Preview : Samsung Galaxy S8/S8+ สองเรือธงที่จะมาพลิกโฉมความสวยงามบนสมาร์ทโฟนที่คุณเคยรู้จักกับดีไซน์แบบไร้กรอบ ไร้ปุ่ม !!
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความพรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆกับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย แน่นอนว่าสมาร์ทโฟนที่เราจะมาพรีวิวให้ชมกันวันนี้จะเป็นรุ่นไหนไปไม่ได้นอกจาก Galaxy S8 และ S8+ สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของ Samsung ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปสดๆร้อนเมื่อสักครู่นี้เอง โดยรอบนี้เราคงได้ข่าวคราวกันมาอยู่บ้างแล้วว่าจะมีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ที่ต่างจากเดิมๆพอสมควร ส่วนรายละเอียดอื่นๆที่เรายังไม่ทราบมาก่อนอย่างเรื่อฟีเจอร์ หรือสเปคภายในจริงๆ เอาเป็นว่า อย่ารอช้าดีกว่า ได้เวลามาชมพรีวิวของเรือธงรุ่นใหม่นี้กันแล้ว :D
แรกสัมผัส Samsung Galaxy S8 / S8+
เริ่มแรกเรามาดูเรื่องของการดีไซน์และรูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนเลย รอบนี้เรียกว่าหลุดหน้าตาออกมาก่อนซะยกใหญ่จนอาจจะดูไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นัก แต่พอได้มาเห็นตัวจริงแล้วต้องบอกเลยว่าว้าวกว่าที่คิด หน้าตาดูสวยยกระดับขึ้นจาก Galaxy S7 Edge ที่มีหน้าจอโค้งพอสมควร เพราะด้วยหน้าจอโค้งที่เนียนตากว่าเดิม มาพร้อมดีไซน์แบบไร้ขอบและไร้ปุ่มโฮม ไม่มีโลโก้หรือปุ่มกดอะไรมาอยู่ที่ด้านหน้าแล้ว ทำให้รู้สึกถึงความเต็มตาของหน้าจอได้อย่างจริงจัง
หน้าจอแสดงผลรอบนี้จะเป็นหน้าจอโค้งทั้ง 2 รุ่นแล้ว ทำให้มีความคล้ายคลึงกันมากกว่าเดิม จุดที่แตกต่างออกไปคือขนาดหน้าจอ โดยรุ่น S8 ปกติจะมีขนาด 5.8 นิ้ว ส่วน S8+ จะมีขนาด 6.2 นิ้วทั้งคู่มาพร้อมชนิดหน้าจอ Super Amoled เหมือนเคย มีความละเอียดอยู่ที่ 2960 x 1440 พิกเซล ตรงนี้จะเห็นว่าความละเอียดดูแปลกไม่คุ้นหูเท่าไหร่ เพราะรุ่นนี้มาพร้อมอัตราส่วนหน้าจอแบบใหม่ที่ 18.5:9 เลยมีสัดส่วนที่ยาวกว่ารุ่นปกติอยู่เยอะทีเดียวล่ะ
Galaxy S8 และ S8+ มาพร้อมความละเอียดหน้าจอสูงสุดถึง WQHD+ แต่ค่าเริ่มต้นนั้นจะตั้งมาที่ FHD+ เพื่อความประหยัดของแบตเตอรี่น่ะนะ แต่เราก็สามารถไปปรับค่าเพิ่มเติมได้จากในการตั้งค่าครับ
ด้วยการจัดวางหน้าจอเต็มพื้นที่แบบนี้ทำให้ถึงแม้จอจะใหญ่มากๆแบบนี้ แต่ขนาดตัวเครื่องไม่ถือว่าใหญ่มากเท่าไหร่ ขนาดตัวเครื่องยังจับถือได้ถนัดและพอใช้งานมือเดียวได้บ้าง (สำหรับ Galaxy S8)เทียบๆแล้วใกล้เคียงกับตอน S7 Edge อยู่พอสมควร (แอบเล็กกว่าด้วยนะ) แต่ได้ขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าระดับนึงเลยทีเดียวยิ่งถ้าเป็นรุ่น S8+ จะเห็นเลยว่ามือถือขนาดหน้าจอ 6.2 นิ้วแต่พอมาอยู่บนมือผมแล้วก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมายอะไร ดูจะเหมาะมือน่าใช้เอามากๆซะด้วยสิ
น้ำหนักของตัวเครื่องทำได้ดีทีเดียว ในรุ่น S8 ปกตินั้นจะอยู่ที่ราวๆ 155 กรัมเท่านั้น ส่วนรุ่นพี่ S8+ นั้นขนาดและน้ำหนักก็อยู่ในเกณฑ์กำลังดีครับไม่ได้หนักจนเกินไปถ้าเทียบกับขนาดหน้าจอระดับนี้แล้วยังถือว่าเบาด้วยซ้ำนะเออ
วัสดุและงานประกอบของรุ่นนี้ยังคงใช้รูปแบบกระจกโค้งทั้งหน้า-หลังและกรอบเครื่องโลหะเหมือนเคย แต่ถ้าดูดีๆแล้วรุ่นนี้แอบคล้ายกับ Galaxy Note 7 มากกว่า Galaxy S7 Edge นะ เพราะด้วยความโค้งของกระจกทั้งหน้าและหลังประกบเข้ากับกรอบโลหะได้อย่างลงตัวเนียนเกือบจะไร้รอบต่อ ทำให้เวลาเราจับถือนั้นให้ความรู้สึกยอดเยี่ยมไม่น้อยเลยล่ะ
เหนือหน้าจอรุ่นนี้ให้อะไรมาเยอะแยะไปหมดเลย เริ่มจากซ้ายสุดมีไฟ LED แจ้งเตือน , ไฟ Infrared สำหรับทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์สแกนม่านตา , เซ็นเซอร์วัดแสงและจับระยะ , ลำโพงสนทนา , กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และสุดท้ายเป็นเซ็นเซอร์สแกนม่านตา Iris Scanner เช่นเดียวกับที่เคยเห็นบน Galaxy Note 7 ครับ
ปุ่มโฮมถึงแม้จะไม่มีแบบปุ่มกดจริงๆแล้ว แต่รุ่นนี้ก็ยังมีปุ่มโฮมบนหน้าจอ (On Screen Button)อยู่ ซึ่งตัวปุ่มโฮมหรือปุ่มตรงกลางนี้ยังมีตัว Habtic Feedback หรือระบบสั่นเล็กๆอยู่ด้วย ซึ่งถ้าเรากดค้างแรงๆลงไปก็จะรู้สึกสั่นและใช้งานเป็นปุ่มโฮมได้เลย แม้ว่าหน้าจอจะปิดอยู่ก็ตามครับ
ซึ่งพอปุ่มเป็นแบบบนจอแบบนี้เราก็สามารถปรับแต่งสีสันให้แปลกตามสไตล์เราได้อีกด้วยนะ
พลิกกลับมาด้านหลังจะเห็นการดีไซน์ที่คงเอกลักษณ์ของ Samsung ไว้ได้อย่างดี ตำแหน่งยังคงคล้ายๆเดิมทั้งหมด มีเลนส์กล้องหลังอยู่ตรงกลางเด่นๆ , ไฟแฟลช LED และ Heart Rate Monitor ถูกย้ายมาทางซ้ายมือของตัวกล้องแทน ข้างกล้องด้านขวามีการเพิ่มเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้ามาแทนที่แล้วหลังจากที่ตัดปุ่มโฮมสแกนลายนิ้วมือด้านหน้าออกไป
ตัวเลนส์กล้องของรอบนี้มีความนูนออกมาจากตัวเครื่องน้อยลงมาก ถึงไม่ถึงกับเรียบเนียนไปกับตัวเครื่องเลยก็เถอะ แต่ว่านูนออกมาน้อนจนแทบจะไม่รู้สึกเลยตรงนี้ดีมากๆ
รอบๆตัวเครื่องการวางตำแหน่งยังคล้ายๆเดิม ด้านล่างมีแจ็คหูฟัง , พอร์ทการเชื่อมต่อแบบ USB-C , ไมโครโฟนสำหรับสนทนาและลำโพงหลักของตัวเครื่อง
ด้านบนมีช่องใส่ซิมการ์ดแบถาดซิมไฮบริดและไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน
ด้านขวามีปุ่ม Power วางอยู่ปกติตามเดิมครับ
ส่วนด้านซ้ายมือของตัวเครื่องรอบนี้มีการเพิ่มปุ่มกดเข้ามาอีกหนึ่งปุ่มถัดจากปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงเดิม ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นปุ่มผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby ตัวใหม่ของทาง Samsung นั่นเองฮะ
รวมๆแล้วดีไซน์ของทั้ง 2 รุ่นนั้นแทบจะเหมือนกันไปหมดเลย ยกเว้นเรื่องขนาดตัวเครื่องเท่านั้นที่เห็นความต่างได้ชัดเจนหน่อย ซึ่งถ้าให้พูดถึงเรื่องดีไซน์รวมๆของเรือธงในรอบนี้ก็ถือว่ามีการปรับให้ดูเข้ารูปและน่าสัมผัสมากขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีก ทั้งในเรื่องขนาดตัวเครื่องที่จับถนัดมือมากขึ้น (S8 เทียบกับ S7 Edge)และความใหญ่ชัดเจนมากขึ้นจากหน้าจออัตราส่วนแบบใหม่ แต่จุดสังเกตของรุ่นนี้ก็คือการย้ายเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาไว้ด้านหลังเครื่อง
สีสันของ Galaxy S8 และ S8+ ในรอบนี้ก็จะมีมาให้เลือก 5 สีสันมากมายเลย ทั้ง Midnight Black (ดำเงา) , Artic Silver , Blue Coral , Gold Platinum และ Orchid Grey สีใหม่ แต่รอบนี้อาจจะดูคล้ายกันไปหมดเพราะกระจกด้านหน้านั้นจะมาพร้อมกับสีดำทั้งหมดทุกรุ่น สีสันจะแตกต่างกันที่ด้านหลังเครื่องแทน
สเปค Samsung Galaxy S8 / S8+
- รัน Android 7.0 Nougat ครอบด้วย Grace UX เวอร์ชั่นใหม่
- หน้าจอ Super Amoled โค้ง 5.8 นิ้ว (S8)/ 6.2 นิ้ว (S8+)ความละเอียด QHD+ 2960x1440 พิกเซล อัตราส่วน 18.5:9
- หน่วยประมวลผล Exynos 8895 Octa-core
- แรม 4GB
- รอม 64GB
- รองรับ Micro-SD สูงสุด 256GB
- แบตเตอรี่ 3000 mAh (S8) / 3500 mAh (S8+)
- รองรับระบบ Fast Charge
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับ Auto-Focus f/1.7
- กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล รองรับ Auto-Focus f/1.7
- รองรับ 2 ซิมผ่านถาดซิมไฮบริด
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง
- กันน้ำกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP68
เรื่องสเปคของทั้งคู่ก็ยังคงเหมือนกันแทบทุกจุด ทั้งหน่วยประมวลผล , แรม , รอม หรือกล้องถ่ายภาพ จุดที่แตกต่างก็อย่างที่บอกครับขนาดหน้าจอ และแบตเตอรี่เท่านั้น ซึ่งถ้าดูจากสเปคหลักๆของเรือธงรุ่นนี้ก็มีการอัพเกรดขึ้นมาจาก Galaxy S7 / S7 Edge พอสมควรหลักๆก็แน่นอนหน่วยประมวลผลที่อัพขึ้นมาเป็น Exynos 8895 ชิปเซ็ตตัวแรงใหม่ของ Samsung , รอม 64GB เพิ่มมาจากเดิมเท่าตัว , กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเพิ่มระบบ Auto-Focus เข้ามาแล้วด้วย
จุดนึงที่น่าสนใจในสเปคของ Galaxy S8 ในรอบนี้คือยังคงให้แรมมาที่ 4GB อยู่หลังจากที่เมื่อปลายปีที่แล้วตอน Note 7 ก็มีหลายคนผิดหวังเล็กๆกับตอน Note 7 ไปบ้าง แต่พอมารอบนี้ก็ยังใช้เท่านี้อยู่ แสดงว่าทาง Samsung นั้นเชื่อมันว่าแรมเท่านั้นพอต่อการใช้งานและปรับแต่งมาให้อย่างลงตัวได้ดีพอสมควรเลยทีเดียวล่ะ
ฟีเจอร์เด่นบน Galaxy S8/S8+
นอกจากหน้าตาโดยรวมที่เรียกว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ความสามารถพิเศษของ Galaxy S8 นั้นก็ถูกเพิ่มเติมเข้ามาจนรู้สึกถึงความใหม่ได้เป็นอย่างดีทีเดียว อย่างแรกเลยก็คงเป็นหน้าจอที่เป็นอัตราส่วนแบบใหม่นี้ ทาง Samsung ใช้ชื่อเรียกว่า Infinity Display ที่แสดงผลได้เต็มตากว่าเดิม ที่เห็นได้ชัดก็คงเป็นเรื่องการดูไฟล์วิดีโอคลิปที่มีความกว้างมากๆระดับโรงภาพยนตร์แบบ 21:9 ที่ถ้าบนหน้าจอแบบ 16:9 เดิมเราจะเห็นขอบหน้าจอดำๆมาขัดตาอย่างเยอะเลย แต่ถ้าเป็นบนอัตราส่วนแบบนี้ก็จะยิ่งขนาดให้เต็มมากขึ้น (แต่ถ้าเป็นวิดีโอ 16:9 ก็จะเพิ่มขอบดำด้านข้างเข้ามาแทนน่ะนะ)
ในเรื่องของ Multi-Window ก็ด้วย ปกติการแสดงผล 2 หน้าจอมักจะเจอปัญหาเวลาเราใช้งานจอที่ 2 แล้วต้องพิมข้อความ ก็จะเจอปัญหาคีย์บอร์ดเด้งขึ้นมาบังพื้นที่หน้าจอเต็มไปหมด แต่ถ้าเป็นจอแบบใหม่ที่ยาวแบบนี้ก็หายห่วงครับ เหลือพื้นที่ให้มองแอปด้านบนและล่างพอสมควรเลย
ในเรื่องซอฟต์แวร์ที่รอบนี้หน้าตาต่างๆถูกปรับเปลี่ยนไปอีกครั้ง จากเดิมที่มีความเรียบเนียนสบายตามากๆอยู่แล้ว รอบนี้ก็มีการปรับเปลี่ยนไปอีก อย่างไอคอนจะเรียบและสื่อสารได้ชัดเจนมากขึ้น เน้นใช้สีแบบ Two-Tone เด่นๆ แถมยังแยกแยะสีสันตามหมวดหมู่ของไอคอนอีกด้วย อย่างการสื่อสารพวกแอปโทรศัพท์ก็จะเป็นสีเขียว ส่วนพวกแอปข้อมูลข่าวสารก็จะเป็นสีส้มเป็นต้น ระบบปฏิบัติการรุ่นนี้เป็น Android 7.0 Nougat มาให้เลย ครอบด้วย Grace UX เวอร์ชั่นใหม่มีการซ่อนปุ่มเรียก App Drawer ออกไปแล้ว เราจะสามารถเข้าหน้ารวมแอปได้จากการเลื่อนหน้าจอขึ้นไปคล้ายกับพวก Google Launcher ของ Pure Android ประมาณนั้นเลยครับ
Edge Screen ยังคงติดมาให้เหมือนเคย เราสามารถแบ่งแอปทางลัดขึ้นมาตรงด้านข้างนี้เช่นเคย แต่จุดที่ถูกเพิ่มเข้ามาก็คือตัว Smart Select ที่เคยเห็นอยู่บน Galaxy Note Series บนรุ่นนี้ก็ติดมาให้ด้วย ความสามารถอย่างการครอปรูป หรือ GIF Maker ก็ติดมาเลย น่าสนใจดีฮะ
ปุ่มสแกนลายนิ้วมือทำงานได้รวดเร็ว แต่ตำแหน่งแอบขัดๆ เนื่องจากตัดปุ่มโฮมสแกนลายนิ้วมือออกไปแล้ว การสแกนลายนิ้วมือก็เลยต้องย้ายมาอยู่ด้านหลังเครื่องแทน แต่ตำแหน่งนั้นอยู่แปลกไปนิดคือเอาไว้ข้างๆตรงเลนส์กล้องแทน (ตำแหน่ง Heart Rate เดิม) ทำให้การสแกนจริงๆต้องใช้การเอื้อมนิ้วขึ้นไปนิดหน่อย และด้วยความที่เซ็นเซอร์ไม่ได้อยู่ตรงกลาง บางครั้งเราก็อาจจะเผลอเอื้อมไปโดนเลนส์กล้องทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายๆน่ะครับ
แต่ถ้าด้านหลังสแกนลำบากนัก งั้นย้ายมาสแกนด้านหน้าด้วยเซ็นเซอร์สแกนม่านตาเอาก็ได้ รุ่นนี้ใส่ฟีเจอร์แบบเดียวกับตอน Note 7 มาให้เลย การทำงานก็รวดเร็วแบบเร็วมากๆ เพียงแค่กดปลุกจอ สไลด์จอแล้วเอาตาไปจ่อ (จริงๆเรียกว่าแค่ผ่านไปโดยเซ็นเซอร์ก็ได้) ก็ปลดล็อคได้แล้ว นอกจากนี้ยังใช้งานกับแอป Secure Folder , Samsung Pay ได้ดีกด้วยนะ
Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะ อีกจุดที่ถูกเพิ่มเข้ามาบนรุ่นนี้และน่าสนใจมากๆก็คือ Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะที่เราสามารถช่วยให้จัดการอะไรๆในเครื่องได้ อาทิ ให้ตั้งเวลาปลุก , ทำตารางนัดหมาย เป็นต้น
นอกจากนี้เจ้าระบบนี้เรายังให้มันค้นหาสิ่งที่สนใจได้จากภาพถ่ายด้วย อาทิ เราอยากรู้ว่าอุปกรณ์นี้มันเรียกว่าอะไรนะ หาซื้อได้ที่ไหน ก็ถ่ายภาพนั้นแล้วให้เจ้า Bixby นี่เซิร์ธหาได้เลย
กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล Dual-Pixel และรูรับแสงกว้าง f/1.7
ตัวฮาร์ดแวร์กล้องหลังของ S8 และ S8+ นั้นยังมีความะเอียดเท่าเดิมที่ 12 ล้านพิกเซล แต่ตัวซอฟต์แวร์ต่างๆจะฉลาดมากขึ้น ถ้าในที่แสงน้อยที่ต้องการภาพความละเอียดชัดๆ รายละเอียดครบๆตัวกล้องก็จะใช้การถ่ายภาพประมาณ 3 ภาพแล้วรวมเข้าเป็นภาพเดียวเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามและคมชัดมากขึ้น หรืออย่างตอนซูมก็จะใช้การรวมภาพ 5 ภาพเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดและเสียรายละเอียดน้อยที่สุดครับ
ตัวฟีเจอร์ Quick Launch ที่ถึงแม้จะตัดปุ่มโฮมออกไปเราก็ยังใช้การกดปุ่ม Power 2 ครั้งเพื่อเข้าโหมดลัดเข้าแอปกล้องได้อีกนะ ถือว่ายังไม่ทิ้งความเร็วในการถ่ายได้อีก
กล้องหน้ามีความละเอียดเพิ่มมาเป็น 8 ล้านพิกเซล และมีระบบ Auto-Focus ช่วยในเรื่องความคมชัดของภาพด้วย การถ่ายภาพก็สวยเนียนขึ้น ใช้โหมด Selective Focus หรือหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วยนะ
หรือจะเป็นสติกเกอร์หน้าตาน่ารักๆก็มีติดมาให้ในตัวกล้องเลย อยากได้หน้าการ์ตูนแนวไหนก็เลือกเอาเลยครับ
ระบเสียงรอบนี้ก็อัพเกรดนะ Galaxy S8 และ S8+ นั้นรองรับระบบเสียงแบบ 32-Bit ได้แล้ว ด้วยความที่ฮาร์ดแวร์ภายในดีแบบนี้แล้ว อุปกรณ์เสริมที่แถมมาก็ต้องจัดเต็มไม่แพ้กันเพราะรอบนี้เค้าแถมหูฟัง AKG ให้เลยด้วยนะ คุณภาพดีเยี่ยมน่าใช้เลยล่ะ แถมสายยังเป็นแบบผ้าไม่มีปัญหาเวลายัดๆสายลงกระเป๋าแน่นวล :D
ความรู้สึกหลังทดลองจับ
ต้องบอกว่ารอบนี้การดีไซน์ของ Galaxy S8 / S8+ ทำออกมาได้น่าประทับใช้มาก ด้วยดีไซน์แบบไร้ขอบ ไร้ปุ่มแบบนี้ ทำให้การแสดงผลทำได้เต็มตาในขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกิดไป ลงตัวต่อการจับถือและพกพาเอามากๆ หน้าจอที่ยาวขึ้นก็ดูใช้งานได้หลากหลายอีกเยอะ สเปคที่ลงตัวอยู่แล้วเพิ่มนิดเพิ่มหน่อยมาให้เหมาะกับการใช้งานได้อย่างดี เรื่องระบบความปลอดภัยที่ใส่มาทั้ง Iris Scanner และ Fingerprint Scanner ก็ยิ่งทำให้เราหายห่วงได้เป็นอย่างดี (ถึงแม้สแกนลายนิ้วมือจะแอบใช้ยากไปหน่อยก็เถอะ) รวมๆแล้วเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ S ที่น่าใช้มากๆรุ่นนึงเลยล่ะ เรียกว่ารอบนี้ทาง Samsung แก้จุดบกพร่องหลายๆอย่างจากรุ่นเดิมได้เป็นอย่างดีเลย ทีเหลือก็แค่ราคาวางจำหน่ายแล้วแหละแบบนี้ :P
ก่อนจากกันไปก็อีกเช่นเคย เรามีภาพเปรียบเทียบกับ Galaxy S7 Edge เรือธงรุ่นเก่ากับ Galaxy S8 / S8+ เรือธงรุ่นใหม่มาฝากกันอีกเช่นเคย ไปชมเต็มๆได้จากด้านล่างนี้เล้ย :D
สำหรับราคาเปิดตัวพร้อมวันวางจำหน่ายนั้นทาง Samsung ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ เอาไว้มีข้อมูลมาเมื่อไหร่จะรีบอัพเดทให้ทราบกันเลยล่ะ สำหรับวันนี้คงต้องจบการพรีวิวไว้แค่นี้ก่อน ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ ^^
ส่วนใครสนใจ Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ สามารถเข้าไปคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2nC4YWE
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite