Review : Samsung Galaxy C9 Pro บันเทิงได้มากกว่าด้วยหน้าจอ 6 นิ้ว แรม 6GB และกล้องหน้า-หลัง 16 ล้านพิกเซล !!
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆกับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เรายืมสมาร์ทโฟนรุ่น (หน้าจอ) ใหญ่มาให้ชมกันกับ Galaxy C9 Pro เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อรุ่นนี้อยู่บ้าง เพราะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนไปในช่วงปลายปีที่แล้ว ล่าสุดทาง Samsung ประเทศไทยก็ได้นำรุ่นนี้เข้ามาวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ ผ่าน Samsung Brand Shop เท่านั้น เท่ากับว่ามีการนำซีรีส์ใหม่อย่าง Galaxy C Series เข้ามาวางเพิ่มอีกหนึ่งหลังจากที่มี Galaxy S , Galaxy A , Galaxy J หรือ Galaxy Note อยู่แล้วนั่นเองครับ ส่วนรุ่นนี้จะแตกต่างจากซีรีส์อื่นๆยังไงมาติดตามไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าครับ :D
ลองสัมผัส Galaxy C9 Pro
มาเริ่มกันที่เรื่องการดีไซน์กันก่อนเลย ซีรีส์นี้จะไม่เหมือนกับ Galaxy A ที่เน้นวัสดุแบบกระจกผสมกับโลหะ เพราะมาด้วยวัสดุแบบ Metal Unibody ที่ผสานไปได้อย่างลงตัวตามสไตล์มือถือที่เห็นๆกันบ่อยในยุคนี้ ตัวเครื่องมาพร้อมขนาดที่ใหญ่ถึง 162.9 x 80.7 x 6.9 มม.และน้ำหนักที่ราวๆ 189 กรัม แต่รวมๆแล้วก็ถือว่าจับได้ดีทีเดียวตัวด้วยความบางของตัวเครื่องที่ทำได้ดีและตัวฝาหลังที่ทำมุมโค้งลงไปนิดหน่อยให้จับถือได้สะดวก
ขนาดที่ใหญ่มหึมาของตัวเครื่องก็มาพร้อมขนาดหน้าจอที่ใหญ่สะใจเช่นกันรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full-HD เป็นชนิด Super Amoled แน่นอนว่าการแสดงผลทำได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคยยิ่งขนาดใหญ่แบบนี้ด้วยยิ่งเต็มตาเข้าไปใหญ่เนอะ
การดีไซน์ด้านหน้ารวมๆนี่คงความเป็น Samsung ได้เป็นอย่างดี เหนือหน้าจอมีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล , ลำโพงสนทนา , เซ็นเซอร์จับระยะ เซ็นเซอร์วัดแสง และไฟ LED แจ้งเตือน ดีนะรุ่นนี้มีไฟแจ้งเตือนมาด้วย (พวกรุ่น Galaxy A ยังไม่มีเลย ><)
ล่างหน้าจอมีปุ่มโฮมแบบกดที่สามารถสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย (ตรงนี้แอบชอบส่วนตัวที่กรอบปุ่มโฮมเป็นสีทองตามสีตัวเครื่องไปด้วยสวยดี ^^") ส่วน 2 ข้างก็เป็นปุ่มแบบสัมผัส Recent App และ Back ตามสไตล์ Samsung ครับ
ด้านหลังอย่างที่ได้เห็นไปแล้วมีเส้นเสาอากาศบางๆ 3 เส้น ทั้งบนและล่างวางไว้แบบพอเนียนไม่เด่นจนเกินไป
ตัวกล้องหลังเลนส์ก็ไม่ได้นูนออกมาจากตัวเครื่องจนน่าเกลียด (แต่ก็ยังนูนหน่อยๆ) ความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone ด้วย
รอบๆเครื่องมีการวางตำแหน่งเหมือนกับมือถือ Samsung ทั่วไป มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ทางฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง
ฝั่งขวามือปุ่ม Power ไว้เปิด-ปิดเครื่อง พร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ดและ Micro-SD แยกเป็น 3 Slot เลยรุ่นนี้ คือไม่ต้องมาแยกแบบไฮบริดแล้วว่าจะใช้ 2 ซิมหรือ 1 ซิม 1 เม็ม อันนี้ดี !
ด้านล่างเครื่องมีแจ็คหูฟัง 3.5 มม. , พอร์ทการเชื่อมต่อแบบ USB-C , ไมโครโฟนสำหรับสนทนาและลำโพงหลักของตัวเครื่อง
ส่วนด้านบนก็เรียบๆมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนครับ
สเปค Samsung Galaxy C9 Pro
- รัน Android 6.0.1 Marshmallow
- หน้าจอ Super Amoled ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full-HD
- ชิปประมวลผล Snapdragon 653 Octa-core 2.0GHz
- ชิปกราฟิก Adreno 510 GPU
- แรม 6GB
- รอม 64GB
- รองรับ Micro-SD 256GB
- แบตเตอรี่ 4,000mAh
- รองรับระบบ Fast Charge
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/1.9
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล f/1.9
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- รองรับ 2 ซิม
- วางจำหน่าย 2 สี ดำ , ทอง
จะเห็นว่าสเปคนั้นอยู่ในระดับกลางค่อนสูงเลยทีเดียว รอบนี้จัดเต็มมาด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 653 ตัวแรงเลย หน้าจอขนาดใหญ่ 6 นิ้ว แต่ที่น่าสนใจคือแรมที่ให้มามากสุด 6GB เรียกว่ามากที่สุดของสมาร์ทโฟน Samsung ตอนนี้ก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีกล้องหน้า-หลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลอีกต่างหาก จัดว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะสำหรับสเปคของรุ่นนี้
ประสิทธิภาพของ Galaxy C9 Pro
เห็นสเปคขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวมาดูคะแนนทดสอบจากแอป AnTuTu Benchmark กันดีกว่า ซึ่งด้วยขุมพลัง Snapdragon 653 และแรม 6GB นั้นก็ทำให้ดึงคะแนนไปได้สูงถึง 84,530 คะแนนเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องแรมที่ให้มามากถึง 6GB นั้น รุ่นนี้ก็เหลือใช้เยอะสะใจเลยที่ราวๆ 3.5 - 4.1GB เลย คราวนี้ก็หายห่วงเรื่องเครื่องอืดๆหรือใช้งานไม่ต้องเนื่องได้เลย รุ่นนี้เค้าจัดมาเต็มขนาดนั้นเลย ;D
ระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์เบื้องต้น
อย่างที่บอกว่า Galaxy C9 Pro นั้นเปิดตัวมาได้พักหนึ่งแล้ว ตัว OS หรือระบบปฏิบัติการก็ให้มาที่ Android 6.0.1 Marshmallow อยู่ อาจจะไม่ได้ใหม่ล่าสุดเท่ากับพวกรุ่นเรือธง แต่การใช้งานก็ทำได้ดีตามสไตล์มือถือ Samsung ยุคหลังๆ
หน้าตา UI ต่างๆเหมือนกับพวก Galaxy S7 หรือ Galaxy A 2017 ที่เป็น Grace UX ยังไงยังงั้น มีความเรียบและสะอาดตาใช้ได้ ไม่ได้ให้แอปมามากมายจนรกเครื่องแต่อย่างใด ส่วนเรื่องความลื่นไหลก็อย่างที่บอกครับ ทำได้ดีมากแล้วสำหรับสมาร์ทโฟน Samsung ยุคหลังๆ
แถบแจ้งเตือนด้านบนก็จะเป็นสีขาวเรียบๆ (สำหรับ Theme เริ่มต้น) มีพวก Toggle Switch ให้เลือกปรับเหมือนเคย แต่จะใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิมเพราะเราสามารถใช้ทางลัดด้านบนในการเข้าไปเลือกรายละเอียดได้เลย อาทิ Wi-Fi ก็เลือกเชื่อมต่อได้จากตรงนี้โดยไม่ต้องเข้าไปลึกๆใน Settings , Power Saving ก็กดทางเลือกย่อยว่าจะตั้งประหยัดพลังงานแบบไหนได้ เป็นต้น
หน้า Recent App ก็ยังเป็นรูปแบบการ์ดเหมือนของ Android 6.0 มาตรฐาน มีปุ่มให้เลือกใช้ Multi-Window ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Samsung อยู่ด้วย ซึ่งแอปที่รองรับ Multi-Window จะมีสัญลักษณ์ 2 จออยู่ตรงมุมขวาบนครับ หน้าจอใหญ่ๆแบบนี้ ใช้งาน Multi-Window ได้หนำใจกันเลยล่ะครับ อย่างที่เห็นเราจะเลือกเล่น Facebook ไปด้วยและดู YouTube ไปด้วยก็ทำได้สบายๆเลย แถมแรมรุ่นนี้ยังให้มามากถึง 6GB ไม่หน่วงแน่นอน :D
Samsung Themes บน C9 Pro ก็ยังมีมาให้เลือกปรับเหมือนเดิม ซึ่งรอบนี้นอกจากจะเปลี่ยนทั้ง Theme แล้วยังสามารถเลือกเปลี่ยนเฉพาะไอคอนได้ และทาง Samsung เองก็มีชุดไอคอนเฉพาะตามสีเครื่องออกมาให้เลือกปรับด้วย
Always On Display หลังๆนี่ก็มีมาให้แทบทุกรุ่นละ รุ่นนี้ก็เช่นกัน แต่น่าเสียดายที่รูปแบบ Layout ที่มีให้เลือกนั้นมีเพียงแค่นาฬิกา , ปฏิทินและรูปภาพเท่านั้น ไม่สามารถดาวน์โหลดรูปแบบใหม่ๆเพิ่มได้แบบรุ่นเรือธงเค้าน่ะนะ ส่วนการปรับแต่งให้เป็นนาฬิกา ปฏิทิน หรือรูปภาพก็เข้าไปได้ตั้งค่าได้ที่ Settings > Display , Always On Display ครับผม
ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบฉับไว
การสแกนลายนิ้วมือนี่คงเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนเดี๋ยวนี้แล้ว รุ่นนี้ก็มีมาให้เช่นเคยแถมเป็นแบบใหม่ด้วย ความเร็วก็ทำได้รวดเร็วครับ คือเพียงแค่แตะเบาๆที่ปุ่มโฮมเราก็สามารถปลดล็อคเครื่องได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องกดปลุกหน้าจอให้ติดขึ้นมาก่อนเลย ตรงนี้ถือว่าน่าสนใจทีเดียวครับ
Secure Folder โฟลเดอร์ลับเก็บเรื่องส่วนตัว
อีกหนึ่งฟีเจอร์แบบเดียวกีบพวก Galaxy A 2017 อย่าง Secure Folder โซนลับที่เอาไว้เก็บข้อมูลส่วนตัวไม่ให้ใครรู้ ก็ยังคงมีมาให้บนรุ่นนี้เช่นกัน โดยเราสามารถใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือในการปลดล็อคเข้าโซนนี้ได้ ภายในเราก็สามารถแบ่งแอปต่างๆจากโซนหลักได้อย่างสิ้นเชิง เราสามารถแยกแอป LINE ออกจากกันได้เป็นอีกหนึ่งแอปเลยล่ะ
บันเทิงสะใจด้วย Galaxy C9 Pro
มาเข้าเรื่องการใช้งานด้านมัลติมีเดียกันต่อ อย่างที่เห็น Galaxy C9 Pro จัดว่าเป็นแฟ็บเล็ตหน้าจอใหญ่สะใจด้วยขนาด 6 นิ้วแบบนี้การใช้งานดูหนัง ดูคลิปตาม YouTube นั้นจัดว่าเด็ดดวงมากๆ ขนาดใหญ่สะใจยังไม่พอ ชนิดหน้าจอ Super Amoled ยังแสดงผลได้สวยงามมากๆอีก แบบนี้การเสพคอนเท้นท์เรื่องภาพนี่หายห่วงครับ จะเอามาดูหนัง , ดูไฟล์รูป สุดๆ !
ส่วนเรื่องเสียงนั้นรุ่นนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน เพราะว่าลำโพงของรุ่นนี้เป็นแบบ Stereo เลยด้วยนะ ใช้งานควบคู่กันระหว่างลำโพงสนทนาและลำโพงหลักที่ด้านล่างอีกตัว ผสานกันเป็น 2 ตัวเพื่อให้ได้เสียงที่มีมิติมากขึ้น เรื่องความดังก็จัดเต็มมากๆ เรียกว่าถ้าใช้งานฟังเพลงหรือดูหนังด้วยลำโพงของตัวเครื่องนี่ทำได้ดีมากๆเลยสำหรับ Galaxy C9 Pro ตัวนี้
เล่นเกมก็เพลินๆไม่แพ้กันครับ เพราะรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 653 ตัวแรงสุดของซีรีส์ Snapdragon 600 ตอนนี้ การประมวลผลก็ทำได้ดีเอามากๆ สามารถเล่นเกมกราฟิกหนักๆใน Play Store ตอนนี้ได้อย่างสบายๆ และด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่และลำโพงคู่แบบจริงจังนี่ก็ยิ่งเสริมเรื่องการเล่นเกมให้ดีไปอีก :D
Game Launcher ลูกเล่นเล็กๆสำหรับเกมเมอร์ยังมีติดมาให้ด้วย อันนี้อาจจะไม่ได้ใหม่อะไร แต่ก็ถือเป็นฟีเจอร์เจ๋งๆที่ใส่เข้ามา Game Launcher จะเป็นไอคอนเล็กๆที่รูปจอยเกมสีแดง ในนี้จะมีตัวเลือกให้เลือกอยู่ 6 ตัวเลือก
- No Alert During game ปิดการแจ้งเตือนอื่นๆเวลาเล่นเกมอยู่
- Lock Recent and Back Keys ล็อคปุ่ม Recent Apps และปุ่ม Back กันเวลาเราไปกดโดน
- Screen Touch Lock ล็อคการสัมผัสหน้าจอ
- Screenshot แคปหน้าจอ
- Record อัดวิดีโอหน้าจอ
- Settings ตั้งค่าตัว Game Launcher
ถ่ายภาพสวยเนียนเซลฟี่ก็ชัดด้วยกล้องหน้า-หลัง 16 ล้านพิกเซล
เข้าสู่เรืองกล้องของรุ่นนี้ ตามหัวข้อเลยครับ รุ่นนี้จัดเต็มมาด้วยกล้องหน้า-หลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มี f/1.9 เท่ากันด้วย เช่นเดียวกับตอน Galaxy A 2017 เลย ตัวเลนส์กล้องของรุ่นนี้ก็ไม่ได้นูนยื่นออกมาจากตัวเครื่องจนเป็นปัญหาอย่างรุ่นก่อนๆแล้วนะ
UI การเข้าถึงก็เหมือนกับพวกรุ่นใหญ่ครับ ใช้งานง่ายด้วยการสไลด์ซ้าย-ขวาเลือกโหมดเลือกเอฟเฟกต์สี หรือจะสไลด์ขึ้น-ลงเพื่อสลับกล้องหน้า-หลังเป็นต้น ตัวโหมดที่ให้มาก็แบบเดียวกับพวก Galaxy A ครับ มี Auto , Pro , Panorama , Continuous , HDR , Night และ Food หลักๆประมาณนี้ จริงๆเรายังสามารถดาวน์โหลดโหมดเพิ่มได้อีก 3 โหมดกดที่ปุ่ม Download ด้านบนได้ครับ
ตัวกล้องไม่มีโหมด HDR Auto ที่จะเลือกปรับเปิด-ปิดให้เองตามสถานการณ์นะครับ เราต้องใช้โหมด HDR (Rich Tone) แทนถ้าอยากถ่ายภาพย้อนแสง ส่วนโหมด Pro นั้นยังคงน่าเสียดายเช่นเคยที่ไม่เปิดให้เราปรับค่าจำเป็นๆอย่าง Shutter Speed หรือ ระยะโฟกัส ในนี้เราจะสามารถปรับเลือกได้เพียง Whie Balance , ISO และ EV เท่านั้น (ดูไม่ค่อยโปรเลยอะ ><)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Galaxy C9 Pro
คุณภาพจากกล้องหลังของรุ่นนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆครับ สีสันในแสงปกตินั้นทำได้ดีอยู่ รายละเอียดและความคมชัดก็เช่นกันครับ แต่ก็ไม่ได้เด่นในเรื่องแสงน้อยเท่าไหร่เพราะไม่ได้มีระบบกันสั่น OIS มาให้ รวมๆถือว่าใช้ถ่ายทั่วๆไปได้ แต่ถ้าคาดหวังว่าจะสวยคมในที่แสงน้อยเหมือนพวกรุ่นเรือธงอันนี้คงต้องบอกว่ายังไม่ถึงขั้นนั้นนะ ^^"
