ดีไซน์
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกคนนะคะ กู๊ดดรีม TechXcite วันนี้จะมารีวิวที่สุดแห่งเรือธงจากบ้าน Samsung อย่าง Samsung Galaxe S21 Ultra ตัวใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อมกราคมที่ผ่านมา หลังจากใช้งานกันมาสักระยะแล้ว จะมาเล่าให้ทุกคนฟังกันว่า S21 Ultra ตัวนี้มันมีดียังไง ควรซื้อหรือไม่ บทความนี้จะมาตอบปัญหาของทุกคนกัน
ดีไซน์
สำหรับหน้าจอของ S21 Ultra ให้มาใหญ่จุใจถึง 6.8 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ ซึ่งเป็นหน้าจอความละเอียดสูง รูปแบบ Dynamic Amoled 2X ให้จอคมชัดและสีสันสวยขึ้น หรือเรียกได้ว่านี่คือมือถือที่จอสวยที่สุดแล้วของ Samsung ความสวยของจอให้เต็มสิบไปเลย ดูหนังฟังเพลงได้อย่างอิ่มอกอิ่มใจ
เรื่องการตอบสนองของหน้าจอรองรับ Adaptive Refresh Rate 10Hz - 120Hz ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม ความลื่นไหลของหน้าจอทำได้น่าประทับใจมากๆ ใช้งานได้ลื่นนิ้วดี ค่าความสว่างสูงสุด 1500nits ใช้งานกลางแจ้งหรือพื้นที่แสงแดดลงจัดก็ยังเห็นหน้าจอสว่างอยู่ แล้วยังมีฟีเจอร์การตัดแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตาอีกด้วย
มาดูที่ฝาหลังกันบ้างสีที่ดรีมกำลังจับอยู่มีชื่อสีว่า Phontom Black ซึ่งมันเป็นการเคลือบพิเศษที่จะให้สีที่ดำสนิท สะท้อนแสงแดดแสงไฟอะไรก็ยังเห็นเป็นสีดำ ส่วน Texture ฝาหลังเป็นแบบด้านให้สัมผัสในการจับถือดี
มาดูที่โมดูลกล้องกันบ้าง ต้องบอกว่าดีไซน์ค่อนข้างหนาและนูนออกมาจากฝาหลังค่อนข้างมากทีเดียว ซึ่งจุดนี้บางคนอาจจะไม่ค่อยถูกใจ และชอบฝาหลังแบบราบเรียบมากกว่าแต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ กล้องหลังจัดวางกันแน่นๆ 5 ตัวเป็นเลนส์ขนาดใหญ่ 3 ตัว และ 2 ตัวเล็กๆอยู่อีก 1 แถว แต่ละชิ้นเลนส์มันใช้งานอะไรบ้างนั้นจะมาเล่าให้ฟังกันต่อไป
โดยรวมเรื่องของดีใส่มีการออกแบบให้ดูเรียบง่ายแต่มีความ premium เรื่องการจับถือจัดว่ามีน้ำหนักพอสมควรตัวเครื่องค่อนข้างหนา บวกกับตำแหน่งของโมดูลกล้องที่นูนออกมาจากฝาหลังยิ่งเสริมให้โดยรวมตัวเครื่องค่อนข้างหนา ความประทับใจเลยก็คือเรื่องของความสวยงามหน้าจอ ทั้งความละเอียดความคมชัด และความลื่นไหลในการใช้งาน ต้องยอมเรื่องจอให้เขาจริงๆ
สเปคการใช้งาน
- หน้าจอ Dynamic Amoled 2X 6.8 นิ้ว
- ความละเอียด WQHD+, Refresh Rate 120Hz, รองรับการแสดงผล HDR10+
- ซีพียู Exynos 2100 Octa-core (5nm)
- จีพียู Mali-G78 MP14
- แรม 12/16GB
- ความจุ 128GB/256GB/512GB
- ไม่รองรับ micro-SD
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับ Super-Fast Charge 25W และ Wireless Charge 15W
- กล้องหน้า 40MP f/2.2
- กล้องหน้ารองรับวิดีโอ 4K 60fps
- กล้องหลัง 4 ตัว
- 108MP กล้องหลัก f/1.8
- 12MP เลนส์ Ultra-Wide f2.2
- 10MP เลนส์ Tele Optical 3X f/2.4
- 10MP เลนส์ Periscope 10X f/4.9
- กล้องหลังรองรับวิดีโอ 8K
- รองระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- กันน้ำกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP68
- รัน Android 11 ครอบด้วย One UI 3.1
ชิปเซ็ตของ S21 Ultra รวมไปถึง S21 Series ทั้งสามรุ่นใช้ชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุด CPU Exynos 2100 Octa-core (5nm) ให้ประสิทธิภาพแรงขึ้น 20% GPU แรงขึ้น 35% และ NPU (AI) สูงขึ้น 2 เท่าตัว ที่สำคัญคือรองรับ 5G ทำงานควบคู่กับ RAM12GB/16GB ความจุมีให้เลือกตั้งแต่ 128GB/256GB/512GB ส่วนรุ่นที่นำมารีวิวกันคือรุ่น RAM12GB+ROM128GB
การเล่นเกมส์และการดูหนังฟังเพลง
มาดูเรื่องของการเล่นเกมกันบ้างแน่นอนว่าเป็นมือถือตัวท็อปแบบนี้ เรื่องการเล่นเกมสามารถทำได้ลื่นไหลไม่มีจังหวะของการดีเลย์เครื่องหลวงหรือเครื่องกระตุกเกิดขึ้นเลย เพราะฉะนั้นดรีมจะมาเล่าให้ฟังถึงองค์ประกอบร่วมในการเล่นเกมก็แล้วกัน เรื่องแรกก็คือความสวยงามของหน้าจออย่างที่บอกไป ว่านี่คือจอที่สวยที่สุดของ Samsung เรื่องความสวยงามของภาพ ทั้งความคมชัดและก็ภาพกราฟิกต่างๆ ทำออกมาได้สวยตระการตามากๆ เก็บรายละเอียดต่างๆในเกมได้อย่างดี ทั้งรอยหยดน้ำฝน รอยฝีเท้าในเกม เราสามารถเห็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ซ่อนอยู่ในกราฟิก ซึ่งถ้าเล่นผ่านจอทั่วๆไป เราแทบจะไม่เห็นรายละเอียดเล็กๆนี้เลย
ต่อมาเรื่องของความลื่นไหล ด้วยความที่เป็นหน้าจอ Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz จึงสามารถเล่นได้อย่างเพลิดเพลินเป็นธรรมชาติเนียนตามากๆ และที่สำคัญคือมันเป็น Adaptive Refresh Rate เราจึงสามารถตั้งค่าความลื่นไหลของหน้าจอได้โดยประหยัดพลังงานอีกด้วย
มาดูอีกหนึ่งเรื่องสำคัญอย่างแบตเตอรี่กันบ้าง ดรีมทดสอบเล่นเกมทั้งหมด 2 แบบ เริ่มจากครั้งแรกตั้งค่าความละเอียดทุกอย่างสูงสุด เล่นเกมเป็นเวลา 1 ชั่วโมง แบตเตอรี่จาก 100% หายไปถึง 22% ทีนี้รอบที่ 2 ทำการปรับตั้งค่ากลางๆตามคำแนะนำของเครื่อง คราวนี้แบตลดลงไปเพียงแค่ 12% เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้ปรับตั้งค่าในระดับกลางๆ เพื่อจะได้เล่นเกมได้ยาวนานกว่าเดิม
ความร้อนล่ะ?
นี่เป็นเรื่องที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ จุดนี้เป็นจุดที่แอบรู้สึกเสียดายเล็กๆ เพราะว่าหลังจากเล่นเกมไปซักระยะ ตัวเครื่องค่อนข้างอุ่นเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อการเล่นเกม ไม่เจอปัญหาเครื่องหน่วงหรือกระตุกอะไร อาจจะแค่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อเกิดความร้อนที่ตัวเครื่อง
การดูหนังฟังเพลง
สิ่งนี้จะเป็นการรีดประสิทธิภาพและความสวยงามของหน้าจอออกมาได้มากที่สุด เพราะมันจะมีอะไรดีงามไปมากกว่าการได้ดูหนังดูซีรีส์ ผ่านมือถือที่จอคมชัดสีสันสดใส ซึ่งแน่นอนว่า S21 Ultra ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถดูหนังดูซีรีย์หรือว่าฟังเพลงผ่าน YouTube ได้แบบเต็มอิ่ม เรื่องของลำโพงให้เสียงที่ดังกังวาลดี แต่อาจจะไม่ได้มีมิติของเสียงที่ละเอียดมากนัก
กล้อง
เอาล่ะ...มาเข้าสู่อีกหนึ่งไฮไลท์ของ S21 Ultra กัน นั่นคือกล้องที่ให้กล้องหลังมามากถึง 5 ตัวด้วยกัน แต่ละตัวจะมีความพิเศษอย่างไรมาดูความละเอียดกันก่อนเลย
- 108MP กล้องหลัก f/1.8
- 12MP เลนส์ Ultra-Wide f2.2
- 10MP เลนส์ Tele Optical 3X f/2.4
- 10MP เลนส์ Periscope 10X f/4.9
สำหรับกล้องความละเอียดหลัก 108 ล้านพิกเซล เรื่องของความคมชัดแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะมันให้รายละเอียดของพิกเซลที่ดีมากๆ ครอปออกมาภาพก็ไม่แตก สามารถถ่ายภาพออกมาได้คมชัดทั้งในพื้นที่สว่างและในจุดที่มีแสงสว่างน้อย เรื่องของโฟกัสสามารถจับได้รวดเร็ว ประมวลผลได้ไวมากๆ มี AI ที่จะคอยตรวจจับภาพ เพื่อการปรับแต่งโดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าเมื่อเราถ่ายภาพออกมาแล้ว แทบไม่ต้องนำไปแต่งอะไรเพิ่มเติม เพราะภาพมันจะสวยจบที่หลังกล้องเลย
ส่วนเลนส์ Ultra-Wide เป็นเลนส์เพื่อการถ่ายภาพในมุมมองที่กว้างมากๆ ซึ่งใน Galaxy s21 Ultra ให้มุมมองภาพที่กว้างที่สุดถ้าเทียบกับหลายๆรุ่นที่มีในท้องตลาด แล้วยังสามารถเก็บองค์ประกอบและรายละเอียดต่างๆได้ดี ซึ่งนอกจากนำไปใช้ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์แล้ว ยังสามารถใช้เพื่อถ่าย portrait เพื่อสร้างมุมมองที่แปลกใหม่ได้อีกด้วย สาวๆคนไหนอยากขายาวกดเลนส์ wide ต่ำแล้วเหยียดขาให้สุด ส่วนสูง 180 ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม แล้วยังสามารถถ่ายภาพมาโครด้วยเลนส์ Wide ด้วยระยะใกล้สุด 2.9 ซมได้อีกด้วย
Macro
เลนส์ซูม
ในเรื่องของการซูม S21 Ultra สามารถซูม 2 ช่วง 3x และ 10x และสามารถทำ Space Zoom ได้มากสุดถึง 100x แถมมี Super Resolution AI ช่วยปรับภาพการซูมให้คมชัดกว่าเดิม นอกจากนี้ปัญหาเรื่องของการซูมไกลแล้วจำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้องเท่านั้น ใน S21 Ultra มี Zoom Lock คือซูมไปแล้วกล้องจะยังนิ่งไม่ส่ายไปส่ายมา ช่วยให้โฟกัสง่ายขึ้นไม่ว่าจะซูมไปไกลถึง 100 เท่าก็ตาม
ลองดูรายละเอียดความคมชัดของสระน้ำแม้จะซูมถึง 100 เท่า และลองเปรียบเทียบระยะความไกลของภาพในแต่ละช่วงซูม ซึ่งต้องยอมรับว่ามีการพัฒนาและให้ประสิทธิภาพการซูฒที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนค่อนข้างมากทีเดียว และที่สำคัญคือการซูมไกลในระยะ 100X ก็ยังสามารถถ่ายได้ด้วยมือไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ภาพก็ยังคมคมชัด
กล้องหน้าเซลฟี่
สำหรับกล้องหน้าใน S21 Ultra ให้ความละเอียดมาอยู่ที่ 40 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายเซลฟี่ได้สองระยะ คือระยะใกล้เพื่อเห็นแค่ใบหน้าของเราหรือถ้าต้องถ่ายเซลฟี่กลุ่ม มีเพื่อนมาร่วมแจมเฟรมด้วย ก็สามารถเพิ่มความกว้างของมุมมองภาพได้ นอกจากนี้สาวๆ ยังมีโหมดบิวตี้ให้ได้ปรับผิวกันตามต้องการอีกด้วย
ฟีเจอร์อื่นๆ
Director View ฟีเจอร์นี้เป็นโหมดที่เหมาะสำหรับสาย content video มากๆ เพราะมันจะสามารถดึงภาพจากทุกเลนส์มาให้เราเลือก monitor ตามต้องการเพื่อให้ได้มุมมองที่หลากหลาย จะมุมกว้าง มุมแคบ มาโคร close up ก็สามารถเลือกมุมมองต่างๆ ที่ต้องการได้ภายในคลิปเดียว
Vlogger View ฟีเจอร์นี้การใช้งานตามชื่อมันเลย เพราะมันใช้สำหรับการถ่าย Vlog จะแสดงภาพจากกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมๆกันเพื่อให้เห็นสีหน้า reaction ไปพร้อมๆกับภาพบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้าเรา
Single Take เป็นฟีเจอร์เพื่อการปรับแต่งวีดีโอ โดยเราถ่ายวีดีโอเพียงแค่ครั้งเดียว แต่สามารถนำไฟล์วีดีโอมาปรับแต่งได้หลากหลายไม่ว่าจะใส่สโลโมชั่น เพิ่ม dynamic ความเร็วภาพ ปรับขาวดำก็สามารถทำได้หลากหลายไม่ต้องถ่ายหลายเทคให้วุ่นวาย
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่ของ S21 Ultra ให้มาที่ขนาด 5000mAh รองรับระบบชาร์จไวแบบสายสูงสุด 25W แบบไร้สาย 15W และรองรับ Wireless PowerShare เรื่องการใช้งานจริงของแบตเตอรี่นั้น จริงๆแอบสปอยไปในช่วงของการเล่นเกมบ้างแล้ว ถ้าต้องการเล่นเกมแล้วคงแบตเตอรี่ให้ได้ยาวนานขึ้นก็ปรับการตั้งค่าระดับกลางๆ หรือค่าพื้นฐานที่เครื่องแนะนำก็จะช่วยเซฟแบตเตอรี่ได้ประมาณนึง
ส่วนเรื่องการใช้งานทั่วไปนั้นถ้าไม่ได้เล่นเกมหรือถ่ายรูปถ่ายวีดีโอดูหนังนานๆต่อเนื่อง ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานทั้งวัน แต่ถ้ากิจกรรมเราค่อนข้างเยอะและใช้งานค่อนข้างหนัก อย่างบางวันดรีมก็ได้ทดสอบเล่นเกม และออกไปถ่ายรูป วีดีโอพร้อมๆกัน แบตเตอรี่ก็ค่อนข้างลดเยอะอยู่พอสมควร
สรุปการใช้งาน
จากการใช้งาน S21 เป็นเวลานานกว่า 1 เดือน จุดเด่นที่รู้สึกประทับใจมากที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องของหน้าจอที่สวยมากๆ สามารถดูหนังฟังเพลงเล่นเกมได้อย่างเต็มอิ่ม chipset ตัวใหม่ Exynos 2100 ก็สามารถประมวลผลได้ดี ไม่มีปัญหาในการใช้งานอะไร เล่นเกมก็ไหลลื่น หรือจะเป็นการเข้าถึงตัวเครื่องและจัดการบางอย่างก็สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนเรื่องกล้องนั้นระยะการซูมและจำนวนความละเอียด อาจจะไม่ได้แตกต่างหรือทิ้งห่างจากรุ่นก่อนเท่าไหร่นัก เพียงแต่มีการเพิ่มประสิทธิภาพให้ฟังก์ชันที่มีอยู่แล้วมันสามารถใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งใน S21 Ultra ก็ได้เห็นการพัฒนาอย่างชัดเจน มีการเพิ่มฟีเจอร์มาช่วยแก้ปัญหาที่หลายคนพบเจอใน S20 โดยรวมก็ถือว่าเป็นเรือธงที่ค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว
ราคาของ S21 Ultra
- Galaxy S21 Ultra (12GB + 256GB) = 41,900 บาท
- Galaxy S21 Ultra (16GB + 512GB) = 45,900 บาท
จุดเด่น
- หน้าจอความละเอียดสูง
- ดีไซน์สวย
- กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 108MP
- รองรับ Super-Fast Charge 25W
- เล่นเกมส์ไหลลื่น
จุดสังเกต
- ตัวเครื่องเกิดความร้อนง่าย เมื่อใช้งานกล้องหรือเล่นเกมส์เป็นระยะเวลานาน
- เครื่องค่อนข้างหน้าและหนัก
- ไม่มี Jack 3.5