Review : Samsung Galaxy Buds Live หูฟังทรงเม็ดถั่ว
คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม พร้อมระบบ ANC !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวหูฟังรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราจะมารีวิว Galaxy Buds Live หูฟัง True Wireless รุ่นล่าสุดของ Samsung ที่มีดีไซน์โดดเด่นมาก ๆ มากับทรงเม็ดถั่ว ความสามารถครบทั้งระบบเสียง ไมโครโฟน รวมถึงระบบตัดเสียงรบกวนด้วย การใช้งานเป็นยังไงมีฟีเจอร์อะไรบ้าง เดี๋ยวรีวิวให้ชมกันในบทความนี้ครับ :D
แกะกล่อง Galaxy Buds Live
เริ่มต้นที่ตัวกล่องกันก่อนเลย Galaxy Buds Live มาพร้อมภาพประกอบของหูฟังแบบชัดเจนพร้อมสีสันด้วยเลย เวลาเลือกซื้อไม่ผิดสีแน่นอนเพราะเห็นมาตั้งแต่หน้ากล่องแล้วเนาะ แต่สีที่โชว์หน้ากล่องนี้แอบไม่เหมือนกับตัวจริงสักเท่าไหร่ เดี๋ยวเราเทียบให้ดูอีกทีเนาะ
ที่ด้านหลังจะมีฟีเจอร์เด่นของหูฟังตัวนี้อยู่แบ่งเป็น 4 อย่างหลัก ๆ คือ
- ดีไซน์ที่กระชับพอดีหู
- ใช้งานได้ยาวนาน 6 - 21 ชม.
- ไมโครโฟน 3 ตัวสำหรับคุยโทรศัพท์
- ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ANC
พร้อมข้อมูลอุปกรณ์ภายในกล่องและสมาร์ทโฟนที่รองรับด้วย
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอตัวเคสหูฟังถูกหุ้มอยู่ในซองอย่างเป็นระเบียบ ตัวเคสมีขนาดที่เล็กกำลังดีเลยครับ
มีสายชาร์จแบบ USB Type-C to Type-A มาให้ 1 เส้นความยาวครึ่งเมตรเหมาะกับการพกพาครับ
ตัว WingTips หรือจุกยางที่เอาไว้เกี่ยวกับหูก็มีมาให้เปลี่ยนด้วยอีกข้างละ 1 ขนาดครับ
ตรงฝากล่องจริง ๆ จะมีกล่องเล็กอีก 1 กล่องใส่คู่มือและเอกสารรับประกันสินค้าไว้ในนั้นด้วย ก่อนจะเริ่มใช้งานก็อ่านคู่มือกันสักนิดเนาะ
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ในกล่องของ Galaxy Buds Live ก็ให้มาครบตามมาตรฐานหูฟัง True Wireless เนาะ มาเทียบสีของตัวหูฟังกันหน่อยละกันเนาะ อย่างที่เห็นว่าบนหน้ากล่องตัวหูฟังจะออกสีดำชัดเจนมาก แต่ของจริงจะมีความมันวาวกว่าเยอะ เลยจะออกเป็นสีเงินแทนครับ
เคสดีไซน์ทรงตลับพกง่าย
เช็กอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ได้เวลามาดูตัวหูฟังกันต่อเลย ตัวเคสของ Galaxy Buds Live รอบนี้เปลี่ยนดีไซน์ไปจาก Buds รุ่นก่อน ๆ พอสมควร มาในทรงตลับทรงจัตุรัสแล้ว ที่หน้าเคสจะมีโลโก้ Samsung พร้อมการันตีคุณภาพเสียงด้วยคำว่า Sound by AKG ด้วย ตัวฝาเคสของสีดำนั้นจะเป็นผิวมันต่างจากสี Mystic Bronze ที่เป็นแบบด้านเนาะ
ที่หน้ากล่องจะมีไฟ LED แจ้งสถานะแบตเตอรี่ของตัวเคสด้วยเมื่อมีการเปิด-ปิดตัวฝาเคส ไฟก็จะติดขึ้นมาครับ
หูฟังทรงเม็ดถั่ว
เปิดฝาเคสขึ้นมาเราจะเจอกับตัวหูฟังเลย วางไว้ชัดเจนเป็นฝั่งซ้าย-ขวา พร้อมไฟ LED บอกสถานะของแบตเตอรี่ตัวหูฟังอีกหนึ่งดวงด้านใน
ทรงของหูฟังก็ชัดเจนครับ มาในทรงเม็ดถั่วจริง ๆ แม้บนสีดำอาจจะไม่ชัดเท่าสี Mystic Bronze ก็ตาม ถือว่าเป็นทรงที่แปลกตาดีมาก ๆ เพราะในยุคนี้เราเห็นหูฟังมาในทรงเดียวกันหมด การที่ Samsung เลือกฉีกมาทางนี้ต้องชมเลยจริง ๆ
