Preview : Samsung Galaxy Tab S7 | S7+ มาตรฐานใหม่ของ
แท็บเล็ตเรือธงแอนดรอยด์ด้วยจอ 120Hz และสเปคขั้นสุด !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความพรีวิวแท็บเล็ตรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ Galaxy Tab S7 Series แท็บเล็ตเรือธงรุ่นล่าสุดของ Samsung ปีนี้เปิดตัวมาด้วยกัน 2 รุ่นคือ Galaxy Tab S7 และ Galaxy Tab S7+ จัดเต็มทั้งคู่ ยังคงมาพร้อมจุดเด่นในเรื่องการทำงานควบคู่กับอุปกรณ์เสริมอย่างคล่องตัว รวมถึงสเปคที่ไม่กั๊กอีกต่อไป รายละเอียดเป็นยังไง ติดตามได้จากพรีวิวนี้เลยครับ :D
มี 2 รุ่น 2 ขนาด
เริ่มต้นที่ความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นกันก่อนเลย Galaxy Tab S7 และ Tab S7+ มาพร้อมขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน โดยรุ่น Tab S7 จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 11” ส่วน Tab S7+ จอ 12.4” ครับ เรียกว่าใหญ่และใหญ่มาก
นอกจากขนาดแล้ว ชนิดหน้าจอของทั้ง 2 รุ่นนี้จะแตกต่างกันด้วยครับ โดยรุ่น Tab S7 จะใช้จอแบบ LTPS LCD ส่วน Tab S7+ จะใช้ SuperAMOLED ครับ ทั้งคู่มาพร้อมอัตราส่วนแบบ 16:10 เหมาะการคอนเทนต์พวกวิดีโอหรือเล่นเกมอยู่แล้ว
Galaxy Tab S7
เวลาอยู่ในมือจะเห็นว่าขนาดของ Tab S7 นั้นจะกำลังพอพกพาระดับแท็บเล็ตใกล้เคียงกับรุ่นก่อน (Tab S6) ในเรื่องการแสดงผลก็ทำได้สวยงามครับ รุ่นนี้มีความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ WQXGA (2560 x 1600 พิกเซล)
Galaxy Tab S7+
ส่วน Tab S7+ อันนี้ก็จะใหญ่ขึ้นมามากเลยทีเดียว เรียกว่าใหญ่เกือบ ๆ เท่าโน้ตบุ๊คแล้วล่ะด้วยขนาด 12.4” นี้ แต่ก็เหมาะกับการทำงานแบบจริงจังเลย ในเรื่องการแสดงผลต้องบอกเลยว่าสวยงามเอามาก ๆ ความละเอียดก็จัดเต็มระดับ WQXGA+ (2800 x 1752 พิกเซล) ยกให้เป็นจอแท็บเล็ตที่สวยที่สุดที่เคยเห็นมาเลยครับ
จอ 120Hz มาแล้ว
สิ่งหนึ่งที่แท็บเล็ตแอนดรอยด์ยังตามฝั่ง iPad มาตลอดคงเป็นเรื่องของ refresh rate เพราะหลายปีที่ผ่านมาแม้หน้าจอจะสวยคมมากขึ้นแต่ refresh rate ก็ยังไม่เขยิบขึ้นไปเท่ากันสักที แต่ 2 รุ่นนี้ Galaxy Tab S7 | S7+ มาพร้อม refresh rate สูง 120Hz แล้วครับ ! นี่คือการสร้างมาตรฐานใหม่ของแท็บเล็ตแอนดรอยด์เลยก็ว่าได้ การทำงานลื่นไหลขึ้นอย่างมาก และที่สำคัญสามารถปรับความละเอียดหน้าจอสูงสุดบน refresh rate 120Hz ได้ด้วยนะ เยี่ยมมากกก !!
ตำแหน่งกล้องใหม่เน้นการทำงานแนวนอน
ตัวกล้องหน้าของ Galaxy Tab S7 | S7+ จะย้ายมาไว้ตรงเหนือหน้าจอแบบแนวนอนแทน เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานทั้งการ VDO Call รวมถึงปลดล็อคด้วยใบหน้าด้วย ตรงนี้ชมเลยครับเพราะยุคนี้การใช้งานกล้องหน้าบนแท็บเล็ตก็มักวางกันแบบแนวนอนนี่แหละย้ายมาตรงนี้สะดวกขึ้นเยอะ
สแกนนิ้วต่างกันนิดหน่อย
อีกจุดที่แตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้ก็คือระบบสแกนลายนิ้วมือ อย่างที่บอกว่าชนิดหน้าจอของทั้ง 2 รุ่นนั้นต่างกัน การจะใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ LCD ก็คงไม่เหมาะนัก บน Galaxy Tab S7 เลยใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ปุ่ม Power ด้านข้างเครื่องแทน
ในขณะที่ Galaxy Tab S7+ ใช้จอ SuperAMOLED เลยสามารถฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้บนจอได้นั่นเองครับ
ดีไซน์บางเฉียบ
เรื่องความบาง Galaxy Tab S นั้นทำได้ดีมาทุกรุ่น 2 รุ่นนี้ก็เช่นกัน โดย Tab S7 มาพร้อมความบางเพียง 6.3มม. ส่วน Tab S7+ นี่บางเพียง 5.7มม. เท่านั้นเอง ! กรอบตัวเครื่องรอบนี้มีความเหลี่ยมมากขึ้น ใช้วัสดุเป็นโลหะเพิ่มความหรูหรา
ลำโพง 4 ตัวจัดเต็มเหมือนเคย
Galaxy Tab S7 | S7+ มาพร้อมกับลำโพง 4 ตัววางไว้ 2 ฝั่งกระจายเสียงได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคย แน่นอนว่ามีการปรับแต่งเสียงจาก AKG ด้วย แท็บเล็ตเรือธงเรื่องพลังเสียงนี่ขาดไม่ได้เลยจริง ๆ
พอร์ตการเชื่อมต่อของทั้ง 2 รุ่นนี้ก็เป็น USB Type-C เหมือนกัน ตัดเอาช่องหูฟังออกไปเรื่อยร้อยแล้วเนาะ
บอดี้โลหะ Unibody หรูทั้งเครื่อง
ที่ด้านหลังของ Galaxy Tab S7 | S7+ นั้นจะใช้วัสดุเป็นโลหะให้ความรู้สึกถึงความทนทานเอามาก ๆ ผิวสัมผัสก็จะเป็นแบบด้านช่วยให้การจับถือโดยที่ไม่ใส่เคสนั้นรู้สึกดีสุด ๆ
ที่ด้านหลังจะมีแถบแม่เหล็กสำหรับเชื่อมต่อกับตัว S Pen เหมือนกับตอน Tab S6 ด้วย แต่รอบนี้จะทำสีตัวแถบแม่เหล็กให้เด่นชัดขึ้นไปอีกทำให้รู้จุดในการแปะปากกาเข้ากับด้านหลังได้นั่นเอง
กล้องหลังคู่มีเลนส์กว้างพิเศษ
กล้องหลังของ Galaxy Tab S7 | S7+ จะให้มา 2 ตัวแบ่งเป็นกล้องหลักความละเอียด 13MP + 5MP ที่เป็นเลนส์ Ultra Wide มุมกว้างครับ ถึงแม้แท็บเล็ตจะไม่ได้เน้นเรื่องกล้องมาก แต่การให้กล้องหลังคู่แถมเลนส์ Ultra Wide มาแบบนี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาครับ
สเปคแรงสมกับเรือธง
ต่อมาในเรื่องสเปค Galaxy Tab S7 | S7+ ถือว่าเป็นรุ่นเรือธงของทาง Samsung แล้ว แน่นอนว่าสเปคก็ให้มาแบบไม่กั๊ก ทั้งคู่ได้หน่วยประมวลผลตัวแรงที่สุดของฝั่งแอนดรอยด์อย่าง Snapdragon 865+ พร้อมแรมสูงสุดที่ 8GB และความจุมากสุดที่ 256GB ครับ เรียกว่าอัดแน่นมาให้เลย
ส่วนจุดที่แตกต่างระหว่างของ 2 รุ่นนอกจากเรื่องหน้าจอแล้วก็ยังมีความจุแบตเตอรี่ที่รุ่น Tab S7 จะได้แบตฯมาที่ 8,000mAh ในขณะที่รุ่น Tab S7+ นั้นได้มามากถึง 10,090mAh เลยทีเดียวครับ ทั้งคู่รองรับชาร์จไวสูงสุดที่ 45W เหมือนกันด้วยนะ
สเปค Samsung Galaxy Tab S7 | S7+
รุ่น | Galaxy Tab S7 | Galaxy Tab S7+ |
OS | Android 10 OneUI 2.5 | Android 10 OneUI 2.5 |
หน้าจอ | LTPS LCD 11" 2560 x 1600 พิกเซล 120Hz | SuperAMOLED 12.4" 2800 x 1752 พิกเซล รองรับ HDR10+ 120Hz |
CPU | Snapdragon 865+ (7nm) | Snapdragon 865+ (7nm) |
แรม | 6GB | 6GB/8GB |
กล้องหน้า | 8MP f/2.0 วิดีโอ 1080p/30fps | 8MP f/2.0 วิดีโอ 1080p/30fps |
กล้องหลัง | 13MP f/2.0 [Wide] 5MP f/2.2 [Ultra Wide] วิดีโอ 4K/30fps | 13MP f/2.0 [Wide] 5MP f/2.2 [Ultra Wide] วิดีโอ 4K/30fps |
แบตเตอรี่ | 8000mAh | 10090mAh |
การชาร์จ | รองรับ Super Fast Charge 45W | รองรับ Super Fast Charge 45W |
ระบบปลดล็อค | Face Recognition Side Fingerprint | Face Recognition InDisplay Fingerprint |
สี | Mystic Bronze Mystic Black | Mystic Bronze Mystic Black |
แท็บเล็ตเรือธงทั้งทีต้องมีปากกา
มาถึงเรื่องอุปกรณ์เสริมที่ทำให้เจ้า Galaxy Tab S7 | S7+ นั้นทำงานได้ดีขึ้น ทั้ง 2 รุ่นยังคงแถมปากกา S Pen มาให้ในกล่องไม่ต้องซื้อเพิ่มเหมือนเดิมครับ รอบนี้เก่งขึ้นเพราะมีค่า Latency ต่ำเพียง 9ms เหมือนกับของ Note20 Ultra เลยเขียนแล้วทันมือสุด ๆ Samsung Notes ก็รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างการจดบนไฟล์ PDF, Export ไฟล์เป็น Powerpoint หรือ Word ตอบโจทย์การทำงานได้เป็นอย่างดี
เคสคีย์บอร์ดฟังค์ชั่นครบพร้อมใช้งาน
นอกจากนี้ตัวเคสคีย์บอร์ดรอบนี้ยังน่าใช้งานมากขึ้น รองรับปุ่มฟังค์ชั่นแบบครบถ้วน รวมถึงมี TouchPad ไว้ให้ควบคุมการทำงานในรูปแบบของ Dex อีกด้วย ทำให้การใช้งานนั้นสมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่าแท็บเลฃ็ตทั่ว ๆ ไปอีก
ตัว TouchPad ก็มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ของ Tab S7 ก็ใหญ่ขึ้นถึง 42% ส่วนรุ่น Tab S7+ ใหญ่กว่า 63% กันเลยทีเดียว ทำให้เหมาะกับการใช้งาน การควบคุมที่ลงตัว
และรอบนี้ตัวเคสก็สามารถถอดแยกเป็นส่วน ๆ ได้ด้วย เมื่อเราไม่ใช้งานตัวคีย์บอร์ดแล้วก็สามารถถอดออกแล้วเหลือตัวเคสที่ติดกับด้านหลังเพื่อใช้เป็นขาตั้งในการตั้งตัวแท็บเล็ตเพื่อใช้งานด้านความบันเทิงต่อได้ด้วย
ที่ตัวเคสด้านหลังจะเชื่อมต่อกับตัว Tab S7 | S7+ แบบแม่เหล็ก มีช่องสำหรับกันปากกา S Pen ที่ด้านหลังหลุดออกไปด้วย เมื่อจะใช้งานก็แง้มที่ฝาหลังออกมา ออกแบบได้ดีทีเดียวครับ แต่เคสคีย์บอร์ดที่ว่ามานี้ต้องซื้อแยกเนาะ โดยราคาของเคสคีย์บอร์ดจะมีดังนี้
Tab S7 Keyboard Cover = 5,990 บาท
Tab S7+ Keyboard Cover = 6,590 บาท
ราคา
สำหรับราคาของ Galaxy Tab S7 | S7+ รอบนี้ก็จะมีให้เลือกหลายโมเดลทั้งแบบ Wifi, LTE รวมถึง 5G ด้วย ซึ่งราคาค่าตัวก็มีดังนี้เลย
Galaxy Tab S7 (WiFi) ความจุ 6GB + 128GB = 22,900 บาท
Galaxy Tab S7 (LTE) ความจุ 6GB + 128GB = 26,900 บาท
Galaxy Tab S7+ (LTE) ความจุ 6GB + 128GB = 33,900 บาท
Galaxy Tab S7+ (5G) ความจุ 8GB + 256GB = 39,900 บาท
มีให้เลือก 2 สีคือ Mystic Black และ Mystic Bronze โดยทั้ง 2 รุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 กันยายนนี้ครับ
สรุปหลังลองจับ
สำหรับ Galaxy Tab S7 | S7+ ก็ถือว่าเป็นแท็บเล็ตเรือธงฝั่งแอนดรอยด์ที่น่าสนใจมาก ๆ ยกระดับของแท็บเล็ตเรือธงมาได้อย่างดี ทั้งเรื่องหน้าจอ refresh rate สูง 120Hz สองรุ่นแรกของฝั่งหุ่นเขียว งานประกอบหรูหรา รวมถึงสเปคภายในที่จัดเต็มและฟีเจอร์ของ S Pen และ DeX ที่เชื่อว่าถ้าได้ใช้งานจริง ๆ คงต้องหลงรักแน่นอน ครบขึ้นดีขึ้นมาก เป็นอีกรุ่นที่น่าจับตามองมาก ๆ ครับ ใครที่กำลังเล็งแท็บเล็ตของฝั่งแอนดรอยด์ดี ๆ สักตัวอยู่ ให้รอ 2 รุ่นนี้ไว้ได้เลยครับ :D
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite