Hands On : Samsung Galaxy A80 สมาร์ทโฟนนวัตกรรมใหม่ของซัมซุงที่มาพร้อมดีไซน์ไฉไล หน้าจอเต็มสะใจ กล้องหมุนได้สุดกลไก !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับสมาร์ทโฟนน้องใหม่ของ Samsung ที่เพิ่งจะเปิดตัวกันไปหมาด ๆ เลยกับ Samsung Galaxy A80 นั่นเอง รอบนี้มาเปิดตัวในไทยอย่างยิ่งใหญ่กันเลย ซึ่งตัวโปรดักส์เองก็ต้องบอกเลยว่าออกมาโดดเด่นมาก ในเรื่องของดีไซน์ สวยปรับโฉมของ Galaxy A Series ไปอีกยกใหญ่เลยทีเดียว เรียกว่าเป็น Galaxy A รุ่นสูงสุดเลยก็ว่าได้ เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว มาชมกันดีกว่าว่านอกจากดีไซน์ที่สวยแล้วรุ่นนี้ยังมีอะไรโดดเด่นอีก เนาะ :D
ดีไซน์ปรับโฉมใหม่ สวยมาก !
เริ่มต้นกันที่เรื่องของดีไซน์กันก่อนเลย สำหรับ Galaxy A80 นั้นอย่างที่บอกว่ามาพร้อมกับโฉมใหม่อีกครั้ง มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่และแสดงผลได้เต็มตาแบบสุด ๆ กับ Infinity Display ใหม่ ที่ไม่ใช่ทั้ง O ทั้ง V ไม่มีรู ไม่มีติ่งบนหน้าจอให้เห็นเลย เรียกว่าทั้งด้านหน้านั้นเป็นหน้าจอแบบเต็ม ๆ เลยล่ะครับ ทำให้เวลาจับถือในมือนั้นเรียกว่าเป็นมือถือยุคใหม่ได้เป็นอย่างดีเลย
ตัวหน้าจอยังสวยคมเหมือนเดิมด้วยชนิดหน้าจอแบบ Super Amoled และพอยิ่งไม่มีส่วนเกินบนหน้าจอแล้ว ยิ่งต้องยอมรับเลยว่าการแสดงผลนั้นสวยสุด ๆ ขอบจอบางเฉียบ ขนาดหน้าจอของรุ่นนี้ให้มาใหญ่ถึง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400 พิกเซล) กับอัตราส่วนแบบใหม่อีก 20:9 ทำให้หน้าจอดูยาวเต็มตามากขึ้น
นอกจากติ่งบนหน้าจอไม่มีแล้ว ช่องลำโพงสนทนา (Ear Piece)ก็หายไปด้วยเช่นกัน โดยบน A80 นี้จะใช้ระบบ On Screen Sound ที่มีการสั่นสะเทือนของหน้าจอสำหรับการคุยโทรศัพท์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีช่องลำโพงสนทนาให้เห็นแล้ว และขอบหน้าจอด้านบนนี้ยังชิดขึ้นไปอีกด้วย
ขอบหน้าจอด้านล่างก็เหลือไว้เพียงนิดเดียวเท่านั้น เรียกว่าบางเฉียบมาก ๆ แล้วล่ะครับ
บอดี้ของ Galaxy A80 จะเป็นการผสานกันระหว่างกระจกเข้ากับโลหะได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกที่พรีเมี่ยมกว่า Galaxy A หลาย ๆ ตัวที่ผ่านมา ฝาหลังจะเป็นกระจกโค้งแบบหลังเต่า ช่วยให้การจับถือในมือนั้นสะดวก
ปุ่มกดก็วางตำแหน่งได้ดีทีเดียวครับ เริ่มจากปุ่ม Power ที่ด้านขวามือของตัวเครื่อง ตำแหน่งวางได้ดีทีเดียว ไม่สูงเกินไปแบบตอน S10 Series เอื้อมกดได้อย่างง่ายดาย ส่วนปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงก็อยู่ที่ด้านซ้ายมือ รอบนี้ไม่มีปุ่ม Bixby มาคอยกวนใจเราแล้ว ถือว่าดีครับ !
พอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้อยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง โดยจะเหลือเพียงพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C อย่างเดียว ตัดเอาพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. ออกไปแล้ว และลำโพงหลักของตัวเครื่องกับช่องใส่ซิมก็อยู่ตรงนี้ด้วย
ส่วนถาดซิมรุ่นนี้เป็นแบบรองรับ nano-SIM2 slot ใช่ครับ รุ่นนี้ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD เพิ่มได้แล้วครับ
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังตัวเครื่องกันแบบชัด ๆ จะเห็นถึงความโค้งของฝาหลังที่เยอะพอควรเลย จับถือในมือได้อย่างดีนะ ส่วนตัวชอบฟีลเวลาจับในมือดี ตัวกระจกด้านหลังจะใช้เป็นกระจก Gorilla Glass 6 เพิ่มความทนทานต่อรอยขีดข่วนหรือตกหล่นได้เป็นอย่างดี ดีไซน์ด้านหลังก็เรียบ ๆ มีเพียงโลโก้และกล้องหลังเท่านั้น
มาดูที่ตัวกล้องกันชัด ๆ กล้องของ Galaxy A80 นั้นจะให้มาด้วยกัน 3 ตัวคือกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide 123 องศา และกล้อง 3D Depth Sensing (ToF) ครับ
พลิกดูด้านหลังละก็พลิกกลับมาดูด้านหน้าอีกที ก็เพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องที่หมุนได้นั่นเอง ถือว่าเป็นกลไกแบบใหม่ที่น่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะ เพราะ Galaxy A80 นั้นจะใช้กล้องหน้า - หลังเป็นชุดเดียวกัน มีกลไกกล้องยกได้พร้อมหมุนมาอยู่ที่ด้านหน้านี้เลย
โดยถ้าการใช้งานปกติก็กล้องก็จะอยู่ตำแหน่งด้านหลังแบบปกติ แต่ถ้ามีแอปไหนหรือจะเปิดกล้องเพื่อเซลฟี่ตัวแผงด้านหลังจะมีการยกขึ้นและกล้องที่เคยอยู่ที่ด้านหลังจะฟลิบกลับมาเป็นกล้องด้านหน้าด้วยกลไกมอเตอร์ภายใน จังหวะแรกที่เปิดกล้องต้องอุทานในใจดัง ๆ เลยว่า "โคตรล้ำ"
สังเกตว่าจากด้านข้างนี้จะเห็นถึงการยกขึ้นของตัวชิ้นส่วนได้ชัดเจน ยกขึ้นไปทั้งแผงเลย และพอสลับกลับมาด้านหลังเราก็จะเห็นเป็นทึบ ๆ แบบนี้เลย การสลับกล้องไปมาทำได้เร็วทีเดียว แต่ก็ไม่ถึงขึ้นที่สลับปุบปับแบบกล้องปกติ เพราะยังต้องมีการหมุนของตัวมอเตอร์ภายในด้วย ถึงไม่เร็วมาก แต่เท่มากนะบอกเลย :P
อย่างที่บอกไปว่ารอบนี้เรื่องดีซน์ของ Galaxy A80 นั้นนำมาอย่างชัดเจน เปลี่ยนภาพลักษณ์ของ Galaxy A Series ไปเยอะพอควรเลย ด้วยหน้าจอที่เต็มตาแบบสุด ๆ ไม่มีติ่ง ไม่มีรูบนหน้าจอแล้ว ฝาหลังและงานประกอบที่ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือกลไกกล้องยกได้ที่ดูยังไงก็ล้ำมาก ๆ ยกปุ๊บสลับมากล้องหน้าปั๊บ เท่สุด ๆ
สำหรับ Galaxy A80 นั้นเปิดตัวมาด้วยกัน 3 สีคือ Ghost White, Angel Gold และ Phantom Black ครับ สวยทุกสีเลย มีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน สีดำรอบนี้เป็นดำตัดทองด้วยนะ
สเปค Samsung Galaxy A80
- หน้าจอ Super Amoled ขนาด 6.7" FHD+ อัตราส่วน 20:9
- ชิปเซ็ต Snapdragon 730 Octa-core (Dual Core 2.2GHz + Hexa Core 1.7GHz)
- แรม 8GB
- ความจุ 128GB
- ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้
- แบตเตอรี่ 3700 mAh
- รองรับระบบชาร์จไว Super Fast Charge 25W
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล + กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล + กล้อง 3D Depth
- กล้องหน้าใช้ตัวเดียวกับกล้องหลัง
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับ 2 ซิม
- ขนาดตัวเครื่อง 165.2 x 76.5 x 9.3 มม.
- รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย OneUI
จะเห็นว่าในเรื่องของสเปคนั้นมีการอัปเกรดขึ้นมาอีกขั้น หน่วยประมวลผลเป็นชุดใหม่ Snapdragon 7150 Octa-core, แรม 8GB, ความจุ 128GB น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้แล้ว แต่ 128GB ก็น่าจะเหลือ ๆ เนอะ, แบตเตอรี่ให้มา 3700 mAh และกล้องประสิทธิภาพสูงที่ใช้เป็นทั้งกล้องหน้าและหลังพร้อมกันไปเลย
ระบบปฏิบัติการตัวล่าสุด
ในส่วนของซอฟต์แวร์ Galaxy A80 นั้นได้ซอฟต์แวร์ตัวล่าสุดอย่าง Android 9.0 Pie ครอบทับมาด้วย OneUI แบบเดียวกับของ Galaxy S10 Series ทำงานได้อย่างลื่นไหล และสมูทมาก ๆ ครับ
มีระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอนะ
อย่างที่เห็นไปรุ่นนี้ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่องเลย เพราะมีการใส่เซ็นเซอร์แบบ Optical มาไว้บนหน้าจอแบบตอน A50 นั่นเอง ก็สามารถแตะสแกนได้จากด้านหน้านี้ได้เลยครับ ถือว่าสะดวกใช้ได้
กล้องหมุนได้ หน้า-หลังเท่ากัน !
อย่างที่บอกไปครับว่ากล้องของรุ่นนี้เป็นกล้องหมุนได้ ทำให้ตอนเราใช้กล้องหน้าหรือหลังก็จะได้คุณภาพที่เท่ากันเลย ใช้เลนส์ต่าง ๆ ได้ครบเช่นกัน กล้องของ A80 มีตัวหลักคือ 48 ล้านพิกเซล f/2.0 ถ่ายได้สวยคมแน่นอน และอีกตัวก็คือ Ultra Wide มุมกว้าง 123 องศา เก็บภาพบรรยากาศต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ทีนี้เวลาอยากเซลฟี่มุมกว้างมาก ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว เพราะกล้องสามารถขยายออกมาด้วยกล้อง Ultra Wide ได้เลยนี่แหละ สะดวกสุด ๆ ลูกเล่นหลาย ๆ อย่างที่มีจากกล้องหลังก็ใช้งานได้ในกล้องหน้าด้วย (ก็กล้องชุดเดียวกันนี่เนอะ)
กล้องใหม่ 3D Depth ที่เพิ่มเข้ามานั้นจะเข้ามาช่วยในการจับระยะของแบบและฉากออกจากกันได้ในโมหด Live Focus ที่เนียนตามากขึ้น รวมไปถึง Live Focus บนวิดีโอรุ่นนี้ก็ทำได้ด้วย เรียกว่าอัดเทคโนโลยีมาแบบสุด ๆ เลยทีเดียวครับ
รองรับ Super Fast Charge แล้วนะจ๊ะ
อีกเรื่องที่ Samsung หยุดนิ่งมาสักพักใหญ่ก็คือระบบชาร์จที่อยู่แค่ 18W มานาน รอบนี้อัปเกรดขึ้นมาแบบจุใจ เพิ่มความเร็วในการชาร์จได้ถึง 25W แล้ว จึงเพิ่มคำว่า Super เข้าไปข้างหน้าเป็น Super Fast Charge ซะเลย ทีนี้น่าจะเร็วปรู๊ดปร๊าดถูกใจเหล่าสาวกกันอย่างแน่นอนครับ
สรุปหลังลองจับ !
เปิดตัวมาได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ สำหรับ Galaxy A80 รุ่นสูงสุดของ Galaxy A ในคราวนี้ ด้วยดีไซน์ที่สวยชวนตะลึงจริง ๆมีหน้าจอ New Infinity Display ที่เต็มตากว่ารุ่นไหน ๆ แถมยังเป็น Super Amoled ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามอยู่แล้ว มาพร้อมกลไกกล้องหมุนได้ที่ดูว้าวและล้ำสุด ๆ บอดี้การจับถือต่าง ๆ ทำได้ดีทีเดียว สวยหรูไม่แพ้รุ่นใหญ่ ๆ ตระกูล S เลยล่ะ ส่วนการทำงานด้านอื่น ๆ เรายังไม่ได้สัมผัสมากนัก ยังไงรอได้เครื่องมาจะทดสอบให้อีกทีว่า สเปคใหม่นี้เร็วแรงสะใจเราแค่ไหนเนาะ นี่ก็ถือว่าเป็นคร่าว ๆ ของ Galaxy A80 ละกันเนาะ สำหรับวันนี้ เฮียแม็พ. TechXcite คงต้องลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่บทความหน้าครับ :D
บทความโดย : เฮียแม็พ. TechXcite