Preview : Samsung Galaxy S10 |S10+ หรือนี่คือ Galaxy S ที่เรารอคอย !?
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความพรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของ Samsung ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปหมาด ๆ กับ Galaxy S10 และ S10+ นั่นเอง ซึ่งรอบนี้ก็ถือว่าเป็นการปรับโฉมของเรือธงใหม่อีกครั้ง ด้วยหน้าจอแบบใหม่ Infinity O, สเปคที่จัดเต็ม อัดแน่น และกล้องที่มากกว่าเคย แค่นี้ก็พอจะดึงดูดเราได้แล้วใช่ไหมล่ะ มาอ่านพรีวิวของสองเรือธงนี้ไปพร้อม ๆ กันดีกว่าครับ :D
แรกสัมผัส "นี่แหละของใหม่จริง ๆ"
เริ่มแรกเรามาดูที่ดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลย สำหรับ Galaxy S10 และ S10+ นั้นมาพร้อมกับดีไซน์หน้าจอแบบใหม่ที่เต็มตามากขึ้น กับหน้าจอรู Infinity O ใช้พื้นที่หน้าจอด้านหน้าได้อย่างเต็มที่กว่าเคย เรียกว่าแทบจะทั้งหมดของด้านหน้านี่เป็นหน้าจอไปหมดเลย หลังจากที่ในปีที่แล้วทาง Samsung ยังคงยึดอยู่กับ Infinity Display ที่มีขอบบนล่างแอบหนาไปหน่อย พอมาเจอแบบนี้ก็รู้สึกถึงความใหม่หมดได้ดีจริง ๆ ครับ
ตัวหน้าจอรูแบบนี้ก็เข้ามาช่วยในเรื่องของพวกติ่งบนหน้าจอได้อย่างดี ถึงแม้ Samsung จะยังไม่มีมือถือติ่งออกมาเท่าไหร่ แต่โดดมาเล่นจอรูเอาตั้งแต่ช่วงต้นปี ก็ถือว่าไม่สายไปสักเท่าไหร่เนอะ ในส่วนของหน้าจอทั้ง 2 รุ่นใช้ชนิดหน้าจอแบบใหม่ที่เรียกว่า Dynamic Amoled ที่ทาง Samsung ถนัด รอบนี้สามารถปรับสีและแสงได้อย่างดียิ่งขึ้น แถมยังมีค่า Contrast Ratio ที่สูงถึง 1:2,000,000 อีกด้วย ในเรื่องการแสดงผลต่าง ๆ ไม่ต้องเป็นห่วงเลย สีสันจัดจ้านสวยงาม รวมไปถึงความคมชัดนี่สุดจริง ๆแถมรุ่นนี้ก็ยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ เป็นรุ่นแรกของโลกอีกด้วย
ขนาดหน้าจอของรุ่นปกติและรุ่น + จะแตกต่างกันนิดหน่อย โดยรุ่น S10 ปกติจะได้หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ส่วนรุ่น S10+ ให้มาที่ 6.4 นิ้ว ความละเอียดเท่ากันคือ QHD+ (3040 x 1440 พิกเซล) ในอัตราส่วนแบบ 19:9 และแน่นอนยังเป็นจอโค้งเหมือนเดิมนาจา
รอบนี้นอกจากขนาดหน้าจอแล้วก็มีเรื่องกล้องหน้าที่อยู่บนจอนี่แหละที่ทำให้เราแยกแยะ S10 และ S10+ ออกจากกันได้เลย เพราะกล้องหน้านั้นให้มาไม่เท่ากัน ตัว S10 มีกล้องหน้าตัวเดียวอยู่เป็นรูที่มุมขวาบน ส่วน S10+ จะเป็นกล้องคู่ทรงแคปซูลเลยที่มุมขวา ดู ๆ แล้วก็ใหญ่ใช้ได้อยู่เหมือนกันสำหรับรูบนหน้าจอของรุ่น + เนี่ย
ขอบจอต่าง ๆ จะเห็นได้เลยชิดขอบเข้าไปมาก ด้านบนนี่เรียกว่าชิดไปได้เลย เพราะพวกลำโพงสนทนาก็เขยิบขึ้นไปจนสุด ไม่เหลือพื้นที่มากวนใจแบบรุ่นก่อน ๆ แล้ว
ส่วนขอบด้านล่างยังเหลืออยู่นิดหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นขอบจอที่บางสุด ๆ แล้วสำหรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์น่ะนะ แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นไม่ใช่ขอบจอที่บางลงซะทีเดียว แต่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังอยู่บนจอได้แล้ว ตรงนี้อาจจะไม่ได้ใหม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกของ Samsung ที่ใส่ระบบสแกนนิ้วมือบนหน้าจอมาน่ะนะ
รอบ ๆ เครื่องยังคงดีไซน์ไม่ต่างจากเดิมมากนัก รอบนี้กลับมาใช้ผิวสัมผัสแบบมัมวาวอีกครั้งหลังจากที่ปีที่แล้วใช้แบบด้าน ฟีลการจับถือเอาจริง ๆ ให้ความรู้สึกคล้ายกับ Galaxy S8 และ S8+ พอควรเลย เพราะจับแล้วจะหนืด ๆ มือหน่อย
ปุ่มกดก็ให้มาเหมือนเดิมวางไว้ที่เดิมด้วย ด้านซ้ายมือมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Bixby ก็ยังตามมาอยู่ ถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้กดมันสักเท่าไหร่ก็ตาม
ปุ่ม Power อยู่ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง ในตำแหน่งที่เขยิบสูงขึ้นไปอีกหน่อยจากตำแหน่งเดิม ตรงนี้ส่วนตัวว่าแอบกดยากไปนิด ไม่ชิยต่อการเอื้อมนิ้วไปขึ้นเท่าไหร่นัก
พอร์ตการเชื่อมต่อทั้ง 2 รุ่นยังให้มาครบ ถึงแม้หลายแบรนด์จะตัดเอาช่องหูฟัง 3.5 มม. ออกไปแล้ว แต่ Samsung ยังคงใส่มาให้อยู่นะจ๊ะ พอร์ตการเชื่อมต่อหลักก็ USB Type-C และมีลำโพงหลักที่มุมขวาล่างนี้ครับ
ส่วนด้านบนก็เป็นช่องใส่ซิมการ์ด โดยตัวถาดซิมก็จะเป็นแบบไฮบริด ก็นั่นอีกล่ะครับ ยังคงใจดีแถมช่องใส่ micro-SD มาให้อีกแล้ว ในขณะที่หลาย ๆ แบรนด์เลือกเอาออกไปหมด
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังจะเห็นความเงางามของกระจกดูดีเหมือนเคย การวางตำแหน่งก็ไม่ได้แปลกตาจากเดิมเท่าไหร่ ดูเรียบมากขึ้น เพราะไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือวางไว้ที่ด้านหลังแล้วนั่นเอง
ตัวกล้องวางเรียงกันเป็นแนวนอน 3 ตัวแบบคล้ายกับตอน Galaxy Note 8 ยังมีไฟแฟลชและ Heart Rate Monitor อยู่ที่กรอบเลนส์ชิ้นเดียวนี้อยู่ ตัวกรอบเลนส์จะนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อยไม่ได้เรียบเนียนไปกับตัวเครื่องซะทีเดียวครับ
รวม ๆ ในส่วนของดีไซน์ทั้ง Galaxy S10 และ S10+ ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว ความพรีเมี่ยมของวัสดุกระจกกับกรอบโลหะคุณภาพสูง ช่วยให้รู้สึกถึงความหรูหราของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี ดีไซน์หน้าจอแบบใหม่ที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของสมาร์ทโฟน Samsung ในปีที่แล้วไปได้อย่างดี สวยลงตัวขึ้นเยอะ แบบนี้สิถึงเรื่องได้ว่าเป็นของใหม่จริง ๆ ครับ :D
สเปค Samsung Galaxy S10 | S10+
- หน้าจอ Dynamic Amoled โค้ง 6.1 นิ้ว (S10) | 6.4 นิ้ว (S10+)ความละเอียด QHD+ (19:9)
- ซีพียู Exynos 9820 Octa-core (8 nm FinFET)
- จีพียู Mali-G76MP12
- แรม 6GB/8GB/12GB (เฉพาะ S10+)
- ความจุ 128GB/512GB/1TB (เฉพาะ S10+)
- รองรับ micro-SD สูงสุด 512GB
- แบตเตอรี่ 3400mAh (S10) | 4100mAh (S10+)
- รองรับ Fast Charge
- กล้องหน้า 10 ล้านพิกเซล f/1.9 (S10)
- กล้องหน้าคู่ 10 ล้านพิกเซล f/1.9 + 8 ล้านพิกเซล f/2.2 (S10+)
- กล้องหน้ารองรับวิดีโอ 4K
- กล้องหลัง 3 ตัว 12 + 12 + 16 ล้านพิกเซล f/1.5, f/2.4 + f/2.4 + f/2.2
- เลนส์ปกติ + เลนส์ Tele 2X+ เลนส์ Ultra Wide
- กล้องหลังรองรับวิดีโอ 4K 60fps, Super Slow Motion
- รองระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- กันน้ำกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP68
- รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย One UI
ในเรื่องสเปคจะเห็นว่ารอบนี้ Samsung ให้มาใกล้เคียงกัน ไม่แบ่งความจุแบบปีที่แล้ว แต่ก็จะมีจุดที่แตกต่างกันหลัก ๆ นอกจากหน้าจอกับแบตเตอรี่แล้วก็คือกล้องหน้านี่แหละครับ นอกนั้นก็ใช้ชุดเดียวกันหมดทั้งหน่วยประมวลผลแรม ความจุเริ่มต้นครับ
ชิปเซ็ตตัวใหม่ สุดแรง
หน่วยประมวลผลได้ Exynos 9820 ตัวใหม่ล่าสุดของทาง Samsung ที่มีสถาปัตยกรรมแบบใหม่ 8 นาโนเมตรมาพร้อมระบบ DualNPU ทำงานร่วมกับ AI ได้เป็นอย่างดี และตัว GPU อัปเกรดขึ้นมาเป็น Mali-G76MP12 ที่สามารถประมวลผลกราฟิกได้ดีขึ้น 40% และประหยัดพลังงานกว่าเดิมถึง 35% อีกด้วย
ซอฟต์แวร์ใหม่ One UI
ในส่วนของตัวซอฟต์แวร์ภายใน ทั้ง 2 รุ่นก็ได้ Android 9.0 Pie มาตั้งแต่ในกล่องเลย พร้อมกับอัปเกรดเป็น One UI แบบเดียวกับที่เห็นบน Galaxy Note 9 หรือ S9 ที่มีการอัปเดตแล้วนั่นเอง หน้าตา UI ดูเรียบ สบายตามากขึ้น การทำงานใช้งานได้สะดวกในมือเดียว ถึงแม้ว่าหน้าจอจะเต็มมากขึ้นก็ตาม ด้วยการแบ่งสัดส่วนของ UI ในเครื่องที่ให้เราสามารถใช้พื้นที่โซนล่างของหน้าจอได้อย่างถนัดในมือเดียว
ระบบสแกนลายนิ้วมือใหม่ บนหน้าจอพร้อม Ultrasonic รุ่นแรก
อย่างที่บอกไปว่ารอบนี้ทาง Samsung ได้เอาระบบสแกนลายนิ้วมือไปไว้บนหน้าจอเรียบร้อย ทำให้เพื่อน ๆ ที่คุ้นเคยการแตะที่ด้านหน้าแบบรุ่นก่อน ๆ คงจะชอบกันแน่นอน แถมระบบสแกนลายนิ้วมือนี้ยังเป็นแบบ Ultrasonic ซึ่งมีความแม่นยำกว่าแบบ Optic ทั่วไปมาก ไม่ว่าจะนิ้วเปียกหรือนิ้วเลอะก็ยังสามารถใช้งานได้ด้วย เอ้อ…อีกอย่างบน S10 และ S10+ ยังเป็นรุ่นแรกของโลกด้วยที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ครับ
สแกนม่านตาหายไป แต่ยังสแกนหน้าได้อยู่
ตัวระบบสแกนม่านตาที่ดูเป็นระบบที่รักษาความปลอดภัยได้สูงที่สุดของมือถือเรือธงของ Samsung ถูกตัดออกไปเรียบร้อยบนรุ่นนี้ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีตัว Iris Scanner อยู่ แต่ระบบสแกนใบหน้าอย่างรวดเร็วหรือ Face Recognition ก็ยังมีมาให้อยู่นะจ๊ะ ถ้าไม่ชอบการสแกนนิ้วก็ยังมีสแกนหน้าแบบไว ๆ ให้ใช้คู่กันอยู่เหมือนกันแหละ
กล้องหน้าบนจอ พร้อมสเปคใหม่
นอกจากตำแหน่งกล้องจะเปลี่ยนใหม่มาอยู่บนหน้าจอแล้ว ตัวกล้องหน้าของทั้งคู่เองยังอัปเกรดใหม่ขึ้นไปอีกด้วย โดยบน S10 และ S10+ จะมีกล้องหน้าตัวหลักที่เพิ่มความละเอียดขึ้นมาเป็น 10 ล้านพิกเซลค่ารูรับแสง f/1.9 จากเดิมที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
แต่สำหรับ Galaxy S10+ จะมีกล้องหน้า 2 ตัวเป็น อีกตัวมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลคือกล้องวัดระยะเพื่อใช้งานในโหมด Live Focus หรือหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองครับ ทีนี้เวลาเราจะถ่ายหน้าชัดหลังเบลอในกล้องหน้าก็จะเนียนตามากขึ้นไปอีกนั่นเอง
ทีเด็ดไม่ได้หมดแค่นั้น เพราะกล้องหน้าตัวใหม่นี้ยังสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง ได้สูงสุดที่ 4K 30fps กันเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นเจ้าแรกของโลกเลยที่ให้กล้องหน้าบันทึกความละเอียดสูงได้ขนาดนี้ ไม่ธรรมดาจริง ๆ จ้า
กล้องหลัง 3 ตัวมันดีขึ้นยังไง
กล้องหน้าว่าเด็ดมากแล้ว กล้องหลังก็ให้มาเต็มสูบไม่แพ้กัน โดยกล้องหลัง 3 ตัวของ Galaxy S10 และ S10+ นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงในการใช้งานได้อย่างครบครัน แบ่งเป็นความละเอียดและการใช้งานดังนี้ครับ
- กล้องหลัก:12 ล้านพิกเซล, Dual Aperture f/1.5, f/2.4, AutoFocus, OIS (มุมกว้าง 77 องศา)
- กล้องซูม 2X: 12 ล้านพิกเซล, f/2.4, Autofocus, OIS (มุมกว้าง 45 องศา)
- กล้อง Ultra Wide: 16 ล้านพิกเซล, f/2.2, Fixed Focus (มุมกว้าง 123 องศา)
เรียกว่าให้สเปคกล้องมาแบบครบดีทีเดียว มาแบบครบทุกระยะการใช้งานเลยทีเดียว โดยตัวกล้องหลักจะให้มาเป็นแบบ Dual Aperture หรือที่สามารถสลับรูรับแสงได้อัตโนมัติ f/1.5 ไป f/2.4 ได้ตามความเหมาะสมของสภาพแสง, มีกล้องซูม 2X พร้อม OIS อยู่เช่นเคย แต่ที่เพิ่มเข้ามาแล้วน่าสนใจมาก ๆ ก็คือเลนส์ Ultra Wide 123 องศานี่แหละ ช่วยให้เราได้ภาพถ่ายในมุมที่แตกต่างออกไปจากเดิมได้อย่างมากเลยทีเดียว
ในส่วนของซอฟต์แวร์ภายในก็มีการอัปเกรดเรื่องของ Scene Optimizer ขึ้นมาจากรุ่นก่อน จากเดิมที่มีเพียง 20 หมวดหมู่ รอบนี้ก็เพิ่มเข้าไปให้เป็น 30 เลยทีเดียว ทำให้การถ่ายภาพต่าง ๆ นั้นง่ายขึ้น ตัวระบบแนะนำซีนค่อนข้างฉลาดและจัดแจงได้ดี เราแค่กด ๆ ถ่าย สวยเสร็จไม่ต้องแต่งเพิ่มแล้วล่ะครับ
Ultra Wide กว้างกว่าอย่างเห็นได้ชัด
กล้อง Ultra Wide ที่เพิ่มเข้ามานี่คือจุดที่น่าสนใจมากในสมาร์ทโฟนยุคนี้ครับ เพราะเราสามารถสร้างมุมมองที่แปลกตาหรือถ่ายภาพแบบไม่ต้องถอยออกมาจนเกินไปได้ด้วยอย่างดี ซึ่งมุมมองที่กว้างถึง 123 องศานี้ เก็บภาพได้กว้างจริง ๆ ครับ แต่น่าเสียดายที่ตัวกล้องยังเป็นระบบ Fixed Focus ไม่มี Auto Focus เพราะฉะนั้นเวลาเราเข้าใกล้จนเกินไปก็จะไม่โฟกัสให้ชัดนั่นเองครับ
Live Focus ยังมี แถมได้ลูกเล่นเพิ่ม
ในส่วนของโหมดหน้าชัด-หลังเบลอหรือ Live Focus ของ Galaxy S10 และ S10+ รอบนี้จะใช้เลนส์ Wide ตัวหลักในการถ่ายแลวะใส่เอฟเฟกต์ความเบลอเพิ่มเข้าไปแทน โทำให้เราเลือกเล็งมุมต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าเดิม แถมยังมีลูกเล่นเอฟเฟกต์การเบลอฉากหลังเข้ามาใหม่อีก 3 แบบทั้ง Spin, Zoom และ Color Point
ชาร์จไวเท่าเดิม เพิ่มเติมคือชาร์จให้คนอื่นได้ด้วย
อีกจุดที่ดูจะเป็นไฮไลท์ของ Galaxy S10 และ S10+ นี้เลยก็คือระบบชาร์จที่รอบนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เพิ่มความเร็วในการชาร์จแบบสายเข้ามา แต่มีระบบชาร์จแบบไร้สายที่น่าสนใจอย่าง PowerShare ที่สามารถทำตัวเครื่องให้เป็นพาวเวอร์แบงค์แชร์แบตฯให้สมาร์ทโฟนเครื่องอื่น หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ของ Samsung ได้ด้วย
ราคาและโปรโมชั่น
สำหรับราคาและโปรโมชั่นของ Galaxy S10 และ S10+ นั้นจะมีด้วยหลากโมเดลด้วยกัน แบ่งราคาและรุ่นความจุดังนี้ครับ
S10 8GB/128GB = 31,900
S10+ 8GB/128GB = 35,900
S10+ 8GB/512GB = 44,900
S10+ 12GB/1TB = 55,900
ในส่วนของโปรโมชั่น สำหรับเพื่อน ๆ ที่จองตั้งแต่วันนี้ - 4 มี.ค.จะได้รับประกันจอแตกนาน 1 ปีและ สิทธิ์อัพความจุจาก 128GB เป็น 512GB ฟรีหรือเลือกรับเป็น Galaxy Watch มูลค่า 12,900 บาทก็ได้เช่นกัน ส่วนรุ่น 1TB จะได้รับของแถมเป็น Galaxy Watch กับ Galaxy Buds มูลค่ารวมกว่า 17,890 บาทครับผม
ซื้อสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S10 | S10+ ถูกที่สุดพร้อมโปรโมชั่นเฉพาะที่ dtac online store เท่านั้น รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุดเมื่อสมัครแพ็กเกจและชำระค่าบริการล่วงหน้าตามที่กำหนด ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่ ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมรับส่วนลดเพิ่ม รับสิทธิ์ผ่อนบัตรเครดิต พร้อมกันทั้งค่าเครื่องและค่าบริการล่วงหน้า
รายละเอียด ราคาสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S10 / S10+ ถูกที่สุดเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ dtac
ตรวจสอบรุ่นและราคาสมาร์ทโฟน เพิ่มเติมได้ที่ dtac online store
สรุปหลังลองจับ
ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ของ Samsung ที่ฉลองครบรอบ 10 ปีของ Galaxy S ได้อย่างสมการรอคอย กับ Galaxy S10 และ Galaxy S10+ เพราะรอบนี้ทาง Samsung ก็มีการอัปเกรดอะไรหลาย ๆ อย่างได้อย่างเข้าที่มากกว่าเดิม ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ที่ดูมีความเหมาะสมกับเทรนด์ในปีนี้มากขึ้นด้วยหน้าจอที่เต็มแบบสุด ๆ บอดี้กระจกสีแวววาวแต่เรียบหรู, สเปคที่อัปเกรดขึ้นมาทุกปีรอบนี้ก็ดูแรงสะใจอีกนั่นแหละ หรือกล้องที่ชูจุดเด่นในเรื่องของวิดีโอมากขึ้น และการถ่ายภาพในทุกช่วงได้อย่างดี จบในเครื่องเดียว รวม ๆ แล้ว Galaxy S10 และ S10+ ก็ถือว่าทำมาตรฐานออกมาได้ดี แก้ข้อบกพร่องหลาย ๆ อย่างของปีที่แล้วได้อย่างดี แต่จะมีก็แต่เรื่องราคาที่แอบสูงไปหน่อย ตรงนี้ก็คงยังโชคดีที่โปรโมชั่นสำหรับผู้ที่สั่งจองนั้นคุ้มค่าไม่ธรรมดาเลยเหมือนกันเนาะ :D
พรีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite