Review : Xiaomi Mi 9T Pro สมาร์ทโฟนดีไซน์ล้ำที่ให้สเปคเรือธงในราคาสบายกระเป๋า !!

ดีไซน์

Review : Xiaomi Mi 9T Pro สมาร์ทโฟนดีไซน์ล้ำที่ให้สเปคเรือธงในราคาสบายกระเป๋า !!

สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับสมาร์ทโฟนสุดร้อนแรงทั้งรูปทรงและสเปคภายในกับ Mi 9T Pro นั่นเอง รุ่นนี้ก็จัดว่าเป็นอีกรุ่นของตระกูล Mi 9 ที่โดดเด่นมาก ๆ เพราะราคาค่าตัวนั้นเปิดมาไม่สูง แต่ได้สเปคระดับเรือธงขั้นสุด และดีไซน์ที่สวยงามทั้งหน้าจอแบบเต็มไร้ติ่ง ฝาหลังสุดแหวกแนวอีกต่างหาก จะน่าสนใจแค่ไหน เรามาอ่านรีวิวของรุ่นนี้ไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ :D

แกะกล่องกันเลย

มาแกะกล่องกันก่อนเลยดีกว่าสำหรับ Mi 9T Pro มาพร้อมกับกล่องสีดำคมเข้ม มีภาพตัวเครื่องโชว์อย่างเด่นชัดที่ด้านหน้าชัดเจนพร้อมกับชื่อรุ่น

อุปกรณ์ภายในที่ให้มาก็จะเป็นตามมาตรฐานของ Mi คือไม่มีแถมตัวชุดหูฟังมาในกล่อง นอกนั้นก็ให้มาครบพร้อมใช้งานครับ ประกอบด้วย

ตัวเครื่อง Mi 9T Pro
เคสแข็งสีดำ
สาย USB Type-C
อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 18W
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน

ตัวเคสที่ให้มาจะเป็นแบบเคสแข็งผิวด้าน มีความบางพอสมควรพร้อมสกรีนโลโก้ Mi ไว้ที่ตัวเคสด้วย ใส่แล้วก็ปกป้องฝาหลังตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี แต่ในเรื่องการกันกระแทกอาจจะไม่มากนัก ใส่กันรอยซะมากกว่าเนาะ

ดีไซน์สวย หน้าจอเต็ม

มาเข้าเรื่องตัวเครื่องของเรากันเลยดีกว่า สำหรับ Mi 9T Pro ก็มาพร้อมกับดีไซน์ทรงเดียวกับ Mi 9T เดิมเลย ภายนอกไม่แตกต่างกันคือมาพร้อมกับหน้าจอด้านหน้าแบบเต็ม ๆ ด้วยหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ใช้พื้นที่หน้าจอกว่า 91.9% เลยทีเดียว

การแสดงผลทำได้ดีตามสไตล์ของหน้าจอ AMOLED สีสันสวยสดและความคมชัดนั้นสวยงามเอามาก ๆ ความละเอียดระดับ FHD+ อัตราส่วนแบบ (19.5:9) ทำได้ดีเลยในไซซ์หน้าจอแบบนี้ ตัวกระจกกันรอยของ Mi 9T Pro จะเป็น Gorilla Glass 5 ที่ช่วยกันรอยขีดข่วนได้ดีครับ

เหนือหน้าจอจะเห็นว่ามีลำโพงสนทนาขนาดเล็กซ่อนอยู่ด้วย และพวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ก็จะถูกซ่อนไว้บนหน้าจอทั้งหมดแล้ว ไม่มีอะไรมาบดบังหรือเกะกะตัวหน้าจอได้แล้ว

ล่างหน้าจอก็จะเหลือขอบที่บางเฉียบพอควรเลย และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือซ่อนอยู่ในหน้าจอด้วย

กล้องป๊อปอัพ มีไฟด้วย

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีกล้องหน้าแบบ Pop Up แต่ไม่ใช่แบบยกขึ้นมาแค่นั้น เพราะตัวรอบ ๆ จะมีไฟ LED สว่างวาบขึ้นมาด้วย เมื่อเปิดกล้องหน้า เท่สุด ๆ

นอกจากนี้เวลากล้องไม่ได้ยกขึ้นมาจะเป็นไฟ LED แจ้งเตือนด้วย เรียกว่าเป็นการใช้งานได้อย่างคุ้มค่าดีทีเดียว ส่วนด้านบนนี้ก็มีช่องหูฟัง 3.5 มม. พร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนด้วย

ส่วนด้านล่างตัวเครื่องก็จะมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, ลำโพงหลักของตัวเครื่องและช่องใส่ซิมการ์ดการครับ

ถาดซิมของ Mi 9T Pro จะเป็นแบบ Dual-SIM ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้นะครับ

กรอบตัวเครื่องจะเป็นโลหะเคลือบผิวมันวาว มีความโค้งมนเล็ก ๆ จับถือได้สะดวกและไม่บาดมือ เนียนเรียบไปกับตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี

ปุ่มกดของเครื่องจะอยู่ที่มุมขวาแบ่งเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่เป็นสีแดงแบบเด่น ๆ มาเลย ไม่กดผิดปุ่มแน่นอน

ฝาหลังออร่าลายเปลวเพลิง

พลิกกลับมาดูที่ฝาหลัง Mi 9T Pro มาพร้อมกับฝาหลังโค้งทรงสวยพร้อมลวดลายแบบเปลวเพลิง มีความแวววาวและสะท้อนแสงแบบโฮโลแกรมข้างในด้วย สวยใช้ได้เลย ส่วนตรงกลางเครื่องจะเป็นสีดำทึ่บตัดกันดีมาก ๆ เลยล่ะ

สีที่เราได้มีรีวิวนี้จะเป็นสี Glacier Blue ซึ่งเป็นสีเปลวเพลิงสีฟ้า เข้ากับตัวกรอบเครื่องที่เป็นสีฟ้าได้สวยมาก ๆ เลย ดูความรุ้ง ๆ นั้นสิ

ตัวกล้องหลัง 3 ตัวจะเรียงกันลงมาเป็นแนวตั้งอยู่ตรงกลางชัด ๆ พร้อมสกรีนว่า 48MP AI Triple Camera มี Halo Ring วงแหวนรุ้ง ๆ อยู่บนเลนส์ตัวบนสุด ดูมีมิติและสวยดีทีเดียวครับ

รวม ๆ ในเรื่องของดีไซน์ Mi 9T Pro ก็จัดว่าเป็นอีกรุ่นที่มีดีไซน์สวยแหวกแนว ทั้งหน้าจอที่เต็มพื้นที่มากขึ้น ไม่มีติ่งมาบดบัง แถมยังได้ฝาหลังสีสวยเด่นแบบเปลวเพลิงอีก เป็นอีกหนึ่งดีไซน์ที่สวยมาก ๆ เลยล่ะครับ

สำหรับสีของ Mi 9T Pro ที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะมีด้วยกัน 3 สีคือ Flame Red, Glacier Blue และ Carbon Black ครับ สวยกันคนละสไตล์เลย

สเปคและประสิทธิภาพ

สเปค Xiaomi Mi9

หน้าจอ AMOLED 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (19.5:9)
ซีพียู Snapdragon 855 Octa-core 2.84GHz
จีพียู Adreno 640
แรม 6GB
ความจุ 64GB/128GB
แบตเตอรี่ 4000 mAh
รองรับชาร์จไว QC 4.0 (27W)
รองรับชาร์จไวแบบไร้สาย 20W
กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล f/2.2
กล้องหลัง 3 ตัว 48 + 13 + 8 ล้านพิกเซล f/1.8 + f/2.4 + f/2.4
(Main + Ultra Wide 124.8 องศา + Tele 2x)
รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับ 2 ซิม
รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย MIUI10

ในเรื่องสเปคจะเห็นว่าให้มาระดับเรือธงเลย ทั้งหน่วยประมวลผลตัวท็อปอย่าง Snapdragon 855, แรม 6GB, ความจุสูงสุด 128GB, แบตเตอรี่ระดับ 4000mAh และยังได้กล้องหลังมาเพียบถึง 3 ตัวอีกต่างหาก สเปคไม่ผิดหวังเลยกับราคาค่าตัวไม่ถึง 15,000 บาทแบบนี้

คะแนนออกมาสูงมาก !

ในส่วนของคะแนนทดสอบจากแอป AnTuTu Benchmark ได้ออกมาสูงถึง 362099 คะแนน ถือว่าสูงมาก ๆ เลยในกลุ่มราคานี้ ก็ได้ชิปเซ็ตระดับเรือธงมาขนาดนี้นี่เนอะ :D

เล่นเกมกันเลยเถอะ !

เห็นสเปคแรง ๆ แบบนี้แล้ว คะแนนก็สูง ก็คงต้องมาทดสอบจริงกับการเล่นเกมกันเลย โดยเกมที่เราจะมาทดสอบนี้ก็หนีไม่พ้น PUBG และ Asphalt 9 อีกเช่นเคย เอาจริง ๆ ด้วยสเปคระดับนี้แล้ว แทบไม่ต้องห่วงเลย แต่ก็ยังอยากเล่นดูล่ะเนอะ

สำหรับเกม PUBG Mobile ก็จัดเต็มแบบสุด ๆ ปรับระดับกราฟิกได้สูงที่สุดเท่าที่เคยเล่นมาเลยคือ กราฟิกได้ที่ HDR ในขณะที่เฟรมเรตนั้นเร่งไปได้สูงถึง Extreme โอ้ยยย ลื่นสุด ๆ

เท่าที่ลองเล่นจริง ๆ ก็บอกเลยว่าไม่ทำให้ผิดหวังครับ ตัวเฟรมเรตระดับ Extreme นี่ก็ลื่น ๆ แบบไม่เจออาการกระตุกเลย การหมุนมุมกล้องต่าง ๆ จังหวะซูมเข้าออกก็เนียนตา นี่ประสิทธิภาพระดับเรือธงของจริง ประทับใจมาก ๆ เลยล่ะ

ส่วน Asphalt 9 ก็เช่นกันครับ ระดับกราฟิกอยู่ที่ Default ตั้งต้น ได้ภาพกราฟิกสวย ๆ พร้อมเอฟเฟกต์ต่าง ๆ มาครบ จังหวะเบียดรวมถึงชนกันนี่ก็ไม่เจออาการกระตุกให้เห็นเลย ทำได้ดีมาก ๆ

ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์การใช้งาน

ระบบปฏิบัติการล่าสุดทำงานลื่นไหล

ในส่วนของระบบปฏิบัติการ Mi9 นั้นให้ Android 9.0 Pie ที่ครอบทับมาด้วย MIUI10 ทำให้การทำงานโดยรวมลื่นไหลเอามาก ๆ มีการลดพวกอนิเมชั่นต่าง ๆ ลง เวลาเปิดแอป เข้าเกมทำได้รวดเร็วกว่าเคย

หน้าตา UI เรียบ ๆ และเข้าใจง่าย มีพวก Theme มาให้ดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้อีกเพียบตามสไตล์ MIUI

สแกนนิ้วบนหน้าจอด้วยรุ่นนี้

Mi 9T Pro มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเช่นเดียวกับ Mi 9 ใช้งานได้ดี ความเร็วในการแตะสแกนทำได้ดีมาก ๆ แตะปุ๊บก็ติดปั๊บเลย ไม่ต้องรอนาน แถมตำแหน่งที่วางไว้ก็ไม่ผิดธรรมชาติอยู่ในมุมที่เรายกขึ้นมาแล้วแตะได้ง่ายครับ

สแกนใบหน้าก็เท่

ระบบสแกนใบหน้าก็มีมาให้และเท่มาก ๆ ด้วย เพราะตัวกล้องหน้าแบบ Pop Up ที่บอกไปว่ามีไฟ LED เวลายกขึ้นมา แบบนี้เวลาเราสแกนใบหน้าก็จะยกขึ้นมาพร้อมไฟ แล้วสแกนใบหน้าปลดล็อคต่อเลย เท่มาก ๆ แต่อาจจะต้องใช้เวลานิดหน่อยในการยกกล้องน่ะนะ ถ้าไม่เน้นเท่ สแกนนิ้วเร็วกว่าเยอะครับ :P

หน้าจอ ระบบเสียง

หน้าจอเต็ม ดูหนังฟิน เล่นเกมดี

Mi 9T Pro มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ แถมยังเป็นจอแบบเต็ม ๆ ไร้ติ่ง ไร้รูบนหน้าจออีก การแสดงผลก็เรียกว่าเต็มถึง 91.9% เอามาดูหนังหรือเล่นเกมนี่ฟินมาก ๆ เพราะไม่มีอะไรมาบดบังคอนเทนต์เลย

รวมถึงตัวหน้าจอยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR ด้วย ให้เราได้ดูพวกคอนเทนต์ความละเอียดสูงและคุณภาพยอดเยี่ยมได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ส่วนเรื่องเสียงรุ่นนี้ให้ลำโพงอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง วางตำแหน่งได้ดีทีเดียว เสียงที่ออกมาถือว่าดังใช้ได้ แต่เสียดายที่ลำโพงของรุ่นนี้ได้มาเป็นตัวเดียว ไม่สามารถใช้งานควบคู่กับลำโพงสนทนาให้เสียงออกมาเป็น Stereo ได้เนาะ

ส่วนการใช้งานผ่านหูฟัง รุ่นนี้ใจดีให้ช่องหูฟัง 3.5 มม.มาด้วย เก็ใช้งานหูฟังแบบปกติได้เลย ไม่ต้องไปหาตัว Dongle มาแปลง หรือจะใช้ผ่าน Bluetooth ก็ตามสะดวกครับ

กล้อง

กล้องหลัง 3 ตัว ตั้งแต่มุมกว้างถึงมุมไกล

กล้องหลังของรุ่นนี้ก็ถือเป็นอีกจุดเด่นเช่นกัน Mi 9T Pro ให้กล้องหลังมาถึง 3 ตัว พร้อมความละเอียดสูงสุด ๆ ถึง 48 + 13 + 8 ล้านพิกเซล แบ่งออกเป็น 3 ช่วง 3 ระยะดังนี้ครับ

กล้องหลัก - 48 ล้านพิกเซล f/1.75
กล้อง Ultra Wide - 13 ล้านพิกเซล f/2.4, มุมกว้าง 124.8 องศา
กล้อง Tele 2x - 8 ล้านพิกเซล f/2.4

ในส่วนของซอฟต์แวร์กล้องจะมีฟีเจอร์ AI เข้ามาช่วยในการปรับแต่งภาพให้สวยงามยิ่งขึ้น รวมถึงมีระบบ Auto HDR เข้ามาจัดการให้เราถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น แค่เล็งแล้วถ่ายภาพก็ออกมาสวยแล้ว อย่าลืมเปิดตัว AI ก่อนถ่ายด้วยล่ะอยู่ที่ไอคอนด้านบนสุดนี่แหละครับ

โหมด Auto ปกติจะบันทึกภาพที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลแบบ Quad-Bayer รวม 4 พิกเซลเข้ามาเป็น 1 พิกเซล ซึ่งให้รายละเอียดของภาพนั้นคมชัด แต่ถ้าอยากได้ไฟล์ภาพความละเอียดเต็มที่ 48 ล้านพิกเซลก็เลื่อนมาที่โหมด 48MP ได้เลย ไฟล์คมชัดขึ้นแต่ก็ขนาดของไฟล์ใหญ่ตามไปด้วยนะ

ส่วนกล้อง Ultra Wide รุ่นนี้ให้มาในมุมที่กว้างถึง 124.8 องศา เรียกว่ากว้างที่สุดของกล้องสมาร์ทโฟนตอนนี้แล้วก็ว่าได้ ภาพที่ได้ก็สะใจเลยเก็บบรรยากาศและรายละเอียดได้ครบ เหมาะกับถ่ายวิวมาก ๆ ครับ แถมยังมีระบบ Auto Focus ด้วยนะ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Mi 9T Pro ในโหมด Auto จะเห็นว่าภาพที่ได้นั้นออกมาสวยงามใช้ได้เลย คุณภาพโดยรวมของกล้องทั้ง 3 ตัวทำได้ดีทีเดียว AI ค่อนข้างฉลาดในการแนะนำซีน ส่วนช่วงระยะทั้ง 3 ที่ให้มาก็ถือว่าตอบโจทย์ในการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี มุมกว้าง 124.8 องศาช่วยให้เราได้ภาพกว้างมาก ๆ ตัวกล้องหลังที่ค่ารูรับแสงกว้างก็ช่วยให้ได้ภาพในที่แสงน้อยได้ดีมากเลยด้วย

Night mode ถ่ายกลางคืนก็สวย

โหมดที่เข้ามาเรียกความสนใจของสมาร์ทโฟนยุคนี้ได้คงหนีไม่พ้น Night mode ซึ่งรุ่นนี้ก็มีมาให้ และใช้งานได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องพึ่งขาตั้งเลย ตัวกล้องจะมีการประมวลผลรวมภาพจากหลาย ๆ สภาพแสงเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามสุด ๆ แถมประมวลผลได้เร็วมาก ๆ อีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Night

Portrait โหมด หน้าชัดหลังเบลอ ปรับความเบลอได้

โหมดหน้าชัดหลังเบลอของ Mi 9T Pro สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 เลนส์คือ เลนส์หลักและเลนส์ Tele 2x เลือกระยะสำหรับการถ่าย Portrait ได้ 2 แบบ และเรายังสามารถเลือกปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ด้วย หรือถ่ายเสร็จแล้วก็ยังสามารถมาเลือกพวกเอฟเฟกต์ของฉากหลังได้อีกด้วยนะ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait

กล้องหน้า Pop Up ความละเอียด 20 ล้านพิกเซลแหนะ

ในส่วนของกล้องหน้าแบบ Pop Up ก็ให้ความสามารถมาครบ ทั้งโหมด Portrait และ Beauty หน้าสวยต่าง ๆ ตัวกล้องก็มีความทนทานสามารถยกขึ้นลงได้กว่า 300,000 ครั้ง ไม่ต้องกลัวว่าจะเปิดขึ้น-ลงแล้วจะไม่ทนนาจา

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ Mi 9T Pro

แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน

แบตเตอรี่และการชาร์จ

ในส่วนของการใช้งานแบตเตอรี่ Mi 9T Pro ให้ความจุมาที่ 4000 mAh ถือว่าเยอะใช้ได้เลยถ้าเทียบกับสเปคและขนาดหน้าจอ ใช้งานโดยรวมถือว่าทำได้ค่อนข้างดีครับ ใช้งานทั่วไปได้ทั้งวันอยู่ เล่นเกมหนัก ๆ หรือถ่ายรูปเยอะ ๆ ก็โอเคเลยครับ

ส่วนระบบชาร์จรุ่นนี้รองรับระบบชาร์จไวถึง QC 4.0 ที่ 27W กันเลย แต่อุปกรณ์ที่แถมมาในกล่องจะเป็น QC 3.0 แบบ 18W เท่านั้น แต่เท่านี้ก็ถือว่าเร็วพอต่อการใช้งานแล้วล่ะเนาะ

ราคาเริ่มต้น 13,990 บาท

ก่อนจะปิดสรุปขอพูดถึงเรื่องราคากันก่อน อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้ทำราคามาได้ไม่สูงเลย ได้สเปคระดับเรือธง อาทิ Snapdragon 855, แรม 6GB, แบตเตอรี่ 4000mAh กล้อง 48 ล้านพิกเซลอีกต่างหาก แต่ราคาเปิดมาไม่ถึง 15,000 บาทเลย เรียกว่าสุดคุ้มมาก ๆ Mi 9T Pro มีให้เลือก 2 รุ่นความจุคือ 6GB + 64GB และ 6GB + 128GB เคาะราคาค่าตัวดังนี้ครับ

Mi 9T Pro รุ่น 6GB + 64GB = 13,990 บาท

Mi 9T Pro รุ่น 6GB + 128GB = 14,990 บาท

สรุปผลการใช้งาน

จัดว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สเปคครบและราคาดีมาก ๆ สำหรับ Mi 9T Pro นี้ เพราะให้หน่วยประมวลผลตัวแรงอย่าง Snapdragon 855, แบตเตอรี่ความจุสูง หน้าจอเต็มขนาดพอดิบพอดี รวมถึงกล้องหลังที่เก็บรายละเอียดและใช้งานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้รูปลักษณ์ภายนอกยังสวยโดดเด่นและงานประกอบก็ดีอีกต่างหาก ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนสเปคแรง ๆ ไว้เล่นเกมแบบจัดเต็มในราคาที่ไม่สูงมากนัก Mi 9T Pro รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะครับ :D