ แถมเรายังสามารถโยกย้ายแอปไปแบบ Pop Up ลอย ๆ บนหน้าจอได้อีกต่างหาก
ใช้งานโทรศัพท์ได้ด้วยขนาดพกพา
ในส่วนของการใช้งานด้านโทรศัพท์นั้น Galaxy Fold ก็ให้เราใช้งานได้อย่างดีในขนาดที่พกพาได้สะดวก เราสามารถเอามาแนบหูได้เลย ใช้ตัวลำโพงสนทนาจากตัว Cover Display หรือหน้าจอนอกคุยกันได้อย่างสะดวก ไม่ต้องกางตัวหน้าจอออกมาจนเต็ม นี่เป็นข้อดีอีกอย่างที่แท็บเล็ตโทรออกได้ทำไม่ได้ล่ะเนอะ
กล้องทั้ง 6 ตัวช่วยให้เราไม่พลาดการใช้งาน
กล้องที่ติดมาบนเครื่องจะมีมากถึง 6 ตัวอย่างที่บอก ซึ่งช่วยให้เราใช้งานได่อย่างครอบคลุมโดยที่ไม่พลาดทุกช็อต อย่างในทรงปกติเราอยากจะเซลฟี่ก็ไม่จำเป็นต้องกางตัวเครื่องออกมาจนเต็ม กดเข้าแอปกล้องแล้วใช้เซลฟี่หรือใช้งานกล้องหลังได้เลยทันที
แต่ถ้าเรากางออกมาแล้ว จะใช้งานเซลฟี่แบบเต็มจอหรือใช้งาน Video Call รวมถึงเซลฟี่แบบเห็นรายละเอียดครบ ๆ ก็ใช้กล้องภายในที่มีอยู่ 2 ตัวนั้นได้ ซึ่งกล้องตัวที่ 2 ภายในนี้จะมาช่วยในเรื่องของ Depth ให้ถ่ายแบบ Live Focus ได้สวยขึ้นด้วย
ส่วนกล้องหลัง 3 ตัวก็เป็นชุดเดียวกับ Galaxy S10 คุณภาพเยี่ยมมีทั้งเลนส์ Ultra Wide Angle, กล้องหลังค่ารูรับแสงกว้าง รวมถึงกล้อง Tele 2x ที่ถ่ายได้เต็มจอ มองเห็นรายละเอียดได้ครบบนจออัตราส่วนแบบ 4.2:3 นี้ด้วย
สรุปหลังลองจับ
ถือว่าเป็นมิติใหม่ของวงการสมาร์ทโฟนเลยจริง ๆ กับ Galaxy Fold นี้ด้วย ความสามารถที่เหมือนรวมเอามือถือและแท็บเล็ตเข้าหากันอย่างไร้รอยต่อ เปลี่ยนรูปแบบสมาร์ทโฟนเดิม ๆ ที่เรารู้จักให้ล้ำยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ที่เปิดตัวมาได้อย่างน่าสนใจทีเดียว ใครที่ชอบลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ เชื่อว่ารุ่นนี้จะตอบโจทย์ความหวือหวาในแบบที่เราหาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนมาพักใหญ่ได้เลยล่ะ :D
ราคาค่าตัว
สำหรับราคาค่าตัวของ Galaxy Fold ก็หวือหวาไม่แพ้กันเพราะรุ่นนี้เปิดราคามาที่ 69,900 บาท เริ่มเปิดจองตั้งแต่วันที่ 10 - 14 ต.ค.นี้แบบจำนวนจำกัด โดยมีให้เลือก 2 สี คือ Space Silver และ Cosmos Black ณ ซัมซุง เอ็กซ์พีเรียนซ์ สโตร์ 6 สาขา ได้แก่ สาขาเซ็นทรัล เวิลด์, เอ็มควอเทียร์, สยามพารากอน, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, แฟชั่น ไอส์แลนด์, เมกาบางนา และผู้ให้บริการเครือข่าย รายละเอียดสามารถดูได้ที่ https://www.samsung.com/th/galaxy-fold/ ครับ
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite