Honor ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการสมาร์ทโฟนเกมมิ่งอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดตัวมือถือเรือธงที่เน้นการเล่นเกมสองรุ่นในประเทศจีน คือ Honor Win และ Honor Win RT ซึ่งมาพร้อมกับการอัดแน่นของสเปกระดับ "ที่สุด" ในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีที่ปกติแล้วจะพบได้เฉพาะในมือถือเกมมิ่งระดับไฮเอนด์มาใส่ในดีไซน์ที่ดูพรีเมียมและเรียบง่าย
หัวใจหลักที่ทำให้ซีรีส์นี้ทรงพลังคือชิปเซ็ตเรือธงแห่งยุค โดยรุ่น Honor Win ใช้ขุมพลังล่าสุด Snapdragon 8 Elite Gen 5 SoC คู่กับชิปกราฟิก Adreno 830 ในขณะที่รุ่น Honor Win RT จะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ซึ่งยังคงให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกม นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับ RAM LPDDR5X Ultra สูงสุด 16GB และหน่วยความจำภายใน UFS 4.1 สูงสุดถึง 1TB เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการโหลดเกม, การมัลติทาสก์ และการใช้งานทั่วไปจะรวดเร็วเหนือใคร
.jpg)
ประสบการณ์การแสดงผลบนจอภาพก็ถือเป็นจุดขายที่โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้ง Honor Win และ Win RT มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 6.83 นิ้ว ที่มีความละเอียด Full-HD+ พร้อมอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 185Hz ซึ่งเหนือกว่ามาตรฐานทั่วไปของมือถือเรือธงในตลาด นอกจากนี้ จอภาพยังให้ความสว่างสูงสุดถึง 6,000 nits และรองรับเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้า PWM Dimming ความถี่สูง 5,920Hz ที่ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาเมื่อเล่นเกมเป็นเวลานาน ปิดท้ายด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ใต้หน้าจอเพื่อการปลดล็อกที่รวดเร็วและปลอดภัย
สิ่งที่ทำให้มือถือสองรุ่นนี้เป็น "สัตว์ประหลาด" ในด้านประสิทธิภาพความร้อนคือการนำระบบระบายความร้อนแบบ พัดลมระบายความร้อนแบบแอคทีฟ (Active Cooling Fan) มาติดตั้งที่โมดูลกล้องด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งพัดลมนี้สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 25,000 RPM ในโหมด 'Rage Mode' และทาง Honor เคลมว่าจะช่วยลดอุณหภูมิของตัวเครื่องได้อย่างมีนัยสำคัญ ป้องกันการเกิดอาการเครื่องร้อนจนประสิทธิภาพตก (Thermal Throttling) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แม้จะเป็นมือถือที่เน้นการเล่นเกม แต่ Honor Win ก็ไม่ทิ้งเรื่องการถ่ายภาพ โดยรุ่น Win มาพร้อมชุดกล้องหลังสามตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP (เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56 นิ้ว พร้อม OIS), กล้อง Telephoto 50MP ที่ซูมออปติคัลได้ 3x และกล้อง Ultrawide 12MP ส่วนรุ่น Win RT นั้นจะตัดกล้อง Telephoto ออกไป อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นมีกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 50MP
และคุณสมบัติที่น่าสนใจที่สุดคือแบตเตอรี่ โดย Honor ได้ติดตั้งแบตเตอรี่ซิลิคอน-คาร์บอนขนาดใหญ่ถึง 10,000mAh ในทั้งสองรุ่น ทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด พร้อมรองรับการชาร์จเร็วแบบมีสาย 100W นอกจากนี้รุ่น Honor Win ยังรองรับการชาร์จไร้สาย 80W อีกด้วย ทำให้เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดในตลาดเรือธง
.jpg)
ด้านการเชื่อมต่อและการป้องกันตัวเครื่องก็จัดเต็มไม่แพ้กัน ทั้งสองรุ่นรันบน MagicOS 10 บนพื้นฐาน Android 16 และมาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68/IP69/IP69K ซึ่งเป็นระดับความทนทานที่สูงมาก รวมถึงรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อใหม่ล่าสุดอย่าง Wi-Fi 7, Bluetooth 6.0, ลำโพงสเตอริโอ และเทคโนโลยี Honor AI surround subwoofer
ในส่วนของราคา รุ่น Honor Win (รุ่นท็อป) เริ่มต้นที่ CNY 3,999 สำหรับรุ่น 12GB/256GB (ประมาณ 19,300 บาท) และรุ่น 16GB/1TB ราคาสูงสุดที่ CNY 5,299 (ประมาณ 25,600 บาท) ในขณะที่รุ่น Honor Win RT (รุ่นรอง) มีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่ามากคือ CNY 2,699 สำหรับรุ่น 12GB/256GB (ประมาณ 13,000 บาท) และรุ่นท็อปสุด 16GB/1TB ราคา CNY 3,999 (ประมาณ 19,300 บาท)

หมีเด้งวิเคราะห์ : การเปิดตัว Honor Win ซีรีส์ด้วยสเปกที่เน้นความสุดขั้วอย่างแบตเตอรี่ 10,000mAh, พัดลมระบายความร้อน 25,000 RPM, และหน้าจอ 185Hz คือ กลยุทธ์การสร้าง "Hyper-Performance Flagship" เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด (Hyper-Performance Market Disruption) Honor ต้องการวางตำแหน่งมือถือเกมมิ่งของตนให้เหนือกว่าคู่แข่งทุกรายในด้านความอึดและการควบคุมความร้อน การแบ่งตลาดที่ชัดเจนระหว่าง Win (เน้นกล้อง Telephoto และชาร์จไร้สาย) และ Win RT (เน้นประสิทธิภาพและราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่าย) ด้วยราคาเริ่มต้นราว 13,000 บาทในรุ่น Win RT ที่ได้แบต 10,000mAh และพัดลมในตัว แสดงให้เห็นว่า Honor มุ่งมั่นที่จะมอบเทคโนโลยีระดับสุดยอดให้กับกลุ่มผู้ใช้ที่คำนึงถึงงบประมาณด้วย
source: gsmarena