Review : SONY WH-1000X M4 หูฟังตัดเสียงที่เทพที่สุด!!!!!
หากทุกๆคนจำได้เราจะมีหูฟังประจำตัวที่ชอบในแต่ละช่วงชีวิต วันนี้ทีมงาน TechXcite ขอแนะนำ SONY WH-1000XM4 อีกหนึ่งหูฟังที่จะไปอยู่ในชีวิตของคุณ ยังจำได้เหมือนกับว่าเพิ่งซื้อเจ้า MDR-1000X มาลองเล่นได้ไม่นานแต่วันเวลาผ่านไปก็มาถึง WH-1000XM4 ซะแล้ว มาดูกันว่าการพัฒนาที่เพิ่มมามีอะไรบ้าง หน้าตาภายนอกหากท่านผู้อ่านไม่ทันเจ้า MDR-1000X เนี่ยอาจจะไม่คุ้นชิน แต่มีอีกตัวที่ทำให้นึกออกได้ทันทีคือ WH-1000XM3 ที่ดูผ่านมันเหมือนกันซะทีเดียว แต่ว่าเจ้า WH-1000XM4 มีจุดต่างเล็กๆน้อยๆอยู่นะไม่ว่าจะเป็น ก้านหูฟังที่กระชับขึ้น หรือ การที่ไม่กดทับสำหรับคนที่ใส่แว่นจนเกินไป ร่วมถึงมีขนาดเล็กลงนิดหน่อย กระนั้นเลยไปรับชมกันดีกว่าว่า SONY WH-1000XM4 เหมาะที่จะอยู่บนหูของคุณหรือเปล่า
มาดูกล่องใส่หูฟังกันก่อน
กล่องใส่หูฟังที่ให้มาก็เป็นกล่องที่แข็งแรงและใส่อุปกรณ์เสริมอื่นๆมาในกล่องพร้อมกันเลย ก็จะมีประกอบไปด้วย
-สาย 3.5mm ยาว 1.2 เมตร
-สายชาร์จไฟ USB-C
-ปลั๊กขาสองสำหรับใช้บนเครื่องบินเท่านั้น
ตัวหูฟังแบบก้านที่พับได้ใส่ในกล่องไม่ยากในกล่องเองก็มีภาพประกอบว่าพับแบบไหนให้ลงกล่องได้ง่ายๆ มีจุดบอกตำแหน่งว่า WH-1000XM4 ใช้งานแบบไหน ปัดขึ้นเป็นเพิ่มเสียง ปัดลงลดเสียง ปัดไปข้างหน้า เล่นเพลงต่อไป ปัดไปข้างหลังเล่นก่อนหน้านี้ และตรงกลางกดเล่นเพลงหยุดเพลง รับสายโทรศัพท์ กดค้างเพื่อเรียกใช้ google assistant ตัวกล่องเก็บหูฟังเป็นพลาสติกแข็งที่ห่อหุ้มด้วยผ้าสีเดียวกับหูฟังและยังมีตาขายไว้ใส่ของเล็กๆน้อยๆอีกด้วยอันนี้มีความเห็นจากทางบ้านว่ากล่องมันคล้ายซะเหลือเกินแต่ผมรู้สึกว่าเล็กกว่านิดหน่อย
หน้าตาของ SONY WH-1000XM4
อย่างที่บอกไปตอนแรกว่ามันจะค่อนข้างคล้ายกับ WH-1000XM3 แต่ SONY WH-1000XM4 นั้นจะมีขนาดเล็กลงกว่านิดหน่อยแต่ว่ามีดีตรงที่จุดที่ฟองน้ำที่ทำให้ใส่ง่ายสำหรับคนใส่แว่น ผมเองก็ใส่แว่นในตอนที่ใช้ก็รู้สึกว่าไม่บีบจนปวดกำลังพอดี
ใต้หูฟังซ้ายจะมีปุ่มเปิด/ปิด ปุ่ม custom ที่เอาไว้กดเลือกใช้งาน Ambient Sound หรือ Noise Cancelling รูเสียบสาย 3.5mm ขอบข้างมีรูไมค์ ส่วนทางด้านขวามีเพียงช่องชาร์จไฟ USB-C ที่รองรับระบบชาร์จไว เพียง 10 นาทีสามารถใช้ได้ถึง 5 ชั่วโมง หากแบตหมดก็เสียงสาย 3.5mm ใช้ต่อได้เลย
มาดูที่ความสามารถที่น่าสนใจของ SONY WH-1000XM4
Adaptive Sound Control with Location Recognition ที่ใช้ชิปเสียงอย่าง HD Noise Cancelling Processor “QN1” ที่ช่วยวิเคราะห์และตัดเสียงรบกวน ด้วย AI ที่จะวิเคราะห์การเคลื่อนที่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน และมันยังสามารถเรียนรู้ได้อีกด้วยว่าจุดไหนที่เราใช้ปรับเสียงในรูปแบบใด เช่นรถไฟฟ้าเราอาจใช้ Ambient Sound เพื่อฟังเสียงประกาศของสถานี แต่หากอยู่ในบ้านก็จะใช้ Noise Cancelling เพื่อให้ได้อิ่มกับรสชาติของเพลง
Wearing Detection เป็นฟังท์ชั่นในด้วยข้างในตัวหูฟัง earcup ทางฝั่งซ้ายจะมีเซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจจับการใช้งานของเรา ทันทีที่ถอดเพลงจะหยุดและพอใส่กลับก็จะเล่นเพลงต่อทันที แต่ต้องตั้งค่าบนแอพ Headphone Connect ก่อนนะ
Speak-to-Chat & Quick Attention ตรงนี้ต้องขอแยกไปก่อนใน WH-1000XM3 นั้นมี Quick Attention อยู่แล้วซึ่งการใช้งานก็ง่ายๆแค่เอามือขึ้น ป้องที่หูทางด้านขวา เพลงก็หยุดเล่นและเปิดไมค์ภายนอกไว้ใช้สำหรับเวลาคุยกับคนอื่นหรือถามทาง แต่ใน WH-1000XM4 มีอีกฟังท์ชั่นเพิ่มขึ้นมาคือ Speak-to-Chat อันนี้ต้องบอกก่อนว่ามันต้องเปิดใช้งานผ่าน แอพ Headphone Connect รูปแบบของการใช้งานหลังเปิดคือ ทันทีที่เราพูด เพลงจะหยุดและไมค์จะเปิดทันที ทำให้เราสามารถคุยกับคนอื่นได้ทันที แต่ก็มีข้อติตรงที่ว่ามันจับเสียงอื่นๆด้วยทำให้การฟังเพลงอาจจะสะดุดนะ
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนมากๆของ WH-1000XM4 คือการ custom เพื่อปรับระดับของ Noise Cancelling ที่สามารถกดให้เข้ากับสถานที่ได้ ไม่ว่าจะเป็น บนรถ ในที่เสียงดังต่างๆ วิธีง่ายๆ โดยการกดปุ่ม custom ค้างไว้ซักพักแล้วระบบในหูฟังจะทำการวิเคราะห์เสียงในสถานที่ ที่เราอยู่แล้วปรับระดับ Noise Cancelling ให้เหมาะสมได้ แต่อันนี้สำหรับคนที่หูมีประสาทที่ไวหน่อย จะรู้สึกว่าหลังปรับแล้วหูจะเหมือนอือๆหน่อยแต่ถ้าเปิดเสียงเพลงก็จะดีขึ้น
ว่ากันด้วยเรื่องของเสียง
-ไดรเวอร์ขนาด 40MM ถือว่าดีในความมาตรฐาน
-รองรับ Hi-Res อันนี้ก็ยังคงทำได้ดี
-DSEE Extreme อันนี้ถือว่าเป็นตัวที่เสริมรสชาติของการฟังเพลง
-ชิบ Blutooth ตัวใหม่ทีทำให้ดีเลย์ลดลง
ในเรื่องของเสียงด้วยชิปที่ได้รับการอัพเกรดทำให้ตัวหูฟังเสียงดีขึ้นจากรุ่นก่อนรวมถึงบลูธูทที่ดีขึ้น เอาเป็นว่า youtube ปากตรง pubg กระสุนตามนิ้วไปเลย แถมด้วย ANC ที่ให้เราได้บินเสียงที่ชัดขึ้น จนถึงขั้นหลอนเสียงเท้าในเกมส์ได้เลย เพราะเราจะได้ยิงเสียงก่อนที่รอยเท้าจะขึ้นโชว์ซะอีก ส่วนในเรื่องของการชมภาพยนตร์ผ่านแอพต่างก็ทำได้ดี
การฟังเพลงแน่นอนมันคือจุดเด่นของ SONY เสียงในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ครั้งแรกที่ลองฟังรู้สึกว่าการพัฒนาและการสั่งสมประสบการ์ณที่ผ่านมามันเป็นเหตุเป็นผลที่ทำให้ WH-1000XM4 ออกมาได้อยากครบถ้วน ยิ่งด้วยมี DSEE Extreme ทำให้ชดเชยเสียงที่หายไปอย่างดีจนลืมไปว่าเราฟังผ่านแอพสตีมเพลงแบบทั่วไป ในขณะที่ทดลองกับแอพ Spotifly ก็มีความรู้สึกว่า บางเพลงก็แน่นขึ้นและแข็งขึ้นนุ่มน้อยลงก็มี อย่างเพลง I just Can't Stop Loving You.ของ Michael jackson เสียงดนตรีเบื้องหลังก็ชัดขึ้นแต่ความนุ่มจะลดลงนิดหน่อย
ต้องบอกว่าการที่ Sony ปรับชิบหลายๆอย่างทำให้ตัว SONY WH-1000XM4 มีประสิทธิ์ภาพที่ดีขึ้นจนน่าพอใจเลยละจากรุ่นก่อนๆที่ไมค์ไม่ดี เสียงในเกมส์ดีเลย์ หรือหนักไปจนไม่สบายต่อการใช้งาน รอบนี้ถือว่าแก้เกมส์ได้ดีเลย
สรุปตัวนี้คุ่มค่าแค่ไหน ????
หากกิจกรรมประจำวันของคุณนั้นต้องเดินทางด้วยรถเมล์หรือรถไฟฟ้าตัวนี้ตอบโจทย์เลยยกเว้นรถร้อนนะเพราะเสียงลมจะทำให้ ANC มีเสียงลมตีเข้าหูจนฟังเพลงไม่อิ่ม รวมถึงถ้าคุณเป็นคนที่นั่งทำงานในร้านกาแฟ มันเหมาะมากเพราะมันเชื่อมต่อได้สองดีไวซ์ คุณจะไม่พลาดสายจากโทรศัพทฺโดยที่ยังตรวจงานหรือดูคลิปจากคอมที่ใช้อยู่ได้ แต่กดพร้อมกันไม่ได้นะบอกไว้ก่อน แบตอึดสะใจแถมยังมี ระบบชาร์จไว เพียง 10 นาทีสามารถใช้ได้ถึง 5 ชั่วโมง หรือต่อให้แบตหมดก็ยังใช้สาย 3.5 ได้เอาเป็นว่าหากมีเวลาลองไปทดสอบที่ ร้านที่จำหน่ายกันดู ร้านไหนก็ได้แต่ก็ต้องขอตินิดนึงของตัวนี้นะ คือกล่องที่จะด้วยสบายกลับเป็นจุดที่ทำให้พกลำบากนิดหน่อยเพราะน้ำหนักของตัวกล่องเอง อีกจุดคือเรื่องของตัวสีดำผิวสีด้านหากโดนเหงื่อเนี่ยมันจะดูมันๆทำให้หมดราคาเอาได้ แน่นอนตัวนี้ไม่ได้บอกด้วยว่าโดนน้ำได้แค่ไหนแต่เอาจริงๆจากที่ทดลองใช้โดนฝนแบบปรอยๆยังไม่มีปัญหามากแนะนำว่าอย่าทำตามแบบผู้เขียนคงไม่มีใครอยากฟังเพลงกลางสายฝนแน่ๆ
ส่วนหากใครไปลองมาแล้วมีมุมไหนที่อยากมาเล่าก็เข้ามาคุยได้นะวันนี้ทีมงาน TechXcite ขอลาไปก่อนสวัสดีครับ