ความรู้สึกในการจับถือก็จะพรีเมี่ยมมากขึ้น ผิวด้านไม่เก็บรอยนิ้วมือเท่าไหร่ จับถือแล้วให้ความรู้สึกเหมือนสมาร์ทโฟนราคาแพง ๆ เลยหรูหราขึ้นจริง ๆ ยิ่งอยู่บนความบางเฉียบขนาดนี้อีก ถ้าไม่รู้มาก่อนว่ารุ่นนี้คือ A Series ก็คงคิดว่าเปิดราคาหมื่นกลาง ๆ ไปแล้วนะ
ส่วนเรื่องสีสัน OPPO A93 มีให้เลือก 2 สีคือ สีขาว Metallic White และ สีดำ Matte Black (สีที่รีวิวนี้) ซึ่งทั้ง 2 สีนี้จะใช้เทคนิคแบบ Shiny Matte ทั้งคู่ ทำให้ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านหรูหราเหมือนกันครับแต่อารมณ์จะต่างกันชัดเจน ถ้าอยากได้โทนอ่อนโยน มีความประกายชมพูอ่อน ๆ ก็ต้องไปสีขาว Metallic White
แต่ถ้าอยากได้สีที่คมเข้ม หรูหราแบบคลาสสิคก็มองมาที่สีดำ Matte Black เลย สีนี้ OPPO บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากรถ Super Car ระดับไฮเอนด์เลยนะ เอ้อ ก็ดูหรูจริง ๆ
นอกจากในแสงปกติจะสวยแล้ว OPPO A93 ยังมีโหมด AI Super Night Selfie ที่ช่วยเพิ่มความงามเวลาเซลฟี่ยามค่ำคืนให้สวยขึ้นไปอีก โดยโหมดนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย รวบรวมชุดอัลกอริทึมของ AI รวมทั้ง HDR ที่จะรวมภาพในเวลากลางคืนให้สวยขึ้นไปอีก วิธีการใช้งานก็ให้เลือกมาที่โหมด Night ได้เลย
หรือฟีเจอร์ที่เราคุ้นเคยอย่าง Dark Mode บนรุ่นนี้ก็มีให้เลือกปรับด้วย ซึ่งนอกจากเปิดตลอดแล้วเรายังสามารถเลือกปรับแบบตั้งเวลาได้ด้วย หรือจะเลือกทดลองใช้กับแอป Third Party ได้ด้วยนะ
มี Air Gesture ด้วย
รวมถึงฟีเจอร์เจ๋ง ๆ อย่าง Air Gesture ที่ให้เราผายมือโบกมือเพื่อรับสายโทรสัพท์ได้ด้วย เผื่อมือไม่สะดวกมาแตะที่หน้าจอก็ใช้สั่งงานด้วยท่าทางได้ครับ