Review : HUAWEI Watch GT 2 สมาร์ทวอทช์พันธ์อึดใช้งานยาวนานเป็นสัปดาห์
ในราคาค่าตัวเพียง 6,490 บาท !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวแก็ดเจ็ตใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับสมาร์ทวอทช์ตัวใหม่ล่าสุดของ HUAWEI กับ Watch GT 2 นั่นเอง ! ก็ถือว่าเป็นรุ่นต่อยอดความสำเร็จจาก Watch GT เดิม โดยรอบนี้อัปเกรดในเรื่องของสเปค แบตเตอรี่ และการใช้งานให้น่าใช้ขึ้นไปอีก รายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้น มาอ่านรีวิวของเจ้า Watch GT 2 นี้ไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ :D
รูปทรงเท่ ๆ สวยสปอร์ต !
HUAWEI Watch GT 2 นั้นจะมาในรูปทรงที่ดูเท่และมีความสปอร์ตเข้ากันได้อย่างดี ตัวจอเป็นแบบ Amoled แสดงผลได้สวยงามคมชัดมาก ๆ สู้แสงก็ได้ดี ไม่มีปัญหาเวลาใช้งานในที่กลางแจ้งตัวเรือนจะมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 42 มม.และ 46 มม. ซึ่งรุ่นที่เราได้มารีวิวนั้นจะเป็น 46มม. นั่นเองครับ หน้าจอของรุ่น 46 มม.จะมีขนาดอยู่ที่ 1.39" พร้อมความละเอียด 454 x 454 พิกเซลครับผม
เวลาสวมใส่บนข้อมือแล้วให้ความรู้สึกที่เต็มดีทีเดียว ตัวเรือนจะมีให้เลือก 3 สีคือ Black Stainless Steel, Stainless Steel, Titanium Grey Stainless Steel ก็จะแบ่งไปตามสีของสายที่ให้มาในชุดขายเริ่มต้นด้วย อย่างตัวสายสีส้มที่เราได้มารีวิวนี้จะได้ตัวเรือนเป็นสี Black Stainless Steel ก็คือตัวเรือนสีดำนั่นเองครับ
ที่ด้านขวาของตัวเรือนจะมีปุ่มกด 2 ปุ่มคือปุ่มเรียกหน้ารวมแอป + ย้อนกลับ และปุ่มพิเศษสำหรับการออกกำลังกาย นอกจากนี้ก็ยังมีตัวลำโพงของตัวเครื่องอยู่ตรงนี้ไว้ใช้งานคุยโทรศัพท์หรือฟังเพลงได้ด้วย
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังตัวเรือนจะเจอกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (สีเขียวกระพริบ) และเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวเวลานอน (สีใส ๆ) มาที่ด้านหลังนี้ด้วย
ตัวสายจะมีให้เลือก 3 แบบคือ แบบ Fluoroelastomer (แบบที่รีวิว), แบบหนังสี Brown Leatherและแบบโลหะ Titanium Gray สามารถถอดเปลี่ยนเองได้ หรือจะหาสายนาฬิกาทั่วไปมาใช้ก็ได้เช่นกัน
ตัวสายแบบ Fluoroelastomer นี้เวลาสวมใส่ก็ให้ความรู้สึกที่กระชับสบายข้อมือ แหละเหมาะกับการออกกำลังกายดี ไม่เก็บคราบเหงื่อมากจนเกินไป
ในเรื่องของดีไซน์ต้องบอกว่าต่อยอดจากรุ่นที่แล้วได้ดีทีเดียว ทั้งในเรื่องของตัวหน้าจอ Amoled ที่สีสวยแสดงผลได้ดีแม้ใช้งานกลางแจ้ง ตัวเรือนที่ดูสปอร์ตและแฟชั่นไปในตัว สายกระชับกับข้อมือได้ดีเวลาสวมใส่ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ที่หน้าตาดูดีใช้ได้เลยล่ะ
สเปค HUAWEI Watch GT2 (46mm.)
- ระบบปฏิบัติการ LiteOS
- หน้าจอ Amoled 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล Kirin A1
- ความจุ 2GB
- แบตเตอรี่ 455 mAh
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1, BLE, BR, EDR
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyro, Geomagnetic, HRM, Ambient Light, Air Pressure, Capacitive
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน 5 ATM
- ขนาด 45.9 x 45.9 x 10.7 มม.
- น้ำหนัก 41 กรัม (ไม่รวมสาย)
ในเรื่องของสเปคก็ให้มาแบบครบครันสำหรับสมาร์ทวอทช์ มีชิปเซ็ตตัวใหม่อย่าง Kirin A1 ที่ช่วยในเรื่องการทำงานและประหยัดแบตเตอรี่ ตัวแบตฯให้มาเยอะถึง 455mAh ทาง HUAWEI เคลมว่าใช้งานได้ยาวนานถึง 2 สัปดาห์กันเลยทีเดียว
การใช้งาน
ในเรื่องของการใช้งานก็เชื่อมต่อกันผ่าน Bluetooth และแอป HUAWEI Health ใช้งานได้ทั้งระบบ Android ที่มีเวอร์ชั่นตั้งแต่ Android 4.4 Kitkat ขึ้นไป และ iOS ก็เวอร์ชั่น 9 ขึ้นไปใช้งานควบคู่กันได้ครับ
ในตัวแอปก็จะมีการตั้งค่าพร้อมทั้งสถานะต่าง ๆ ที่ทำการเชื่อมต่อกับตัว Watch GT 2 ไว้ อาทิ การนับก้าว อัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจจับการนอน เป็นต้นครับ
การใช้งานตัว Watch GT 2 นั้นเราสามารถควบคุมได้ผ่านตัวเรือนเองด้วยหน้าจอ Touch screen ขนาดใหญ่ ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ดีเลย์แตะและเลื่อนได้อย่างลื่นไหล สามารถเรียกเมนูต่าง ๆ ได้จากปุ่มด้านข้างทั้ง 2 ข้าง โดยตัวปุ่มบนจะเป็นปุ่มเมนูใช้เรียกแอปทั้งหมดที่มีในเครื่อง และปุ่มล่างจะเป็นปุ่มฟังค์ชั่นที่เราสามารถตั้งค่าได้ว่ากดแล้วจะเปิดแอปไหน (ในค่าเริ่มต้นจะเป็นแอปออกกำลังกาย)
ตัวหน้าปัดจะมีให้เราเลือกหลายแบบตามสไตล์สมาร์ทวอทช์ ใช้การแตะค้างที่หน้า Watch Face แล้วเลือกเปลี่ยนได้เลย หรือจะดาวน์โหลดเพิ่มเติมจากในแอป Huawei Health ก็ได้เช่นกันครับ
หน้า UI ของ Watch GT 2 เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยากเลื่อนหน้าซ้ายสุดจะเจอกับตัวจับนับก้าวและการออกกำลังกายรายวันของเราที่ตั้งไว้
เลื่อนหน้าขวาจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (เลื่อนมาก็วัดให้อัตโนมัติเลย) โดย Watch GT 2 จะมาพร้อมกับระบบ HUAWEI TruSeen ที่อัปเกรดเป็นเวอร์ชั่น 3.5 เพื่อเพิ่มความแม่นยำและวัดได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น
หรือลากจากด้านบนลงมาก็จะเป็นตัวแถบทางลัดเข้าสู่การใช้งาน อาทิ ปิดการแจ้งเตือน, โชว์หน้าจอให้ติด 5 นาทีโดยไม่ดับไปเอง, ค้นหาโทรศัพท์, ตั้งนาฬิกาปลุก และทางลัดเข้าหน้าตั้งค่า ซึ่งตรงนี้จะมีแสดงสถานะแบตฯอยู่ด้วยครับ
ด้านล่างลากขึ้นมาจะเป็นพวกข้อความแจ้งเตือนที่ตั้งค่าให้ซิงค์กับมือถือของเรา โดยรุ่นที่ขายไทยก็รองรับภาษาไทยแบบเต็มรูปแบบแล้ว ถึงแม้ตัว Watch GT 2 จะตั้งค่าภาษาในเครื่องเป็นอังกฤษก็ตามครับ
Watch GT 2 จะมีหน้าให้เลือกตั้งค่าแสดงผลหน้านาฬิกาให้ติดอยู่ตลอดเวลาด้วย แต่มีให้เลือกเพียง 2 แบบคือ ดิจิทัล หรือแบบเข็ม ซึ่งเมื่อตั้งค่าแล้วตัวหน้าปัดจะติดอยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ Raise to Wake หรือยกข้อมือแล้วจอติดออกไปด้วย (ต้องกดปุ่มหรือแตะหน้าจอแทนเท่านั้น) เข้าไปตั้งค่าเพิ่มเติมได้ที่ Settings > Display > Advanced > Standby Watch Face เลยครับ
ออกกำลังกายได้มากมาย !
ในเรื่องของการออกกำลังกายก็มีการตรวจจับมากมาย ทั้งการวิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ปีนเขา รวมถึงการว่ายน้ำ เรียกว่าเพียบ ๆ เลย และแน่นอนว่าตรวจจับการว่ายน้ำได้แบบนี้ตัวเรือนนั้นรองรับมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ 5ATM ลงน้ำได้ลึกถึง 50 เมตรเลยอีกด้วย
ตรวจจับการนอนได้ด้วย
Watch GT 2 มาพร้อมกับฟีเจอร์ TruSleep 2.0 ที่ช่วยตรวจจับการนอนของเราได้ด้วย โดยจะใช้ควบคู่กับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และตรวจจับได้อย่างแม่นยำ รู้ว่าเราหลับจริง ๆ กี่ชม.หรือจะเป็นแค่การงีบ เช็คค่าต่าง ๆ อย่างละเอียดได้ผ่านแอป HUAWEI Health อีกทีได้เลย
ฟังเพลงก็ได้นะ
นอกจากเรื่องการใช้งานด้านการออกกำลังกายหรือตรวจจับต่าง ๆ แล้ว Watch GT 2 ยังรองรับการใช้งานด้านความบันเทิงได้ด้วย อย่างการเล่นเพลงหรือควบคุมเพลง จะมีแอปเครื่องเล่นเพลงอยู่ ให้เราควบคุมเพลงที่ซิงค์ไว้กับสมาร์ทโฟนได้ หรือจะใส่เพลงไว้บนตัว Watch เองแล้วเปิดเพลงฟังผ่านลำโพงตัวเครื่องเลยก็ได้ เสียงใสใช้ได้เลยล่ะ
รับสายจากตัวเรือนก็ได้เช่นกัน
อย่างที่ทราบว่า Watch GT 2 นั้นมาพร้อมกับลำโพงในตัว เพราะฉะนั้นรอบนี้เราสามารถรับสายและคุยโทรศัพท์จากข้อมือเราได้เลย โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา ตรงนี้เป็นอีกหนึ่งความสามารถใหม่ที่อัปเดตขึ้นมาบนรุ่น GT 2 นี้ครับผม
ตามหามือถือได้ด้วยถ้าหาไม่เจอ
Watch GT 2 จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ Find my Phone หรือค้นหามือถือของเราได้ด้วย โดยเราสามารถแตะที่แอป Find my phone ได้เลย แล้วจะเป็นการสั่งให้สมาร์ทโฟนที่เราซิงค์ไว้ร้องขึ้นมา เท่านี้เราก็น่าจะหามือถือเจอแล้ว ถ้าเกิดไม่รู้เผลอไปวางไว้ไหนน่ะเนาะ
แบตเตอรี่สุดทนใช้งานเป็นสัปดาห์อะ !
อีกเรื่องที่ Watch GT 2 โดดเด่นมาก ๆ ก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ เพราะทาง HUAWEI เคลมเองว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 สัปดาห์ เท่าที่ลองใช้งานมาจริง ๆ ก็อยู่ในเกณฑ์นั้นเลยเปิดการแจ้งเตือนทุกอย่างครบ ตรวจจับทั้งการเต้นของหัวใจ รวมไปถึงการนอนก็อยู่ได้เป็น 10 วันจริง ๆ ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง เรียกว่าใส่จนเกือบลืมชาร์จเลยเมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่น ๆ ที่เคยลองมา เจ้าตัวนี้ทำได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ
ส่วนระบบการชาร์จก็ชาร์จใส่แท่นชาร์จแบบแม่เหล็กที่แถมมาในกล่องได้เลย แต่น่าเสียดายที่ไม่รองรับชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi ไม่งั้นก็ชาร์จกับสมาร์ทโฟนที่รองรับอย่าง Mate 30 Pro หรือ P30 Pro อะไรแบบนี้ได้เลยไม่ต้องพกที่ชาร์จไปด้วยเนอะ
สรุปแล้ว !
ก็จัดว่าเป็นสมาร์ทวอทช์อีกรุ่นที่น่าสนใจมาก ๆ ในช่วงนี้ ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามสปอร์ตกำลังดี แฟชั่นกำลังได้ ใส่คู่ไปแล้วดูดีเลยล่ะ แถมฟังค์ชั่นการใช้งานทั่วไปก็มีมาให้ครบทั้งการแจ้งเตือน คุยโทรศัพท์ ตรวจจับการออกกำลังกาย นอน เรียกว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว แต่ทีเด็ดสุด ๆ ที่ใช้มาก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของแบตเตอรี่ที่อึดมาก ๆ ใช้งานได้ยาวนานเป็นสัปดาห์เลย เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการสมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ แบบที่สุดเลยล่ะ
ราคา
ปิดท้ายกันที่ราคาค่าตัว HUAWEI Watch GT 2 รุ่น 46mm นั้นจะเริ่มต้นเพียง 6,490 บาทเท่านั้น เรียกว่าฟีเจอร์ครบในราคาที่ไม่สูงจนเกินไปด้วย วางจำหน่ายแล้ววันนี้ไปจัดกันได้เลยครับผม :D
รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite