แกะกล่อง
Review : realme X3 SuperZoom ซูมสุดพลัง 60x หน้าจอลื่นสะใจ 120Hz
และกล้องหน้าคู่มีเลนส์ Super Wide !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ realme X3 SuperZoom สมาร์ทโฟนซูมโหดรุ่นแรกของ realme ที่ว่ากันว่าซูมได้ไกลสุดถึง 60 เท่ากันเลย ! นอกจากนี้ยังมาพร้อมสเปคจัดเต็มหน้าจอ 120Hz หน่วประมวลผลตัวแรงและกล้องหน้าคู่อีกด้วย เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมาก ๆ เลย รุ่นนี้มาพร้อมสโลแกนเท่ ๆ ว่า “พลังซูม พลังแรง” การใช้งานเป็นยังไงดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามแค่ไหน วันนี้รีวิวให้ชมกันครับ :D
กล่องเหลืองที่คุ้นเคย
เริ่มต้นกันที่ตัวกล่องกันเลย realme X3 SuperZoom ยังคงมาพร้อมกับกล่องสีเหลืองเด่น ๆ แบบที่เราคุ้นเคยกัน ด้านหน้ามาพร้อมกับชื่อรุ่นเด่น ๆ X3 (SuperZoom) พร้อมชื่อแบรนด์ realme เด่น ๆ ครับ
ที่ด้านหลังจะระบุจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ไว้หลัก ๆ 4 อย่างคือ หน่วยประมวลผล Snapdragon 855+ พร้อมระบบ HyperBoost, หน้าจอ 120Hz Ultra Smooth, กล้องหลัง 64MP AI Quad Camera ที่มีพลังซูมสูงสุด 60x SuperZoom และกล้องหน้าคู่ 32 + 8MP ครับผม
เปิดกล่องมาจะเจอตัวกล่องใส่พวกคู่มือและเคสอยู่ภายในมีคำทักทายต้อนรับสู่ realme Family ด้วย
ยกขึ้นมาเราก็จะเจอตัวเครื่องที่อยู่ในซองอย่างเรียบร้อย เดี๋ยวเราค่อยมาดูว่าตัวจริงสวยแค่ไหนเนาะ
อุปกรณ์ภายในอื่น ๆ ก็จะตามสไตล์ realme ไม่มีหูฟังแถมมาให้ในกล่องนะครับ มีสาย USB Type-A to Type-C รองรับระบบชาร์จไวด้วย
เข็มจิ้มถาดซิมก็จะอยู่ข้างใต้ของตัวสายชาร์จในกล่องนี้
อะแดปเตอร์ก็จะมีขนาดกำลังดีรองรับระบบชาร์จไว Dart Charge 30W ด้วยครับ
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ภายในกล่องของ realme X3 Super Zoom ก็จะให้มาแบบมาตรฐานของ realme เลยมีมาให้ด้วยกัน 6 อย่างประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง realme X3 SuperZoom
- เคสซิลิโคน
- สาย USB Type-C to Type-A
- อะแดปเตอร์ชาร์จ (Dart Charge 30W)
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เอกสารคู่มือการใช้งาน
ดีไซน์
บอดี้ฝาหลังระจกด้าน ผิวสัมผัสดี สีสวยอีกแล้ว
แกะกล่องเรียบร้อยหมดแล้วก็มาดูตัวเครื่องกันเลยดีกว่า เริ่มต้นกันที่ฝาหลังกันก่อนเลยดีกว่า realme X3 SuperZoom มาพร้อมกับดีไซน์ฝาหลังกระจกผิวด้านสวยงามสะดุดตามาก ๆ ตั้งแต่แกะกล่องมาเลย สีที่เราได้มารีวิวคือสี Artic White เล่นกับแสงได้ดีมาก จะมีความสะท้อนกับแสงเป็นรุ้ง ๆ คล้ายกับแสงเหนือเวลาตกกระทบบนผืนน้ำแข็งและหิมะสวยงามสุด ๆ
ผิวสัมผัสก็เป็นแบบด้านอีกแล้ว ส่วนตัวชอบผิวสัมผัสแบบนี้มากเลยครับ ให้ความรู้สึกที่หรูหราทั้งผ่านสายตาและการสัมผัสจริง แถมไม่ค่อยเก็บรอยนิ้วมือมากเท่าแบบผิวมันด้วย โลโก้การวางตำแหน่งต่าง ๆ ที่ด้านหลังรุ่นนี้จะวางไว้ให้จับถือแนวนอนได้เด่น มีโลโก้อยู่ที่มุมซ้ายล่าง และเลนส์กล้องอยู่มุมซ้ายบนครับ
เลนส์ Periscope มาแล้วบนรุ่นนี้
ตัวเลนส์กล้องรอบนี้มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือมาพร้อมเลนส์ Periscope แล้วนะจ๊ะ จะเห็นว่าเลนส์ตัวบนสุดจะเป็นสี่เหลี่ยมแตกต่างจากเลนส์ตัวอื่น ที่เป็นแบบวงกลม นอกจากนี้เลนส์ตัวอื่นก็จะประกอบด้วยเลนส์ macro 2MP, กล้องหลักความละเอียดสูง 64MP และเลนส์ Ultra Wide 8MP ครับผม
หน้าจอแบบ Dual Punch Hole ลื่นไหล 120Hz
พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้าจะมาพร้อมกับดีไซน์หน้าจอแบบ Dual Punch Hole หรือจอกล้องหน้าคู่ที่เป็นรูอยู่มุมซ้ายบนนั่นเอง ขนาดหน้าจอ 6.57” แสดงผลได้สวยงามที่ความละเอียดแบบ FHD+ อัตราส่วนแบบ 20:9 ใช้พื้นที่หน้าจอเยอะถึง 90.6% เลยครับ
แต่นอกจากความสวยงามของหน้าจอแล้ว บน realme X3 SuperZoom ยังมีทีเด็ดในเรื่องความลื่นไหลอีกด้วยเพราะได้หน้าจอ Ultra Smooth ที่มี Refresh Rate สูงถึง 120Hz กันเลยทีเดียว ลื่นไหล ตอบสนองการใช้งานได้ดีมาก ๆ ครับ
มาดูที่ตัวกล้องหน้าชัด ๆ จะเห็นว่าเว้นช่องไว้ได้อย่างดี มีกล้องหน้าคู่ความละเอียด 32MP + 8MP แบ่งเป็นเลนส์หลักและเลนส์ Super Wide Angle ครับ
ตัวเครื่องมาพร้อมความบาง 8.9 มม. ไม่หนาไม่บางจนเกินไป การวางตำแหน่งของรุ่นนี้ยังเหมือนกับ realme รุ่นก่อน ๆ มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ที่มุมซ้ายของตัวเครื่อง
ด้านขวาของตัวเครื่องก็จะเป็นปุ่ม Power ที่ซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ปุ่มด้วย ตรงนี้จะคล้ายกับ realme 6 Series ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้เนอะ ทำความเร็วในการสแกนเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น
ด้านบน-ล่างของตัวเครื่องจะมีการตัดขอบเหลี่ยมเพื่อเพิ่มให้ตัวเครื่องนั้นไม่โค้งไปซะทั้งหมด มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน 1 ตัวที่ด้านบน
ด้านล่างก็จะมีพอร์ตการเชื่อมต่อมาตรฐาน USB Type-C, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง, ไมโครโฟน และช่องใส่ถาดซิมครับ แน่นอนว่ารุ่นนี้ตัดเอาช่องหูฟังออกไปเรียบร้อยแล้ว
ถาดซิมของรุ่นนี้จะเป็นแบบ Dual-SIM ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD เพิ่มเติมได้นะครับ
โดยรวมในเรื่องของดีไซน์ก็ยังคงให้เราประทับใจได้เหมือนเดิม ดีไซน์ฝาหลังสี Artic White นี่สวยสุด ๆ ผิวสัมผัสเป็นแบบด้าน เล่นกับแสงสะท้อนได้อย่างสวยงามเลย วิบวับสุด ๆ ส่วนงานประกอบตัวเครื่องก็ทำได้ดีครับหรูหราใช้ได้ แถมได้หน้าจอ 120Hz มาให้ด้วยนะ
กล้อง
กล้องหลัง 4 ตัวมีระบบซูมเทพ ๆ แล้ว
กล้องเป็นไฮไลท์หลักของรุ่นนี้เลย และแน่นอนว่าสิ่งที่เด่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการซูม เพราะรุ่นนี้สามารถซูมได้เลนส์ Periscope มาให้แล้ว รองรับ SuperZoom ที่ 5x - 10x แบบไม่เสียรายละเอียด และยังสามารถซูมไปได้ไกลสุดถึง 60x (แบบ Digital) เลยด้วย เรียกว่าเป็นครั้งแรกของ realme ที่มีระบบกล้องนี้เข้ามาเลยก็ว่าได้ครับ
แต่ก็ใช่ว่าจะมีดีที่เรื่องซูมอย่างเดียว เพราะกล้องสเปคกล้องอื่น ๆ ที่ให้มาก็ไม่ธรรมดา กล้องทั้ง 4 ตัวมีสเปคดังนี้เลยครับ
- 64MP กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Samsung GW1 ขนาด 1/1.7” f/1.8
- 8MP เลนส์ Periscope ซูม Optical 5x f/3.4, OIS
- 8MP เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 119 องศา f/2.3
- 2MP เลนส์ macro f/2.4
จะเห็นว่ามีสเปคกล้องที่ครบครันใช้ได้ทั้งมุมกว้าง และ macro ก็มีมาให้ นอกจากเรื่องสเปคเจ๋ง ๆ แล้ว ตัว UI มีให้เลือกปรับเลนส์ได้ง่ายกดที่ไอคอนจุด ๆ ได้เลย จะขยายออกมาเป็นเลนส์ Ultra Wide Angle หรือซูมเข้าไปข้างหน้าอีกก็ได้ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลักของ realme X3 SuperZoom จะเห็นว่าไฟล์ภาพมีความคมชัดสูง โทนสีต่าง ๆ มีความสดใสและเป็นเอกลักษณ์ของ realme อยู่ ตัว HDR หรือภาพย้อนแสงต่าง ๆ ทำได้ดีเลยเรียกว่าแค่จัดองค์ประกอบภาพดี ๆ แล้วกดถ่าย สวย ครบ จบ เลยล่ะ
ซูมได้ซูมดีมีเลนส์ Periscope แล้ว
SuperZoom เป็นไฮไลท์บนชื่อรุ่นนี้เลย ด้วยเลนส์ Periscope ใหม่ความละเอียด 8MP ที่เพิ่มเข้ามาทำให้ realme X3 SuperZoom นั้นสามารถซูมไปได้ไกลกว่ารุ่นก่อน ๆ มาก เลนส์ตัวนี้ได้ระยะ Optical Zoom ที่ 5x เลย และสามารถซูมได้แบบ Digital Zoom ได้มากถึง 60x เลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพถ่ายซูมจากกล้องของ realme X3 SuperZoom อย่างที่เห็นว่าการเพิ่มเลนส์ Periscope เข้ามานั้นช่วยให้เราได้ภาพซูมที่คมชัดขึ้นจริง ๆ แถมตัวเลนส์หลักยังเป็น 64MP เอามาประมวลผลร่วมกันทำ Hybrid Zoom ได้แบบที่รายละเอียดยังคมชัดอีก ระยะที่ทำได้ดีจะอยู่ที่ 5x - 15x เลยครับ หวังผลได้เลย รายละเอียดคมชัดสมกับความเป็น SuperZoom จริง ๆ แถมได้ OIS เข้ามาช่วยกันสั่นไม่ให้ภาพเบลอแม้ถือด้วยมือเปล่า ส่วนระยะซูมที่ 60x ก็ไปได้ถึงจริง แต่ในการใช้งานก็อาจจะไม่ได้เด่นพอที่จะใช้จริงจังเนาะ เพราเป็น Digital Zoom
มีโหมด 64MP คมชัดสุด ๆ
สำหรับกล้องหลักของ realme X3 SuperZoom นั้นจะได้เซ็นเซอร์ความละเอียดสูงถึง 64MP อย่างที่บอกไป ทำให้ได้ภาพคมชัดแน่นอน แต่ในโหมด Photo (รูปถ่าย) เริ่มต้นนั้นจะถ่ายออกมาที่ความละเอียด 16MP แทน ถ้าเราอยากได้ความละเอียดเต็ม ๆ ก็ให้เลื่อนมาที่โหมด 64MP เลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด 64M ของ realme X3 SuperZoom จะเห็นว่าความละเอียดที่มีมากระดับนี้ ไฟล์ก็มีความคมชัดสูงขึ้นไปด้วย เราสามารถถ่ายภาพกว้าง ๆ แล้วมาครอปเอาส่วนที่อยากจะได้เพิ่มเติมได้อีกเนาะ
Ultra Wide Angle มุมกว้างถึง 119 องศา
อีกหนึ่งเลนส์ที่มีประโยชน์ต่อการใช้งานของเรามาก ๆ ก็คือเลนส์ Ultra Wide Angle นี่แหละ เพราะจะช่วยให้เราได้ถ่ายภาพมุมกว้างได้อย่างง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องถอยออกไปไกล
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Ultra Wide Angle เห็นได้ชัดว่าพอเรามีเลนส์มุมกว้างแบบนี้การเก็บภาพที่กว้างจริง ๆ ก็ง่ายขึ้น เพียงแค่กดสลับเลนส์ก็เหมือนถอยออกไปหลายก้าวแล้ว คุณภาพก็ทำได้ดีตัว Distortion ของภาพก็ไม่เยอะเพราะองศาที่ให้มา 119 องศากำลังสวยเลย
Ultra macro ถ่ายวัตถุใกล้ระยะ 4 ซม.
อีกเลนส์ที่มีมาให้ด้วยก็คือเลนส์ macro ให้เราได้ถ่ายภาพระยะใกล้ได้ที่ระดับ 4 ซม. มีความละเอียดอยู่ที่ 2MP วิธีเปลี่ยนมาใช้เลนส์ตัวนี้ก็ให้เลือกโหมด Ultra macro ใน more ได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากเลนส์ macro คุณภาพถือว่าทำได้กำลังดีครับ ถ่ายระยะใกล้ ๆ ได้จริง แต่ด้วยความละเอียดที่ไม่เยอะมากก็เลยจำเป็นต้องถ่ายในสภาพแสงที่มากหน่อยเนาะ
Portrait สวย หน้าเนียน ดีที่สุดแล้วแบรนด์นี้
ในส่วนของโหมด Portrait ก็ยังยอดเยี่ยมเหมือนเคย มีซอฟต์แวร์ AI Portrait มาช่วยเพิ่มความเนียนของใบหน้ารวมถึงการตัดขอบฉากหลังที่เนียนตา และ HDR เข้ามาใช้งานร่วมกันด้วย ในโหมดนี้เราสามารถเลือกระยะได้ 2 ระยะคือ 1x หรือ 2x ซึ่งทั้งคู่จะใช้เลนส์หลัก 64MP ในการถ่ายทั้งหมดครับ
นอกจากนี้ตัวกล้อง Portrait ใหม่นี้ยังมีฟิลเตอร์ที่ให้เราเลือกปรับแต่งภาพเป็นสไตล์อื่น ๆ ได้ด้วย มีให้เลือกกว่า 8 แบบเลยด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait ของ realme X3 SuperZoom ภาพที่ได้ต้องยอมรับว่าไฟล์นั้นเนียนตาดีจริง ๆ ใบหน้าของแบบก็ดูสวยขึ้นด้วย AI Portrait ปรับระดับได้อย่างเป็นธรรมชาติ สกินโทนสวยมาก ๆ การตัดขอบก็ทำได้ดีจริง ๆ ตามมุมผมสมจริงขึ้น ส่วนฟิลเตอร์ที่มีมาให้ก็ช่วยให้ได้ภาพที่สวยจนเราไม่ต้องแต่งเพิ่มเลยด้วย เท่าที่ลองใช้มาเฮียว่ากล้องของ realme นี่ถ่าย Portrait ได้สวยที่สุดแล้ว
Nightscape 4.0 กลางคืนเก่งขึ้น ใช้กับเลนส์ Ultra Wide และ Periscope ได้ด้วย
ในโหมดกลางคืนรุ่นนี้ยังคงโดดเด่นเหมือนเคย อัปเกรดมาเป็น Nightscape 4.0 แล้ว ใช้การรวมภาพในหลายสภาพแสงเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ภาพตอนกลางคืนได้สวยกว่า Auto ทั่วไป แถมการประมวลผลก็เร็วใช้ได้เลยด้วย รอบนี้ใช้งานร่วมกับตัวเลนส์ Ultra Wide Angle และ Periscope ได้ด้วยทำให้เราสามารถเก็บภาพกลางคืนได้หลายมุมมากขึ้นไปอีก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Nightscape 4.0 จะเห็นว่าภาพที่ได้นั้นสวยงามเอามาก ๆ เก็บรายละเอียดของภาพได้สวย ทั้งส่วนที่แสงจ้ากับแสงมืดพอรวมผ่านโหมด Nightscape 4.0 นี้ก็ช่วยให้ได้ระดับแสงที่พอ ๆ กัน
มี Starry mode โหมดถ่ายดวงดาวด้วยนะ
นอกจาก Nightscape 4.0 ที่ว่าเจ๋งแล้ว realme X3 SuperZoom ยังได้โหมดถ่ายดาวหรือ Starry mode มาอีกด้วย ซึ่งเมื่อเราเปิดโหมดนี้หลักการจะคล้าย ๆ กับ Nightscape 4.0 แต่ตัวกล้องจะเปิดรับภาพนานกว่า (ประมาณ 4 - 5 นาที) เพื่อเก็บภาพดวงดาวสวย ๆ ตรงนี้แนะนำให้ใช้ขาตั้งควบคู่ไปด้วยนะครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Starry ก็เนื่องจากสภาพแสงแถวบ้านเวลากลางคืนมันไม่ค่อยมีดาวเท่าไหร่ ภาพที่ได้เลยเป็นภาพของการเคลื่อนตัวของเมฆซะส่วนใหญ่ครับ ซึ่งถ้าไปในที่ที่มืดกว่านี้แล้ว เอาขาตั้งไปกางถ่ายก็จะได้ภาพที่แจ่มไม่น้อยเลยล่ะ
กล้องวิดีโอสูงสุด 4K และมี Live-HDR ด้วยนะ !
อีกจุดที่รุ่นนี้นำเสนอเลยก็คือเรื่องของวิดีโอ realme X3 SuperZoom มาพร้อมความสามารถในการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps เลยนะจ๊ะ แถมทีเด็ดกว่าก็คือมีฟีเจอร์ Live-HDR หรือวิดีโอ HDR แบบ realtime เลยด้วย สวยย้อนแสงมาถึงวิดีโอเลย
มีระบบกันสั่นเทพ Ultra Steady VDO ด้วย
เรื่องระบบกันสั่น realme ก็มีทั้งแบบ Ultra Steady ปกติและ Ultra Steady และ Ultra Steady Max ซึ่งจะแตกต่างกันที่เลนส์ที่ใช้ ฟีเจอร์นี้จะใช้ทั้งระบบกันสั่นของ OIS และ EIS ร่วมกันเพื่อให้ได้วิดีโอที่นิ่งสุด ๆ เลยล่ะครับ
กล้องหน้าคู่มุมปกติก็ดี มุมกว้างก็โอใหญ่
ส่วนกล้องหน้าก็เด่นไม่แพ้กันเพราะมาพร้อมกับกล้องหน้าคู่ มีเลนส์คู่ให้เลือก 2 ระยะคือ Wide 80 องศา และ Super Wide 105 องศา มุมกว้างสะใจเซลฟี่กลุ่มหรืออยากได้มุมดี ๆ ใช้เลนส์ตัวนี้ถูกใจแน่นอน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ realme X3 SuperZoom คุณภาพกล้องหน้าก็ดีไม่น้อยหน้ากล้องหลังเลย ให้เลนส์มา 2 ตัวใช้งานได้ 2 ระยะจริง คุณภาพเยี่ยมทั้งเลนส์หลักและมุมกว้างเลย สกินโทนยังถูกใจเราเหมือนเดิมครับ
โดยรวมในเรื่องกล้องก็ต้องยอมรับว่า realme X3 SuperZoom นั้นทำได้ดีจริง ๆ ช่วงเลนส์มีครบมาก แถมคุณภาพก็ดีตั้งแต่มุมกว้างไปยันซูมไกลสุด ๆ โหมดการถ่ายภาพก็ให้มาตอบโจทย์การใช้งาน จะกลางคืน วิดีโอ หรือหน้าชัด-หลังเบลอ ดีงามมากไฟล์สวยสกินโทนเยี่ยม ตัวกล้องหน้าก็ให้มา 2 ตัวแบบมีประโยชน์จริง ๆ ไม่ได้กินพื้นที่บนหน้าจอไปแบบเปล่าประโยชน์เนาะ เป็นอีกรุ่นที่นำเสนอเรื่องกล้องได้อย่างน่าสนใจ ถ้าคิดว่าเน้นเรื่องกล้องตัวนี้ก็ไม่ผิดหวังล่ะครับ
สเปคและประสิทธิภาพ
สเปคแรงสมเป็นเรือธง
ต่อมาก็คือเรื่องสเปค realme X3 SuperZoom มาพร้อมกับสโลแกน “”พลังซูม พลังแรง” แน่นอนว่าเรื่องพลังซูมเราได้เห็นไปแล้ว ส่วนเรื่องสเปคพลังแรงที่ว่านี้ก็โหดจริง ๆ เพราะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลตัวแรงอย่าง Snapdragon 855+ แบบ 7nm ถึงแม้จะเป็นชิปเซ็ตเรือธงของปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงแรงแบบล้นเหลือมาถึงช่วงนี้จริง ๆ มีหน่วยความจำแบบ UFS3.0 Boost ที่ช่วยให้การอ่านและส่งต่อข้อมูลนั้นรวดเร็วกว่ารุ่นทั่ว ๆ ไป พร้อมระบบชาร์จไว Dart Charge 30W เรียกว่าแค่สเปคเหล่านี้ก็เป็นระดับเรือธงจริง ๆ แล้วล่ะครับ ไม่ธรรมดาเลย
สเปค realme X3 SuperZoom
- หน้าจอ IPS Ultra Smooth ขนาด 6.57” ความละเอียด FHD+
- อัตราส่วน 20:9, Refresh Rate 120Hz
- ซีพียู Snapdragon 855+ Octa-Core 2.96GHz (7nm+)
- จีพียู Adreno 640
- แรม 12GB (LPDDR4X)
- ความจุ 256GB (UFS3.0)
- แบตเตอรี่ 4200mAh
- รองรับชาร์จไว Dart Chrage 30W
- กล้องหน้าคู่
- 32MP เลนส์หลัก f/2.5
- 8MP เลนส์ Super Wide มุมกว้าง 105 องศา f/2.2
- กล้องหลัง 4 ตัว
- 64MP กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Samsung GW1 ขนาด 1/1.7” f/1.8
- 8MP เลนส์ Periscope ซูม Optical 5x f/3.4, OIS
- 8MP เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 119 องศา f/2.3
- 2MP เลนส์ macro f/2.4
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power
- รัน Android 10 (realme UI)
- ขนาดตัวเครื่อง 163.8 x 75.8 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก 202 กรัม
UFS3.0 Boost อ่านข้อมูลเร็วขึ้น 183% !
อย่างที่บอกว่าหน่อยความจำภายในของ realme X3 SuperZoom นั้นเป็นแบบ UFS 3.0 Boost ให้มาแบบไม่กั๊กเลยจริง ๆ พร้อมเทคโนโลยี HPB + TW (Turbo Write) เทคโนโลยีเร่งความเร็วหน่วยความจำ ROM ให้มีความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงถึง 1500MB / s ซึ่งเร็วกว่า 183% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ส่วนแรมก็ให้มาแบบเต็มที่ 12GB (LPDDR4X)ใช้งานสลับแอปไป-มาได้อย่างสบาย ๆ เลย เรียกว่าเหลือกินเหลือใช้เลยแหละ
ผลการทดสอบก็ยังแรงเหลือ ๆ จริง !
อย่างที่บอกไปว่าชิปเซ็ต Snapdragon 855+ ในช่วงกลางปี 2020 ก็ยังคงแรงเหลือ ๆ อยู่มาก เราเทส AnTuTu Benchmark คร่าว ๆ ก็ได้คะแนนสูงถึง 489771 คะแนนกันเลยทีเดียว
ส่วนคะแนนจากฝั่ง GeekBench 5.0 ก็ออกมาสูงเช่นกัน Single-core ได้ไปที่ 772 คะแนน ส่วน Multi-core ได้ 2638 คะแนนเลยครับ
ลองเล่นเกมดูเลย แรงขนาดนี้
คะแนนที่ว่าสูง ๆ ถ้าเอามาเล่นเกมจริงจัง ๆ ผลจะเป็นยังไงบ้างนะ ในเรื่องเกม realme X3 SuperZoom จะมาพร้อมกับแอป Game Space ที่ช่วยจัดการระบบให้พร้อมเล่นเกมมากที่สุด ปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น ปรับเครือข่ายให้พร้อมต่อการออนไลน์ แถมยังรวมเกมไว้ในโซนเดียวกันนี้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีตัว HyperBoost 2.0 ที่เข้ามาเร่งประสิทธิภาพการทำงานให้เสถียรยิ่งขึ้นอีกด้วย
เกมที่เราใช้ทดสอบรอบนี้ก็เป็น Call of Duty Mobile เราสามารถปรับตั้งค่าระดับกราฟิกได้ที่ระดับสูงสุงทั้งหมดกราฟิกได้ที่ Very High และเฟรมเรตได้ถึง Max พวกตัวเลือกอื่น ๆ อย่างการลบรอยหยักหรือ Depth of Field ก็เปิดได้หมดครับ เรียกว่าจัดเต็มมาให้ลื่นไหลแบบสุดบนหน้าจอ 120Hz ของ realme X3 SuperZoom เลยล่ะ
ในเกมตัวเฟรมเรตก็นิ่งมาก ๆ เปิดไปที่ระดับ Max แล้วเล่นบนหน้าจอ 120Hz บอกเลยว่าแจ่มสุด ๆ ตอบสนองได้ดีทั้งด้วยสายตาและการสัมผัสครับ ติดนิ้วแบบสุด ๆ เรียกว่าช่วยมอบประสบการณ์การเล่นได้เป็นอย่างดี หน้าจอก็ใหญ่เต็มตาเล่นได้นาน ๆ แบบไม่ปวดตา
ส่วนเรื่องความร้อนก็หายห่วง realme X3 SuperZoom มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนแบบใหม่ ด้วยท่อระบายความร้อนแบบทองแดงขนาดใหญ่ เพิ่มพื้นที่กระจายความร้อนได้มากขึ้น 176.9% ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนเลยครับ
เท่าที่ลองเล่นมาก็ทำได้ดีจริง ๆ ตัวเครื่องนั้นจัดการเรื่องเกมได้อยู่หมัด อย่างที่บอกไปว่าสเปคระดับเรือธงของปีที่แล้วก็ยังแรงแบบเหลือ ๆ อยู่จริง เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องปรับกราฟิกก็ได้สูงสุด ใครอยากซื้อมาเล่นเกมไม่ผิดหวังครับ realme X3 SuperZoom
หน้าจอและระบบเสียง
หน้าจอลื่นไหล Ultra Smooth Display นี่มันอย่างงี้นี่เอง
หน้าจออันลื่นไหลของ realme X2 SuperZoom นั้นถือว่าเป็นอีกไฮไลท์ของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นรุ่นแรกของ realme ที่มาพร้อมหน้าจอ Refresh Rate สูงถึง 120Hz เลย ช่วยทำให้การตอบสนองต่าง ๆ นั้นรวดเร็วมากขึ้น อย่างเช่นการเลื่อนหน้าฟีด Facebook หรือ IG หน้าจอแบบ 120Hz นี้ก็จะให้ความแตกต่างที่ชัดเจน ลื่นไหลกว่าอย่างเห็นได้ชัด ใช้ไปนาน ๆ แล้วกลับไปใช้หน้าจอแบบปกติ (60Hz) ไม่ได้แล้วนะ มันติดใจอะ !
นอกจากนี้เรื่องความสวยงามของหน้าจอเวลาแสดงผลก็ยังยอดเยี่ยมด้วยหน้าจอ IPS FHD+ แสดงผลได้สวยสดและคมชัดมาก ๆ แต่ทีเด็ดกว่านั้นก็คือมีฟีเจอร์ OSIE มาเพิ่มความคมชัดของภาพรวมถึงความสมูทเวลาดูคอนเทนต์ให้เข้ากับหน้าจอแบบ 120Hz นี้ด้วย ทำให้เวลาเราดูคอนเทนต์ทั่วไปก็ดูลื่นไหลและสีสันสดขึ้นมาเป็นมาตรฐานเดียวกันสุด ๆ ครับ
ตัวหน้าจอของ realme X3 SuperZoom ก็ยังปลอดภัยมีโหมดช่วยลดแสงสีฟ้า เพื่อถนอมสายตาเราเวลาใช้งาน สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดได้อัตโนมัติด้วย
เสียงก็แจ่ม แต่เสียดายไม่ได้ลำโพงคู่
ในเรื่องเสียงรุ่นนี้ได้ลำโพง Super Linear Speaker ขนาด 12 x 16 มม. ช่วยขับพลังเสียงให้ได้ยินชัดเจนมากขึ้น แถมยังรองรับระบบเสียง. Dolby Atmos และ Hi-Res Audio อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ลำโพงของรุ่นนี้ให้มาเพียงตัวเดียว ไม่สามารถใช้งาน 2 ตัวบน-ล่างแบบ Stereo ได้ ทำให้มิติเสียงที่ออกมาอาจจะไม่กว้าง 2 ช่องทางเหมือนแบบลำโพงคู่น่ะเนาะ
ส่วนการใช้งานผ่านหูฟังรุ่นนี้ก็ไม่มีช่องหูฟังมาให้แล้ว ใช้ผ่านช่อง USB Type-C แทนเนาะ หรือจะใช้อุปกรณ์เสริมอย่างพวกหูฟังไร้สาย True Wireless ก็ได้ ของ realme เองก็มีวางจำหน่ายควบคู่กันด้วยพวก realme Buds Air หรือ realme Buds Air Neo ก็ราคาดีเลย
ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์การใช้งาน
ใช้ realmeUI แล้วนะ
มาดูเรื่องซอฟต์แวร์กันบ้าง realme X3 SuperZoom จะมาพร้อมกับ realmeUI เวอร์ชั่นล่าสุดที่ครอบทับอยู่บน Android 10 เรียบร้อย หน้าตา UI มีการปรับเปลี่ยนมาให้เป็นเอกลักษณ์ของทาง realme เองทั้งหมด แต่ก็ได้ความเรียบง่ายในการใช้งานไม่ต่างจาก Stock Android เท่าไหร่นัก
ในเรื่องความลื่นไหล ก็ตอบสนองการการใช้งานบนหน้าจอแบบ 120Hz ได้เป็นอย่างดี มีหน้า App Drawer หรือหน้ารวมแอปให้ใช้งานด้วย ตั้งมาเป็นค่าเริ่มต้นเลย
UI การใช้งานจะมีความคลีนสวยดี ชุด Wallpaper ที่ติดมากับตัวเครื่องก็มีให้เลือกเยอะเลย เข้ากับสีสันของตัวเครื่อง และความสวยสดของหน้าจอได้เป็นอย่างดีเลยครับ ตัวเลือกพวก Dark Mode ก็มีมาให้ปรับใช้งานกันแล้วบนเวอร์ชั่นนี้ เผื่ออยากได้หน้าจอถนอมสายตาไม่จ้าจนเกินไปก็ปรับได้เลยครับ
ตั้งค่าได้ที่ Settings > Display & Brightness > Dark mode
ที่มุมขวาบนของหน้าจอจะมีหน้า Smart SideBar หรือแถบทางลัดเข้าแอปรวมถึงพวกการบันทึกหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอหน้าจอก็ได้จากมุมนี้เลยครับ
มีแอป Theme Store มาให้เราเปลี่ยนทีมของตัวเครื่อง ถ้าที่ติดมายังไม่ถูกใจก็มาโหลดจากในนี้ได้ครับ ทั้งหมดก็ฟรีหมด มีให้เลือกเปลี่ยนตามสไตล์เราเลย อยากได้แบบโทนสี หรือน่ารัก ๆ ก็มีให้ดาวน์โหลดกันจ้า
Gesture ใช้งานได้ดี ลื่นไหล
ในเรื่องของการควบคุมก็มีแบบ Gesture มาให้เลือกปรับเช่นเดียวกับรุ่นก่อน เราสามารถปิดตัวปุ่ม 3 ปุ่ม (Navigation Keys) ด้านล่างไปได้เลย และใช้งานรูปแบบนี้แทน จะเลื่อนจากด้านล่างเพื่อเข้าสู่หน้าโฮม เลื่อนแล้วค้างไว้เพื่อเปิดหน้า Recent Apps ก็ทำได้สะดวก ส่วนตัวคิดว่ารูปแบบนี้คือการควบคุมใหม่ที่เราควรปรับตัวใช้งานได้แล้ว ถ้าใช้คล่อง ๆ ก็ตอบสนองการทำงานเราได้ดีมาก ๆ เลยล่ะ แถมมันลื่นไหลดีมาก ๆ เมื่ออยู่บนจอแบบ 120Hz แบบนี้ด้วยนะ
ตั้งค่าได้ที่ Settings > Convenience Tools > Navigation Buttons
มี Gesture & Motion ให้ใช้งานสะดวก
นอกจาก Gesture Navigation แล้ว พวกลูกเล่นการแตะสัมผัสต่าง ๆ ที่ realme เคยมีมาตลอดก็ยังคงมีมาให้ด้วย เรายังสามารถใช้ 3 นิ้วลากลงเพื่อแคปหน้าจอได้ แตะที่หน้าจอ 2 ครั้งตอนล็อคเพื่อปลุกหน้าจอ, แตะที่พื้นที่ว่างบนหน้าจอเพื่อล็อค หรือจะเป็นรูปแบบยกมือถือเข้ามาที่ใกล้ ๆ หูเพื่อรับสายอัตโนมัติก็ด้วยครับ เรียกว่าเป็นลูกเล่นที่ช่วยให้เราใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้นจริง ๆ
ตั้งค่าได้ที่ Settings > Convenience Tools > Gesture & Motions
มีทั้งสแกนใบหน้าสแกนลายนิ้วมือครบ
ในเรื่องความสะดวกสบายในการใช้งานปลดล็อคตัวเครื่อง realme X3 SuperZoom ก็ทำได้ดีตรับ ให้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power ด้านข้างตัวเครื่องมา แตะสแกนได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องกดลงไปจริง ๆ เพียงแค่แตะเท่านั้นตัวระบบก็จะตรวจจับได้ว่าลายนิ้วมือเราถูกต้องไหมและสแกนปลดล็อคได้ทันที ความเร็วก็คือแตะปุ๊ยมาปั๊บเลย ช่วงนี้ใครไม่ชอบระบบสแกนหน้าเพราะใส่หน้ากากบ่อย ๆ สแกนนิ้วนี่แหละแจ่มสุด ๆ
แต่ถ้าชินกับการใช้งานระบบ Raise to Wake ยกเครื่องเพื่อปลุกจอหรือเคาะหน้าจอเพื่อปลุก ระบบสแกนใบหน้าก็สะดวกดีไม่น้อยครับ ปลุกจอด้วยการเคาะที่หน้าจอแล้วพอจอติดตัวระบบก็จะสแกนใบหน้าให้เราได้ทันทีพร้อมสไลด์ปลดล็อคเข้าเครื่องได้เหมือนกัน
แบตเตอรี่และสรุป
แบตเตอรี่ 4200mAh นี่ใช้งานได้จุใจดีเลย
ปิดท้ายด้วยเรื่องของแบตเตอรี่ realme X3 SuperZoom ได้แบตเตอรี่ความจุ 4200mAh มาถือว่ากำลังดีกับสเปคที่ได้ ตัวชิปเซ็ตก็มีระบบจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยมครับไม่ถึงกับสูบแบตฯแม้จะใช้หน้าจอแบบ 120Hz ก็ตาม เท่าที่ลองใช้งานมากว่า 1 สัปดาห์รู้สึกได้เลยว่าแบตฯอึดเอาเรื่อง แม้จะใช้งานหนัก ๆ อย่างถ่ายรูป เล่นเกม หรือดูวิดีโอแบบต่อเนื่องครับ
รองรับชาร์จไวนะจ๊ะตัวนี้
ในเรื่องของระบบชาร์จ realme X3 SuperZoom ก็ให้ Dart Flash Charge 30W มาเลย ชาร์จไวสะใจแบตเตอรี่ 4200mAh นี่ทาง realme เคลมเลยว่าสามารถชาร์จได้เต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 55 นาทีเท่านั้น แถมยังรองรับระบบชาร์จแบบ PD 15W ด้วยหากไม่ได้ใช้อุปกรณ์ของ realme เอง ใจกว้างสุด ๆ
สรุปแล้ว สวย ครบเครื่อง ลงตัวอีกรุ่น
ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนครบเครื่องอีกรุ่นจาก realme ทั้งหน้าจอ Ultra Smooth 120Hz, หน่วยประมวลผล Snapdragon 855+, ความจุเยอะสะใจ 12GB + 256GB และที่ขาดไม่ได้เลยกล้องจัดเต็มทั้่งควมละเอียดสูง 64MP มุมกว้างเก็บหมด และเลนส์ Periscope ซูมสูงสุด 60x สมกับสโลแกน “พลังซูม พลังแรง” จริง ๆ ครับรุ่นนี้ เรียกว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าใช้งานจาก realme เพราะเรื่องคุณภาพและราคานั้นเหมาะสมมาก ๆ ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีไซน์สวยเด่น สเปคครบ กล้องแจ่มซูมสะใจสักตัวในงบประมาณไม่เกิน 2 หมื่นบาท เจ้า realme X3 SuperZoom นี้ก็เหมาะไม่น้อยเลยล่ะครับ :D
realme X3 SuperZoom ราคา 19,990 บาท
ราคาและโปรโมชั่น
ปิดท้ายกันที่ราคาและโปรโมชั่นสำหรับ realme X3 SuperZoom ก็เปิดราคามาได้อย่างน่าสนใจเพียง 19,990 บาทเท่านั้น เริ่มเปิดให้จองแล้ววันนี้ขายจริง 6 มิ.ย. 63 รับของแถมมูลค่ารวมกว่า 5,999 บาทเลยทีเดียว
และพิเศษมีโปรโมชั่นร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย AIS และ Truemove ราคาเริ่มต้นเพียง 10,990 บาทเท่านั้นครับ !
จุดเด่น
- หน้าจอ 120Hz มันลื่นถูกใจจริง ๆ
- ดีไซน์สวยเด่นมาก สี Arctic White ถูกใจสุด ๆ
- สเปคยังแรงสะใจ เล่นอะไรก็ลื่นไปหมด
- กล้องหลังคุณภาพเยี่ยมช่วงครบ
- กล้องหน้าคู่เก็บภาพครบ มีเลนส์ SuperWide
- รองรับชาร์จไว Dart Charge 30W
จุดสังเกต
- ไม่ให้ลำโพงคู่แบบ Stereo
- ไม่สามารถเพื่อ micro-SD ได้ (แต่ในเครื่องให้มาถึง 256GB แล้ว)
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite