Hands On : Samsung Galaxy A30 | A50 ตระกูล A ต้นปี
มีดีกว่าแค่รูปโฉมที่สวยขึ้น !!
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับสองสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ กับ Galaxy A30 และ Galaxy A50 นั่นเอง ! สองรุ่นใหม่นี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นแรกจากตระกูล A ที่เปิดตัวในบ้านเราเลย ซึ่งในปีนี้ทาง Samsung ก็มีการปรับกลยุทธ์หลาย ๆ อย่างของซีรีส์สมาร์ทโฟนให้น้อยลง โดยจะตัดเอาซีรีส์ J ออกไป แล้วเริ่มใช้เป็นซีรีส์ A ทั้งหมด (ยังคงมีซีรีส์ S และ Note เป็นเรือธงเหมือนเคย) ส่วนเจ้าสองรุ่นนี้จะอยู่ในกลุ่มเริ่มต้นถึงกลางในราคาที่ไม่สูงมากนักนั่นเอง ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรบ้าง มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ :D
ยลโฉม Galaxy A30 และ A50
ก่อนอื่นมาเริ่มที่ดีไซน์ตัวเครื่องภายนอกกันก่อนเลย สำหรับ Galaxy A30 และ A50 นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอ Super Amoled ขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา เต็มพื้นที่ด้านหน้าอย่างมากเลยทีเดียว 2 รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Infinity U หรือหน้าจอติ่งทรงหยดน้ำที่เราคุ้นเคยนั่นแหละครับ ทำให้พื้นที่ด้านหน้าใช้ได้เยอะพอควรเลย ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่จนเกินไปถึงแม้หน้าจอที่ให้มาจะใหญ่มาก ๆ เลยก็ตาม
ขนาดหน้าจอของทั้ง 2 รุ่นให้มาเท่ากันที่ 6.4 นิ้ว ความละเอียดอยู่ที่ FHD+ กับอัตราส่วนแบบ 19.5:9 ในเรื่องการแสดงผลต้องยอมรับเลยครับว่าสองรุ่นนี้ทำได้ดีมาก ๆ ตัวหน้าจอ Super Amoled แสดงสีสันได้สดและสวยมากเมื่อเทียบกับหลาย ๆ รุ่นในกลุ่มราคานี้ สองรุ่นนี้ทำได้ดีสุด ๆ เลยครับ
เหนือหน้าจอมีติ่งเล็ก ๆ ไว้สำหรับกล้องหน้า ดูภายนอกอาจจะเหมือนกันไปซะหมดที่ด้านหน้านี้แต่จริง ๆ แล้วตัวกล้องหน้าที่ให้มาความละเอียดต่างกันอยู่นะ
ล่างหน้าจอจะเห็นขอบที่มีอยู่ประมาณหนึ่ง แต่ก็ไม่ถึงกับหนามากครับ บนรุ่น Galaxy A50 จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่บนจอด้วย อย่างที่เห็นเลยครับ เวลาตั้งค่าแล้วจะมีไอคอนลอยขึ้นมาแบบนี้ ส่วนปุ่นกดต่าง ๆ ก็เป็น On Screen Button ไปหมด
ปุ่มกดต่าง ๆ รอบนี้ Samsung เลือกย้ายมาไว้ที่ฝั่งขวาของตัวเครื่องทั้งหมดเลย ทั้งปุ่มเพิ่ม - ลดเสียงและปุ่ม Power มาอยู่ที่มุมนี้หมด ใครที่เคยใช้สมาร์ทโฟน Samsung มาตลอดอาจจะสับสันเล็กน้อยในช่วงแรกเนาะ
เมื่อย้ายปุ่มมาหมดแล้ว ทำให้ฝั่งซ้ายมือจึงเหลือแค่เพียงช่องใส่ซิมการ์ด โดยถาดซิมของรุ่นนี้จะเป็นแบบ 3 Slot รองรับ micro-SD สูงสุดถึง 512GB เลยครับรุ่นนี้
พอร์ตการเชื่อมต่อต่าง ๆ อยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่องทั้งหมด มีช่องหูฟัง 3.5 มม. อยู่, ลำโพงอยู่ที่ด้านล่างนี้ และที่สำคัญพอร์ตการเชื่อมต่อหลักเปลี่ยนให้เป็น USB Type-C ทั้งคู่แล้วครับ
ฟีลการจับถือของทั้ง 2 รุ่นทำได้ดีทีเดียว ถึงแม้ว่าวัสดุของตัวเครื่องจะไม่ใช่โลหะ ตรงนี้ทาง Samsung ใช้ชื่อเรียกว่า Glasstic หรือพลาสติกที่มีการเคลือบให้มีความแวววาวสะท้อนได้คล้ายกับกระจก ข้อดีของวัสดุแบบนี้ก็คือได้ความสวยงาม น้ำหนักเบา และไม่ต้องกลัวหล่นแตกเอาง่าย ๆ ด้วยเนาะ
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลัง จะเห็นว่าดีไซน์ของทั้งคู่เริ่มแตกต่างกันแล้ว ซึ่งฝาหลังทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นสีดำทั้งคู่ แต่บนตัว A50 นั้นจะมีการสะท้อนแสงที่มากกว่าและเล่นกับสีสันได้เยอะกว่านั่นเองครับ
มาดูใกล้ ๆ ตัว A30 นั้นจะเป็นฝาหลังสีดำที่มีการสะท้อนเป็นสีเงินแบบที่เราคุ้นเคยบนรุ่นก่อน ๆ
ส่วน A50 จะเห็นว่ามีสีสันที่หลากหลายกว่า สะท้อนออกมาเกือบจะเป็นสีรุ้งกันเลยทีเดียว โดยสีเครื่องจะเปลี่ยนไปตามมุมมองหรือองศาที่แสงตกกระทบ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นฝาหลังที่แปลกตาดี เครื่องจริงสวยมาก มีความแวววาวเหมือนกับกระจกเลย
ในส่วนของกล้องก็ต่างกันอีกนิดหน่อย โดยรุ่น A30 นั้นจะมีกล้องเพียง 2 ตัว ส่วน A50 ให้กล้องมา 3 ตัวพร้อมทั้งยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนจอ ทำให้ไม่มีตำแหน่งเซ็นเซอร์ที่หลังเครื่องแบบ A30 นั่นเองครับ
ภายรวมในเรื่องดีไซน์ของทั้ง 2 รุ่นนี้เห็นได้ชัดเลยว่าสวยงามขึ้น และดูน่าใช้น่าสัมผัสมากขึ้น อย่างแรกที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือตัวหน้าจอที่แสดงผลได้สวยงามเอามาก ๆ รวมไปถึงฝาหลังที่มีการสะท้อนแสงเป็นสีต่าง ๆ ได้แบบที่น่าสนใจอีก
สเปค Samsung Galaxy A30 | A50
- หน้าจอ Super Amoled 6.4" ความละเอียด FHD+ (อัตราส่วนแบบ 19.5:9)
- ซีพียู Exynos 7904 (A30) | Exynos 9610 (A50)
- แรม 4GB (A30) | 6GB (A50)
- ความจุ 64GB (A30) | 128GB (A50)
- รองรับ micro-SD ความจุสูงสุด 512GB
- แบตเตอรี่ 4000 mAh
- รองรับ Fast Charge
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/1.7 (A30) | 25 ล้านพิกเซล AF f/1.7 (A50)
- กล้องหลังคู่ 16 + 5 ล้านพิกเซล f/1.7 + f/2.2 (A30)
- กล้องหลัง 3 ตัว 25 + 5 + 8 ล้านพิกเซล f/1.7 + f/2.2 + f/2.2
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือที่หลังเครื่อง (A30) | รองรับระบบสแกนนิ้วบนหน้าจอ (A50)
- รองรับ 2 ซิม
- รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย OneUI
ในส่วนของสเปคภายในจะเห็นว่ามีความแตกต่างกันอยู่หลายจุดครับทั้ง 2 รุ่นนี้ เริ่มด้วยตัวหน่วยประมวลผลที่เป็นคนละตัวกัน ความจุต่างกัน รวมไปถึงกล้องถ่ายภาพด้วย แต่จุดที่เหมือนกันก็มีหน้าจอ ความจุแบตฯ ด้วยนั่นเองครับ
โดย Galaxy A30 จะได้รุ่นความจุแบบ 4GB + 64GB ส่วน Galaxy A50 จัดไปให้สุดที่ 6GB + 128GB ถือว่ารอบนี้ทาง Samsung จัดมาให้แบบครบสุด ๆ
Android 9 Pie เวอร์ชั่นล่าสุด
รุ่นใหม่ล่าสุดแบบนี้ OS หรือระบบปฏิบัติการก็ให้ตัวล่าสุดมาเลยกับ Android 9 Pie ครอบด้วย OneUI แบบเดียวกับ Galaxy S10, S9 หรือ Note 9 ตอนนี้เลยล่ะครับ ตัว UI ทำงานได้อย่างลื่นไหลมากครับ
ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยสแกนนิ้วมือ
2 รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือทั้งคู่ โดยรุ่น Galaxy A50 นั้นจะล้ำกว่าด้วยการใส่ระบบสแกนนิ้วมือมาบนหน้าจอ แต่ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าเป็นแบบ Optical นะครับ ไม่ใช่แบบ Ultrasonic แบบ S10 การใช้งานก็ทำได้เร็วดีเลยล่ะ และวางตำแหน่งของเซ็นเซอร์ได้ดี
ส่วน Galaxy A30 จะมีเซ็นเซอร์อยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่องแทน การใช้งานก็แบบมาตรฐานเดิมครับ เร็วแตะปุ๊บ ติดปั๊บดีมาก ๆ
สแกนใบหน้าหรือ Face Recognition นี่ก็มีใช้งานได้ทั้ง 2 รุ่นเลยครับ ด้วยการสแกนจากกล้องหน้า
กล้องหน้า-หลังความละเอียดสูง
ในส่วนของกล้อง 2 รุ่นนี้จะมีสเปคที่แตกต่างกันนิดหน่อย โดยความละเอียดของกล้องหน้าและหลังจะมีความละเอียดเท่ากัน โดยรุ่น Galaxy A30 จะให้กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล กล้องหลังตัวหลักก็ 16 เช่นกันและยังมีเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลมาให้ด้วย
ส่วน Galaxy A50 ได้กล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 25 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกันก็ได้กล้องหลังตัวหลักมาที่ 25 ล้านพิกเซลบวกกับกล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล และเลนส์วัดระยะอีก 5 ล้านพิกเซล
ทำให้จุดแตกต่างของกล้องทั้ง 2 รุ่นนี้คือนอกจากความละเอียดแล้วยังมีจำนวนด้วยอีกอย่างครับ เลนส์ Ultra Wide ของ Galaxy A30 และ A50 จะได้มุมกว้างถึง 123 องศาเช่นเดียวกับที่เห็นบน S10 เลย
แบตเตอรี่ความจุเยอะ ใช้งานจุใจ
แบตเตอรี่ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจของรุ่นนี้เพราะให้แบตความจุเยอะมาถึง 4000mAh เท่ากันทั้ง 2 รุ่นเลย ใช้งานได้อย่างจุใจตลอดทั้งวันแน่นอน ส่วนระบบชาร์จก็รองรับ Fast Charge (15W) เช่นเคยครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย
สำหรับ Galaxy A30 และ A50 นั้นจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 18 มี.ค.โดยจะมาราคาค่าตัวดังนี้ครับ
- Samsung Galaxy A30 (4GB + 64GB) ราคา 7,290 บาท
- Samsung Galaxy A50 (6GB + 128GB) ราคา 11,490 บาท
สรุปหลังลองจับ
ก็ถือว่าเป็นการเปิดตัวซีรีส์ A ใหม่ในปี 2019 ที่น่าสนใจมาก ๆ ด้วยการดีไซน์ใหม่หมดหน้าจอ Infinity U ที่สวยงามและเต็มตามากขึ้น ที่ชอบจริง ๆ ก็คือคุณภาพจอ Super Amoled ที่สวยเตะตามาก ๆ บอดี้ที่ดูน่าจับถือมากขึ้น ถึงแม้จะไม่ใช่กระจกหรือโลหะแต่ก็ดูหรูและแลกกับน้ำหนักที่เบามาก ๆ เลย กล้องหลังที่เป็นจุดเด่นของสมาร์ทโฟนยุคนี้ทั้ง 2 รุ่นก็เริ่มให้เลนส์ Ultra Wide มุมกว้างมาให้เราถ่ายวิวได้อย่างสนุกขึ้นอย่างแน่นอน แถมทีเด็ดที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของราคาที่เคาะมาได้น่าสนใจสุด ๆ ไปเลยล่ะครับ :D
บทความโดย : เฮียแม็พ. TechXcite