กล้องหน้านี่เด็ดใช้ได้ล่ะ น่าจะเป็นอีกจุดที่หลายๆแบรนด์ก็เน้นกันมาสำหรับเรื่องกล้องหน้าความละเอียดสูงๆ รุ่นนี้ก็จัดมาสูงจริงด้วย 16 ล้านพิกเซล f/1.9 โหมดการปรับแต่งยังคงให้มาพอกรุบกริบแบบ Samsung (แต่ก็ใช้งานได้จริง) อาทิ หน้าเนียน , ตาโต หรือจะเป็นโทนสีของภาพอยากได้โทนร้อน-เย็นก็ปรับได้ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ Galaxy C9 Pro
จะเห็นว่าคุณภาพกล้องหน้าของรุ่นนี้ไม่ธรรมดาเลยล่ะ เพราะด้วยความละเอียดที่สูงขนาดนี้รายละเอียดก็ครบถ้วนดี แถมยังดูไม่เบลอแบบกล้องหน้า Samsung ก่อนหน้านี้แล้วด้วย และด้วย f/Stop ที่กว้าง พอเราเซลฟี่ที่ฉากหลังห่างมากๆ ก็จะได้ระยะชัดตื้น (หน้าชัด-หลังเบลอ) ได้สวยทีเดียวครับ
แบตเตอรี่ 4,000 mAh ใช้งานเต็มๆ
ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะมีความบางเพียง 6.9 มม. แต่ภายในก็ซ่อนแบตเตอรี่ความจุเยอะถึง 4000 mAh อยู่ด้วย ซึ่งถ้าเทียบความจุแบตฯกับไซส์หน้าจอและสเปคต่างๆก็ถือว่ากำลังลงตัวเลยครับ ถึงจะไม่ได้เยอะมากเท่า A9 Pro แต่ก็แลกมากับตัวเครื่องที่บางเฉียบเอามากๆเนาะและจากการทดสอบใช้จริง เรียกว่าอึดใช้ได้ครับ ใช้งานทั่วๆไปนี่ได้วันครึ่งกันเลยก็มี
ส่วนเรื่องระบบชาร์จก็รองรับ Fast Charge ของ Samsung แบบเดียวกับรุ่นพี่ทั้งหลายเลย หายห่วงเรื่องแบตเตอรี่ที่ความจุเยอะๆแล้วชาร์จนานไปได้เลย :D
ราคา 16,900 บาท
ปิดท้ายกันที่เรื่องราคา Galaxy C9 Pro นี้เปิดราคาค่าตัวมาที่ 16,900 บาท และจะวางจำหน่ายเฉพาะที่ Samsung Brand Shop เท่านั้น นะครับ สำหรับเพื่อนๆที่สนใจก็ลองไปสอบถามและลองจับลองเล่นกันดูก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจเนอะ ^^
สรุปความน่าฟาด
Galaxy C9 Pro ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟน Samsung ที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะด้วยความใหญ่และจัดเต็มในหลายๆด้าน ทั้งหน้าจอ 6 นิ้ว เต็มตา , สเปค Snapdragon 653 แรม 6GB เต็มแรง , กล้องหน้า-หลัง 16 ล้านพิกเซล เต็มความละเอียด แบบนี้ เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่ชอบแฟ็บเล็ตที่เติมเต็มในเรื่องความบันเทิงดีจริงๆ แถมดีไซน์ก็ยังสวยลงตัว ขนาดไม่ใหญ่จนเทอะทะอีกต่างหาก จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่ครบเครื่องมากๆอีกรุ่นนึงเลยทีเดียวครับ :D
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่แสดงผลได้สะใจ เต็มตา
- ดีไซน์สวย , แข็งแกร่งและบางเพียง 6.9 มม.
- สเปคจัดเต็มแรม 6GB
- กล้องหน้า-หลัง 16 ล้านพิกเซล f/1.9
- หน่วยความจำภายใน 64GB รองรับ Micro-SD 256GB ด้วย
- ปุ่มโฮมสแกนลายนิ้วมือทำได้รวดเร็วและดีงาม
- ลำโพงคู่เสียงแจ่ม
- รองรับ 2 ซิมและ 1 Micro-SD แบบครบถ้วนด้วยถาดแบบ 3 Slot
จุดสังเกต
- โหมดกล้อง Pro ไม่สามารถปรับค่าจำเป็นๆได้
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite