Unbox : พรีวิวแกะกล่อง Huawei P30 Pro เรือธงที่จะมาเปลี่ยนการถ่ายภาพบน
สมาร์ทโฟนให้เป็นเรื่องง่ายด้วยกล้อง Leica ถึง 4 ตัว !!

สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความพรีวิวมือถือรุ่นใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวไปหมาด ๆ Huawei P30 Pro นั่นเอง รุ่นนี้ก็สร้างความฮือฮาให้กับแฟน ๆ ได้อย่างมากอีกเช่นเคย ด้วยดีไซน์โฉมใหม่สวยขึ้น กล้องใหม่หมดที่จะมีเปลี่ยนวงการกล้องบนสมาร์ทโฟนอีกครั้ง และแน่นอนในบทความนี้เราก็ขอมาแกะกล่องเจ้า P30 Pro รุ่นใหม่นี้ให้ชมกันสักหน่อย ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง มาติดตามไปพร้อม ๆ กันเลยครับ :D

แกะกล่องจ้า !

เริ่มต้นที่ตัวกล่องกันเลยครับ จุดหนึ่งที่ทำให้แยกตัว P Series และ Mate Series ออกจากกันได้ดีตอนนี้ก็คงเป็นสีของกล่องนี่แหละ เพราะพักหลังจะแยกสีชัดเจนโดยกล่องของ P Series นั้นจะเป็นสีขาว ส่วน Mate จะเป็นสีดำ เอ้อ ง่าย ๆ แบบนี้แหละ สำหรับกล่องของ P30 Pro ก็มาในทรงเดียวกับปีที่แล้วเลยครับ กล่องสีขาวตัดกับตัวอักษรสีทองที่เป็นชื่อรุ่นชัดเจน และมุมล่างก็มีโลโก้ Leica อยู่เหมือนเคย รอบนี้ Quad Camera แล้วนาจากล้อง 4 ตัว

เปิดกล่องออกมาก็จะเจอกับตัวเครื่อง P30 Pro นอนรอเราอยู่เลย อะ…เปิดเครื่องรอเลยจ้า

อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะวางเรียงกันเป็นชั้น ๆ อย่างเป็นระเบียบเลยทีเดียว เอาเป็นว่าหยิบมาวาเรียงกองกันเลยดีกว่า ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดก็จะมีด้วยกัน 7 อย่างดังนี้ครับ

• ตัวเครื่อง P30 Pro
• เคสซิลิโคนใส
• หูฟังพอร์ต USB Type-C
• สาย USB Type-C
• อแดปเตอร์ SuperCharge (40W)
• เข็มจิ้มถาดซิม
• คู่มือการใช้งาน

หูฟังที่ให้มาก็ยังคงเป็นตัวเดิมกับตอน P20 Pro ครับ ใช้พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C เพราะไม่มีช่องหูฟังมาให้แล้ว แต่รอบนี้ไม่มีแถม Dongle หรือตัวแปลงหูฟังมาให้แล้วนะครับ ผ่านมาเป็นปีแล้วน่าจะชินกันได้แล้วเนอะ :P

ส่วนอแดปเตอร์ชาร์จไฟรุ่นนี้ได้ SuperCharge 40W มาเหมือนตอน Mate 20 Pro เลยครับ ก็ชาร์จไวกันเต็มเหนี่ยวไปเลยครับ

เคสที่แถมมาก็เป็นเคสซิลิโคนใส่เหมือนเคยครับ ใส่แล้วยังแสดงสีสันของตัวเครื่องได้ชัดเจน คลุมไปรอบตัวเครื่องถือว่าใช้งานได้ทันทีที่แกะกล่องออกมาเลย

ยลโฉมกันเลยไหม !?

เอาล่ะ ได้เวลามาดูตัวเครื่องแบบชัด ๆ กันแล้ว สำหรับ Huawei P30 Pro ก็จะมาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่จุใจถึง 6.47 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วนแบบ 19.5:9 ได้หน้าจอมายาว ๆ ใช้ได้เลย

ตัวหน้าจอของรุ่น Pro นั้นจะมาพร้อมกับความโค้งที่มุมทั้ง 2 ด้านคล้ายกับตอน Mate 20 Pro แต่รอบนี้แอบรู้สึกว่ามันชันกว่า และไม่โค้งจนเกินไป ทำให้เวลาจับถือแล้วรู้สึกดีใช้ได้เลย ตัวเครื่องมีขอบหน้าจอที่บางเฉียบสุด ๆ เรียกว่าใช้พื้นที่หน้าจอได้มากสุด ๆ เลยล่ะ

เหนือหน้าจอจะใช้ดีไซน์แบบติ่งหยดน้ำเหลือเพียงกล้องหน้าเล็ก ๆ ที่ด้านบนเท่านั้น ใช่ครับเหลือแค่ติ่งกับกล้องหน้าเท่านั้น เพราะรอบนี้บนรุ่น Pro จะไม่มีตัว Earpiece หรือลำโพงสนทนามาให้แล้วด้วย ซึ่งเวลาคุยโทรศัพท์จะใช้การสั่นสะเทือนของกระจกในการให้เสียงแทนครับ แจ๋วไปเลย

ขอบหน้าจอด้านล่างก็บางเฉียบสุด ๆ เช่นกันครับ เหลือพื้นที่ไว้นิดเดียวเท่านั้น ภายในจอรอบนี้ก็ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้วยครับ เช่นเดียวกับตอน Mate 20 Pro นั่นแล

มาดูความโค้งด้านข้างของตัวกระจกจะเห็นว่าโค้งเข้ามารับกับตัวขอบเครื่องได้อย่างดี เรียบเสมอกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้เวลาจับถือนั้นทำให้รู้สึกว่าบางดีมาก ๆ เลยล่ะครับ

ปุ่มกดต่าง ๆ ยังวางไว้ที่มุมขวามือของตัวเครื่องทั้งหมดครับ และแน่นอนปุ่ม Power มีสีแดงตัดเข้าไปด้วย สวยดีไม่น้อย

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีการตัดเหลี่ยมได้อย่างแปลกตาดีทีเดียว ให้ความรู้สึกที่เหลี่ยมมากขึ้นกว่าเดิมทั้งบนและล่าง ด้านบนมีตัว IR Blaster สำหรับใช้งานรีโมทและไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนครับ

ส่วนด้านล่างก็จะมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB Type-C อยู่ตรงกลาง, ลำโพงหลักของตัวเครื่องที่มุมขวา, ไมโครโฟนและช่องใส่ซิมอยู่ที่ด้านซ้ายนี้ครับ

ตัวถาดใส่ซิมก็จะเป็นแบบ 2 ซิม nano-SIM และรองรับ nano-SD ของทาง Huawei เองด้วย

พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังตัวเครื่องกันเลย รอบนี้ Huawei เพิ่มสีสันใหม่มาได้อย่างน่าสนใจ โดยหนึ่งในสีใหม่ที่ผมชอบมาก ๆ ก็คือ สี Breathing Crystral นี่แหละ มีความสะท้อนที่แวววาวมาก ๆ สีพื้นที่จะเป็นสีฟ้าอ่อน ๆ ไล่ไปจนถึงสีม่วงที่ด้านล่างมีความยูนิคอร์นเบา ๆ เป็นสีที่ดูสบายตาใช้ได้เลยล่ะ

อ๊ะ…อยู่ในอาคารอาจจะเห็นไม่ชัด ขอมารับแสงแดดกันหน่อย จะเห็นได้เลยว่าสีสันนั้นสวยงามดีทีเดียว การดีไซน์ฝาหลังยังคงเป็นกระจกโค้งเหมือนเคย แต่อย่างที่บอกไปครับว่าบน P30 Pro จะมีความเหลี่ยมที่เพิ่มขึ้นจากตอน P20 Pro พอควรทำให้ฝาหลังนั้นโค้งที่ด้านข้างซะมาก ตรงมุมบนล่างก็จะออกเหลี่ยม ๆ หน่อย การวางตำแหน่งยังเป็นแนวนอนเรียงไว้ทั้งโลโก้ Huawei และ Leica เช่นเคยครับ

ตำแหน่งของกล้องหลังวางอยู่ที่มุมซ้ายบนเหมือนเคย วางเรียงกันด้วยกล้อง 3 ตัวเด่น ๆ เริ่มจากกล้อง Ultra Wide, กล้องตัวหลักและกล้อง Tele 5X แบบ Periscope ทำให้ทรงนั้นเป็นสี่เหลี่ยมต่างจากอีก 2 ตัวที่เป็นวงกลม เพราะตัวกลไกภายในนั่นเองครับ ส่วนกล้องตัวที่ 4 ก็จะอยู่ถัดลงมาเป็นกล้อง ToF สำหรับจับระยะต่าง ๆ ครับ ไฟแฟลช LED ก็เป็นแบบ Dual-Tone นะครับ

รวม ๆ แล้วในเรื่องดีไซน์ต้องบอกเลยว่า Huawei P30 Pro นั้นปรับโฉมมาได้สวยงามกว่ารุ่นก่อนได้พอสมควร เริ่มจากหน้าจอที่เต็มตามากขึ้น ใช้พื้นที่หน้าจอได้เยอะมาก ๆ ด้านหน้าไม่มีติ่งขนาดใหญ่หรือขอบหนา ๆ มากวนใจแล้ว แถมขนาดหน้าจอยังใหญ่สุด ๆ ถึง 6.47 นิ้วไปแล้ว ฝาหลังแบบไล่เฉดสีที่สวยมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงความเหลี่ยมที่มากกว่าเดิม ความรู้สึกเวลาจับถือแอบต่างไปจากตอน Mate 20 Pro นิดหน่อยครับ

สเปค Huawei P30 Pro

• รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.1
• หน้าจอโค้ง OLED 6.47 นิ้ว FHD+ รองรับ HDR (19.5:9)
• หน่วยประมวลผล Kirin 980 Octa-core 2.6GHz
• แรม 8GB
• รอม 256GB
• รองรับ Nano-SD
• แบตเตอรี่ 4200mAh
• รองรับระบบชาร์จไว Super Charge (40W)
• รองรับระบบชาร์จไร้สาย (15W)
• รองรับระบบ Reverse Wireless Charge
• กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
• กล้องหลัง 4 ตัว Leica SUMMILUX 40+18+8 ล้านพิกเซล + กล้อง ToF
• รองรับ 2 ซิม (4G ได้ทั้ง 2 ซิม)
• รองรับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
• กันน้ำสาดตามมาตรฐาน IP68

ในเรื่องสเปค Huawei P30 Pro มีการอัปเกรดขึ้นมาอีกขั้นด้วย หน่วยประมวลผลตัวล่าสุดของ Huawei อย่าง Kirin 980, แรมเพิ่มขึ้นมาเป็น 8GB และหน่วยความจำสูงสุดเป็น 256GB, แบตเตอรี่เยอะสะใจที่ 4200 mAh รองรับ SuperCharge 40W และกล้องที่จัดเต็มมากขึ้นอย่างมาก ๆ เลยทีเดียวครับ

EMUI 9.1 อัปเกรดมากขึ้น

ในส่วนของ OS หรือระบบปฏิบัติการของ P30 Pro จะมาพร้อมกับ Android 9.0 Pie ที่ครอบมาด้วย EMUI 9.1 ถือว่าใหม่ขึ้นกว่าตอน Mate 20 Series อีกนิดหน่อย ในส่วนของหน้าตา UI หรือไอคอนมีการปรับให้สวยขึ้นกว่าเดิม ทำให้ดูน่าใช้ดีทีเดียวครับ ส่วนความลื่นไหลของ EMUI ก็ทำได้ดีอยู่แล้ว กดเข้าแอปได้เร็วปุ๊บปั๊บ

สแกนนิ้วบนจอตำแหน่งดีแล้ว

ระบบสแกนลายนิ้วมือของ Huawei P30 Pro ก็อยู่บนจอเรียบร้อย แต่มีการปรับตำแหน่งลงมาให้อยู่ในที่ที่เหมาะสมกว่าเดิม หลังจากที่ตอน Mate 20 Pro นั้นแอบอยู่สูงไปหน่อย ถ้าเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ที่มี In Fingerprint Scan อะเนอะ รอบนี้ปรับให้เข้าที่เข้าทางกว่าเดิม ตัวระบบยังเป็นแบบ Optical อยู่ แต่ทาง Huawei เคลมว่าทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 30% เลยทีเดียว

ลำโพงสั่นสะเทือนจากหน้าจอ

อย่างที่บอกว่าลำโพงสนทนาของ P30 Pro นั้นถูกเอาออกไปแล้ว เพื่อความเรียบเนียนของหน้าจอ ทำให้การจะใช้งานคุยโทรศัพท์นั้นจะใช้การสั่นของหน้าจอแทน เพื่อให้ได้เสียงเวลาสนทนา ตรงนี้ Huawei ใช้ชื่อเรียกว่า Acoustic Display เท่าที่ลองทดสอบการคุยโทรศัพท์ก็ถือว่าให้เสียงที่ชัดเจนดีเลย ไม่รู้สึกว่าไม่มีลำโพงสนทนาเลยล่ะ

กล้องใหม่ 4 ตัว เก็บภาพดี ซูมสุดพลัง !

มาถึงเรื่องไฮไลท์ที่สุดที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยกับกล้องหลัง 4 ตัวใหม่ของ P30 Pro นี้โดยรอบนี้มีการปรับเปลี่ยนตัวกล้องใหม่ ทั้งเซ็นเซอร์ภายใน เพิ่มกล้องใหม่เข้ามาได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ เริ่มจากเซ็นเซอร์ของกล้องหลักที่ใช้เซ็นเซอร์แบบ SuperSpectrum ที่เปลี่ยนจากเซ็นเซอร์ RGGB มาเป็น RYYB เพื่อเก็บแสงในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นกกว่าเดิมถึง 40% มีระบบกันสั่น OIS มาให้ ส่วนตัวกล้องจริง ๆ 4 ตัวก็จะแบ่งการทำงานดังนี้ครับ

• กล้อง Ultra Wide - 20 ล้านพิกเซล f/2.2, ช่วงเลนส์ 16 มม. (120 องศา), PDAF

• กล้องหลัก - 40 ล้านพิกเซล f/1.6,ช่วงเลนส์ 27 มม., PDAF, OIS

• กล้องเทเล Periscope 5x - 8 ล้านพิกเซล f/3.4, ช่วงเลนส์ 125 มม., PDAF, OIS

• กล้อง ToF 3D

จะเห็นว่าฮาร์ดแวร์นั้นมีการอัปเกดรขึ้นมาเยอะทีเดียว ตัวกล้องหลักนั้นให้ค่ารูรับแสงที่กว้างถึง f/1.6 ส่วนกล้อง Tele ซูมรอบนี้เริ่มต้นที่ 5x เลย และสามารถซูมแบบไฮบริดได้ที่ 10x ซึ่งคุณภาพนั้นทำได้ดีทีเดียว ตัวซูมไฮบริดรอบนี้ได้ภาพตรงกับที่พรีวิวก่อนถ่ายเลย ไม่มีการครอปเข้าไปเพิ่มแบบรุ่นก่อน ๆ แล้ว

หรือถ้าอยากซูมแบบสุดพลังตัว Digital Zoom ยังซูมได้มากถึง 50x อีกด้วย โอ้โห ทีนี้อยากเห็นอะไรก็ซูมมันเข้าไปได้เลยจ้า

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Huawei P30 Pro

สรุปคร่าว ๆ หลังลองจับ

เท่าที่ลองมาคร่าวๆสำหรับ Huawei P30 Pro นี้ต้องบอกเลยว่าประทับใจสุดๆครับ ทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่ออกแบบมาได้สวยและดูดีมาก ๆ สมชื่อ P Series ที่เน้นในเรื่องของรูปลักษณ์มาก ๆ หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นแบบสะใจจนสัมผัสได้ ความเหลี่ยมที่เพิ่มขึ้นมาก็ช่วยให้เครื่องดูเข้ามือ ปิดท้ายเรื่องที่ชอบจริง ๆ ก็คงหนีไม่พ้นกล้องที่เด่นเอามาก ๆ ใช้งานได้ดีทุกช่วงไม่ว่าจะ Ultra Wide กว้างเก็บได้หมด, กล้องหลักก็สวยมี Master AI ช่วยจัดแจงให้ได้หมด, แต่ทีเด็ดในรอบนี้คือช่วงซูมที่เข้าไปได้ใกล้กว่าเคยเริ่มต้นก็มาที่ 5x แล้วซูมดี ซูมไฮบริดไปถึง 10x หรือถ้าอยากบ้างพลังสุด ๆ ก็ไปถึง 50x แบบดิจิทัลเลย สุดจริง ๆ สำหรับพลังซูมในรอบนี้ นี่เป็นเพียงคร่าว ๆ ที่ได้ลองสัมผัสมาเท่านั้น เดี๋ยวขอไปเล่นเพิ่มเติมก่อนแล้วจะมาเพิ่มเติมในรีวิวฉบับเต็มให้นะครับ สำหรับวันนี้ เฮียแม็พ. TechXcite คงต้องลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่บทความหน้าครับ :D

ราคาสมาร์ทโฟน HUAWEI P30 Series คุ้มสุด เริ่มต้นเพียง 5,490 บาท

สมาร์ทโฟน HUAWEI P30 Series ที่สุดของสมาร์ทโฟนตระกูล P Series รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นด้วยกล้องถ่ายภาพที่ยังคงทำงานร่วมกับทาง Leica เพื่อให้ได้กล้องที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ตลอดจนชิปประมวลผลระดับสูง Kirin 980 ที่มากับ EMUI 9.1 สุดเร็วแรง เต็มที่กับความบันเทิงทุกด้านได้มากว่าด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ และยังยาวนานกว่าด้วยแบตเตอรี่สุดอึดที่รองรับการชาร์จไว

ลูกค้าดีแทคจ่ายน้อยกว่า โปรมือถือพิเศษสำหรับลูกค้า BLUE MEMBER และ GOLD MEMBER ไม่ต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า ซื้อสมาร์ทโฟน HUAWEI P30 Pro ที่ dtac รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุดถึง 22,000 บาท หรือราคาเริ่มต้นเหลือเพียง 9,990 บาท / HUAWEI P30 ราคาเริ่มต้นเหลือเพียง 8,990 บาท / HUAWEI P30 Lite ราคาเริ่มต้นเหลือเพียง 5,490 บาท

ราคานี้เฉพาะช่วงสั่งจองถึง 8 เมษายน 2562 เท่านั้น (อัพเดทราคา ณ วันที่ 28 มีนาคม 2562)

รายละเอียด Huawei P30 Series ราคาถูกพร้อมแพ็กเกจ dtac

ตรวจสอบรุ่นและราคาสมาร์ทโฟน เพิ่มเติมได้ที่ dtac online store

บทความโดย : เฮียแม็พ. TechXcite