พลิกกลับมาดูอีกมุมจะเห็นเซ็นเซอร์, ลำโพง, ขั้วชาร์จและตัวจุกยาง WingTips ที่เอาไว้ยึดกับหูของเราครับ
พอร์ตการเชื่อมต่อของ Galaxy Buds Live จะเป็นแบบ USB Type-C ครับใช้งานง่าย ใช้สายเดียวกับมาร์ทโฟนทั่วไปได้เลย ไม่ยุ่งยาก
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ Galaxy Buds Live ก็ถือว่าปรับเปลี่ยนมาได้อย่างดีเลยทีเดียว หน้าตาแปลกไปจากหูฟัง True Wireless ทั่วไปเยอะ และมีเสน่ห์มาก มีความเป็นตัวของตัวเองสุด ๆ ขนาดของตัวเคสก็พกพาได้ง่ายเลย แต่ก็มีจุดสังเกตอยู่เล็ก ๆ น้อยคือตัวฝาเคสนั้นเปิดใช้งานมือเดียวได้ไม่ถนัดเท่าไหร่และตัวหูฟังที่อาจจะไม่ได้ยึดกับตัวเคสได้แน่นอย่างที่ควร เวลาเปิดด้วยมือเดียวเร็ว ๆ อาจจะไม่เกี่ยวให้หลุดออกมาได้ง่าย แต่ถ้าหยิบใช้งานด้วย 2 มือปัญหาพวกนี้ก็ตัดไปครับ
เชื่อมต่อง่ายเหมือนเดิม
ในส่วนของการเชื่อมต่อ ถ้าเราใช้สมาร์ทโฟนของ Samsung อยู่แล้ว ง่ายมากครับแค่เปิดฝาเคสก็จะมี Pop-Up แสดงขึ้นมาให้เรากดเชื่อมต่อได้เลยทันที และในครั้งต่อไปที่เปิดฝาเคสตัวระบบจะจดจำหูฟังตัวนี้ไว้และมีโชว์อนิเมชั่นสวย ๆ พร้อมบอกสถานะแบตเตอรี่ของทั้งหูฟังและเคสด้วย
แต่การเชื่อมต่อที่ง่ายดายแบบนี้ก็มีจุดที่เป็นปัญหาอยู่บ้าง เพราะตัวเคสไม่มีปุ่ม Reconnect มาให้ ทำให้เวลาเราอยากไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นในครั้งแรก ก็ต้องมากดยกเลิกการเชื่อมต่อจากเครื่องเก่าก่อน และค่อยเชื่อมต่อกันใหม่ ซึ่งมันอาจจะยุ่งยากไปหน่อยเนาะ
ตั้งค่าเพิ่มเติมผ่านแอปได้
ตัวแอปที่ใช้จะเป็น Galaxy Wearable เหมือนเดิม ใช้สำหรัลปรับการตั้งค่าเพิ่มเติม มีให้โหลดบน Play Store สำหรับสมาทโฟน Android รุ่นอื่น และรอบนี้ Samsung ยังใจดีส่งแอป Galaxy Buds Live ลง App Store ให้ผู้ใช้งาน iOS ได้ใช้ฟีเจอร์แบบเต็ม ๆ เหมือนกับสมาร์ทโฟน Galaxy เลยด้วยครับ
ในแอปเราสามารถเลือกเปิด-ปิด Active Noise Cancelling ด้วย รวมถึงการตั้งค่ารูปแบบเสียง Equaliser, ระบบสัมผัสที่ตัว TouchPad ก็ปรับตรงนี้ได้เลยครับ
มี Gaming Mode ที่จะช่วยให้ซิงค์เสียงและภาพได้ตรงกันมากขึ้น ในการเล่นเกมหรือดูหนังที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว ๆ ด้วยครับ
สวมใส่สบาย กระชับหู
Galaxy Buds Live เห็นทรงเม็ดถั่วแบบนี้หลายคนอาจจะกังวลในเรื่องการสวมใส่ว่าแล้วมันจะเกาะหูได้ทนแค่ไหน ตรงนี้เราลองใส่แล้วบอกได้เลยว่ามันใส่ติดหูมากครับ และไม่เจ็บเลยด้วย วิธีการใส่ก็คือให้เราเอาส่วนหน้าเข้าไปก่อนจากนั้นจับบิดตรงส่วนท้าย (ที่มี WinTips) ให้เข้าพอดีกับหูได้เลย
ตัวหูแน่นพอดีมาก และก็ไม่มีส่วนยื่นออกมาให้ไปเกี่ยวอะไรหลุดได้ง่าย ๆ เหมือนทรงทั่วไปด้วย แก้ปัญหาในเรื่องการสวมใส่ได้เป็นอย่างดีครับ แถมพอมันแน่นพอดีหูแล้วก็หายห่วงเรื่องเสียงที่ออกมาจะไม่ครบ เพราะเต็ม ๆ เสียงเข้าที่หูเราเลย คุณภาพเสียงก็จัดว่ายอดเยี่ยมครับด้วยไตรเวอร์ขนาด 12 มม. อันนี้เราปรับ Equaliser ไปเป็นแบบ Bass Boost เลย เสียงเบสแน่นกำลังดี
มีระบบสัมผัสให้ควบคุม
เช่นเดียวกับ Galaxy Buds รุ่นก่อน ๆ Galaxy Buds Live มาพร้อมระบบควบคุมแบบสัมผัสเหมือนเดิม มีให้ใช้งานกัน 4 รูปแบบประกอบด้วย
- แตะ 1 ครั้ง = เล่น-หยุดเพลง
- แตะ 2 ครั้ง = เล่นเพลงถัดไป/รับสายหรือวางสาย
- แตะ 3 ครั้ง = เล่นเพลงก่อนหน้า
- แตะค้าง = เปิด-ปิดระบบ ANC/ปฏิเสธสายเรียกเข้า (ตั้งค่าเป็นเพิ่ม-ลดเสียงได้จากแอป)
ตัดเสียงยอดเยี่ยม
ส่วนระบบตัดเสียงของ Galaxy Buds Live ก็มีมาให้เลือกปรับ ทำได้โดยการเปิดในแอป Galaxy Wearable หรือแตะค้างที่ตัวหูฟังก็ได้ครับ การตัดเสียงสำหรับการฟังเพลงทำได้ดีเลยครับ รอบข้างเงียบขึ้นเยอะ แต่ยังพอได้ยินอยู่บ้างไม่ถึงขั้นพวกหูฟังที่เป็นแบบ In-Ear แต่เท่านี้ก็แฮปปี้มาก ๆ แล้วล่ะครับ
ส่วนเสียงในการคุยโทรศัพท์ด้วยความที่มีไมโครโฟนมากถึง 3 ตัว จัดการเรื่องเสียงได้เป็นอย่างดี เสียงพูดคุยชัดเจนใช้ได้ แม้สภาวะรอบข้างจะเสียงดังก็ตามครับ
เล่นเกมดีเลย์น้อยเลย
อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือการเอาไปใช้เล่นเกม Galaxy Buds Live มี Game Mode มาให้เลือกด้วย ทำให้การซิงค์เสียงนั้นตรงมากขึ้น ลดค่า Latency ลง เท่าที่ลองเอามาเล่นเกมยิงอย่าง Call of Duty นี่ก็ตอบสนองได้ดีเลยครับ จังหวะที่เสียงกระสุนออกตามภาพดีเลย์นิดเดียวจริง ๆ เรียกว่าใช้เล่นเกมแบบจริงจังได้เลย
แบตเตอรี่ทนใช้ต่อเนื่องดี
ปิดท้ายเรื่องแบตเตอรี่ Galaxy Buds Live นั้น Samsung เคลมว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 6 ชม. และรวมกับตัวเคสอีก 21 ชม. ตรงนี้ตอบโจทย์มาก ๆ เราไม่จำเป็นต้องคอยชาร์จบ่อย ๆ ถ้าใช้งานวันละ 4 ชม.ก็หนึ่งสัปดาห์ได้อยู่
ส่วนเรื่องระบบชาร์จก็สามารถเสียบสาย USB type-C ได้เลย หรือถ้าถนัดชาร์จไร้สายรุ่นนี้ก็รองรับด้วย ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน Samsung ที่มีระบบ PowerShare นี่ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่
สรุปแล้วนะ
Galaxy Buds Live ก็ถือว่าเป็นหูฟัง True Wireless อีกตัวที่ครบเครื่องมาก ๆ ทั้งคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม มีระบบ Active Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนได้ดี ดีไซน์ที่สวยแปลกตาเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างมาก แถมยังใส่ได้อย่างสบายและพอดีกับหูสุด ๆ ปิดท้ายเรื่องแบตเตอรี่ที่อึดพอจะใช้ได้อย่างยาวนานแบบที่ไม่ต้องคอยชาร์จบ่อย ๆ อีก ใครกำลังมองหาหูฟัง True Wireless ตัวพรีเมี่ยมอยู่ Galaxy Buds Live เป็นอีกตัวเลือกที่อยากแนะนำเลยครับ ดีจริง ๆ !!
ราคา 6,990 บาท
สำหรับราคาค่าตัวของ Galaxy Buds Live ก็สนนอยู่ที่ 6,990 บาท มีให้เลือก 3 สี Mystic Black, Mystic White และ Mystic Bronze วางจำหน่ายแล้ววันนี้ครับ
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite