แกะกล่อง
Review : realme C2 น้องเล็กสเปคคุ้ม หน้าตาดูดีพร้อมดีไซน์ฝาหลังสุดโดดเด่นทรง Diamond-Cut !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เรามีสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กตัวล่าสุดกับ realme C2 มารีวิวให้ชมกัน นี่ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจทั้งดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยวและราคาสุดคุ้มค่า จนเขามีสโลแกนเลยว่า "King of Entry Level" เอ้า ! เป็นคิงขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวมาดูกันดีกว่าว่าจะน่าสนใจสักแค่ไหน :D
ราคาค่าตัว !
ก่อนอื่นมาทราบราคากันก่อนเลยดีกว่า สำหรับ realme C2 นั้นปรับราคาใหม่จากตอนเปิดตัวเหลือเพียง 3,599 บาทเท่านั้น โดยรุ่นที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะเป็นความจุ 3GB + 32GB เลยด้วย
แกะกล่อง realme C2
มาแกะกล่องกันเลย รุ่นนี้มาพร้อมกับกล่องทรงคุ้นเคยของทาง realme เน้นโทนสีเหลืองเด่น ๆ ตามสีของแบรนด์พร้อมชื่อรุ่นชัดเจนเด่นกว่าชื่อแบรนด์ว่า C2 ชัด ๆ กันไปเลยนะ ซื้อไม่ผิดแน่นอน
เปิดกล่องออกมาชั้นแรกจะเจอกับกล่องที่มีคำต้อนรับจากทาง realme อยู่ ภายในนี้ก็จะมีคู่มือการใช้งานและเข็มจิ้มถาดซิมอยู่ด้วยนะ อย่าลืมเช็คของกันล่ะ
ยกกล่องชั้นแรกขึ้นมาจะเจอกับตัวเครื่องวางอยู่พอดีกล่อง ยกตัวเครื่องมาเปิดพร้อมรอตั้งค่าก็จะเห็นภายในมีอุปกรณ์เสริมอย่างสายชาร์จ micro-USB และอแดปเตอร์ชาร์จไฟครับ ซึ่งตัวอแดปเตอร์ที่แถมมาในกล่องก็จะเป็นแบบมาตรฐานที่ความเร็ว 10W ครับ
รวม ๆ แล้วอุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดก็จะมีด้วยกัน 5 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง realme C2
- สายชาร์จ micro-USB
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ 10W
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดซิม
ดีไซน์
ดีไซน์ฝาหลัง Diamond Cut สวยทุกมุมอง !
เป็นอีกรุ่นที่อยากจะเน้นมาที่ฝาหลังกันก่อนเลย realme C2 นั้นมาพร้อมกับฝาหลังดีไซน์เด่น ใช้ดีไซน์แบบ Diamond Cut คล้ายเพชรที่จะเล่นกับมุมมองได้แตกต่างกันเวลาเอียงเครื่องไปมา มีความสะท้อนตามแสงในมุมต่าง ๆ ให้ออกมาได้อย่างดี ตรงนี้ทาง realme จะใช้เทคโนโลยีเลเซอร์คัตติ้ง พร้อมทั้งการเพ้นอีก 3 ชั้นและมีการใช้ผงไข่มุกเข้าไปด้านในเพื่อให้เกิดความหรูหรามากขึ้นอีกด้วย
ผิวสัมผัสจะเป็นแบบด้าน ก็ช่วยในเรื่องการจับถือได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่องไม่หนืดมือและเก็บคราบรอยนิ้วมือจนเกินไป สีที่เราได้มารีวิวนั้นจะเป็นสี Diamond Black ดำด้านที่มีสีสันตัดกับสีกรมท่าตามมุมมองได้อย่างสวย
ตำแหน่งของกล้องหลังจะวางไว้ที่มุมซ้ายบน วางสวย ๆ พร้อม realme Ring วงแหวนสีเหลืองอยู่รอบ ๆ ตัวกล้องหลัก ถัดไปเป็นกล้องตัวที่ 2 และนอกกรอบเลนส์จะมีไฟแฟลช LED อีกดวงหนึ่งอยู่ครับ
ตัวโลโก้ realme ถูกวางตำแหน่งไว้ที่มุมล่างซ้าย พอจับเครื่องแนวนอนก็จะโชว์เป็นคำว่า realme ให้อ่านแบบพอดีครับ
พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้ากันบ้าง realme C2 มาพร้อมกับหน้าจอทรงหยดน้ำหรือ Dewdrop Display มีติ่งอยู่เหนือหน้าจอเล็ก ๆ เท่านั้น ให้หน้าจอมาได้ขนาดที่เต็มตามากขึ้น ในส่วนของการแสดงผลหน้าจอได้ความละเอียดมาที่ HD+ ภายในหน้าจอมีการเพิ่มวัสดุ APCF เข้ามาทำให้การแสดงผลนั้นสว่างมากขึ้น แม้ใช้งานในที่แสงสว่างมาก ๆ แบบบ้านเราก็หายห่วงครับ ความคมชัดอยู่ในเกณฑ์ดีตามกลุ่มราคานี้ครับ
ขนาดหน้าจอให้มาที่ 6.1 นิ้ว พร้อมอัตราส่วนหน้าจอแบบ 19.5:9 ทรงมาตรฐาน มีการใช้พื้นที่หน้าจอไปกว่า 89.35% ทำให้ตัวเครื่องดูไม่ใหญ่จนเกินไป น้ำหนักของตัวเครื่องเบาเพียง 166 กรัมเท่านั้น จับถือได้อย่างถนัดมือในไซส์ที่กะทัดรัดครับ
มองดูใกล้ ๆ อีกทีจะเห็นถึงขอบจอที่บางดีทีเดียว ตัวติ่งหยดน้ำก็ทำได้ดี และเห็นชัด ๆ ว่าตัวเครื่องนั้นมีการติดฟิล์มมาให้ในกล่องแล้วด้วย มีการเว้นช่องของเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ได้ดี ไม่บังการใช้งานเนาะ
ขอบหน้าจอด้านล่างแอบมีเหลืออยู่หน่อย แต่เห็นแบบนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งในกลุ่มราคานี้ที่ทำขอบจอได้บางใช้ได้เลยล่ะ
วัสดุตัวเครื่องก็เป็นแบบ Polycarbonate ผิวด้าน จับถือได้สบายมืออย่างที่บอกไป มีปุ่มกดวางอยู่ในตำหแหน่งที่เหมาะสม ด้านซ้ายเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และด้านขวาเป็นปุ่ม Power
ที่มุมล่างของตัวเครื่องจะเห็นการทำดีไซน์แบบเส้นโค้งเว้าเข้ามา ให้ตัวเครื่องดูไม่นิ่งจนเกินไป ด้านล่างก็เป็นที่ของพอร์ตการเชื่อมต่อ micro-USB, ช่องหูฟัง 3.5 มม., ไมโครโฟนสนทนา และลำโพงหลักของตัวเครื่องที่อยู่ตรงมุมซ้ายนี้ครับ
ด้านบนก็เรียบ ๆ ไม่มีปุ่มกดหรือรูใด ๆ ทั้งสิ้น
ช่องใส่ซิมของ realme C2 จะเป็นแบบ Triple Slot จิ้มออกมาก็มีช่องว่างให้เราได้เลือกเลย ว่าอยากจะใส่ micro-SD หรือซิมอีก 2 ใบ เลือกได้เลย
สำหรับมือถือกลุ่มราคาไม่สูงมากแบบนี้ ถือว่า realme C2 นั้นออกแบบมาได้โดดเด่นดีทีเดียว แค่เห็นฝาหลังก็เรียกว่าสะดุดตาแล้ว ทั้งรูปแบบ Diamond Cut ด้านหลังรวมถึงหน้าจอ Dewdrop สวย ๆ ช่วยยกระดับของตัวมือถือขึ้นมาให้ดูหรูหราเกินราคาดีจริง ๆ ครับ
ในส่วนของสีที่จะวางจำหน่าย realme C2 นั้นจะมีด้วยกัน 2 สีคือ Diamond Black และ Diamond Blue ครับ สวยคนละสไตล์จะเป็นดำคมเข้มหรือฟ้าสดใส
สเปคและฟีเจอร์การใช้งาน
สเปค realme C2
- หน้าจอ 6.1 นิ้ว ความละเอียด HD+ (อัตราส่วน 19.5:9)
- ซีพียู MediaTek Helio P22 Octa-core 2.0GHz
- จีพียู PowerVR Rogue GE8320
- แรม 3GB
- ความจุ 32GB
- รองรับ micro-SD สูงสุด 256GB
- แบตเตอรี่ 4000 mAh
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล f/2.2 + f/2.4
- รองรับ 2 ซิม (ถาดซิมแบบ Triple Slot)
- รองรับระบบสแกนใบหน้า (Face Recognition)
- รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย ColorOS 6.0
- มีให้เลือก 2 สี Diamond Black, Diamond Blue
ในส่วนของสเปคก็ให้มาแบบพร้อมใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 6.1 นิ้ว, หน่วยประมวลผล Helio P22, ความจุภายในที่ให้มาก็เป็น 3GB + 32GB และแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh แหนะ
รัน ColorOS 6.0 บนพื้นฐาน Android Pie
อีกหนึ่งเรื่องที่ช่วยให้ realme C2 นั้นน่าสนใจก็คือเรื่องของซอฟต์แวร์ที่ได้ ColorOS 6.0 ครอบทับมาบน Android 9.0 Pie ช่วยให้การทำงานนั้นลื่นไหลมากขึ้น หน้าตา UI ที่สวยงามมากขึ้นไปอีก
หน้าตา UI ของ realme บน ColorOS 6.0 นี้ต้องบอกว่าทำออกมาได้สวยและเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ดีจริง ๆ ไอคอนต่าง ๆ ใช้รูปแบบเป็นของตัวเอง เน้นไปที่ทรงกลม เหลี่ยม ไม่ใช่แค่แอปของระบบที่ให้มาตอนแรกพวกแอปที่โหลดมาเพิ่มก็ปรับทรงให้เป็นกลมหรือเหลี่ยมตามด้วย เวลาปัดหน้าไป-มาก็รู้สึกว่าเนียนตาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันดี
ColorOS 6 จะมีตัวเลือกหน้ารวมแอปมาให้ด้วย ซึ่งในค่าเริ่มต้นบน realme C2 ก็คือเลือกมาให้เลือก แอปต่าง ๆ จะรวมอยู่ในโซนด้านล่าง เราไม่จำเป็นต้องโชว์แอปทั้งหมดบนหน้าหลักก็ได้ แต่ถ้าไม่ชอบอยากได้แบบเก่าก็เข้าไปเลือกเพิ่มเติมได้ที่ Settings > Homescreen & Lock Screen > Homescreen Mode แล้วเลือกไปที่แบบ Standard Mode ครับ
มีหน้า Smart Assistant อยู่ที่มุมซ้ายสุดของหน้าหลัก ตรงนี้จะเป็นโซนที่เพิ่มพวกทางลัดและการใช้งานให้เราสะดวกยิ่งขึ้น อุณหภูมิในแต่ละวันให้เรารู้ ปฏิทินหรือฟังค์ชั่นพิเศษเช่นอัตราแลกเปลี่ยนเงินก็กดมาดูที่หน้านี้ได้เลยครับ
แถบทางลัดพิเศษหรือ Smart Bar เลื่อนมาจากมุมขวาของหน้าจอได้ เวลาด่วน ๆ อยากถ่ายรูปหาไอคอนกล้องไม่เจอก็เลื่อนที่แถบนี้แทนได้ แล้วจิ้มเอาเลย หรืออยากจะแคปหน้าจอแบบไม่กดปุ่ม บันทึกวิดีโอหน้าจอก็เช่นกันครับ กดได้เลย
ปลดล็อคด้วยใบหน้าก็ทำได้แหละ
ถึงแม้รุ่นนี้จะไม่มีตัวสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องมากดรหัสเพื่อปลดล็อคให้เสียเวลาเพราะ realme C2 มาพร้อมกับระบบปลดล็อคด้วยใบหน้ามาด้วย ใช้งานได้เร็วไม่แพ้แตะสแกนนิ้วเลย ตัวระบบจะมีให้เลือกการปลดล็อคอยู่ 2 แบบคือปลุกจอแล้วปลดล็อคในทันทีหรือว่าต้องให้เรามาเลื่อนหน้าจอเพื่อปลดล็อคอีกที ตรงนี้เลือกตั้งค่ากันดูได้ครับว่าชอบแบบไหน
หน้าจอ ระบบเสียง เล่นเกม
จอใหญ่กำลังดี เล่นโซเชี่ยล ดูหนังโอเค
ในส่วนของหน้าจอรุ่นนี้ได้ขนาดหน้าจอมา 6.1 นิ้ว ความละเอียด HD+ ไซส์ตัวเครื่องกะทัดรัดอย่างที่บอกไปตอนต้น จะเอามาใช้งานไถฟีดโซเชี่ยลนี่เยี่ยมเลย เหมาะในมือเดียว
หรือจะเอามาดูวิดีโอก็ยังถือว่าแจ่มอยู่ด้วยอัตราส่วนหน้าจอแบบ 19.5:9 เต็มตาดี ขอบดำก็เหลือไม่เยอะด้วย
ส่วนเรื่องเสียงรุ่นนี้ทำได้สมราคาดีครับ อาจจะไม่ได้เน้นดังมีมิติมาก แต่รวม ๆ แล้วเสียงที่ได้ออกมากำลังดีเลย แต่ตำแหน่งยังวางไว้ที่มุมซ้ายล่างของเครื่องอยู่ ถ้าสลับมาไว้ที่ด้านขวาน่าจะโอเคกว่านี้เนาะ แต่รวม ๆ แค่ถือแบบระวัง ๆ ก็ไม่ไปปิดโดนลำโพงแล้วล่ะ
ประสิทธิภาพแค่ไหนนะ ?
ในส่วนของคะแนนทดสอบเห็นรุ่นเล็กราคาย่อมเยาแบบนี้ แต่ประสิทธิภาพก็ไม่ธรรมดานะจ๊ะ อย่างที่บอกไป รุ่นนี้ได้หน่วยประมวลผล MediaTek Helio P22 ใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล ผลทดสอบเลยได้คะแนนออกมาที่ 77444 คะแนนเลยทีเดียว ! *0*
เล่นเกมหน่อย ได้เนอะ !?
ในกลุ่มราคาย่อมเยาแบบนี้อาจจะไม่ได้เน้นมาที่กลุ่มเล่นเกมหนัก ๆ สักทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะเล่นอะไรไม่ได้เลยเนอะ ตัวเครื่องจะมีฟีเจอร์ realme Game Space ที่เข้ามาจัดการระบบภายในเพื่อรีดประสิทธิภาพของตัวเครื่องให้สูงที่สุดสำหรับการเล่นเกม
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ โหลด PUBG มาลองเลยละกัน ตัวเกมตั้งค่ามาให้ในระดับเริ่มต้นทั้งหมด ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอต่อการเล่นแล้ว เท่าที่ลองทดสอบก็ถือว่าพอเล่นได้ครับ ความลื่นไหลทำได้ดีเลย
แต่ถ้าอยากลองเล่นเกมแบบเพลิน ๆ ถือมือเดียวชิว ๆ เป็นพวก Subway Surfer ก็น่าจะเหมาะดีไม่น้อยกับเครื่องไซส์นี้ครับ
กล้อง
กล้องคู่ใช้ดี มีดีกว่าที่คิด
มาต่อในเรื่องกล้อง realme C2 ก็ถือเป็นอีกรุ่นราคาประหยัดที่มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซลใช้งานได้เป็นอย่างดี พร้อมใช้งานได้อย่างน่าสนใจ มีฟีเจอร์ Auto HDR มาให้ใช้งาน จะสภาพแสงแบบไหนก็ไหว
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Auto
Chroma Boost เพิ่มความสวยสดให้ภาพอย่างมีมิติ
นอกจากนี้ยังมีระบบ Chroma Boost ที่ช่วยเพิ่มโทนสีให้อิ่มมากขึ้น แม้ในสภาพย้อนแสงที่เราอยากได้ภาพสีสด ๆ ก็เลือกได้ที่ไอคอนรูปกรอบรูปด้านบนเลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Chroma Boost
Portrait mode หน้าชัดหลังเบลอสวย ไม่ต้องราคาสูงก็ทำได้
หรือจะเป็นโหมดภาพบุคคล Portrait mode ก็มีมาให้ใช้งานด้วย พร้อมละลายฉากหลังและปรับใบหน้าของแบบให้สวยเนียนยิ่งขึ้นไปอีกหน่อย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait
วิดีโอได้ Full-HD นาจา
ในส่วนของโหมดวิดีโอรุ่นนี้บันทึกได้สูงสุดที่ Full-HD 1080p หรือจะถ่ายแบบเฟรมเรตสูงหน่อยก็ได้สูงสุดที่ 80fps บนความละเอียด 480p ด้วยนะ
กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล เซลฟี่สวย
กล้องหน้ายังไงก็ขาดไม่ได้เนอะ เพราะในส่วนของกล้องหน้าก็ดูจะเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของแบรนด์นี้ด้วยเช่นกัน โดยรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีระบบ Auto Beauty คอยปรับระดับความเนียนให้กับใบหน้าได้แบบอัตโนมัติ และทำให้ภาพสวยเนียนอีกต่างหาก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่เยอะ อึดจุใจ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดด้วยเรื่องไฮไลท์อีกอย่างของรุ่นนี้อย่างแบตเตอรี่ความจุเยอะสะใจถึง 4000 mAh แค่เห็นตัวเลขก็รู้ได้เลยว่าแบตฯจุใจมาก และจากเท่าที่ลองทดสอบใช้งานมาก็พบว่าอึดมากจริงๆครับ ด้วยความจุที่เยอะอยู่แล้ว สเปคภายในหน่วยประมวลผล Helio P22 ที่มีเทคโนโลยี CorePilot จัดแจงระบบให้เข้ากับการใช้งาน พอมาใช้งานคู่กันก็ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ถ้าไม่ใช้งานเยอะจริงๆก็อยู่ได้ 2 วันสบายๆเลยครับ
สรุป !!
ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่คุ้มค่าต่อการใช้งานมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวเครื่องที่น่าจะตอบโจทย์เพื่อนๆที่ต้องการสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ แบตฯอึด ตามสไตล์ของซีรีส์ C จาก realme แต่รอบนี้ชูจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ขึ้นมาอีกอย่าง สวยดูดีขึ้นด้วยฝาหลัง Diamond Cut ที่ถือแล้วให้ความหรูหราไม่แพ้รุ่นหลักหมื่น กล้องสวยอยู่ในเกณฑ์เยี่ยมเกินราคา ทุกอย่างที่ว่ามานี้ก็รวบรวมอยู่บน realme C2 เครื่องนี้แล้ว ใครที่กำลังมองหามือถือสุดคุ้มใช้งานได้ครอบคลุมในราคาสบายกระเป๋าอยู่ ไปจับจองกันได้เลยครับ :D
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยเด่นด้วยฝาหลัง Diamond Cut
- หน้าจอ Dewdrop 6.1" แสดงผลเต็มตา
- สเปคพร้อมใช้งาน
- ColorOS 6 ใช้งานได้อย่างลื่นไหล
- แบตเตอรี่ความจุเยอะ ใช้งานได้ยาวนาน
- รองรับ 2 ซิมและ micro-SD พร้อมกันด้วยถาดซิม Triple Slot
จุดสังเกต
- ไม่มีเคสใสแถมมาให้ในกล่อง
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite