Review : Sony Xperia XZ สมาร์ทโฟนเรือธงจัดเต็มเรื่องกล้องด้วย 3 เซ็นเซอร์ และดีไซน์หรูหราที่น่าใช้ที่สุดของ Sony ตอนนี้ !!
Review : Sony Xperia XZ สมาร์ทโฟนเรือธงจัดเต็มเรื่องกล้องด้วย
3 เซ็นเซอร์ และดีไซน์หรูหราที่น่าใช้ที่สุดของ Sony ตอนนี้ !!
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวสมาร์ทโฟนตัวใหม่ๆกับ เฮียแม๊พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับสมาร์ทโฟนเรือธงตัวล่าสุดของ Sony อย่าง Xperia XZ จริงๆรุ่นนี้เราเคยพรีวิวคร่าวๆจากงานเปิดตัวกันไปแล้ว แน่นอนว่าจุดเด่นหลักที่ทาง Sony ชูมานานอย่างเรื่องกล้องก็ยังคงเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้อีกเช่นเคย ด้วยการอัพเกรดด้านกล้องถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง รุ่นนี้จึงเพิ่มในเรื่องของดีไซน์และวัสดุแบบใหม่เข้ามาเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นด้วย เอาเป็นว่าอย่ารอช้ามาติดตามพร้อมๆกันเลยดีกว่าว่ารอบนี้ Sony จัดเต็มมาให้เราแค่ไหน :D
การดีไซน์ของ Xperia XZ
เข้าเรื่องการดีไซน์กันก่อนเลย อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้มีการปรับเปลี่ยนวัสดุออกไปนิดหน่อย จากเดิมที่เป็นโลหะ Unibody ในซีรีส์ X ก่อนหน้านี้ รอบนี้ก็ใช้เป็นโลหะบริสุทธิ์ที่ทาง Sony ใช้ชื่อเรียกว่า ALKALEIDO ซึ่งจะมีความมันวาวและสะท้อนแสงได้หลากหลายสีต่างมุมมอง ซึ่งตอนที่ได้พรีวิวเราได้จับเครื่องสีดำ ก็คิดว่ามันสวยมากๆแล้ว เพราะพอสะท้อนกับแสงตัวเครื่องจะสีออกน้ำตาลๆหน่อย แต่พอได้รีวิวรอบนี้เป็นสีน้ำเงินยิ่งว้าวเข้าไปใหญ่ เพราะเวลาปกติจะออกน้ำเงินเข้มๆ แต่พอสะท้อนก็จะออกฟ้าหน่อย ส่วนหนึ่งเพราะเราไม่ค่อยได้เห็นสีสันแบบนี้บนสมาร์ทโฟนเท่าไหร่ พอเจอแบบนี้เข้าเลยรู้สึกชอบมากๆเลยล่ะ *0*
ส่วนด้านหน้าก็ยิ้งสวยด้วยกระจกแบบ 2.5D ที่มีความโค้งมนเอามากๆ จริงๆมันแทบจะเป็นกระจกแบบ 3D เลยด้วย แต่ด้วยความที่หน้าจอจริงๆข้างในเป็นกระจกแบนๆปกติ เลยไม่ได้รู้สึกโค้งเท่าแบบพวกหน้าจอ Edge ของคู่แข่ง การแสดงผลของหน้าจอต้องบอกเลยว่ามีความเป็น Sony เอามากๆ ด้วยสีสันที่สดและอิ่ม (โทนสีจะออกออมแดง) จนบางครั้งก็รู้สึกว่ามันแอบสดเกินจริงไปนิด :P
ตัวหน้าจอมาพร้อมขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดก็ Full-HD อาจจะดูไม่ได้มีความละเอียดสูงมากมาย แต่ก็ยังดูสวยงามตามสไตล์ Sony อยู่ ตัวหน้าจอไม่ได้มีขนาดใหญ่มากอะไร แต่ตัวเครื่องมีขนาดสูงพอๆกับพวกมือถือรุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้วเลยล่ะ ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวขอบหน้าจอบน-ล่างนั้นมีความหนากว่ารุ่นคู่แข่งไปนิด แต่รวมๆแล้วดีไซน์ด้านหน้าก็ดูสวยลงตัวดีไม่น้อยล่ะ
ด้านหน้ายังคงมีลำโพงคู่แบบ Stereo ทั้งบนและล่างของหน้าจอเช่นเคย และตำแหน่ง NFC ก็ยังคงอยู่ด้านหน้า (ข้างๆกล้องหน้า) อีกเช่นเคย
กรอบเครื่องยังคงเป็นสีที่กลืนกับตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี ตำแหน่งต่างๆยังเหมือนเดิม มีช่องใส่ถาดซิมแบบไฮบริดอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่อง
ส่วนฝั่งขวามือมีปุ่ม Power ที่เป็นที่สแกนลายนิ้วมืออยู่ ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มชัตเตอร์สองจังหวะตามสไตล์ของ Sony
ด้านบนยังคงมีแจ็คหูฟัง 3.5 มม.อยู่นะสำหรับ Xperia XZ และข้างนั่นก็คือไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน
ส่วนด้านล่างจะมีไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนาและพอร์ทการเชื่อมต่อ USB-C ที่ทาง Sony เริ่มเปลี่ยนมาใช้กันตั้งแต่รุ่นนี้เป็นต้นไปครับ ดีไซน์กรอบด้านบนและล่างทาง Sony เรียกว่า Loop Design ที่มีความโค้งที่มาบรรจบกัน และด้วยความแบนราบแบบนี้เราก็สามารถตั้งเครื่องได้โดยไม่ต้องเพิ่งขาตั้งอีกด้วยนะ
ตัวกล้องหลังของรุ่นนี้อย่างที่บอกว่ามีการอัพเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนด้วยเซ็นเซอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์รับภาพจากกล้องหลังความละเอียด 23 ล้านพิกเซล , เซ็นเซอร์ Laser Auto-Focus และเซ็นเซอร์ RGBC-IR และไฟแฟลช LED ครับ
สเปค Sony Xperia XZ
- รัน Android 6.0.1 Marshmallow
- หน้าจอ IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full-HD
- ชิปเซ็ต Snapdragon 820 Quad-core 2.15GHz
- ชิปกราฟิก Adreno 530 GPU
- แรม 3GB
- รอม 64GB
- รองรับ Micro-SD สูงสุด 200GB
- แบตเตอรี่ 2900 mAh
- กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 23 ล้านพิกเซล
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- รองรับ 2 ซิม
- มี 3 สี Forest Blue , Mineral Black และ Platinum
ในส่วนของสเปคนั้นถ้าดูดีๆแล้ว อาจจะไม่ได้เพิ่มไปจากเรือธงรุ่นก่อน (Xperia X Performance) สักเท่าไหร่ หน่วยประมวลผลยังเป็นตัวเดิม , แรมเท่าเดิม แต่จริงๆสเปคเดิมก็ดีเลิศอยู่แล้ว ทั้งหน่วยประมวลผลตัวแรง , หน่วยความจำ 64GB รองรับ Micro-SD ได้ด้วย ส่วนจุดที่เน้นเป็นหลักก็คือเรื่องกล้องและเซ็นเซอร์ต่างๆที่ถูกเพิ่มเข้ามานั่นแหละครับ
ประสิทธิภาพของ Xperia XZ
ถึงจะบอกว่าสเปคนั้นไม่ต่างจาก X Performance มากนัก แต่แน่นอนว่าสเปคระดับรุ่นก่อนนี่ก็ท็อปสุดๆแล้วเช่นกัน ผลคะแนนที่ทดสอบผ่าน AnTuTu Benchmark ก็เลยออกมาที่ 115,503 เลยทีเดียว
ระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์เบื้องต้น
ด้วยความที่ระยะเวลาเปิดตัวไม่ห่างจากรุ่นก่อนมากนัก หลายๆอย่างก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก เช่นระบบปฏิบัติการ ก็เป็น Android 6.0.1 Marshmallow ตัวเดิม หรือ Xperia UI ก็ยังคงเป็นเวอร์ชั่นเดิมอยู่
พวกหน้าไอคอนหรือรูปแบบต่างๆเหมือนกับตอน Xperia X แทบทั้งหมด แต่จะมีจุดที่แตกต่างไปอีกนิดคือพวก Wallpaper ก็มีชุดใหม่มาให้ (แต่สไตล์ยังเป็นสีสันๆเหมือนเดิมอยู่) ตัว UI จริงๆของทาง Sony ก็ออกแบบมาได้เรียบๆและสะอาดตาดีมากครับ แน่นอนว่าความลื่นไหลก็ลื่นใกล้เคียงกับพวก Stock Android เลยล่ะ
Xperia UI ก็มีการปรับแต่งอย่างพวก Theme มาให้เลือกด้วย ตรงนี้บอกเลยว่า Theme ของ Sony นั้นมีให้เลือกเพียบเพราะเริ่มสร้างกันมาตั้งแต่สมัย Xperia Z นู่นแล้ว
ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power
ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่อยู่บนปุ่มโฮมบ้าง หรืออยู่ด้านหลังของตัวเครื่องบ้าง แต่ถ้าบนสมาร์ทโฟนของ Sony นั้นตำแหน่งจะแปลกออกไปหน่อย เพราะเค้าจะใส่ไว้ที่ปุ่ม Power เลย เพื่อการกดเพียงครั้งเดียวก็ปลดล็อคได้แล้วนั่นเอง ตำแหน่งตรงนี้ยังคงเหมือนกับตอน Xperia X ทุกประการ และตัวปุ่มก็ยังมีการทำให้ลึกลงไปจากกรอบตัวเครื่องนิดหน่อยเช่นเคย ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวรู้สึกว่ามันแอบกดยากไปหน่อย ด้วยความที่ปุ่มมันไม่ได้นูนออกมามากบวกกับตำแหน่งที่อาจจะอยู่กลางเครื่องไปหน่อย เวลากดอาจต้องใช้แรงในการกดนิดนึง
ส่วนในเรื่องการสแกนก็ทำได้รวดเร็วแบบไม่ผิดหวัง แตะปุ่มก็ติดปั๊บ แต่ก็อย่างที่บอกว่าปุ่มมันอาจจะดูลึกลงไปสักหน่อย และที่สำคัญปุ่มกดนั้นเน้นไปที่ทางฝั่งขวาเป็นหลัก การกดด้วยมือข้างซ้ายอาจจะต้องใช้นิวกลางหรือนิ้วชี้ในการกดแทน ตรงนี้ถ้าเกิดยังไม่ชินอาจจะดูขัดๆไปเล็กน้อย แต่ถ้าใช้ไปสักพักจนปรับตัวได้ก็จะรู้สึกสะดวกขึ้นเยอะล่ะครับ :D
กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
ปีนี้รู้สึกว่าสมาร์ทโฟนหลายๆเจ้าจะเน้นความสามารถกันน้ำกันฝุ่นเพิ่มเข้ามาเป็นพิเศษ ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าตลาดที่คิดค้นมาแต่แรกๆอย่าง Sony ก็ต้องมีความสามารถนี้ติดมาเช่นเคย โดยรุ่นนี้ก็มาพร้อมมาตรฐาน IP68 สามารถลงน้ำลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาทีจ้า
ความบันเทิงบน Xperia XZ
ทาง Sony ขึ้นชื่อทั้งเรื่องภาพและเสียงอยู่แล้ว ซึ่งรุ่นนี้ก็โดดเด่นด้วยหน้าจอ IPS ขนาด 5.2 นิ้วที่เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นก่อน (Xperia X Performance)อยู่ 0.2 นิ้ว (แต่จริงๆขนาดเท่ากับ Z5 เดิมนะ) เรียกว่าได้ว่ากำลังพอเหมาะพอเจาะสำหรับการดูไฟล์วิดีโอหรือคอนเท้นท์ดีๆเลยล่ะ แล้วยิ่งความสามารถจอที่รวมเอาสารพัดเทคโนโลยีของ Sony เข้ามารวมแล้ว การแสดงผลก็ยอดเยี่ยมมากๆ ไม่ว่าจะดูหนัง หรือดูไฟล์ภาพต่างๆสีสันสวยงาม เต็มอิ่มกันไปเลยล่ะ
ส่วนเรื่องเสียงนั้นทาง Sony ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เพราะว่าใส่เทคโนโลยีและเอฟเฟกเสียงต่างๆมาให้เลือกกันเพียบทั้ง Clear Audio+ , Dynamic normalizer หรือ Sound Effects ที่มีให้เลือกปรับ Equalizer ตามต้องการระบบ DSEE HXแถมรุ่นนี้ยังรองรับการเล่นเพลงคุณภาพ Hi-Res ผ่านหูฟังไร้สายที่รองรับอีกต่างหาก ตัวลำโพงของเครื่องเองก็ยังเป็น Stereo ขับเสียงออกมาดังกำลังดีเลย
แล้วถ้าพูดถึงเรื่องเล่นเกมล่ะ รุ่นนี้อย่างที่บอกว่าให้ชิปเซ็ตตัวโหดอย่าง Snapdragon 820 มาเลย การใช้เล่นเกมก็คงไม่ต้องเป็นห่วงแล้วแหละ เพราะสามารถเล่นเกมราฟิกสูงๆหรือเกมฮิตๆได้หมดอยู่แล้ว แถมตัวความจุภายในรุ่นนี้ยังมีเยอะถึง 64GB แบบนี้จะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ก็เหลือๆไม่ต้องกลัวเม็มเต็มกันง่ายๆแล้วล่ะ :P
กล้องถ่ายภาพอัพเกรดใหม่ไฉไลกว่าเดิม
มาถึงเรื่องไฮไลท์ของรุ่นนี้ (จริงๆก็เป็นไฮไลท์ของมือถือ Sony ทุกรุ่นแหละ) ก็คือเรื่องกล้องที่ทาง Sony มักจะเน้นและชูเป็นจุดเด่นมาอย่างตลอด ตั้งแต่สมัย Xperia Z ที่นำมาเป็นจุดขายเรื่อยๆ และทุกครั้งที่มีการอัพเกรดก็จะบอกว่าใส่เทคโนโลยีต่างๆมาให้เรื่อยๆ แต่เอาจริงๆผลลัพธ์ในหลายๆรุ่นก่อนๆก็ยังไม่ค่อยประทับใจเท่าที่ควร เหมือนยังขาดอะไรบางอย่างไปซะนี่ จนมาถึงรุ่นนี้ก็ยังใส่เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาให้เหล่าสาวกได้ติดตามกันอีกนั่นก็คือเซ็นเซอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาทั้ง เซ็นเซอร์ Laser Auto-Focus ที่จะมาช่วยในเรื่องโฟกัสให้ดีขึ้น , RGBC-IR Sensor ที่จะมาช่วยในเรื่องของสีสันให้สมจริงยิ่งขึ้น บวกกับเซ็นเซอร์รับภาพเดิมความละเอียด 23 ล้านพิกเซล กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่มี 3 เซ็นเซอร์กันไปเลย
เห็นฮาร์ดแวร์แบบนี้ก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นมาไม่น้อยเลยเนอะ ในส่วนของซอฟต์แวร์ก็มีการปรับเพิ่มความสามารถเข้าไปอีกด้วยการเพิ่มโหมด Manual ที่ใช้ได้จริงเข้ามาสักที หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราเห็นสมาร์ทโฟนของ Sony มีโหมด Manual มาก่อนใครๆด้วยซ้ำ แต่พอจะเข้าไปปรับใช้จริงๆดันได้แค่เลือก ISO ,White Balance และก็เลือก Scene (มัน Manual ตรงไหนเนี่ย ?!)รุ่นนี้เลยเพิ่มการปรับ Shutter Speed เข้ามาให้แล้ว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเล็กๆคือค่า Shutter Speed เราสามารถปรับได้เร็วสุดที่ 1/4000 ส่วนช้าสุดเพียง 1 วินาทีเท่านั้น การจะถ่ายลากไฟสวยๆอาจจะได้ไม่ค่อยเนียนนักในกรณีนี้น่ะนะ ><
ส่วนโหมดลูกเล่นเสริมอื่นๆยังมีให้มาพร้อมทั้ง AR Effect , Sound Photo , Style Portrait , Creative Effect , Stricker Creator , Sweep Panorama , Timeshift Video และ 4K Video ต้องเข้ามาเลือกตรงนี้ด้วยนะจ๊ะ
จุดเด่นหลักๆที่มีมาตั้งแต่ Xperia X Performance และยังคงมีอยู่ก็คือ Predictive Hybrid Auto-Focus ที่จะช่วยคำนวนและจับการเคลื่อนไหวของวัตถุต่างๆเวลาขยับให้นิ่งและไม่พลาดการโฟกัสนั่นเอง ตรงนี้ส่วนตัวคิดว่าดีมากเวลาอยากถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ เพราะการจับโฟกัสค่อนข้างนิ่งและแม่นยำ แต่ถ้าเราเน้นถ่ายภาพนิ่งแบบที่วัตถุไม่มีการขยับการแตะโฟกัสที่หน้าจอมันแอบโฟกัสช้าไปนิดน่ะครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Xperia XZ
รวมๆแล้วถ้าใช้งานโหมด Superior Auto เลยก็ถือว่าง่ายใช้ได้เลย รอบนี้หลังจากที่ใส่เซ็นเซอร์เพิ่มเข้ามาอีก 2 ตัว ก็ดูเหมือนจะช่วยให้ภาพถ่ายที่ได้มีสีสันที่สมจริงขึ้น White Balance ดูเนียนมากกว่าเดิม มุมองของภาพเป็นอีกจุดหนึ่งที่ชอบมากๆ เพราะเลนส์มุมกว้างมากๆเลยล่ะ ส่วนการโฟกัสที่ใช้ Laser Auto-Focus เข้ามาช่วยตรงนี้ก็ไม่รู้สึกแตกต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก คงเพราะตั้งแต่ Z5 ที่ทาง Sony บอกว่าโฟกัสไว 0.03 วินาทีมันก็เร็วมากๆอยู่แล้วล่ะมั้ง นอกเหนือจากเรื่องโทรสีที่สมจริงและโหมด Manual ที่สามารถปรับ Shutter Speed ได้ หลักๆก็ยังไม่ต่างจาก X Performance มากนักครับ
นอกจากภาพนิ่งที่มีการเพิ่มเซ็นเซอร์เข้ามาแล้ว ภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอก็เด่นด้วยระบบกันสั่น 5 แกน ที่ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกนิ่งมากขึ้น จากเดิมที่มี Steadyshot ที่ใช้ซอฟต์แวร์ว่านิ่งแล้ว พอมีฮาร์ดแวร์เข้ามาช่วยอีกก็ยิ่งนิ่งเข้าไปใหญ่เลย :D
กล้องหน้าของ Xperia XZ ก็ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลมาให้เลย เรียกว่าเซลฟี่สวยเนียนด้วยฟีเจอร์ Soft Skin Effect ที่จะช่วยให้ใบหน้าสวยเนียนมากขึ้นไปอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ Xperia XZ
ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกล้องหน้าที่ได้ความเนียนและรายละเอียดสมจริงมากๆรุ่นหนึ่งในตลาดตอนนี้เลย เพราะด้วยความละเอียดที่สูงมาก อีกทั้งยังมีระบบ Auto-Focus ที่ช่วยให้ภาพถ่ายมีระยะตื้นลึกได้ดีกว่าแบบ Fixed Focus แต่ตรงนี้ก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเพราะมี Auto-Focus ภาพก็จะโฟกัสได้ชัดจริง แต่ระยะเวลาการถ่ายภาพก็จะกินเวลามากกว่าเดิมด้วย เนื่องจากต้องอาศัยการโฟกัสก่อนถ่ายและถ้าบางครั้งถ้าหลุดโฟกัสขึ้นมาภาพก็จะเบลอไปเลยล่ะ
การใช้งานแบตเตอรี่
ปิดท้ายเรื่องของการใช้งานแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ Xperia XZ ให้แบตเตอรี่มาที่ 2900 mAh อาจจะกลางๆกับสมาร์ทโฟนระดับนี้ จากการใช้งานจริงก็ถือว่ามาตรฐานครับ ไม่ได้อึดมากมายแบบใช้งานหนักๆได้ถึง 2 วันหรอกถ้าเอาจริงๆ แต่ถ้าใช้งานทั่วๆไปก็ได้ตลอดทั้งวันอยู่ครับ แต่อีกจุดที่ทาง Sony มุ่งเน้นในซีรีส์ X มากๆก็คือเรื่องของอายุแบตเตอรี่ที่จะเสื่อมช้าลงกว่าเดิม ตัวระบบจะมีการชาร์จที่ฉลาดมากยิ่งขึ้นด้วยการคำนวณจากการใช้งานของเราด้วยระบบที่ชื่อว่า Battery Care ครับ
สรุปผลการทดสอบ
Sony Xperia XZ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ดีไซน์ที่รอบนี้ดูแปลกตาไปจาก Xperia รุ่นก่อนๆพอสมควร ด้วยวัสดุโลหะบริสุทธิ์แบบใหม่ "ALKALEIDO" ที่มีให้การสะท้อนสีสันได้สวยงามแบบพรีเมี่ยม และกระจกหน้าจอโค้งๆสวยงามแบบนี้ที่ไม่ค่อยได้เห็นบนสมาร์ทโฟน Sony มาก่อน และในเรื่องกล้องที่น่าจะเป็นจุดเด่นและจุดบกพร่องของ Sony มาตลอด รอบนี้ก็จัดหนักจัดเต็มมาให้อีกครั้งด้วยเซ็นเซอร์ใหม่ๆ และระบบกันสั่นที่ใช้งานได้จริง ทำให้ภาพถ่ายที่ได้สวยและสมจริงอย่างที่คาดหวังกันไว้เสียที เรียกว่ารุ่นนี้ลงตัวทั้งดีไซน์และการใช้งานจริงๆ แต่..! ด้วยความทีรุ่นนี้เปิดตัวมาถัดจาก X Performance ไม่นานมาก และสเปคภายในหลักๆก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนมากนักด้วย สำหรับการอัพเกรดจากรุ่นนั้นมาส่วนตัวคิดว่ายังไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ แต่..! (อีกที) สำหรับใครที่กำลังจากย้ายมาจากรุ่น Z Series หรือสาวก Sony เก่าที่จะย้ายกลับมาจากแบรนด์อื่น รุ่นนี้รับรองว่าไม่ผิดหวังเลยล่ะครับ :D
ราคาเปิดตัว Sony Xperia XZ อยู่ที่ 23,990 บาท
จุดเด่น
- หน้าจอ IPS สีสันสวยงามมาก
- วัสดุงานประกอบแบบใหม่ดูพรีเมี่ยมและโดดเด่น
- กล้องหน้าและหลังคุณภาพยอดเยี่ยมสมกับเป็น Sony สักที
- หน่วยประมวลผลตัวแรง Snapdragon 820
- หน่วยความจำภายใน 64GB ใช้งานได้จุใจ
- กันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP68
- รองรับ 2 ซิม
จุดสังเกต
- สเปคยังไม่ทิ้งห่างจาก X Performance มากนัก
- ยังไม่มีลูกเล่นใหม่ๆเพิ่มเข้ามามากนัก ส่วนใหญ่เน้นไปที่ฮาร์ดแวร์กล้องเป็นหลัก
รีวิวโดย : เฮียแม๊พ. TechXcite