Review : Samsung Galaxy A50 สมาร์ทโฟน 4 กล้องพร้อมเลนส์ Ultra Wide
ในราคาหมื่นต้น ๆ !!

สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับสมาร์ทโฟนรุ่นกลางสุดน่าสนใจของ Samsung อย่าง Samsung Galaxy A50 นั่นเอง ! รุ่นนี้ก็ถือว่าเปิดตัวมาสร้างความตื่นตากับเหล่าแฟน ๆ Samsung อย่างมากเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์โฉมใหม่ที่สวยงาม, สเปคที่ให้มาแบบไม่กั๊ก รวมไปถึงกล้องหลัง 3 ตัวใช้งานได้อย่างครบครัน เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว อย่ารอช้าเลยครับ มาอ่านรีวิวฉบับเต็มของ Samsung Galaxy A50 กันเลยดีกว่า !!

เปิดกล่องเช็คของกันเลย !

ก่อนจะเข้าสู่ตัวเครื่อง มาดูอุปกรณ์ที่ให้มาก่อนดีกว่าว่าให้อะไรมาบ้าง ตัวกล่องรอบนี้เปิดขึ้นมาจะเจอตัวเครื่องเลย มีตัวซองครอบทับมาอีกทีพร้อมบอกฟีเจอร์เด่นของรุ่นนี้คร่าว ๆ ไว้ด้วย

อุปกรณ์ภายในวางอย่างเป็นระเบียบ หยิบออกมาวางเรียงกันแบบครบ ๆ ก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 7 อย่างดังนี้ครับ

• ตัวเครื่อง Galaxy A50
• เคสซิลิโคนใส
• สาย USB Type-C
• อแดปเตอร์ Fast Charge
• หูฟัง
• เข็มจิ้มถาดซิม
• คู่มือการใช้งาน

ตัวเคสที่แถมมาเป็นแบบเคสใสมีเว้นช่องลำโพงสนทนาด้านบนไว้อย่างพอดิบพอดี อ๊ะ…ลืมบอกไปรุ่นนี้มีติดฟิล์มกันรอยมาให้ตั้งแต่ในกล่องเลยด้วยนะครับ ไม่ต้องไปหาติดเพิ่มหลังซื้อเครื่องเนอะ

ดีไซน์ใหม่หมด มาตรฐานใหม่ของ A Series 2019 !

เข้าสู่เรื่องดีไซน์กันเลยดีกว่า สำหรับ Galaxy A50 นั้นจะมาพร้อมกับดีไซน์ทรงใหม่ที่ปีนี้ Samsung จะเลือกใช้บน A Series หลาย ๆ รุ่นเลยทีเดียว มาพร้อมหน้าจอแบบ Infinity U หรือติ่งแบบหยดน้ำด้านบน ทำให้การแสดงผลหน้าจอนั้นชิดขอบมากขึ้น ขนาดหน้าจอของรุ่นนี้นั้นใหญ่ถึง 6.4 นิ้ว แต่ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่จนล้นมือเกินไป จับถือได้อย่างสะดวกครับ

ในเรื่องการแสดงผลต้องยอมรับเลยว่าเป็นรุ่นหมื่นต้น ๆ ที่จอสวยมาก ๆ ด้วยหน้าจอ Super Amoled ความละเอียด FHD+ ตรงนี้ Samsung ถนัดอยู่แล้ว สีสันนั้นสวยงาม คมชัดมาก ๆ เลยทีเดียว อัตราส่วนหน้าจอเป็นแบบ 19.5:9 มาตรฐานของมือถือยุคนี้แล้ว

มาดูตัวติ่งบนหน้าจอกันใกล้ ๆ อีกที มาซ่อนกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซลไว้บนติ่งขนาดเล็กนี้ รวมถึงแถบลำโพงสนทนาขนาดเล็กอยู่ชิดขอบที่ด้านบนสุดนี้ด้วยครับ ส่วนไฟ LED แจ้งเตือนต่าง ๆ นั้น ไม่มีแล้วนะครับ บนรุ่นนี้เอาออกไปแล้ว

ขอบหน้าจอด้านล่างจะเหลืออยู่พอประมาณ อาจจะไม่ได้บางเฉียบไปซะทีเดียว แต่ก็ช่วยให้การใช้งานนั้นสะดวกดีกว่าแบบบางมาก ๆ น่ะนะ ภายในหน้าจอตรงนี้ยังมีระบบสแกนลายนิ้วมือแบบ Optical ซ่อนอยู่ด้วย รุ่นหมื่นต้น ๆ ได้แบบนี้มาด้วยเจ๋งใช้ได้เลย

กรอบตัวเครื่องของ Galaxy A50 นั้นจะเป็นผิวแบบมัน ๆ หน่อย มีความโค้งนิด ๆ ทำให้การจับเครื่องนั้นดูสมูทดีทีเดียว ความบางของตัวเครื่องนั้นบางเพียง 7.7 มม. และน้ำหนักอยู่ที่ 166 กรัมเท่านั้นเองครับ

ปุ่มกดต่าง ๆ รอบนี้ Samsung เลือกย้ายมาไว้ที่ด้านขวามือของตัวเครื่องทั้งหมด ทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ส่วนปุ่ม Bixby นี่ก็ไม่มีติดมาให้แล้วครับเย่ !

พอร์ตการเชื่อมต่อจะอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่องทั้งหมดนี้ เริ่มด้วยช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และลำโพงหลักของตัวเครื่องครับ

ด้านบนตัวเครื่องเรียบ ๆ เลยทิ้งไว้เพียงไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนเท่านั้น

ช่องใส่ซิมของรุ่นนี้จะอยู่ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องครับ โดยถาดซิมจะเป็นแบบ 3 slot เลือกใส่ได้ทั้ง 2 ซิมและ micro-SD ครับ

พลิกกลับมาดูด้านหลังกันหน่อย สีสันรอบนี้ทำออกมาได้สวยงามดีทีเดียว ฝาหลังใช้วัสดุแบบ 3D Glasstic ก็คือการใช้วิธีการเคลือบผิวของฝาหลังแบบพิเศษลงบนพลาสติกคุณภาพสูง ให้ได้ความมันวาวของฝาหลังมากขึ้น

และในเครื่องสีดำ จะมีการไล่เฉดสีแบบ Hologram ด้วย เวลาสะท้อนกับแสงหรือเอียงเครื่องไปตามมุมต่าง ๆ ก็เห็นเป็นสีรุ้ง ๆ แบบในภาพเลยครับ สวยและโดดเด่นมาก ๆ

ตำแหน่งของกล้องหลังของรุ่นนี้จะอยู่ที่มุมซ้ายบน เรียงกันลงมา 3 ตัวอย่างที่เห็นเลย และมีไฟแฟลช LED อยู่ถัดกรอบเลนส์ลงมาอีกครับ

รวม ๆ แล้วดีไซน์ของ Samsung Galaxy A50 นี้ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดีทีเดียว ทั้งหน้าจอแบบใหม่ Infinity U ที่แสดงผลเต็มตา สวยงามแบบสุด ๆ ตรงนี้ชอบมาก ! บอดี้ฝาหลังสีสวยที่มีการสะท้อนกับแสงได้อย่างเตะตา ขนาดและน้ำหนักก็ถือว่าทำได้อย่างดีทีเดียว ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป เรียกว่ารอบนี้ปรับโฉมมาให้เข้ากับเทรนด์ในปีนี้ได้อย่างมากเลยล่ะครับ

สำหรับ Galaxy A50 ที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะมีด้วยกัน 3 สีคือ ดำ, น้ำเงิน และขาวครับ แต่ละสีก็จะมีลูกเล่นการสะท้อนของฝาหลังแตกต่างกันไป ส่วนตัวชอบสีดำมากที่สุดเลย เพราะลูกเล่นของฝาหลังนั้นเด่นมาก ๆ แถมตัวสีด้านหน้าและหลังยังกลืนกันได้อย่างลงตัวอีกด้วย

สเปค Samsung Galaxy A50

• หน้าจอ Super Amoled 6.4" ความละเอียด FHD+ (อัตราส่วนแบบ 19.5:9)
• ซีพียู Exynos 9610 (A50)
• แรม 6GB (A50)
• ความจุ 128GB
• รองรับ micro-SD ความจุสูงสุด 512GB
• แบตเตอรี่ 4000 mAh
• รองรับ Fast Charge
• กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล AF f/1.7
• กล้องหลัง 3 ตัว 25 + 5 + 8 ล้านพิกเซล f/1.7 + f/2.2 + f/2.2
• รองรับระบบสแกนใบหน้า
• รองรับระบบสแกนนิ้วบนหน้าจอ
• รองรับ 2 ซิม
• รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย OneUI

ในส่วนของสเปค ต้องบอกเลยว่าให้มาแบบจัดเต็ม ไม่กั๊กกันเลย ในราคาหมื่นต้น ๆ Samsung เลือกให้หน่วยประมวลผลตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Exynos 9610 มาพร้อมกับหน่วยความจำภายใน 6GB + 128GB, แบตเตอรี่ที่จุใจถึง 4000mAh อีกต่างหาก ส่วนเรื่องกล้องก็จัดเต็มมาให้ทั้งหน้า - หลังอีก ค่อนข้างครบครันเลยล่ะรุ่นนี้

ที่ว่าดีที่ดีแค่ไหน ดูคะแนนกันหน่อย

เห็นสเปคแบบนี้หลายคนอาจจะไม่เห็นภาพว่า Exynos 9610 ตัวนี้แรงแค่ไหน เทียบเท่ากับรุ่นไหนเนอะเราเลยเอาคะแนนคร่าว ๆ จากแอป AnTuTu Benchmark มาฝาก ซึ่งคะแนนที่ได้ก็สูงถึง 141620 คะแนนเลยทีเดียว เรียกว่าคะแนนอยู่ระดับเดียวกับ Snapdragon 660 เลยล่ะ ใช้ได้ ๆ

ระบบปฏิบัติการใหม่ OneUI

ในเรื่องของระบบปฏิบัติการ Galaxy A50 ได้ Android 9.0 Pie เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดมาเลย พร้อมครอบทับมาด้วย OneUI แบบเดียวกับที่ใช้กันบน Galaxy Note 9, Galaxy S10 Series เลย เรียกว่าชุดล่าสุดกันหมด

หน้าตา UI มีความเรียบง่าย และไอคอนต่าง ๆ เน้นสีสันที่สด ๆ มีการแบ่งหน้า App Drawer ใช้งานสะดวกด้วยการเลื่อนหน้าจอขึ้นในหน้าหลัก UI ออกแบบมาให้ใช้งานมือเดียวได้อย่างสะดวก พื้นที่บนหน้าจอเวลาเปิดแอปหลักที่ติดมากับเครื่องจะแบ่งเป็นโซน ๆ ได้อย่างดีครับ

ด้วยหน้าจอแบบ Super Amoled เลยมีหน้า Always On Display มาให้ด้วย เราสามารถแตะ 1 ครั้งตอนที่หน้าจอดับเพื่อดูเวลาหรือไอคอนการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้จากตรงนี้ หรือจะแตะ 2 ครั้งเพื่อปลุกหน้าจอทำได้เช่นกันครับ

ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ก็มีนะ

อย่างที่บอกไปข้างบนว่ารุ่นนี้ให้ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอมาด้วย แต่ตัวเซ็นเซอร์จะเป็นแบบ Optical นะครับ ไม่ใช่แบบ Ultrasonic เหมือน S10 การใช้งานทำได้ง่ายดี เพราะตำแหน่งนั้นอยู่ที่ด้านหน้าตัวเครื่องชัดเจน แต่ระยะเวลาในการสแกนส่วนตัวแอบคิดว่ามันยังช้าไปนิดหน่อย คือต้องแชะไปครู่หนึ่ง ไม่ได้เร็วปรู๊ดปร๊าดนัก แต่ก็ถือว่ารับได้อยู่ครับ

ถ้าสแกนนิ้วไม่ถูกใจ ก็ยังมีสแกนใบหน้ามาให้เลือกใช้ควบคู่กันไปด้วย อันนี้เร็วจริง คือสแกนปุ๊บก็ติดปั๊บเลยล่ะ

หน้าจอ Infinity U แสดงผลเต็มตา ดูวิดีโอจัดเต็ม

มาต่อในเรื่องของความบันเทิงกับหน้าจอ Super Amoled และ Infinity U ของ A50 ต้องขอชมอีกสักทีว่าหน้าจอของรุ่นนี้ทำได้ดีมาก ๆ แสดงผลได้สวยงามแบบสุด ๆ จะเอามาดูวิดีโอหรือหนังความละเอียดสูงนี่ยอดเยี่ยมเลย แถมตัวติ่งแบบ U-Cut นี้ก็ไม่ถึงกับกวนใจเราเท่าไหร่ ในการดูคอนเทนต์ ไม่โดนบังจนเสียเท่าไหร่ครับ

เรื่องเสียงก็ดังออกมาจากลำโพงด้านล่างตัวเครื่องได้อย่างดีเลย เสียงที่ได้ก็ออกมากลางๆ แต่ความดังใช้ได้อยู่ ใช้ฟังเพลงหรือเวลาเล่นเกมแบบไม่เสียบหูฟังได้อยู่ แต่ถ้าอยากจะเสียบหูฟังก็มีพอร์ตหูฟัง 3.5 มม.มาให้อยู่ด้วย เสียบปุ๊บก็ฟังได้เลยไม่ยุ่งยากครับ :D

เล่นเกมเป็นไงรุ่นนี้ !?

เข้าสู่เรื่องการเล่นเกม อย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้ได้หน่วยประมวลผล Exynos 9610 ตัวใหม่ ในเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานต่างๆหายห่วงเลยทำออกมาได้ดีทีเดียว สำหรับเกมที่นำมาทดสอบรอบนี้เป็น ROV และเสริมด้วย PUBG Mobile ให้เหมือนเดิมครับ

สำหรับ ROV ก็ถือว่าเล่นได้อย่างดีเลยครับ ปรับคุณภาพกราฟิกได้สูงสุด เฟรมเรตสูงปรับได้ เฟรมเรตในเกมที่เล่นจริง ๆ จะอยู่ที่ราว ๆ 50 - 60fps ได้เลย ตัวหน้าจอแสดงผลได้อย่างเต็มที่ ติ่งบนจอไม่บัง UI ในเกมเลย

ส่วน PUBG ก็เล่นได้อย่างสมูทจนน่าตกใจ ปรับกราฟิกได้ที่ HDR ส่งเฟรมเรตได้สูงสุดถึง Ultra กันเลย ภาพรวมถือว่าทำได้ดีทีเดียว แต่ถ้าอยากเล่นแบบลื่นสุดจริง ๆ ปรับมาเป็นค่าเริ่มต้นที่ High อยู่ถือว่าโอเคสมูทแบบสุด ๆ ครับ

กล้องหลัง 3 ตัวใหม่ ใช้งานยังไงบ้างนะ !?

เข้าสู่อีกเรื่องที่เป็นจุดขายของรุ่นนี้อย่างกล้อง กล้องหลังของ Galaxy A50 นั้นให้มาถึง 3 ตัว แบ่งการใช้งานเป็น 2 ระยะ ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพวิวและคนได้เป็นอย่างดี แบ่งการทำงานดังนี้ครับ

• กล้องวัดระยะ - ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.2 ใช้จับระยะในโหมด Live Focus
• กล้องตัวหลัก - ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล f/1.7, Autofocus
• กล้อง Ultra Wide - ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2, Fixedfocus

โดยการทำงานก็ไม่ยากเย็นครับ ตัว UI ออกแบบมาให้เข้าใจง่าย เปิดกล้องมาจะเจอไอคอนรูปต้นไม้ 2 แบบอยู่เหนือปุ่มชัตเตอร์ ให้เราเลือกสลับกล้องไปมาได้อย่างอิสระ ว่าจะใช้กล้องตัวหลักหรือกล้อง Ultra Wide

กล้องตัวหลัก f/1.7 สวยทุกสภาพแสง !

เริ่มกันที่กล้องหลักกันก่อน กล้องหลักของรุ่นนี้มีความละเอียดถึง 25 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างถึง f/1.7 แน่นอนว่าสเปคแบบนี้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีใช้ได้เลย มีโหมด Auto HDR มาให้อยู่แล้ว จะถ่ายย้อนแสงหน่อยๆก็เก็บรายละเอียดได้ดีครับ นอกจากนี้ยังมี Scene Optimizer มีร่วมปรับภาพให้สวยงามเพิ่มเติมด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลักโหมด Auto เน้นความง่ายในการกดถ่ายไว้ก่อน เราก็กดด้วย Auto อย่างเดียวเลยละกัน ตัวกล้องทำงานได้ดีทีเดียว ด้วยค่ารูรับแสงที่กว้างทำให้ภาพถ่ายในที่แสงน้อยนั้นออกมาดูดีเลย แถมมีความง่ายของ Auto ที่เล็งๆแล้วกดถ่ายออกมาก็สวยแบบไม่ต้องพยายามเยอะครับ

กล้อง Ultra-Wide เก็บมุมสวยกว้างกว่าที่เคย !

ต่อกันที่กล้อง Ultra Wide ที่เป็นจุดเด่นของยุคนี้ ใคร ๆ ก็อยากจะเก็บภาพมุมกว้างกันอยู่แล้ว กล้อง Ultra Wide ของ Galaxy A50 นี้ถือว่าให้มาได้กว้างสุด ๆ ถึง 123 องศา เก็บภาพวิวหรือที่ที่มีจำกัดได้เป็นอย่างดีทีเดียว หรือจะเอามาถ่ายคนก็ได้มุมที่ว้างยืดขาเพิ่มความสูงต่าง ๆ ได้อีก

เปรียบเทียบช่วงของกล้องปกติและกล้อง Ultra Wide

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Ultra-Wide จะเห็นว่าภาพมุมกว้างที่ได้มานั้น เปลี่ยนภาพแบบเดิมๆที่เราคุ้นเคยไปได้เยอะดีทีเดียว ช่วยให้เราได้สร้างสรรค์ภาพแนวใหม่ๆออกมาได้ รวมไปถึงการเก็บภาพในที่แคบได้ดีจริงๆ ด้วยมุมที่มากถึง 123 องศานี้ ภาพวิวนี่ยอดเยี่ยมสุด ๆ ไปเลยล่ะครับ

กล้อง Depth ใช้คู่กับกล้องหลักถ่ายภาพคนเนียน !

ปิดท้ายด้วยเลนส์ตัวสุดท้ายกับกล้องวัดระยะ เพื่อใช้งานในโหมด Live Focus หรือถ้าเรียกแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ Portrait นั่นล่ะครับ ตัวกล้องสุดท้ายนี้จะใช้ในการจับระยะของแบบและวัตถุแยกออกจากกันเพื่อวิเคราะห์ว่าตรงไหนควรชัดตรงไหนควรเบลอ ใช้งานควบคู่กับกล้องตัวหลักปรับระดับความเบลอได้เพิ่มเติมหลายระดับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Live Focus

กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซลความละเอียดเท่ากล้องหลัง

กล้องหลังให้ความละเอียดมามากถึง 25 ล้านพิกเซล กล้องหน้าก็ให้มาเท่ากันเลย 25 ล้านพิกเซล ทำให้การเซลฟี่นั้นถูกใจแน่นอน มีโหมดหน้าเนียนและ Smart Beauty และ Palm Sefie แบมือเพื่อลั่นชัตเตอร์มาให้ด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ Galaxy A50

แบตเตอรี่ 4000 mAh ใช้งานจุใจ

ปิดท้ายด้วยเรื่องของแบตเตอรี่รุ่นนี้ให้ความจุมาเยอะดีทีเดียวที่ 4000 mAh บวกกับตัวหน่วยประมวลผล Exynos 9610 ที่ใช้พลังงานไม่มากนัก ทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน จะถ่ายรูปกันทั้งวัน เล่นเกมหนัก ๆ หน่อยก็เอาอยู่ครับ

ส่วนระบบชาร์จก็มี Fast Charge (15W)มาให้ด้วย แบตฯเยอะ 4000 mAh ก็ยังชาร์จได้ไวอยู่ครับ

สรุปการใช้งาน

หลังจากที่ได้ลองใช้งานตัวเครื่องมาจริง ๆ ก็ถือว่าเป็น Samsung อีกรุ่นที่น่าสนใจมาก ๆ ในปีนี้ ด้วยดีไซน์แบบใหม่หมด สวยงามเพรียวบาง หน้าจอที่เต็มตาด้วย Infinity U ฝาหลังไล่เฉดสีรุ้ง ๆ เวลสะท้อนแสง หรือจะเป็นเรื่องของสเปคที่ก็ให้มาแบบไม่กั๊กทั้งหน่วยประมวลผลตัวใหม่ Exynos 9610, แรม 6GB ความจุ 128GB, แบตเตอรี่ 4000 mAh ใช้สอยกันได้อย่างเต็มที่ รวมถึงกล้องที่ดูเป็นจุดเด่นด้วยกล้อง Ultra Wide มุมกว้างสุด ๆ 123 องศา ทั้งหมดที่ว่ามานี้อยู่ในราคาค่าตัวเพียง หมื่นต้น ๆ เท่านั้น จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟน Samsung อีกรุ่นที่น่าจับตามองมาก ๆ เลยล่ะครับ

ราคาค่าตัวของ Galaxy A50 อยู่ที่ 11,490 บาท

จุดเด่น

• หน้าจอ Infinity U แสดงผลสวยงาม
• ฝาหลังไล่เฉดสีสวย
• สเปคเร็วแรง ตอบโจทย์การใช้งาน
• หน่วยความจำภายในให้มาเยอะ (6GB + 128GB)
• แบตเตอรี่ 4000 mAh ใช้งานได้ยาวนาน
• กล้องหลัง 3 ตัว มี Ultra Wide มุมกว้างเก็บภาพครบ

จุดสังเกต

• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอทำงานช้าไปนิด
• ฝาหลังตัวเครื่องเก็บรอยนิ้วมือค่อนข้างเยอะ

รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite